The king of War - บทที่ 1365 เหล่าจู่ผู้ก้าวร้าว
“ก็คือแก!”
ชายวัยกลางคนยื่นมือชี้ไปทางภาพชายวัยกลางคนผู้หนึ่งที่ข้างกายหลี่เจียงสง พูดด้วยท่าทางโกรธแค้น “เป็นแกที่ให้เงินฉันหนึ่งล้าน ให้ฉันชนคนคนหนึ่ง”
“ลูกชายฉันเป็นโรคที่รักษาไม่หาย ก็คือตอนที่ต้องการเงินมาช่วยชีวิตไว้ ดังนั้นฉันถึงยอมรับหนึ่งล้านของแกมา”
“แต่ผลปรากฏว่า ฉันทำธุระตามคำสั่งของแกแล้ว แกไม่เพียงไม่ได้ให้หนึ่งล้านกับฉัน ดันส่งคนมาฆ่าลูกชายฉัน ยังมีเมียฉันอีก ถ้าไม่ใช่คุณหนูซ่านกวนย้ายฉันไปสถานที่ปลอดภัยก่อนล่วงหน้า เกรงว่าฉันคงโดนแกฆ่าปิดปากแล้ว!”
“พวกแก ใจอำมหิต ทั้งที่ฉันรับปากทำธุระให้พวกแกแล้ว ทำไมพวกแกยังต้องฆ่าปิดปากครอบครัวของฉันด้วย? มีอะไรพวกแกก็มาลงที่ฉันสิ พวกเขาไม่รู้เรื่อง ไม่รู้อะไรทั้งนั้น พวกแกมันเป็นพวกวายร้าย! ปีศาจ!”
ชายวัยกลางคนอารมณ์ฮึกเหิมไร้ที่เปรียบ ชี้ไปยังคนนั้นที่ข้างกายหลี่เจียงสงตวาดเสียงขุ่นเคือง ในลูกตาเต็มไปด้วยความเสียใจและความเคียดแค้น
ถ้าเป็นไปได้ เขาจะต้องฆ่าฝ่ายตรงข้ามด้วยตนเองแน่
“แกเพ้อเจ้อ!”
ชั่วขณะนั้นชายวัยกลางคนข้างกายของหลี่เจียงสงทำหน้าโมโห ตะโกนเสียงดัง “ฉันหลี่เป่าหัวเป็นคนแบบไหน สถานะอะไร จะให้แกไปฆ่าน้องชายแท้ๆ ของฉันด้วยตัวเองหรือไง?”
“แกก็คือคนที่ผู้หญิงคนนี้หามา จงใจใส่ร้ายป้ายสีพวกฉันตระกูลหลี่ ถูกหรือไม่?”
ชั่วพริบตาเดียวลุงหวงอารมณ์ฮึกเหิมมากกว่าเดิม ตวาดใส่ “ฉันจะฆ่าแก! ฉันจะฆ่าแกไอ้วายร้าย!”
“ลุงหวง!”
ซ่านกวนโหรวรีบเข้ามาทันที ตะโกนบอก “คุณอย่าวู่วามค่ะ!”
“เป็นเขาที่ฆ่าครอบครัวผม ครอบครัวผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย พวกเขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วยจริงๆ ไอ้วายร้ายคนนี้ นึกไม่ถึงส่งคนมาฆ่าครอบครัวผมแล้ว แม้แต่หลานของผมที่อายุห้าขวบยังไม่ปล่อยไป พวกเขาไม่ใช่คนโดยสิ้นเชิง ไม่ใช่คนแล้ว!”
ลุงหวงอารมณ์พังทลายร้องไห้เสียงดังขึ้นมาแล้ว
ซ่านกวนโหรวกัดริมฝีปากแดง พูดแบบหน้าตาแน่วแน่ “ลุงหวงสบายใจได้ค่ะ พวกเราจะต้องแก้แค้นให้คุณแน่นอน!”
พูดจบ เธอมองทางหลี่เป่าหัว พูดจาเสียงเดือดดาล “หลี่เป่าหัว ตอนนี้คุณยังมีอะไรจะพูดอีก?”
“ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันทั้งนั้น ฉันจะหาคนไปฆ่าน้องชายฉันด้วยตัวเองได้อย่างไร? นี่เป็นไปได้เหรอ?”
หลี่เป่าหัวจะไม่ยอมรับอย่างแน่นอน
ซ่านกวนโหรวพูดด้วยท่าทางถากถาง “คุณรู้ได้อย่างไรว่า คนที่ลุงหวงชน เป็นหลี่หยางน้องชายของคุณ? ลุงหวงเพียงบอกว่าคุณให้เงินเขาแล้ว ให้เขาไปชนคนคนหนึ่งตาย กลับไม่ได้บอกว่า อยากให้เขาไปชนใครตาย”
พูดคำนี้ออกมา สายตาของทุกคนตกอยู่บนตัวของหลี่เป่าหัวกันหมด
โดนเฉพาะคนของตระกูลหลี่ นอกจากหลี่เจียงสงและหลี่จ้งแล้ว คนอื่นๆ ต่างทำหน้าตกใจ ถึงแม้หลี่เป่าหัวจะไม่ยอมรับ แต่ว่าสิ่งที่ซ่านกวนโหรวพูดก็มีเหตุผลอยู่จริง
ถ้าไม่ใช่หลี่เป่าหัวจ้างลุงหวงไปชนหลี่หยางจนตาย ทั้งที่ลุงหวงไม่ได้พูด แล้วหลี่เป่าหัวรู้ได้อย่างไรกันว่าลุงหวงไปชนใคร?
ทันใดนั้นหลี่เป่าหัวสีหน้าสับสนเต็มที่ พูดอย่างโมโห “เธอหาคนมั่วๆ มาบอกว่าฉันสั่งเขาไปฆ่าน้องชายฉัน หรือว่าเป็นฉันฆ่าน้องชายฉันตายจริงๆ งั้นเหรอ?”
“ถ้านี่กลายมาเป็นหลักฐานได้ งั้นฉันก็หาคนกลุ่มหนึ่งมาได้สบายๆ ยืนยันว่าพวกเธอหาคนมาชนน้องชายฉันจนตาย”
“หุบปาก!”
หลี่เจียงสงตะโกนแบบฉุนเฉียวกะทันหัน หลี่เป่าหัวถึงได้รีบหุบปากลง ตอนที่มองทางซ่านกวนโหรว ในสายตาเต็มไปด้วยความโกรธ
ซ่านกวนโหรวเดิมทีเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นกลาง ความสามารถไม่ได้ด้อยไปกว่าหลี่เป่าหัว เวลานี้เผชิญหน้าด้วยกันกับหลี่เป่าหัวอย่างท่าทางไม่หวาดกลัว
หลี่เจียงสงรู้ว่า ถ้าให้หลี่เป่าหัวพูดต่อไปอีกล่ะก็ ความจริงจะต้องเปิดเผยต่อผู้คนจริงๆ แน่
“ยัยหนูก็ฝีปากดีใช่ย่อย เรื่องหลักฐานไม่ใช่ว่าเธอหาคนมาพูดอะไรก็คืออันนั้น ลูกชายฉันหลี่หยางก็คือหลังกลับจากราชวงศ์ซ่านกวนได้ไม่นาน เจอลอบฆ่าแล้ว ทั่วทั้งเมืองราชวงศ์ซ่านกวน ที่กว้างใหญ่ จะมีใครสามารถฆ่าลูกชายฉันตายได้ในเวลาสั้นๆ บ้าง? มีแค่ราชวงศ์ซ่านกวนของเธอ!”
หลี่เจียงสงพูดเสียงเย็นชา “วันนี้ พวกเธอจำเป็นต้องอธิบายมาให้พวกฉัน ไม่อย่างนั้น อย่าโทษพวกเราตระกูลหลี่ไม่เกรงใจแล้วกัน!”
“ฉันมีหลักฐาน! ฉันมีหลักฐานที่แท้จริง!”
เวลานี้ ลุงหวงตะโกนขึ้นมาฉับพลัน เมื่อสักครู่อารมณ์ฮึกเหิมจนอดใจไม่ไหวอยากฆ่าหลี่เป่าหัวแทบแย่ ดังนั้นจึงยังไม่ได้พูดประเด็นสำคัญออกมา
ปัจจุบันนี้เขาสำนึกได้ว่า ตอนนี้คนที่สามารถช่วยเขาแก้แค้นได้ มีเพียงราชวงศ์ซ่านกวน
ดังนั้น เขาจึงบอกทุกคนไปอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อยว่าเขามีหลักฐานอันแท้จริง
ซ่านกวนโหรวหัวเราะเยาะมองทางหลี่เจียงสง จากนั้นพูดกับลุงหวงว่า “ลุงหวงคะ คุณมีหลักฐานอะไร รีบเอาออกมาเถอะค่ะ!”
“ก่อนหน้านี้ตอนที่หลี่เป่าหัวมาหาผม ให้ผมชนหลี่หยางจนตาย ผมแอบใช้มือถืออัดเสียงเอาไว้ สามารถพิสูจน์ได้ว่า เป็นหลี่เป่าหัวให้ผมเป็นคนชนหลี่หยาง!”
ลุงหวงพูดออกมา ราวกับเสียงดังสนั่นหวั่นไหว หลี่เป่าหัวเพราะหวาดกลัว ร่างกายจึงกำลังสั่นเทาไปหมด
นำการตายของหลี่หยางโยนให้ราชวงศ์ซ่านกวนโหรวรับบาปแทน นี่คือเหตุผลเพียงหนึ่งเดียวที่ตระกูลหลี่จะเปิดศึกต่อราชวงศ์ ถ้าเกิดเรื่องราวพังเสียหายแล้ว เขาจะต้องกลายเป็นคนผิดของตระกูลหลี่ตัวจริง
ถึงตอนนั้น หลี่เจียงสงจะต้องไม่ปล่อยเขาไปแน่ ถึงแม้เขาจะเป็นลูกชายคนโตของหลี่เจียงสงก็ตาม
หลี่เจียงสงสีหน้าเปลี่ยนไปมากเช่นกัน ถ้าหากมีหลักฐานแบบแท้จริง ถ้าตระกูลหลี่เปิดศึกกับราชวงศ์ซ่านกวนอีก รอตอนที่ผู้รักษากฎปรากฏตัวขึ้น พวกเขาคงไม่มีเหตุผลอธิบายแล้ว
ถึงตอนนั้น ก็คือวันตายของตระกูลหลี่
ในสายตากษัตริย์ซ่านกวนเต็มไปด้วยความดีใจ หัวเราะเสียงดังบอกว่า “เร็ว เอาหลักฐานออกมา!”
ลุงหวงมองหลี่เป่าหัวด้วยท่าทางเย็นชาแวบหนึ่ง จากนั้นหยิบมือถือออกมา
“ปัง!”
ชั่วขณะที่เขาเพิ่งหยิบมือถือออกมา แสงเย็นเฉียบสายหนึ่งแวบผ่าน และเสียงดังลั่นทีหนึ่ง มือถือของลุงหวง ระเบิดแตกฉับพลัน แม้แต่มือข้างนั้นของลุงหวงที่จับมือถือไว้ ยังระเบิดออกโดยตรง
“อ่า……”
ลุงหวงส่งเสียงคำรามที่น่าเวทนาออกมา
“เฮือก!”
เพียงแต่ เขาเพิ่งส่งเสียงคำรามออกมาทีเดียว หินก้อนหนึ่งราวกับลูกกระสุนดีดยิงออกมา ชั่วพริบตาเดียวทะลุระหว่างคิ้วของลุงหวงแล้ว ลุงหวงตายตาไม่หลับ
“หลี่จ้ง!!!”
กษัตริย์ซ่านกวนท่าทางเดือดดาล ตะคอกใส่หลี่จ้งไปโดยตรง ต่อให้เป็นเขา ก็คิดไม่ถึงว่าหลี่จ้งจะลงมือฆ่าลุงหวงโดยตรง
ซ่านกวนโหรวทำหน้าอึ้งทึ่ง มองลุงหวงที่ตายตาไม่หลับ บนใบหน้า ความโกรธแค้นค่อยๆ ปรากฏขึ้น
ตอนที่เธอหาลุงหวงเจอ เดิมทีลุงหวงปฏิเสธจะออกหน้ามาเป็นพยาน แต่ว่าเธอรับประกันครั้งแล้วครั้งเล่า จะไม่ให้ลุงหวงเกิดเรื่องขึ้นแน่นอน ยังรับรองอีกว่าสามารถแก้แค้นให้ลุงหวงได้ ลุงหวงถึงรับปากมาที่ราชวงศ์ซ่านกวนกับเธอ
แต่ว่า เธอกลับไม่สามารถปกป้องลุงหวงให้ดีได้
“เหอะ!”
เวลานี้หลี่จ้งพูดเสียงเย็นชา “พวกบ้านนอกที่หามามั่วซั่วคนหนึ่ง คำพูดของมัน ใช้เป็นหลักฐานได้เหรอ?”
“ฝ่าบาท คุณยังส่งหยางเฉินออกมาจะดีกว่า ตระกูลหลี่ไม่อยากเป็นศัตรูกับราชวงศ์ แต่ถ้าราชวงศ์ยืนยันจะปกป้องคนร้ายที่ฆ่าคนของตระกูลหลี่เอาไว้ อย่างนั้น ตระกูลหลี่คงเปิดศึกกับราชวงศ์ได้จริง!”
หลังจากคำพูดของหลี่จ้งจบลง ตามมาด้วยแรงกดดันวิถีบู๊อันน่าสยองขวัญ กระจายออกจากในร่างกายเขา ทันใดนั้น ปกคลุมทั่วทั้งคฤหาสน์ซ่านกวน
ในสายตาหลี่เจียงสงเปล่งประกายมันวาว ก้าวออกมาข้างหน้ากะทันหัน กลิ่นอายวิถีบู๊ของกึ่งแดนเหนือมนุษย์ ระเบิดออกมาจากบนตัวเขา
ไม่เพียงแค่หลี่เจียงสง ยังมีผู้แข็งแกร่งคนอื่นของตระกูลหลี่ รีบก้าวเท้าเดินออกมาทันที บนตัวของแต่ละคน ล้วนเป็นลักษณะพลังของผู้แข็งแกร่งแดนเทพ ดังสะเทือนเลือนลั่นขึ้น