The king of War - บทที่ 1420 จะร่วมงานหรือไม่
อู่หยางจ้องมองไปที่หยางเฉิน แล้วบอกว่า “ป้าของผมต้องการร่วมมือกับคุณ”
เมื่อได้ยินสิ่งที่อู่หยางพูด หยางเฉินก็เยาะเย้ย “ร่วมมือ? ตอนนั้นอู่หยู่หลานคิดฆ่าผม และเกือบตายในมือของผม แล้วเธอจะร่วมมือกับผมได้อย่างไร?”
“คุณอย่ามาหลอกอะไรผมแบบนี้ พวกคุณมีจุดประสงค์อะไร พูดมาตรงๆ เถอะ!”
ตอนนี้บูโดของหยางเฉินก้าวเข้าสู่ระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นสองแล้ว ในขณะที่อู่หยู่หลานอยู่ที่ระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นสาม หากทั้งสองได้พบกันอีก หยางเฉินมั่นใจว่าเขาจะสามารถเอาชนะอู่หยู่หลาน ได้ แทนที่เกือบตายในมืออู่หยู่หลานเหมือนเมื่อไม่กี่เดือนก่อน
ส่วนลูกชายของอู่หยู่หลานก็ถูกหยางเฉินฆ่า หยางเฉินไม่เชื่อว่าอู่หยู่หลานจะยอมร่วมมือกับเขาอย่างจริงใจ
เมื่อได้ยินสิ่งที่หยางเฉินพูด อู่หยางก็ตกใจ เขาเป็นหลานชายของอู่หยู่หลาน ดังนั้นเขาย่อมรู้ว่าอู่หยู่หลานอยู่ในระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นสาม
แต่เมื่อครู่หยางเฉินกลับบอกว่าเขาเกือบจะฆ่าอู่หยู่หลานตาย นั่นก็หมายความว่าเมื่อไม่กี่เดือนก่อน หยางเฉินสามารถเอาชนะผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นสามได้แล้วเหรอ?
แต่จู่ๆ อู่หยางก็นึกขึ้นได้ว่า อู่หยู่หลานได้ออกจากตระกูลไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน เมื่อเธอกลับมาที่ตระกูลอีกครั้ง เธอมีลมปราณที่อ่อนแอ เห็นได้ชัดว่าเธอได้รับบาดเจ็บสาหัส
อย่าบอกนะว่าครั้งนั้นหยางเฉินเกือบจะฆ่าอู่หยู่หลานตาย?
ยิ่งคิดเท่าไรอู่หยางก็ยิ่งหวาดหวั่น
เขาสามารถไปถึงระดับแดนเหนือมนุษย์ได้ก่อนอายุ 45 ปี ถ้าเป็นในราชวงศ์โบราณ ก็ล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งที่มีพรสวรรค์ด้านบูโดโดดเด่นมาก
ตอนนี้หยางเฉินอายุยังไม่ถึง 30 ปี แต่เขามีความสามารถที่จะเอาชนะผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นสามแล้วหรือ?
ถ้าไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเองว่าหยางเฉินสามารถเอาชนะผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นสองได้ภายในวินาทีเดียว เขาจะไม่มีวันเชื่อเรื่องนี้เด็ดขาด
“ในเมื่อคุณหยางชอบพูดตรงประเด็น ผมจะพูดตรง ๆ ใช่ ป้าของผมเคียดแค้นคุณที่ฆ่าลูกนอกสมรสของเธอตาย ด้วยนิสัยของเธอ ตราบใดที่เธอมีโอกาส เธอ จะต้องแก้แค้นแน่นอน”
อู่หยางกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “แต่เรื่องนี้ไม่ได้เป็นอุปสรรคในความร่วมมือของเรา งานฉลองครบรอบ 100 ปีของเย่หลินจะจัดขึ้นแล้ว เรามีข้อมูลที่เชื่อถือได้ว่าความสามารถของเย่หลินได้ก้าวเข้าสู่ระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าแล้ว บวกกับการที่กษัตริย์เย่ได้ก้าวขึ้นสู่ระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่ง อาจกล่าวได้ว่าตอนนี้ราชวงศ์เย่มีคุณสมบัติที่จะเบียดตัวเข้าสู่ราชวงศ์โบราณแล้ว”
“ส่วนที่ว่าทำไมเย่หลินเลือกที่จะจัดงานฉลองวันเกิดในเมืองเยี่ยนตู แถมยังเชิญกองกำลังระดับสูงจำนวนมากในจิ่วโจวมามากมาย ผมไม่ต้องพูด คุณก็น่าจะรู้เหตุผลดีใช่ไหม?”
“ถูกต้อง เขาต้องการเข้าควบคุมตี้ชุน เบียดตัวเข้าสู่สมาชิกของราชวงศ์โบราณอย่างเป็นทางการ”
“นอกจากนี้ มีอีกเรื่องที่สำคัญมาก นั่นคือ เย่หลินต้องการฆ่าคุณเพื่อเพื่อข่มขู่ตระกูลทั้งหมด”
เมื่ออู่หยางพูดเช่นนี้ออกมา สีหน้าของหยางเฉินก็มืดมนลงทันที
เขานึกไม่ถึงว่าบูโดของเย่หลินจะอยู่ที่ระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้า ซึ่งเกินความคาดหมายของเขาจริงๆ
สำหรับเขา เขามีเพียงความสามารถระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นสองเท่านั้น ถ้าไม่ใช่เพราะฝึกฝนถึงขั้นที่ห้าของคัมภีร์ต้าเต้าเทียนหยาน พัฒนาความสามารถของเขาขึ้นมากแล้ว เกรงว่าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเย่หลิน
แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังปลดปล่อยพลังระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าได้อย่างยากลำบาก แต่สุดท้ายมันก็ไม่ใช่ระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าที่แท้จริง
ยิ่งไปกว่านั้น ทางราชวงศ์เย่ยังมีกษัตริย์เย่ที่บุกทะลวงไปสู่ระดับแดนเหนือมนุษย์ได้แล้ว
“จะร่วมมืออย่างไร?”
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง หยางเฉินก็มองไปที่อู่หยางและถามขึ้น
อีกฝ่ายเป็นคนเสนอความร่วมมือ ก็ย่อมเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ หยางเฉินคิดไม่ออกว่า ตัวเขานั้นมีผลประโยชน์อะไรที่ราชวงศ์อู่ต้องการ
“ผมรู้ว่าคุณไม่ต้องการให้เกิดตี้ชุนขึ้น เพราะคุณคิดว่าตี้ชุนนั้นอยู่เหนือการควบคุม เมื่อมีตี้ชุนเกิดขึ้น มันจะนำอันตรายใหญ่หลวงมาสู่จิ่วโจว”
“และความต้องการของราชวงศ์โบราณของเรา มีเพียงอย่างเดียว นั่นคือคุณต้องสืบทอดตี้ชุน”
ตี้ชุน!
ตี้ชุนอีกแล้ว!
ความเยือกเย็นในดวงตาของหยางเฉินมากขึ้นเรื่อยๆ ในอดีตตระกูลเดอะคิงสนใจครอบครองตี้ชุน ตอนนี้แม้แต่ราชวงศ์ หรือแม้แต่ราชวงศ์โบราณ ล้วนสนใจครอบครองตี้ชุน
“คุณหยาง ผมรู้ว่าคุณไม่ต้องการให้ตี้ชุนถือกำเนิดขึ้น แต่ตอนนี้คุณไม่มีทางเลือกแล้ว หากคุณไม่สืบทอดตี้ชุน ด้วยศักยภาพของราชวงศ์เย่ในเวลานี้ อาจไม่สามารถสืบทอดตี้ชุนได้ แต่หากต้องทำให้เป็นหุ่นเชิดก็ไม่ยาก”
“ตอนนี้เราเกือบจะแน่ใจแล้วว่า ราชวงศ์เย่จะหาวิธีที่จะล่อตี้ชุนออกมา ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมคุณถึงยังคิดขัดขวางไม่ให้ตี้ชุนถือกำเนิดขึ้นอีก?”
สิ่งที่อู่หยางพูดฟังดูมีเหตุผล แต่หยางเฉินไม่ใช่คนโง่ ถ้าไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ อู่หยางจะพูดแบบนี้กับเขาทำไม?
“ถ้าราชวงศ์อู่ออกหน้า ก็ไม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกับราชวงศ์เย่ใช่ไหม?” หยางเฉินถาม
อู่หยางยิ้มอ่อน “ผมรู้อยู่แล้วว่าคุณจะถามคำถามนี้ ผมบอกได้เพียงว่า ด้วยเหตุผลบางอย่าง ราชวงศ์อู่จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของเมืองเยี่ยนตูโดยตรง”
“ในเมื่อพวกคุณไม่สามารถเข้าไปยุ่งได้ แล้วคุณจะให้ผมร่วมมือได้อย่างไร? อย่าบอกนะว่าแค่โน้มน้าวให้ผมเข้าสืบทอดตี้ชุน?” หยางเฉินยิ้มเยาะ
อู่หยางกล่าวว่า “แม้ว่าเราจะไม่สามารถยื่นมือเข้าไปยุ่งอย่างเปิดเผยได้ แต่เราสามารถยื่นมือเข้าไปยุ่งอย่างลับๆ ได้ไม่ยาก”
เขาพูดพลางชี้ไปที่ผู้อาวุโสที่พ่ายแพ้ต่อหยางเฉินในวินาทีเดียว พลางกล่าวแนะนำ “เขาชื่อซ่งโย่ว ระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นสอง”
จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่ผู้อาวุโสทางด้านซ้าย “เขาชื่อซ่งจั่ว ระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นสาม”
“พวกเขาเป็นพี่น้องแท้ๆ ที่มีความคิดเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน หากทั้งสองร่วมมือกัน จะสามารถระเบิดความสามารถที่เทียบได้กับผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นสี่”
“ประเด็นคือพวกเขาไม่ใช่คนจากราชวงศ์อู่ของเรา แต่พวกเขาเป็นหนี้บุญคุณป้าของผม ดังนั้นพวกเขาจึงเต็มใจที่จะช่วยเธอในครั้งนี้”
“ขอเพียงคุณยินดีที่จะร่วมมือกับราชวงศ์อู่ของเรา วันนี้ซ่งจั่วและซ่งโย่วจะฟังคำสั่งของคุณทุกอย่าง”
“คุณหยางลองไตร่ตรองดูแล้วจะร่วมมือหรือไม่ แต่งานฉลองวันเกิดของเย่หลินกำลังจะเริ่มขึ้น คุณควรจะตัดสินใจโดยเร็วที่สุด”
หยางเฉินรู้สึกแปลกใจ เดิมทีเขาคิดว่าซ่งจั่วและซ่งโย่วเป็นผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์อู่ แต่นึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะมาที่นี่เพื่อตอบแทนบุญคุณของอู่หยู่หลาน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้เขาสับสนมากที่สุดคือ เหตุใดราชวงศ์อู่ถึงต้องการให้ตี้ชุนถือกำเนิดขึ้น?
ถึงขนาดยอมใช้หนี้บุญคุณของผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์ เพื่อให้ตี้ชุนถือกำเนิดขึ้น
เขาไม่เชื่อว่าราชวงศ์อู่จะยอมแลกกับหนี้บุญคุณมากมายเช่นนี้ เพียงเพื่อให้ตี้ชุนได้ถือกำเนิดขึ้นโดยไม่มีเจตนาอย่างอื่น
เขารู้ดีว่าถึงแม้จะถามไป อู่หยางจะไม่มีทางบอกเหตุผลให้เขารู้
“ผมมีคำถามสุดท้ายสำหรับคุณ หากผมปฏิเสธ คุณจะร่วมมือกับราชวงศ์เย่ไหม?” หยางเฉินถาม
สิ่งทำให้หยางเฉินนึกไม่ถึงก็คือ อู่หยางส่ายหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม “ถ้าคุณปฏิเสธ ผมจะพาพวกเขาออกไปเดี๋ยวนี้ ส่วนเรื่องบุญคุณความแค้นระหว่างคุณกับราชวงศ์เย่ พวกเราจะไม่เข้าไปยุ่ง”
คำตอบของอู่หยางทำให้หยางเฉินยิ่งสับสนมากขึ้น
ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายต้องการให้ตี้ชุนถือกำเนิดขึ้น แต่ก็เพื่อต้องการให้เขาสืบทอดตี้ชุนเท่านั้น
แม้จะรู้ว่าอู่หยางจะไม่ตอบเขา แต่เขาก็อดถามไม่ได้ว่า “ผมอยากรู้ว่าทำไม?”
เป็นไปตามคาด อู่หยางส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม “เมื่อกี้คุณบอกว่า จะถามเป็นคำถามสุดท้ายไม่ใช่เหรอ?”
หยางเฉินอึ้งไปชั่วครู่กว่าจะได้สติกลับมา เมื่อครู่เขาพูดอย่างนั้นจริงๆ
เพียงแต่ว่า เขาไม่อยากเห็นการถือกำเนิดขึ้นของตี้ชุนมาโดยตลอด แต่ตอนนี้ บูโดของเย่หลินแห่งราชวงศ์เย่ได้ก้าวเข้าสู่ระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าแล้ว ลำพังเขาคนเดียว มันคงเป็นเรื่องยากที่จะขัดขวางเย่หลิน
ทันทีที่ตี้ชุนอยู่ภายใต้การควบคุมของราชวงศ์เย่ ผลที่ตามมานั้นไม่อาจคาดคิดได้
แต่หากตี้ชุนถือกำเนิดขึ้นมาแล้วไม่สามารถควบคุมได้ ผลที่ตามมาก็เกินจะจินตนาการเช่นกัน
มันดูเหมือนเป็นปัญหาที่ไม่มีทางแก้ไข