The king of War - บทที่ 1425 ผู้ไม่รู้ย่อมไม่เกรงกลัวสิ่งใด
ทันทีที่หยางเฉินพูดแบบนี้ ทุกคนในที่นี้ก็ตกตะลึง สมาชิกของราชวงศ์เย่คนหนึ่งโกรธจัด หยางเฉินเป็นคนแรกที่กล้ายั่วยุราชวงศ์เย่เช่นนี้
“เจ้าหนู นายรู้หรือไม่ว่ากำลังทำอะไรอยู่?”
ชายวัยกลางคนเดินออกมาจากด้านหลังกษัตริย์เย่ จ้องมองหยางเฉินอย่างเย็นชาและพูดว่า “นายกำลังรนหาที่ตาย!”
ชายวัยกลางคนยืนอยู่ข้างหลังกษัตริย์เย่ตลอด เมื่อพิจารณาจากการแต่งกายและตำแหน่งที่เขายืนแล้ว ใครๆ ก็เดาได้ว่าสถานะของเขาต้องเป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์คนต่อไปของราชวงศ์เย่
“เย่เซียว ผู้สืบทอดของราชวงศ์เย่ เป็นคนที่มีพรสวรรค์ด้านบูโดแข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่งในรุ่นของเขา อายุ 48 ปี ระดับบูโดมาถึงแดนเทพชั้นปลายแล้ว”
มีคนจำสถานะของเย่เซียวได้และกล่าวขึ้น
แต่หยางเฉินกลับไม่เห็นเย่เซียวอยู่ในสายตา ผู้แข็งแกร่งที่ระดับบูโดยังไม่ถึงแดนเหนือมนุษย์ ในสายตาของเขาก็เหมือนกับมด
ถ้าเขาต้องการฆ่า ก็ง่ายดายมาก
กษัตริย์เย่ย่อมรู้ว่าหยางเฉินน่ากลัวแค่ไหน พอเห็นเย่เซียวเดินออกมา เขาก็แว่บไปอยู่ขวางอยู่ข้างหน้าเย่เซียวทันที พลางตะโกนว่า “ถอยไป!”
“เสด็จพ่อ เจ้าหนุ่มคนนี้จองหองเกินไป ถ้าไม่ให้เขาจ่ายชดใช้ จะคิดว่าราชวงศ์เย่ของเราไม่มีคนมีความสามารถจริงๆ”
เย่เซียวพูดอย่างโกรธเคือง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว
ในฐานะทายาทของราชวงศ์เย่ ก็รับความคิดที่ว่าราชวงศ์เย่เป็นอำนาจสูงสุดในจิ่วโจวมาตั้งแต่เด็ก ใครๆ ก็ห้ามเหยียบย่ำความเกรียงไกรของราชวงศ์เย่
แต่ในวันนี้เป็นวันที่สำคัญมากสำหรับราชวงศ์เย่ แต่ดันถูกก่อกวนโดยหยางเฉิน มันทำให้เขาไม่อาจทนได้
“ฉันบอกให้แกหุบปากไง! ถอยไป!” กษัตริย์เย่ตวาดอย่างโกรธเกรี้ยว
คนอื่นๆ อาจคิดว่า ผู้แข็งแกร่งที่อยู่ข้างกายหยางเฉินใช้อาวุธลับสังหารเจียวต้าเหว่ย แต่เขากลับรู้ดีว่า เมื่อครู่เป็นฝีมือของเขาหยางเฉิน
ก่อนที่หยางเฉินจะพูดคำสองคำว่า “หนวกหู” เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกถึงคลื่นพลังบูโดอันน่าสะพรึงกลัวที่ระเบิดออกมาจากตัวหยางเฉิน
จากนั้นอวัยวะภายในของเจียวต้าเหว่ยก็แตกสลายและตายในที่สุด
วิธีการที่น่ากลัวเช่นนี้ หากอยู่ต่ำว่าระดับแดนเหนือมนุษย์ก็ยากที่จะมีคนทัดทานได้ แม้ว่าเย่เซียวจะอยู่ระดับแดนเทพชั้นปลาย ก็ไม่มีข้อยกเว้น
อย่างน้อยกษัตริย์เย่ก็รู้ชัดเจนว่า วิธีการแบบหยางเฉิน เขาไม่สามารถทำได้
“เสด็จพ่อ…”
เย่เซียวยังคงต้องการพูดโน้มน้าว
“ผัวะ!”
แต่ในเวลานี้ กษัตริย์เย่ได้ตบหน้าเย่เซียวอย่างแรง แล้วคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว “หุบปากของแกซะ! ถ้ายังกล้าพูดไร้สาระอีกคำหนึ่ง ฉันจะถอดตำแหน่งทายาทของแกออก”
เย่เซียวมีสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ นึกไม่ถึงว่าพ่อของตัวเองจะตบเขาในที่สาธารณะ
เขารู้สึกว่าได้กษัตริย์เย่โกรธจริงๆ คำพูดเกรี้ยวกราดเมื่อครู่ไม่ใช่พูดแบบขอไปที ถ้าเขายังคงพูดต่อไป กษัตริย์เย่จะถอดตำแหน่งทายาทของเขาจริงๆ
ในห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ มีกองกำลังระดับสูงทั้งหมดจากทั่วทั้งจิ่วโจว ในเวลานี้จะเห็นได้ว่ากษัตริย์เย่พุ่งเป้าจัดการไปที่หยางเฉินเพื่อขัดขวางเย่เซียว หลังจากตบเย่เซียวไปครั้งหนึ่ง ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ถ้าหยางเฉินเป็นเพียงคนธรรมดา แค่การกระทำของเขาเมื่อครู่ กษัตริย์เย่จะปล่อยเขาไปไหม?
ไม่มีทางเด็ดขาด!
หยางเฉินอาจถูกฆ่าตายในขณะที่เพิ่งปรากฏตัวขึ้นในห้องจัดเลี้ยง
กษัตริย์เย่เป็นผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์ แม้แต่เขาก็ยังไม่กล้าทำอะไรหยางเฉิน เป็นเพราะผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์สองคนที่อยู่ข้างกายหยางเฉินจริงหรือเปล่า?
เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ นั่นก็หมายความว่า หยางเฉินมีภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่ ที่แม้แต่ราชวงศ์เย่เองก็ไม่กล้าล่วงเกิน หรือไม่ก็ความสามารถของหยางเฉินสุดขั้ว แซงหน้ากษัตริย์เย่ไปแล้ว
แต่หยางเฉินดูเหมือนจะมีอายุเพียง 28 ปีเท่านั้น เขายังเด็กมาก จะเป็นผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์ไปได้อย่างไร? แถมยังแซงหน้ากษัตริย์เย่ไปอีก
ในเมื่อไม่ใช่ งั้นก็แสดงว่าหยางเฉินมีภูมิหลังที่แข็งแกร่ง กองกำลังเดียวที่สามารถทำให้ราชวงศ์เย่หวาดกลัวได้ เกรงว่าจะมีแต่ราชวงศ์โบราณเท่านั้น ยังมีตระกูลบู๊โบราณในข่าวลือก็ถูกกล่าวว่าซ่อนตัวอยู่?
แต่ราชวงศ์โบราณทั้งสอง ไม่มีใครแซ่หยาง สำหรับตระกูลบู๊โบราณทั้งสอง ไม่ว่าจะมีใครแซ่หยางหรือไม่ พวกเขาไม่รู้จริงๆ
ชั่วขณะหนึ่ง บรรดาผู้ที่ไม่รู้จักหยางเฉิน เริ่มคาดเดาตัวตนของหยางเฉิน
แต่หยางเฉินกลับไม่สนใจว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่ แต่จ้องไปที่เย่เซียวและพูดอย่างมีนัยยะ “คุณควรขอบคุณเสด็จพ่อ ไม่อย่างนั้นตอนนี้คุณก็กลายเป็นศพไปแล้ว”
เย่เซียวโกรธจัด ขณะที่กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ก็ถูกกษัตริย์เย่ถลึงตาใส่ เขาพยายามข่มสิ่งที่เขาต้องการพูดกลับไปเอาไว้
ท้ายที่สุดเย่เซียวก็เป็นทายาทของราชวงศ์เย่ เขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับหยางเฉิน เขารู้อย่างทะลุปรุโปร่ง และรู้ด้วยว่าหยางเฉินเป็นผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์
แม้ว่าคำพูดเมื่อครู่ของหยางเฉินมันไม่ค่อยน่าฟัง และดูเหมือนจะเป็นการดูถูกเขา แต่เขารู้ดีว่า หยางเฉินไม่ได้ดูถูกตน แต่พูดความจริงออกมา
เขามีความสามารถอยู่แค่ระดับแดนเทพชั้นปลายเท่านั้น ผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์ยืนอยู่ตรงหน้า ก็เป็นแค่มดตัวหนึ่ง
“หยางเฉิน บุญคุณความแค้นระหว่างเราไม่ควรถูกแก้ไขในสถานการณ์เช่นนี้ หลังจากงานฉลองวันเกิดของพ่อฉันสิ้นสุดลง พวกเราค่อยจัดการ ว่าไง?” จู่ๆกษัตริย์เย่ก็ถามขึ้น
เขารู้สึกคับข้องใจมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อหน้ากองกำลังชั้นนำมากมายในจิ่วโจว แต่เขาต้องอ่อนน้อมถ่อมตนต่อหยางเฉิน
แต่เขาจะไม่ทำแบบนี้ก็ไม่ได้ เพราะมันยังไม่ถึงเวลา ดังนั้นจึงต้องอดทนไว้ เมื่อถึงโอกาสที่สุกงอม เขาจะไม่ทนอีกต่อไป
ขณะที่หยางเฉินกำลังจะพูด ทันใดนั้นก็มีเสียงที่มาไม่ถูกเวลาดังขึ้น “กษัตริย์เย่ ถ้าคุณทำเช่นนี้ จะไม่ทำให้พวกเรากองกำลังที่ติดตามราชวงศ์เย่รู้สึกผิดหวังเหรอ?”
เขาคือเจียวโสงแห่งตระกูลเจียว สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความดุร้าย การสูญเสียลูกชายอันเป็นที่รักไป มันเกือบทำให้เขาเสียสติ
กษัตริย์เย่ขมวดคิ้วและมองไปทางเจียวโสงพร้อมกับกล่าวว่า “ผมเตือนพวกคุณแล้วว่าอย่ารนหาที่ตาย พวกคุณก็ไม่ฟังคำทัดทานของผม สุดท้ายลูกชายของคุณถูกฆ่า จะไปตำหนิใครได้?”
เจียวโสงกัดฟันพูดว่า “ถ้าเขาต่อสู้กับลูกชายของผมอย่างยุติธรรม แม้ว่าลูกชายของผมจะถูกฆ่า ผมจะไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ เลย แต่เขาสั่งให้ผู้แข็งแกร่งของตระกูลใช้อาวุธลับฆ่าลูกชายของผม ผมทนไม่ได้!”
“กษัตริย์เย่ วันนี้เป็นงานฉลองวันเกิดครบรอบ 100 ปีของผู้อาวุโสเย่หลิน พวกเราตอบรับคำเชิญมาแต่ตอนนี้เราไม่มีแม้แต่ความปลอดภัยแล้วเหรอ?”
“หรือในใจของกษัตริย์เย่ พวกเรากองกำลังที่เต็มใจติดตามราชวงศ์เย่นั้นเป็นเป้ากระสุนปืนใหญ่ที่พร้อมจะเสียสละได้ตลอดเวลา? กษัตริย์เย่ยอมเสียสละคนในตระกูลเจียวของผม แทนที่จะไปจัดการกับคนเลวที่ไม่ได้รับเชิญ แต่กลับมาสร้างปัญหาแทน?”
เจียวโสงยอมเทหมดหน้าตักแล้ว โดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมาจากคำพูดของเขา
“บังอาจ!”
ในที่สุดกษัตริย์เย่ก็ระเบิดออกมา พลังกดดันของบูโดอันน่าสะพรึงกลัวแผ่ซ่านออกมาจากร่างกายของเขา กดลงบนร่างกายของเจียวโสงทันที
“คุณคิดว่าลูกชายของคุณถูกอาวุธลับของหยางเฉินสังหารจริงๆ เหรอ?” กษัตริย์เย่ถามอย่างโกรธเคือง
“หรือว่าไม่ใช่ล่ะ? เจ้าหนุ่มคนนั้นนั่งอยู่กับที่ตลอดเวลาไม่ขยับเขยื้อนเลย ส่วนผู้แข็งแกร่งทั้งสองที่อยู่ข้างกายเขา บูโดน่าจะถึงระดับแดนเหนือมนุษย์แล้วสินะ? มีเพียงผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์เท่านั้น ที่พวกเราไม่สามารถสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวได้” เจียวโสงกัดฟันพูด
“ฮ่าๆ!”
ทันใดนั้นกษัตริย์เย่ก็หัวเราะเยาะ “ผู้ไม่รู้ย่อมไม่เกรงกลัวสิ่งใดจริงด้วย!”
เขากวาดสายตามองฝูงชนและกล่าวอย่างเย็นชา “พวกคุณส่วนใหญ่น่าจะมีความคิดแบบเดียวกับเจียวโสงใช่ไหม?”