The king of War - บทที่ 1354 ตระกูลหลี่แห่งเมืองราชวงศ์
กัวเชิ่งยิ้มอยู่พลางพยักหน้า มองกัวฉูฉู่แล้วพูดว่า “ฉูฉู่ ครั้งนี้ แกสร้างคุณูปการใหญ่หลวงอย่างหนึ่งให้ตระกูลกัวเลยนะ นึกไม่ถึงจะรับคุณหยางมาที่ตระกูลกัว ประเด็นสำคัญคือ แกยังได้รับคำสัญญาของเขาอีก”
“วันหลัง แกเป็นอิสระแล้ว ปู่จะไม่ก้าวก่ายเรื่องแต่งงานของแกอีก สำหรับหลี่เป่าเฟิง คนอย่างเขา ยังไม่คู่ควรมาแต่งงานกับผู้หญิงดีเลิศที่สุดของตระกูลกัว!”
ถ้าเป็นเมื่อก่อน กัวเชิ่งบอกเธอว่า ให้เธอแต่งงานอย่างอิสระ เธอจะต้องตื่นเต้นมากแน่นอน
แต่ว่าวันนี้ หลังจากพบเจอหยางเฉินด้วยตาตนเอง ความตื่นเต้นในใจของกัวฉูฉู่กลับเลือนหายไปมากมาย ในใจเต็มไปด้วยความซับซ้อน หัวเราะแบบขมขื่นพูดว่า “ครั้งนี้ ถือว่าเพราะโชคร้ายแล้วได้รับข่าวดี?”
อีกด้านหนึ่ง หยางเฉินนั่งอยู่บนรถยนต์ของกษัตริย์ซ่านกวน มุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์ซ่านกวน
ซ่านกวนโหรวยิ้มกริ่มจ้องหยางเฉินอยู่ หยางเฉินถูกจ้องจนไม่เป็นอิสระเท่าไร ถึงพูดไปด้วยความจำใจ “คุณจ้องมองผมอยู่ตลอด ทำไมกันเหรอ?”
“ฮาๆ!”
ซ่านกวนโหรวส่งเสียงหัวเราะออกมา จากนั้นมองค้อนหยางเฉินแบบสารพัดอารมณ์ “ได้เจอฉันอีก เหมือนคุณไม่ตื่นเต้นเลยสักนิด”
“จะว่าอย่างไรล่ะ พวกเราก็ถือว่าเป็นเพื่อนกัน เพื่อนเจอกันอีกสักครั้ง หรือว่าไม่ใช่เรื่องที่คุ้มค่าน่าดีใจเหรอ?”
หยางเฉินพยักหน้าแล้ว “เป็นเรื่องคุ้มค่าน่าดีใจเรื่องหนึ่งจริงๆ เพียงแค่ ผมมาเมืองราชวงศ์ซ่านกวนครั้งแรก ก็ถูกคนของตระกูลชั้นนำในเมืองราชวงศ์ซ่านกวนใช้อำนาจข่มขู่เลย คุณในฐานะเพื่อนคนนี้ ต้องรับผิดชอบทั้งหมดด้วย”
ซ่านกวนโหรวย่อมเข้าใจเป็นธรรมดา ที่หยางเฉินพูดคือที่หลี่เป่าเฟิงตามเขาไปที่ตระกูลกัวเรื่องนี้
“อยู่ที่เมืองราชวงศ์ซ่านกวน ตระกูลหลี่ แกร่งมากเหรอ?”
หยางเฉินไม่อยากพูดไร้สาระมากอีกต่อไป ทันใดนั้นมองทางซ่านกวนโหรวแล้วถามขึ้น
รอยยิ้มบนหน้าซ่านกวนโหรวค่อยๆ หายไป แต่เผยแววความเคร่งขรึมออกมา เอ่ยปากตอบว่า “ว่ากันว่าเหล่าจู่(บรรพบุรุษ)ของตระกูลหลี่ ยังมีชีวิตอยู่ และก็คือทวดของหลี่เป่าเฟิง”
“ตามที่คุณปู่ฉันบอกมา ถ้าเหล่าจู่ของตระกูลหลี่ยังมีชีวิตอยู่ วิถีบู๊คงต้องทะลวงไปถึงแดนเหนือมนุษย์แล้ว”
“ไม่เพียงแค่นี้ ตระกูลหลี่ยังมีผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดออกมาสองคนด้วย สำหรับราชวงศ์ซ่านกวนนั้น เป็นอันตรายใหญ่หลวงอย่างหนึ่ง”
ฟังคำพูดของซ่านกวนโหรวแล้ว หยางเฉินถึงเข้าใจ ทำไมก่อนหน้านี้ หลี่เป่าเฟิงเมื่ออยู่ต่อหน้าซ่านกวนโหรว การแสดงออกถึงก้าวร้าวเช่นนั้น เป็นตระกูลหลี่แกร่งมากตามคาด
อย่างนั้น ก่อนหน้านี้ที่เขาลงมือกับหลี่เป่าเฟิง ตระกูลหลี่จะแก้แค้นตนเองเพราะเหตุนี้หรือไม่?
ในหัวสมองของหยางเฉิน ปรากฏความสงสัยใหญ่มากอย่างหนึ่งขึ้นฉับพลัน
เขาได้รับคำเชิญของกษัตริย์ซ่านกวน ถึงมาที่เมืองราชวงศ์ซ่านกวน เรื่องบังเอิญคือ ตนเองขึ้นเที่ยวบินเดียวกันกับหลี่เป่าเฟิงอย่างคาดไม่ถึง และที่ยิ่งบังเอิญคือ ตนเองยังนั่งด้านข้างกัวฉูฉู่อีก
กัวฉูฉู่เป็นคู่หมั้นของหลี่เป่าเฟิง ส่วนตนเองนั่งอยู่ข้างกายของกัวฉูฉู่ ด้วยความจองหองโอหังของหลี่เป่าเฟิง จำเป็นต้องหาเรื่องหยางเฉินเป็นแน่
พอเป็นเช่นนี้ หยางเฉินก็เจอกับหลี่เป่าเฟิงแล้ว
หยางเฉินได้รับรู้จากในคำพูดของซ่านกวนโหรว ว่าความสามารถของตระกูลแกร่งมาก ต่อให้บอกว่าความสามารถของตระกูลหลี่เทียบเท่าราชวงศ์ ก็ไม่เกินจริง
นี่คือการจัดฉากของกษัตริย์ซ่านกวนหรือไม่?
จงใจล่อตนเองมาที่เมืองราชวงศ์ซ่านกวน จากนั้นปะทะฝีมือกับตระกูลหลี่ ถึงตอนนั้นฝ่ายที่ได้ประโยชน์ก็คือราชวงศ์ซ่านกวน
นึกถึงความเป็นไปได้อันนี้ ชั่วขณะนั้นสีหน้าหยางเฉินอึมครึมลงมา
“คุณหยาง คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?”
สัมผัสได้ถึงสีหน้าที่เปลี่ยนแปลงของหยางเฉิน ซ่านกวนโหรวรีบสอบถามทันที
หยางเฉินส่ายหน้า “ไม่มีอะไร แค่นึกถึงเรื่องไม่ดีบางอย่างมากะทันหัน”
“อ่อ!”
เห็นหยางเฉินไม่ยินยอมพูดอะไรมาก ซ่านกวนโหรวไม่ถามมากเช่นกัน แต่ที่เธอแน่ใจได้คือ ระหว่างทันใดนั้นเอง อารมณ์ของหยางเฉินก็ไม่ปกติเท่าไรแล้ว
หยางเฉินไม่ชอบถูกคนหลอกใช้ประโยชน์เอามากๆ ถ้าราชวงศ์ซ่านกวนอยากจะหยิบยืมมือของเขา มากำจัดตระกูลหลี่จริง สามารถใช้การร่วมงานกับเยี่ยนเฉินกรุ๊ปมาเป็นเงื่อนไข ให้หยางเฉินลงมือได้ทั้งหมด
ถึงแม้ไม่ทำแบบนี้ หยางเฉินก็สามารถเห็นแก่หน้าของซ่านกวนโหรว ช่วยเหลือราชวงศ์ซ่านกวนสักครั้ง
แน่นอนว่า ทุกอย่างนี้ล้วนเป็นการคาดเดาของหยางเฉินเอง เขากับหลี่เป่าเฟิงอยู่บนสายการบินเดียวกัน ยังนั่งด้วยกันกับกัวฉูฉู่อีก สรุปคือความบังเอิญ หรือว่ากษัตริย์ซ่านกวนจัดฉาก ยังยืนยันไม่ได้ชั่วคราว
“ปู่ของคุณ เป็นคนแบบไหนกัน?” หยางเฉินถามขึ้นทันใด
ซ่านกวนโหรวตะลึงครู่หนึ่ง จากนั้นเอ่ยปากบอก “ทะเยอทะยาน!”
คำนิยามนี้ คือกษัตริย์ซ่านกวนในใจของซ่านกวนโหรว
“สามารถพูดได้ว่า ราชวงศ์ซ่านกวนเดินมาถึงขั้นในวันนี้ได้ สาเหตุส่วนใหญ่ เป็นเพราะคุณปู่ของฉัน”
“ขอเพียงให้เวลาคุณปู่ให้อีกสักพัก เขาสามารถเก็บกวาดตระกูลหลี่ได้แน่นอน”
ซ่านกวนโหรวพูดด้วยท่าทางแน่วแน่ “ถ้าเกิดตระกูลหลี่พังพินาศ กองกำลังของราชวงศ์ซ่านกวน ก็จะเพิ่มขึ้น”
หยางเฉินพยักหน้าแบบคิดอะไรในใจ ถ้าหากตระกูลหลี่พังพินาศ ขอเพียงกษัตริย์กวนใช้เล่ห์เหลี่ยมบางอย่าง ก็สามารถบังคับผู้แข็งแกร่งแดนเทพของตระกูลหลี่รับใช้ต่อราชวงศ์ซ่านกวนได้ทั้งหมด
ปัจจุบันนี้ตระกูลหลี่มีผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดสองคน แม้กระทั่งเหล่าจู่ของตระกูลหลี่ล้วนมีความเป็นไปได้ว่ายังมีชีวิตอยู่ สามารถพูดได้ว่า ถ้าเกิดราชวงศ์ซ่านกวนใช้งานตระกูลหลี่ได้ถึงที่สุด ความสามารถของราชวงศ์ซ่านกวน บางทีสามารถเพิ่มขึ้นได้อีกเท่าตัว
ความจริง ไม่เพียงแค่ราชวงศ์ซ่านกวนโหรว ราชวงศ์อื่นก็เหมือนกัน ไม่ว่าราชวงศ์ใดๆ ภายใต้ราชวงศ์ล้วนมีตระกูลชั้นนำสามสี่แห่ง ถ้าเกิดราชวงศ์สามารถรวบรวมกองกำลังของตระกูลเหล่านี้เข้าด้วยกันได้ ความสามารถก็จะเพิ่มฉับพลัน
เหมือนราชวงศ์เย่ เดิมทีสูญเสียผู้แข็งแกร่งแดนเทพเกือบครึ่งไป ผลสุดท้ายตระกูลชั้นนำหลายที่ในเมืองราชวงศ์เย่ร่วมมือกันลงมือต่อราชวงศ์เย่ ผลปรากฏว่ากษัตริย์เย่แสดงความสามารถของแดนเหนือมนุษย์ รวบรวมตระกูลชั้นนำเหล่านั้นเข้าด้วยกันรวดเดียว
ทันใดนั้น ความสามารถของราชวงศ์เย่ จากที่อยู่ฐานล่างในราชวงศ์ทั้งสี่ กลายมาเป็นราชวงศ์แกร่งที่สุดแล้ว
“ปู่ของคุณทะเยอทะยานจริงๆ!”
หยางเฉินเอ่ยปากทันใด มองทางซ่านกวนโหรวพูดว่า “ไม่อย่างนั้น คงไม่ให้คุณที่เป็นหลานผู้หญิง กลายเป็นผู้สืบทอดรุ่นที่สามของราชวงศ์ซ่านกวน แม้กระทั่งให้คุณเข้าร่วมช่วงชิงสิทธิ์ของผู้สืบทอดรุ่นที่สามหรอก”
ปัจจุบันนี้ ซ่านกวนโหรวเป็นผู้แข็งแกร่งวิถีบู๊ของแดนเทพชั้นกลาง ขอเพียงกษัตริย์ซ่านกวนอยู่บนบัลลังก์ต่อไปอีกไม่กี่ปี แดนวิถีบู๊ของซ่านกวนโหรว บางทีอาจจะยิ่งแกร่งขึ้น ถึงตอนนั้นแข่งขันกับรุ่นอารุ่นลุง กลัวว่าโอกาสชนะจะมีมากมาย
ซ่านกวนโหรวยิ้มแบบมีเสน่ห์ มองหยางเฉินพลางถามว่า “ถ้าเกิดมีวันนั้นจริง คุณจะช่วยฉันแน่นอน ถูกมั้ย?”
หยางเฉินยิ้มกริ่มพูดว่า “งั้นต้องดูว่า ถึงตอนนั้นคุณหนูซ่านกวน สามารถตอบแทนอะไรได้บ้างแล้ว!”
ทันใดนั้นซ่านกวนโหรวยิ้มด้วยหน้าตาดึงดูดใจ หัวเราะคิกคักพูดว่า “ขอแค่คุณหยางยินยอม ฉันตอบแทนได้ทุกอย่าง”
“แคกๆ……”
หยางเฉินใช้การไอมาปกปิดความกระอักกระอ่วนของตนเอง
เขาไม่ถนัดรับมือกับการยั่วยวนของผู้หญิง
“คิๆๆ……” ซ่านกวนโหรวหัวเราะขึ้นมาแบบได้ใจ
รถแล่นไวมาตลอดทาง หลังจากยี่สิบนาทีสั้นๆ ค่อยๆ ขับเข้ามาในที่ดินใหญ่อันหรูหราแห่งหนึ่ง ที่นี่คือคฤหาสน์ซ่านกวน
ที่ดินของตระกูลกัวเมื่อเทียบกับคฤหาสน์ซ่านกวนแล้ว เทียบกันไม่ติดทีเดียว คฤหาสน์ซ่านกวนแทบจะใหญ่เป็นสี่เท่าของที่ดินตระกูลกัว
ภายในวัง ทุกที่ล้วนเป็นตึกอาคารก่อสร้างสไตล์โบราณ ทั่วทั้งวัง ราวกับวังของฮ่องเต้ในสมัยโบราณ ในวังทุกที่ล้วนเป็นองครักษ์สวมชุดเกราะ
อยู่ในคฤหาสน์ซ่านกวน หยางเฉินสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกร ล้วนบรรลุถึงแดนเทพชั้นยอดหมดแล้ว