The king of War - บทที่ 1427 จัดตั้งพันธมิตร
อีกฝ่ายกล้าวางแผนต่อต้านหยางเฉินและราชวงศ์เย่ ก็ย่อมมีความสามารถไม่ธรรมดา แต่ในขณะเดียวกัน กำลังของอีกฝ่ายอาจไม่แข็งแกร่งมาก หากกำลังของอีกฝ่ายแข็งแกร่งจริง ก็คงจะจัดการหยางเฉินและราชวงศ์เย่ไปแล้ว
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ความเยือกเย็นในหัวใจของหยางเฉินก็ทวีมากขึ้น เขาไม่เคยคิดว่างานฉลองวันเกิดที่จัดขึ้นโดยราชวงศ์เย่ในเมืองเยี่ยนตูจะล้ำลึกถึงขนาดนี้
บางทีมันไม่ใช่แค่ผู้ชักใยเบื้องหลังเท่านั้น แต่อาจจะเป็นผู้ชักใยที่ซ่อนอยู่ในความมืดด้วย
หยางเฉินคาดเดาได้ทุกอย่าง กษัตริย์เย่ก็ย่อมไม่ใช่คนโง่เช่นกัน เพราะในไม่ช้าเขาก็เข้าใจทุกอย่าง เดิมทีเขาเคยคิดว่าที่หยางเฉินกล้าบุกเข้ามาในงานฉลองวันเกิดก็เพื่อต้องการทำลายมัน
แต่เมื่อลองคิดดูให้ดี ดูเหมือนจะไม่ได้ง่ายดายอย่างนั้น ด้วยความสามารถของหยางเฉิน ไม่จำเป็นต้องใช้บัตรเชิญปลอมเลย
เรื่องนี้สามารถอธิบายได้ว่า มีผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังที่วางแผนทั้งหมดนี้ เพื่อยั่วยุให้เกิดการต่อสู้ระหว่างหยางเฉินและราชวงศ์เย่
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่หยางเฉินในทันใด เมื่อเห็นว่าหยางเฉินไม่มีทีท่าว่าจะลุกออกมา เขาก็รู้สึกโล่งใจไปเปราะหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม คำพูดของเจียวโสงได้ทำให้กองกำลังจำนวนมากของราชวงศ์เย่ รู้สึกอยู่ไม่เป็นสุข
“ฮึ!”
กษัตริย์เย่พ่นลมหายใจอย่างเย็นชา ลมปราณบูโดจางๆ ก็แผ่ซ่านออกมาจากร่างกายของเขา เขากวาดตามองฝูงชนและพูดอย่างเย็นชา “ผมรู้ว่าทุกท่านกำลังคิดอะไรอยู่”
“ถ้ามีใครคิดว่า หากมอบขอบขวัญแล้ว ก็ควรได้รับการตอบแทนจากราชวงศ์เย่ของเราล่ะก็ ต้องขอโทษด้วย หากพวกคุณไม่สามารถแสดงอะไรที่ทำให้ราชวงศ์เย่ของเรามองเห็นความจริงใจที่เราให้ความสำคัญได้ คุณจะไม่ได้รับการตอบแทนใดๆ เลย”
“แน่นอน ถ้าใครไม่พอใจกับคำพูดของผม ก็เอาของขวัญที่คุณเพิ่งให้มากลับไปซะ ราชวงศ์เย่ของเราไม่ได้ขาดแคลนสิ่งนี้”
ผู้คนจากกองกำลังแต่ละฝ่ายที่ยังโกรธเคืองราชวงศ์เย่ค่อยๆ ใจเย็นลง หลังจากได้ยินสิ่งที่ราชวงศ์เย่พูด
แม้ว่าราชวงศ์เย่จะไม่ได้ตอบแทนอะไร พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะเอาคืน ไม่งั้นจะไม่เป็นการล่วงเกินราชวงศ์เย่หรอกหรือ?
จิ่วโจวในปัจจุบัน มีบางตระกูลที่ไม่เปิดเผยตัวตนมีความสามารถเหนือราชวงศ์ จนถึงขนาดที่มีความสามารถเหนือไปจากราชวงศ์เย่และราชวงศ์โบราณอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ตระกูลที่ไม่เปิดเผยตัวตนและราชวงศ์โบราณมักซ่อนตัวอยู่จากโลกภายนอก ส่วนใหญ่ล้วนเขาพัฒนาดินแดนของตนเอง ไม่สนใจโลกเลย
อาจกล่าวได้ว่าจิ่วโจวในปัจจุบัน ราชวงศ์ทั้งสี่กำลังเป็นผู้นำ และตอนนี้ฝ่าบาทรุ่นที่ 7 ของราชวงศ์เย่ได้ปรากฏตัวขึ้น ในฐานะผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์
เมื่อไม่นานมานี้กษัตริย์เย่ได้ทะลวงเข้าสู่ระดับแดนเหนือมนุษย์ได้แล้ว แล้วยังปราบปรามกองกำลังระดับสูงหลายแห่งในเมืองราชวงศ์เย่ ตั้งแต่นั้นมาความสามารถของราชวงศ์เย่ ได้พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด กลายเป็นผู้นำของราชวงศ์ทั้งสี่ทันที
ภายใต้สถานการ์ณเช่นนี้ ใครก็ตามที่กล้าล่วงเกินราชวงศ์เย่ เท่ากับว่ากำลังรนหาที่ตาย
เจียวโสงยังตระหนักได้ว่า มันเป็นไปไม่ได้ที่จะยั่วยุคนของกองกำลังอื่นให้เกลียดชังราชวงศ์เย่ จนถึงขนาดที่ทำให้เกิดความเป็นปฏิปักษ์ระหว่างหยางเฉินและราชวงศ์เย่
ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงกลับไปนั่งที่เดิม ด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยวเล็กน้อย
“เจียวโสง คุณมีอะไรจะพูดอีกไหม?” กษัตริย์เย่มองไปที่เจียวโสงแล้วถามขึ้น
เจียวโสงพูดอย่างเย็นชา “อย่างที่กษัตริย์เย่พูด ด้วยอำนาจในปัจจุบันของราชวงศ์เย่ แม้ว่าจะมีคนไม่พอใจกับวิธีการของราชวงศ์เย่ แต่จะมีใครกล้าพูดออกมา?”
“ผมไม่มีอะไรจะพูด!”
แม้ว่ากษัตริย์เย่จะโกรธมาก ต้องการฆ่าเจียวโสงในตอนนี้เลย แต่เขารู้ว่ามันไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม
บางทีแม้แต่แผนการที่จะรับมือหยางเฉิน ก็ต้องเปลี่ยนไป
ท้ายที่สุด ตอนนี้ยังมีอีกคนหนึ่งที่อาจจะเป็นผู้ชักใยอยู่เบื้องหลัง ไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน อีกฝ่ายพยายามปลุกปั่นให้เกิดความเป็นปฏิปักษ์ระหว่างหยางเฉินและราชวงศ์เย่ เห็นได้ชัดว่าต้องการให้หยางเฉินและราชวงศ์เย่ประสบความสูญเสียทั้งคู่ ตัวเขาเองก็จะนั่งเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากมัน
“ทุกท่านมีอะไรจะพูดอีกไหม?” กษัตริย์เย่ถามพลางมองไปรอบๆ ฝูงชน
ทุกคนพากันส่ายหน้า เพื่อบอกว่าไม่มี
กษัตริย์เย่จึงพูดต่อว่า “วันนี้ผมขอเชิญทุกท่านมาพบปะกันที่เมืองเยี่ยนตู นอกจากงานฉลองวันเกิดครบรอบ 100 ปีของเสด็จพ่อของผมแล้ว ยังมีอีกสองเรื่องที่จะพูดคุยกับทุกท่านโดยละเอียด”
ทันทีที่พูดออกไป สีหน้าที่ไม่เปลี่ยนแปลงของหยางเฉินได้เปลี่ยนไปในที่สุด
เขาย่อมรู้ดีว่า กษัตริย์เย่จะพูดถึงเรื่องอะไรต่อไป
อย่างไรก็ตาม ผู้ชักใยเบื้องหลังยังไม่ปรากฏตัว เขาจะไม่หยุดขัดขวางง่ายๆ มิฉะนั้นก็จะตกหลุมพรางของผู้ชักใยเบื้องหลังจริงๆ
“ไม่ทราบว่ากษัตริย์เย่จะคุยเรื่องอะไรสองเรื่อง ถึงได้เชิญกองกำลังระดับสูงทั้งหมดในจิ่วโจวไปยังเมืองเยี่ยนตู” กษัตริย์ซ่านกวนถามเสียงต่ำ
กษัตริย์เย่ชำเลืองมองกษัตริย์ซ่านกวนอย่างเฉยเมย แล้วกวาดสายตามองไปยังฝูงชน พลางกล่าวว่า “เรื่องแรก ที่เชิญทุกท่านมาที่นี่ ก็เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องพันธมิตรของจิ่วโจว”
ประโยคนี้ทำให้ทุกคนก็ตกใจ ไม่มีใครคาดคิดว่าราชวงศ์เย่จะมีความทะเยอทะยานมากถึงเพียงนี้ ยังต้องการจัดตั้งพันธมิตรระหว่างกองกำลังทั้งหมดในจิ่วโจว
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า หากพยายามจัดตั้งพันธมิตรนี้ขึ้นจริงๆ ด้วยอำนาจนี้จะกลายเป็นผู้ปกครองจิ่วโจวในทันที
ดวงตาทั้งสองของหยางเฉินหรี่ลงเล็กน้อย เขารู้ว่าราชวงศ์เย่มีความทะเยอทะยาน แต่ไม่คิดว่าจะมากถึงขั้นนี้
หากเขาเดาไม่ผิด เรื่องที่สองที่กษัตริย์เย่จะพูด ก็คือตี้ชุน
ถึงอย่างไรเมื่อพันธมิตรจิ่วโจวก่อตัวขึ้น ขอเพียงราชวงศ์เย่กลายเป็นผู้ควบคุมของพันธมิตร เพียงต้องการให้ตี้ชุนถือกำเนิดขึ้น จากนั้นพันธมิตรก็จะกลายเป็นผู้ควบคุมตี้ชุนอย่างเป็นทางการ
ราชวงศ์เย่ได้ควบคุมพันธมิตร ซึ่งหมายความว่าราชวงศ์เย่ได้ควบคุมตี้ชุนด้วย
แน่นอนว่าเรื่องนี้อยู่ภายใต้สมมติฐานที่ว่าตี้ชุนสามารถควบคุมได้ หากมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น มันจะเป็นหายนะไปทั้งจิ่วโจว
“ฮ่าๆ!”
หลงจิ้นยิ้มเยาะพลางกล่าวว่า “กษัตริย์เย่ คุณไม่คิดว่าราชวงศ์เย่โลภเกินไปหรือ? พวกเขาต้องการสร้างพันธมิตรจิ่วโจว คุณพูดมาตรงๆ ว่าจะให้กองกำลังทั้งหมดที่อยู่ในนี้ สวามิภักดิ์ให้กับยังราชวงศ์เย่ของคุณ”
คำพูดของหลงจิ้น เต็มไปด้วยการเสียดสี
กษัตริย์ซ่านกวนก็รีบพูดต่อ “ผมบอกกับคุณได้อย่างแน่นอนเลยว่า ถ้าหากต้องการสร้างพันธมิตรนี้ ผมราชวงศ์ซ่างกวนจะปฏิเสธ!”
กษัตริย์เย่คาดไว้อยู่แล้วว่า ราชวงศ์หลงและราชวงศ์เย่จะไม่เห็นด้วย
เขาไม่แปลกใจใดๆ เลย แค่พูดอย่างเย็นชาว่า “จะเห็นด้วยหรือไม่ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับพวกคุณ มันขึ้นอยู่กับหนึ่งร้อยกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในจิ่วโจวที่จะตัดสินใจร่วมกัน”
“แน่นอน หลังจากจัดตั้งพันธมิตร พวกคุณสามารถปฏิเสธที่จะเข้าร่วมได้”
พูดจบกษัตริย์เย่ก็กวาดสายตามองดูฝูงชนและพูดเสียงดังว่า “ทุกท่านน่าจะรู้ดี ตอนนี้พวกคุณมีกองกำลังของตัวเอง แม้จะเป็นกองกำลัง 100 อันดับแรกของจิ่วโจว แต่ส่วนใหญ่แล้วเมื่อเทียบกับกองกำลังในอดีต ยังอยู่ห่างกันอีกมาก”
“แต่เมื่อก่อตั้งพันธมิตรแล้ว พวกเราจะตั้งสาขาของพันธมิตรอีกหลายสาขา ไปลงคุมงานเองที่สาขาต่างๆ จัดเตรียมผู้แข็งแกร่งระดับแดนเทพชั้นยอดไปจนถึงระดับแดนเหนือมนุษย์ ในขณะเดียวกันจะให้คำแนะนำแก่สมาชิกของพันธมิตรแต่ละฝ่ายในด้านการฝึกฝนบูโด”
“อาจกล่าวได้ว่าเมื่อก่อตั้งพันธมิตรแล้ว สมาชิกในพันธมิตรทุกคนจะได้รับการปฏิบัติอย่างยุติธรรม ความสามารถจะตัดสินทุกอย่าง ถ้าให้พูดกันตรงๆ ใครแข็งแกร่งกว่า ก็จะมีตำแหน่งที่สูงกว่าในพันธมิตร”
“เอาล่ะ พวกเรามาดำเนินการยกมือลงคะแนนเสียง ขอเพียงกองกำลังที่เห็นด้วยมีมากกว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์ พันธมิตรก็จะก่อตั้งขึ้น ถ้าไม่เห็นด้วย วันข้างหน้าจะไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมพันธมิตร”
“ตอนนี้ เรามาเริ่มลงคะแนนเสียงตกลงที่จะจัดตั้งพันธมิตร กรุณายกมือขวาของทุกท่านครับ”
กษัตริย์เย่ไม่ได้ให้เวลากองกำลังทั้งหมดได้พิจารณาเลย เขายกมือขึ้นทันทีเพื่อลงคะแนน บ่งบอกว่าหากไม่ตกลงที่จะก่อตั้งพันธมิตร วันข้างหน้าจะสูญเสียคุณสมบัติในการเข้าสู่พันธมิตรตลอดไปในอนาคต
เดี๋ยวก่อน!”
ทันทีที่กษัตริย์เย่พูดจบ ทุกคนยังอยู่ในความงุนงง ยังไม่ทันได้แสดงท่าที ก็มีเสียงดังก้องไปทั่วห้องจัดเลี้ยง