The king of War - บทที่ 1372 สงครามราชวงศ์
“ฝ่าบาท วางใจเถอะ ในเมื่อผมหลี่จ้งยอมจำนนต่อคุณหยางแล้ว ผมจะไม่มีใจคิดทรยศเด็ดขาด”
หลี่จ้งมองกษัตริย์ซ่านกวน มีความซาบซึ้งอยู่ในสายตาและกล่าวว่า “ขอบคุณฝ่าบาทและคุณโหรวเอ๋อร์ ที่ช่วยขอร้องแทนผม!”
กษัตริย์ซ่านกวนไม่ได้กล่าวอะไร แต่ซ่านกวนโหรวกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ผู้อาวุโสกล่าวหนักเกินไปแล้ว เนื่องจากคุณยอมจำนนต่อคุณหยางแล้ว งั้นนับจากตอนนี้เป็นต้นไป ราชวงศ์และตระกูลหลี่จะเป็นครอบครัวเดียวกัน”
“ตระกูลหลี่มิกล้า!”
หลี่จ้งกล่าวอย่างรวดเร็ว จากนั้นมองไปที่หลี่เจียงสงและกล่าวอย่างด้วยความโมโหว่า “ไอ้คนสารเลว ยังไม่รีบขอโทษฝ่าบาทและคุณโหรวเอ๋อร์อีก!”
หลี่เจียงสงถึงมีปฏิกิริยาตอบสนอง ตอนนี้เขาไม่มีความเย่อหยิ่งเหมือนตอนที่ราชวงศ์อีกแล้ว เขากล่าวอย่างรวดเร็วว่า “ขอบคุณฝ่าบาทและคุณโหรวเอ๋อร์ ที่ขอร้องเพื่อตระกูลหลี่ จากนี้เป็นต้นไป ตระกูลหลี่จะเป็นผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของราชวงศ์ซ่านกวน ถ้าใครกล้ามารังแกหรือดูหมิ่น มันผู้นั้นก็จะเป็นศัตรูของตระกูลหลี่!”
ไม่มีใครเคยคิดว่าสองตระกูลชั้นสูงที่เป็นศัตรูกัน แต่ตอนนี้พวกเขาคืนดีกันแล้ว
แต่พวกเขารู้อย่างชัดเจนว่าที่เป็นเช่นนี้ ล้วนเป็นเพราะชายหนุ่มคนนั้น
ตอนนี้คนของราชวงศ์ซ่านกวนและตระกูลหลี่ต่างตกตะลึง เมื่อสักครู่พวกเขากำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด และผู้แข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายเสียชีวิตไปไม่น้อย แต่ตอนนี้เพราะหยางเฉินคนเดียว ทำให้พวกเขากลายเป็นสหายที่พึ่งพาอาศัยกันไปจนสิ้นชีพ
ถ้าเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป จะทำให้คนทั่วเมืองจิ่วโจวรู้สึกตกใจ?
คฤหาสน์ราชวงศ์ซ่านกวน ห้องประชุมขนาดเล็กที่ตกแต่งอย่างหรูหรา
กษัตริย์ซ่านกวน ซ่านกวนโหรว หลี่จ้งและหลี่เจียงสง และยังมีหยางเฉิน ห้องประชุมมีเพียงพวกเขาห้าคนเท่านั้น
ซ่านกวนโหรวรินน้ำชาให้พวกเขาด้วยตนเอง
“เรื่องของวันนี้มันจะแผ่กระจายไปทั่วเมืองจิ่วโจวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เกรงว่ากองกำลังบางตระกูลจะทนไม่ไหวอีกต่อไป และต้องการลงมือจัดการกับราชวงศ์ซ่านกวน?”
ทันใดนั้นกษัตริย์ซ่านกวนก็เอ่ยปากขึ้นมา
สีหน้าของหลี่จ้งและหลี่เจียงสงเต็มไปด้วยความอึดอัด ร่างกายพวกเขาได้รับบาดเจ็บ โดยเฉพาะหลี่เจียงสงซึ่งบาดเจ็บสาหัสกว่า หากเขาไม่ได้ฝึกบูโดมาก่อน เขาคงได้รับบาดเจ็บสาหัสยิ่งกว่านี้
“ต้องโทษที่พวกเราไม่เจียมตัว ที่กล้าวางแผนเล่นงานราชวงศ์ ซึ่งทำให้มีสภาพดังเช่นตอนนี้ หากฝ่าบาทมีคำสั่งใดก็สั่งมาได้ทันที พวกเราจะพยายามช่วยราชวงศ์อย่างเต็มที่”
หลี่จ้งกล่าวอย่างรวดเร็ว
หลี่เจียงสงกล่าวว่า “ถูกต้อง ไม่ว่ามันจะเป็นตระกูลใด ขอเพียงกล้าวางแผนเล่นงานราชวงศ์ ตระกูลหลี่จะเป็นคนแรกที่จะไม่ปล่อยพวกมันไป!”
ขณะนี้ หยางเฉินนั่งอยู่ด้านข้าง ทำให้พวกเขาไม่กล้าที่จะไม่แสดงจุดยืนของตนเอง
สีหน้าของหยางเฉินสงบ ยกถ้วยน้ำชาที่ซ่านกวนโหรวยกมาเมื่อสักครู่ แล้วจิบเบา ๆ แต่ยังคงเงียบ รอผลปรึกษาหารือระหว่างทั้งสองตระกูล
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง กษัตริย์ซ่านกวนมองไปที่ซ่านกวนโหรว และถามว่า “โหรวเอ๋อร์ คุณคิดว่าต่อไปพวกเราจะทำอย่างไรถึงจะเหมาะสม?”
สีหน้าของหลี่จ้งและหลี่เจียงสงเต็มไปด้วยความประหลาดใจ พวกเขาไม่เคยคิดว่าภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ กษัตริย์ซ่านกวนจะปล่อยให้ซ่านกวนโหรวแสดงความคิดเห็น
เดิมที พวกเขาคิดว่าซ่านกวนโหรวถูกเรียกเข้าร่วมการประชุมเพียงเพื่อมารินน้ำชาเท่านั้น แต่ตอนนี้พวกเขาตระหนักแล้วว่าสำหรับกษัตริย์ซ่านกวนแล้ว ซ่านกวนโหรวมีสถานะที่สูงส่ง
ซ่านกวนโหรวยิ้มเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “ฉันมีความคิดเห็นอย่างหนึ่ง แต่ต้องการความร่วมมือจากตระกูลหลี่”
“คุณโหรวเอ๋อร์วางใจเถอะ ขอเพียงตระกูลหลี่สามารถช่วยได้ เชิญสั่งมาเถอะ ถึงแม้จะขอให้ผมไปปราบกองกำลังของตระกูลที่กำลังเคลื่อนไหวก่อการร้าย ผมก็เต็มใจ”
หลี่จ้งกล่าวอย่างรวดเร็ว
“ผู้อาวุโสกล่าวหนักเกินไปแล้ว!”
ซ่านกวนโหรวยิ้มและส่ายศีรษะ จากนั้นหุบรอยยิ้ม และกล่าวด้วยน้ำเสียงที่กระชับว่า “เรื่องวันนี้สำหรับราชวงศ์แล้ว ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่แย่”
“ตอนนี้ หลายตระกูลต่างจับตามองพวกเราอยู่ มีคนมากมายรู้ว่าตระกูลหลี่แข็งแกร่งเพียงใด และหลายตระกูลคิดว่าถึงแม้ตระกูลหลี่จะไม่สามารถทำลายล้างราชวงศ์ได้ แต่ก็สามารถทำให้ราชวงศ์เสียหายอย่างหนัก”
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว พวกเราก็จะทำตามความปรารถนาของพวกเขา”
ทันทีที่กล่าวประโยคนี้ออกมา ทุกคนต่างรู้สึกตกตะลึง กษัตริย์ซ่านกวนกล่าวว่า “ความหมายของคุณคือ พวกเราแสดงให้บุคคลภายนอกเห็นถึงความสูญเสียอย่างหนัก แล้วรอให้กองกำลังของตระกูลที่คิดวางแผนชั่วต่อราชวงศ์มาถึงที่?”
ซ่านกวนโหรวพยักหน้า “ตระกูลชั้นนำในเมืองราชวงศ์ซ่านกวนพวกนั้น ความจริงแล้วพวกเขาคิดจะลงมือจัดการราชวงศ์มานานแล้ว แม้ว่าความแข็งแกร่งของพวกเขาจะสู้ตระกูลหลี่ไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้อ่อนแอกว่าตระกูลหลี่มากนัก”
“ถ้าพวกเขารู้ว่าราชวงศ์และตระกูลหลี่บาดเจ็บสาหัสและสูญหายอย่างหนักทั้งสองฝ่าย เกรงว่าอีกไม่นานก็จะมีคนทนไม่ได้ แล้วก็จะลงมือโจมตีราชวงศ์”
“ขอเพียงแค่มีตระกูลหนึ่งกล้าออกมาโจมตีราชวงศ์ ตระกูลอื่นก็จะออกมาโจมตีราชวงศ์ด้วยเช่นกัน เมื่อถึงเวลานั้นพวกเราก็จะสามารถจัดการพวกเขาทั้งหมดได้ในคราวเดียว”
“ต่อไป เมืองราชวงศ์ซ่านกวนจะกลายเป็นเมืองราชวงศ์ที่นำโดยราชวงศ์อย่างแท้จริง”
หลี่จ้งและหลี่เจียงสงมองซ่านกวนโหรวด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ พวกเขาไม่เคยคิดว่าซ่านกวนโหรวมีความทะเยอทะยานเช่นนี้
แม้ว่าราชวงศ์ทั้งสี่แห่งจิ่วโจวจะมีพลังอำนาจที่ไร้ขอบเขต และดูเหมือนว่าแต่ละราชวงศ์จะเป็นผู้ควบคุมเมืองราชวงศ์ของตนเอง แต่ความจริงแล้ว มีเพียงคนในราชวงศ์เท่านั้นที่รู้ว่ากองกำลังภายในของแต่ละเมืองราชวงศ์นั้นไม่ธรรมดาอย่างที่แสดงออกมา
ตระกูลใดก็ตามที่สามารถตั้งรกรากอยู่ในเมืองราชวงศ์ได้ แล้วพัฒนาเป็นตระกูลที่มีพลังอำนาจได้ แล้วจะเป็นตระกูลเล็กได้อย่างไร?
กล่าวได้ว่าภายในของเมืองราชวงศ์นั้น นอกจากราชวงศ์แล้ว ยังมีราชวงศ์ชั้นสูงอีกมากมายที่เกือบจะเทียบได้กับราชวงศ์ และแม้แต่ราชวงศ์ก็ยังไม่กล้าที่จะโจมตีตระกูลเหล่านั้นง่าย ๆ
ราชวงศ์นั้นสืบทอดมาหลายร้อยปีแล้ว แล้วจะมีตระกูลใดบ้างไม่ต้องการแทนที่พวกเขา?
“โอเค!”
หลังจากกษัตริย์ซ่านกวนเงียบไปครู่หนึ่ง เขาหรี่ตาลงและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่กระชับว่า “งั้นก็ถือโอกาสนี้กวาดล้างเมืองราชวงศ์ซ่านกวนครั้งใหญ่เถอะ!”
“โหรวเอ๋อร์ รายละเอียดเรื่องนี้มอบให้คุณเป็นคนรับผิดชอบ!”
คำพูดประโยคนี้ของกษัตริย์ซ่านกวน ทำให้หลี่จ้งและหลี่เจียงสงตกใจมากยิ่งขึ้น
ด้วยความแข็งแกร่งของราชวงศ์ และตอนนี้ยังมีตระกูลหลี่ ไม่ต้องกล่าวถึงว่ายังมีหยางเฉินอยู่เบื้องหลังราชวงศ์อีกคน
ถ้ากองกำลังตระกูลอื่น ๆ กล้าวางแผนโจมตีราชวงศ์ ราชวงศ์และตระกูลหลี่จะร่วมมือกันทำลายล้างพวกเขาอย่างแน่นอน
สำหรับเรื่องใหญ่ขนาดนี้ กษัตริย์ซ่านกวนกลับมอบให้ซ่านกวนโหรวรับผิดชอบ เห็นได้ชัดว่ามอบผลงานชิ้นใหญ่ให้ซ่านกวนโหรวเปล่า ๆ
แค่คิดก็สามารถรู้แล้ว หลังจากราชวงศ์ปราบกองกำลังตระกูลใหญ่ต่าง ๆในเมืองราชวงศ์แล้ว ซ่านกวนโหรวจะเป็นคนที่มีความดีความชอบใหญ่ที่สุดของราชวงศ์ และกษัตริย์ซ่านกวนกำลังเตียมพร้อมที่จะให้ซ่านกวนโหรวขึ้นครองบัลลังก์เหรอ?
“ค่ะ ท่านปู่!”
ซ่านกวนโหรวตอบด้วยสีหน้าจริงจัง และรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย
เดิมที เธอไม่เคยสนใจตำแหน่งผู้นำ แต่หลังจากรู้ถึงความแข็งแกร่งของหยางเฉินแล้ว เธอก็ตระหนักว่าหากตนเองต้องการใกล้ชิดกับหยางเฉินมากขึ้นอีก ต้องพยายามปรับปรุงความแข็งแกร่งและสถานะของตนเอง
หยางเฉินมีความแข็งแกร่งจนสามารถเอาชนะพลังของแดนเหนือมนุษย์ขั้นสี่ได้แล้ว ด้วยแดนบูโดที่อยู่แดนเทพชั้นกลางอย่างเธอ หากต้องการไล่ตามหยางเฉินในทางบูโด เกรงว่าจะมีไม่มีความหวัง
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ทำได้เพียงพยายามปรับปรุงสถานะของตนเอง
หลี่จ้งเต็มไปด้วยความอารมณ์ความรู้สึก แล้วสั่งหลี่เจียงสงทันที “เรื่องต่อจากนี้ไปก็มอบให้คุณเป็นคนรับผิดชอบ อย่าลืมร่วมมือกับคุณโหรวเอ๋อร์ เพื่อช่วยราชวงศ์ในการรวบรวมเมืองราชวงศ์!”
“ครับ ท่านพ่อ!” หลี่เจียงสงตอบอย่างรวดเร็ว
สำหรับเรื่องหลังจากนี้ ซ่านกวนโหรวและหลี่เจียงสงรับช่วงต่อ จากนั้นกษัตริย์ซ่านกวนนำพาหยางเฉินและหลี่จ้งไปที่ห้องประชุม และดูแลทั้งสองคนด้วยตนเอง
ไม่นาน ข่าวที่น่าตกใจก็แผ่ออกมาจากราชวงศ์ซ่านกวน