The king of War - บทที่ 1367 ความพิโรธของฝ่าบาท
หลี่เจียงสงยืนอยู่ที่เดิมมองหลี่จ้งถอยไปเจ็ดแปดก้าวด้วยความอึ้ง และกษัตริย์ซ่านกวนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
เขาไม่เคยคิดว่ากษัตริย์ซ่านกวนจะแข็งแกร่งมากขนาดนี้ และอยู่ห่างจากแดนเหนือมนุษย์เพียงแค่ก้าวเดียว
ตามแผนการของพวกเขานั้น พวกเขาจะไม่ลงมือจัดการราชวงศ์ซ่านกวนชั่วคราว หลังจากฆ่าหยางเฉินแล้ว พวกเขาค่อยลงมือจัดการราชวงศ์ซ่านกวน เมื่อเป็นเช่นนั้น แม้ว่าผู้รักษากฎจะปรากฏตัวออกมา ก็ยังมีอาวุโสของตระกูลหลี่รับมือ
แต่ตอนนี้ เขายังไม่ได้บีบหยางเฉินปรากฏตัวออกมา ก็ลงมือจัดการราชวงศ์ซ่านกวนแล้ว ถ้าตอนนี้ผู้รักษากฎปรากฏตัวออกมา บวกกับแดนเหนือมนุษย์อย่างหยางเฉิน แล้วตระกูลหลี่ยังจะมีทางรอดเหรอ?
ไม่เพียงแค่หลี่เจียงสงเท่านั้น แต่หลี่จ้งเองก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย และกังวลว่าผู้รักษากฎจะปรากฏตัวออกมา
เมื่อสักครู่นั้นเขาทำเพื่อช่วยหลี่เจียงสง ดังนั้นเขาไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากลงมือจัดการกษัตริย์ซ่านกวน แม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด แต่เขาก็ลงมือไปแล้ว
เวลาผ่านไป คนตระกูลหลี่รอเป็นเวลาหนึ่งนาทีเต็ม แต่พวกเขายังไม่เห็นผู้รักษากฎปรากฏตัวออกมา
คนของราชวงศ์ซ่านกวนตั้งตารอเช่นกัน แต่ผู้รักษากฎยังคงไม่ปรากฏตัวออกมา
เดิมหลี่จ้งที่รู้สึกกังวลใจ สุดท้ายเขาก็คลายความกังวล
“หลี่จ้ง!”
ตาสีแดงเข้มของกษัตริย์ซ่านกวนจ้องเขม็งไปที่หลี่จ้ง กัดฟันด้วยความแค้นและกล่าวว่า “คุณในฐานะผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ แต่นึกไม่ถึงว่าคุณกล้าลงมือกับผมด้วยความโหดเหี้ยมเช่นนี้!”
หลี่จ้งกล่าวเยาะเย้ย “ผมไม่จำเป็นต้องลงมือโหดเหี้ยมกับคุณ เพราะคุณมันอ่อนแอเกินไป ผมแค่โจมตีปกติ ก็ทำให้คุณบาดเจ็บสาหัสแล้ว”
คนของราชวงศ์ซ่านกวนต่างมองตระกูลหลี่ด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
การที่ผู้รักษากฎไม่ปรากฏตัวออกมา นั่นหมายความว่าตระกูลหลี่ไม่ได้สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อราชวงศ์ซ่านกวน
สิ่งนี้ทำให้คนของราชวงศ์ซ่านกวนเต็มไปด้วยความผิดหวัง
ดวงตาที่เคร่งขรึมของหลี่เจียงสงจ้องเขม็งไปที่กษัตริย์ซ่านกวน เขากัดฟันและกล่าวว่า “กษัตริย์ซ่านกวน คนที่พวกเราต้องการคือหยางเฉิน ไม่ใช่ราชวงศ์ซ่านกวน”
“มอบคนออกมา มิฉะนั้นวันนี้จะเป็นวันตายของคุณ!”
หลี่เจียงสงไม่กล้าทำสงครามกับราชวงศ์ง่าย ๆ เมื่อสักครู่ตอนที่หลี่จ้งลงมือโจมตีกษัตริย์ซ่านกวน เขาตกใจเกือบแย่
ถ้าหลี่จ้งลงมือโจมตีกษัตริย์ซ่านกวนอีกครั้ง บางทีผู้รักษากฎอาจจะปรากฏตัวออกมา
หลี่จ้งเข้าใจสิ่งนี้เช่นกัน เขามองกษัตริย์ซ่านกวนด้วยสายตาเย็นชาและกล่าวว่า “ให้เวลาคุณห้านาที มอบคนออกมา แล้วพวกเราจะพาคนออกไปทันที มิเช่นนั้น อย่ามาโทษว่าผมไม่เกรงใจ!”
“ฮึ่ม!”
กษัตริย์ซ่านกวนหัวเราะเยาะ และกล่าวด้วยสีหน้าดุดันว่า “หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว ถ้าอยากต่อสู้ ก็มาต่อสู้กันเลย อย่าว่าแต่ห้านาที ถึงแม้จะเป็นเวลาห้าวัน ห้าปี พวกเราก็จะไม่มอบคนออกมาเด็ดขาด”
แน่นอนว่ากษัตริย์ซ่านกวนเข้าใจความคิดของคนตระกูลหลี่ ตอนนี้สำหรับราชวงศ์ซ่านกวนแล้ว หยางเฉินคือที่พึ่งพาอาศัยสำคัญที่สุดของพวกเขา แม้แต่ผู้รักษากฎก็ยังไม่สำคัญเท่าหยางเฉิน
ผู้รักษากฎจะปรากฏตัวออกมาก็ต่อเมื่อราชวงศ์กำลังจะถูกทำลายแล้ว หากรอถึงตอนนั้นจริง ๆ ถึงแม้ราชวงศ์จะไม่ถูกทำลายล้าง เมื่อเทียบกับการถูกทำลายล้างแล้วมันก็ไม่มีอะไรแตกต่างกัน?
แต่หยางเฉินนั้นแตกต่าง เขาสามารถลงมือโจมตีหลี่จ้งได้ทุกเมื่อ
สิ่งสำคัญที่สุดคือกษัตริย์ซ่านกวนรู้ว่าเมื่อตระกูลหลี่กำจัดหยางเฉินแล้ว ราชวงศ์ซ่านกวนก็อยู่ไม่ห่างไกลจากการถูกทำลายล้าง
“ดูเหมือนว่าถ้าราชวงศ์ไม่สูญเสียอะไร ฝ่าบาทก็จะไม่ยอมมอบคนออกมา”
หลี่จ้งหรี่ตาและคำพูดของเขานั้นเต็มไปด้วยการคุกคาม
ตอนนี้ผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดของตระกูลหลี่สิบกว่าคน ล้อมรอบกษัตริย์ซ่านกวนด้วยสีหน้าระแวดระวัง ส่วนผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดของราชวงศ์จ้องมองคนตระกูลหลี่ด้วยสีหน้าดุร้าย และพร้อมที่จะต่อสู้เสมอ
และสีหน้าผู้แข็งแกร่งของตระกูลหลี่นั้นเต็มไปด้วยความดุดันเช่นกัน และเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้เสมอ
หลี่จ้งและหลี่เจียงสงยืนอยู่ข้างหน้าสุด พลังบูโดของทั้งคู่น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก
“ลงมือจัดการแดนเทพชั้นยอดพวกนั้นก่อน!”
หลี่จ้งก็กล่าวกับหลี่เจียงสงทันที
“ครับ ท่านพ่อ!”
หลี่เจียงสงขยับเท้า แล้วพุ่งเข้าไปหาผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดคนหนึ่งของราชวงศ์ทันที
“หลี่เจียงสง คุณช่างกล้านัก!”
กษัตริย์ซ่านกวนรู้สึกโมโหเป็นอย่างมากและสั่งทันทีว่า “ลงมือพร้อมกัน ฆ่าหลี่เจียงสง!”
หลังจากกล่าวจบ เขาก็พุ่งเข้าไปหาหลี่เจียงสงเช่นกัน
“คู่ต่อสู้ของคุณคือผม!”
อย่างไรก็ตาม ขณะที่กษัตริย์ซ่านกวนกำลังจะเคลื่อนไหว หลี่จ้งยืนขวางอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว
ขณะเดียวกัน หลี่เจียงสงได้พุ่งเข้าไปหาผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดสิบกว่าคนที่อยู่ด้านข้าง แล้วปล่อยหมัดออกไป
“ปัง!”
ผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดคนหนึ่งไม่มีโอกาสที่โต้กลับ ถูกหลี่เจียงสงโจมตีที่หัวใจและเสียชีวิตทันที
ในฐานะที่หลี่เจียงสงเป็นผู้นำตระกูลหลี่ เขาเป็นผู้แข็งแกร่งระดับกึ่งแดนเหนือมนุษย์ และไม่รู้ว่าตระกูลหลี่ใช้วิธีอะไร ทำให้พลังการต่อสู้ของเขาสูงขึ้น ซึ่งสามารถเทียบได้กับผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่ง
การโจมตีอย่างเต็มกำลังของเขา สำหรับผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดธรรมดานั้นมีเพียงความตายเท่านั้น
“หลี่เจียงสง!”
เมื่อกษัตริย์ซ่านกวนเห็นว่าผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดของราชวงศ์ถูกสังหารไปหนึ่งคน สีหน้าของเขาเต็มด้วยความดุร้าย และร่างกายสั่นด้วยความโกรธ
“ฆ่า!”
หลี่เจียงสงคำรามด้วยความโกรธ แล้วพุ่งเข้าไปอยู่ตรงหน้าผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดคนหนึ่งอีกครั้ง ยกมือขึ้นแล้วปล่อยหมัดออกไป
ผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์คนนั้นไม่มีกำลังที่จะตอบโต้ เขาถูกฆ่าตายทันทีด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวเหมือนผู้แข็งแกร่งคนก่อน
เวลาเพียงไม่กี่วินาที ผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดสองคนของราชวงศ์ถูกหลี่เจียงสงฆ่าตายไปแล้ว
โชคดีที่ตอนนี้ ผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์คนอื่น ๆ โจมตีหลี่เจียงสงพร้อมกัน
หลี่เจียงสงคิดว่าถ้าอาศัยตนเองเพียงคนเดียว เพื่อสังหารผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดทั้งหมดของอีกฝ่ายนั้นเป็นเรื่องยาก
“คนตระกูลหลี่ทุกคน บุกออกไปฆ่าพวกมันพร้อมกัน!”
หลี่เจียงสงยกแขนขึ้น จากนั้นแข็งแกร่งสิบกว่าคนของตระกูลหลี่ก็พุ่งเข้าไปหาผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์อย่างพร้อมเพรียงกัน
และทันใดนั้นสงครามก็ปะทุขึ้น!
กษัตริย์ซ่านกวนถูกสายตาของหลี่จ้งจับจ้องอยู่ตลอดเวลา และเขาไม่มีทางที่เขาจะจัดการกับผู้แข็งแกร่งของตระกูลหลี่ได้อย่างแน่นอน
“หลี่จ้ง คุณจะต้องเสียใจภายหลัง คุณจะต้องเสียใจภายหลังอย่างแน่นอน ผมสาบาน! ผมสาบาน!”
หลังจากเห็นผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดสองคนของราชวงศ์ถูกฆ่าตายแล้ว ทำให้กษัตริย์ซ่านกวนรู้สึกโกรธจนถึงสุดขีด
เขาไม่ได้โจมตีหลี่จ้งอีกต่อไป เพราะเขารู้ดีว่าด้วยความแข็งแกร่งในตอนนี้ของเขา ไม่สามารถทำอะไรหลี่จ้งได้ และถ้าเขาลงมือโจมตี ก็จะทำให้หลี่จ้งใช้ข้ออ้างนี้ฆ่าเขา
ตอนนี้ เขาทำได้เพียงแค่ฝากความหวังไว้กับหยางเฉินเท่านั้น
ขณะที่ราชวงศ์ซ่านกวนและตระกูลหลี่กำลังต่อสู้กันอยู่ หยางเฉินอยู่ที่คฤหาสน์
เขากำลังนั่งขัดสมาธิ พลังบูโดที่รุนแรงยังคงชะล้างอยู่บนร่างกายของเขา
ขณะที่พลังรุนแรงในร่างกายแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ เขารู้สึกว่าตนเองเกือบจะสูญเสียสติ แต่เขายังคงกัดฟันพยายามจะไม่ปล่อยให้ตนเองสูญเสียการควบคุม
และพลังบูโดในร่างกายของเขาเริ่มแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้เขาอยู่ห่างจากแดนเหนือมนุษย์ขั้นสองเพียงเก้าเดียว แต่มีเพียงคนที่ทะลวงไปถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นสองอย่างแท้จริงเท่านั้นที่รู้ว่า ถ้าต้องการทะลวงจากแดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่งไปสู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นสองนั้นยากเพียงใด
“ทะลวงซะ ทะลวง!”
หยางเฉินคำรามขึ้นมาทันที พลังที่รุนแรงในร่างกายของเขาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ดวงตาทั้งคู่ของเขากลายเป็นสีแดง และเขากำลังจะสูญเสียการควบคุม
“ผมเป็นถึงผู้รักษาดินแดนเหนือ ผมเป็นถึงเทพสงครามแห่งดินแดนเหนือ เป็นคนที่ไม่เคยพ่ายแพ้ ซึ่งคนหนึ่งสามารถเทียบได้กับคนครึ่งประเทศ ผมจะสูญเสียการควบคุมได้อย่างไร?”
“ผมก็คือผม ผมคือหยางเฉิน จะไม่มีทางให้ความโกรธทำลายสติ ทะลวงซะ!”
“ทะลวงซะ!”
หยางเฉินคำรามอย่างต่อเนื่อง และเมื่อความโกรธของเขาพุ่งสูงขึ้น พลังที่รุนแรงในร่างกายของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ