The king of War - บทที่ 1438 ความบ้าคลั่งของหลิวเหล่าก้วย
หลังจากเขารู้ว่าฐานบูโดของตนเองถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ สีหน้าของกษัตริย์เย่ขาวซีดเป็นอย่างมาก ดวงตาคมของเขามองหยางเฉินที่กำลังต่อสู้กับเย่หลิน
สำหรับเขาแล้ว แม้ว่าซ่งโหย่วจะเป็นคนที่ทำลายฐานบูโดของเขา แต่ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะหยางเฉิน ถ้าหยางเฉินไม่พาผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์สองคนนี้มาด้วย ฐานบูโดของเขาจะถูกทำลายได้อย่างไร?
“หยางเฉิน!”
กษัตริย์เย่เปล่งเสียงออกมาส่วนลึกในลำคอ และเสียงที่เปล่งออกมานั้นมีความโกรธแค้นเป็นอย่างมาก
เพียงแต่ ไม่มีใครสนใจความโกรธแค้นของเขา ตอนนี้ทุกคนเพ่งความสนใจไปที่สนามรบ และไม่มีใครมีเวลาสนใจความเป็นความตายของเขา
สิ่งนี้ทำให้กษัตริย์เย่รู้สึกอัดอั้นตันใจมากยิ่งขึ้น พ่นเลือดออกมาเต็มปาก และพลังของเขานั้นอ่อนลง
สองพี่น้องตระกูลซ่งเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ที่ไม่เปิดเผยตัว พวกเขาเคยประสบกับความเป็นความตายมาแล้ว และผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์อย่างกษัตริย์เย่ที่เป็นผู้สูงศักดิ์ไม่สามารถเทียบได้
ยิ่งไปกว่านั้น แดนบูโดของซ่งโหย่วนั้นสูงกว่าของกษัตริย์เย่หนึ่งแดน เขาสามารถทำลายฐานบูโดของกษัตริย์เย่ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว แม้กระทั่งเขายังไม่สูญเสียพลังไปแม้แต่น้อย และหลังจากนั้นไม่นานเขาก็ร่วมมือกับซ่งจั่วเพื่อต่อสู้กับหลิวเหล่าก้วยต่อไป
เดิมหลิวเหล่าก้วยที่แอบดีใจเพราะมีกษัตริย์เย่มาช่วยเหลือ แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะเหนือกว่าซ่งจั่วและซ่งโหย่วมาก แต่เมื่อสองพี่น้องตระกูลซ่งร่วมมือกันแล้วสามารถปราบเขาได้ แต่สถานการณ์เช่นนี้ ถ้ามีคนสามารถช่วยเขาสกัดกั้นสองพี่น้องตระกูลซ่งคนใดคนหนึ่งได้ จะทำให้ความกดดันของเขาน้อยลงไปมาก
แต่เขานึกไม่ถึงว่ากษัตริย์เย่ที่เพิ่งเข้าร่วมการต่อสู้ ก็ถูกซ่งโหย่วโจมตีและกระเด็นออกไปทันที
“คนไร้ประโยชน์! เป็นคนไร้ประโยชน์จริง ๆ!”
หลิวเหล่าก้วยรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก และขณะที่เขาโจมตีสองพี่น้องตระกูลซ่งอย่างบ้าคลั่ง เขาก็กำลังคิดหาวิธีเอาชนะสองพี่น้องตระกูลซ่ง
เมื่อก่อนเขาเกือบตายด้วยน้ำมือของหยางเฉินแล้ว และความแค้นนี้ได้กลายเป็นความแค้นที่ต้องชดใช้ด้วยชีวิต ถ้าตอนนั้นหวงจิ้นไม่ช่วยเขาไว้ เขาคงตายไปนานแล้ว
ดังนั้นหลังจากได้รับคำเชิญจากราชวงศ์เย่ เขาตกลงทันทีโดยไม่ลังเล และร่วมมือจัดการหยางเฉิน
แต่ตอนนี้ เขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะต่อสู้กับหยางเฉิน ก็ถูกสองพี่น้องตระกูลซ่งสกัดกั้น และที่สำคัญคือสองพี่น้องนี้แข็งแกร่งมาก ถ้าต้องการฆ่าพวกเขาสองคนในระยะเวลาที่สั้นนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก
เพราะอีกฝ่ายนั้นมีสองคน บางทีพวกเขาอาจจะสามารถฆ่าตนเองตายได้
สิ่งสำคัญที่สุดคือตอนนี้ดูเหมือนว่าสถานการณ์ทางฝั่งเย่หลินจะแย่ เมื่อเผชิญกับการโจมตีของหยางเฉินแล้ว เขาไม่มีข้อได้เปรียบเลยสักนิด แต่กลับถูกหยางเฉินปราบทุกทิศทาง
เย่หลินและหลิวเหล่าก้วยนึกไม่ถึงว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นนี้ แต่ทั้งสองคนรู้ว่าหากพวกเขาล้มเหลว พวกเขาจะต้องสูญเสียอย่างหนักแน่นอน
โดยเฉพาะราชวงศ์เย่ เพื่อเรื่องของวันนี้ทำให้พวกเขาสูญเสียไม่น้อย หากเย่หลินถูกฆ่าตาย ประวัติศาสตร์ของราชวงศ์เย่ก็จะถูกลดทอนไป
“หยางเฉิน!”
หลังจากเย่หลินถูกยางเฉินโจมตีจนถอยไปข้างหลัง สีหน้าของเขาขาวซีดมาก เขากัดฟันด้วยความแค้นแล้วมองไปที่หยางเฉิน และกล่าวอย่างดุดันว่า “คุณจะต้องชดใช้อย่างหนักสำหรับการกระทำของวันนี้อย่างแน่นอน!ผมสาบาน!”
สีหน้าของหยางเฉินไม่มีความหวาดกลัวใด ๆ และกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ผมจะมอบประโยคเดียวกันให้คุณ เพียงแต่ตอนนี้พลังบูโดของลูกชายคุณถูกทำลายแล้ว เพียงแค่อาศัยคุณ สามารถทำอะไรผมได้?”
เดิมเย่หลินยังไม่ทราบสถานการณ์ของกษัตริย์เย่ จนกระทั่งตอนที่หยางเฉินพูดถึงเรื่องนี้ เขาถึงได้หันไปมองกษัตริย์เย่ที่นอนอยู่บนพื้น ซึ่งตอนนี้ร่างกายของเขานั้นไม่มีพลังบูโดเลย สีหน้าของเขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก “เจิ้งหยาง!”
ชื่อเดิมของกษัตริย์เย่นั้นชื่อเย่เจิ้งหยาง ตอนนี้เขานอนอยู่บนพื้นเหมือนสุนัขที่กำลังจะตาย
เขาถูกซ่งโหย่วทำลายฐานบูโดแล้ว และตอนนี้เขากลายเป็นคนไร้ประโยชน์แล้ว เพียงแต่ตอนนี้ร่างกายของเขานั้นแข็งแกร่งกว่าคนธรรมดาทั่วไปเท่านั้น
เพราะว่าเขายังเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ การที่ฐานบูโดถูกทำลาย ต่อไปเขาไม่สามารถฝึกบูโดได้ แต่ร่างกายของเขายังคงเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์
สำหรับกษัตริย์เย่แล้ว มันเป็นความสะเทือนใจอย่างใหญ่หลวง และสำหรับราชวงศ์เย่แล้ว มันเป็นความหายนะ
ตอนนี้ ต่อไปอนาคตของราชวงศ์เย่นั้นต้องอาศัยเย่หลินเท่านั้น หากเย่หลินพ่ายแพ้ต่อหยางเฉิน ราชวงศ์เย่จะกลายเป็นราชวงศ์เดียวที่ไม่มีผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอด
ราชวงศ์ที่ไม่มีผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอด แล้วยังสามารถเรียกว่าราชวงศ์ได้หรือไม่?
เกรงว่าตระกูลระดับสูงจำนวนมากนั้นสามารถทำลายล้างราชวงศ์เย่ได้อย่างง่ายดาย
“หยางเฉิน ในเมื่อคุณอยากรนหาความตาย งั้นผมจะทำให้คุณสมปรารถนา!”
ดวงตาทั้งคู่ของเย่หลินกลายเป็นสีแดง และดวงตาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าอย่างแรงกล้า
เจตนาฆ่าที่น่าสะพรึงกลัวแผ่ซ่านออกมาจากร่างกายของเขา ตอนนี้เขาใช้นิ้วชี้ขวาแตะไปที่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายตนเองอย่างแรง
ชั่วพริบตาเดียว พลังบูโดที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าแผ่ซ่านออกมาจากร่างกายของเย่หลิน
เมื่อสักครู่เย่หลินซึ่งยังคงอยู่ในแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้า แต่ขณะนี้พลังบูโดบนร่างกายของเขาเทียบได้กับแดนเหนือมนุษย์ขั้นหก
แม้แต่หยางเฉินก็ยังรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาล ทำให้สีหน้าของเขาเคร่งขรึมลงทันที ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าเย่หลินทำอะไรกับร่างกายของตนเอง แต่สิ่งที่แน่นอนก็คือตอนนี้ความแข็งแกร่งของเย่หลินพุ่งสูงขึ้น
แดนบูโดมาถึงแดนเหนือมนุษย์แล้ว และเป็นการยากมากที่จะปรับปรุงความแข็งแกร่งไปอีกแดนหนึ่ง แต่เย่หลินสามารถทำให้ความแข็งแกร่งของเขาพุ่งสูงขึ้นได้ด้วยการแตะจุดบนร่างกายของตนเอง ซึ่งเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าเทคนิคลับที่เขาใช้นั้นทรงพลังมาก
“ฆ่า!”
เย่หลินตะโกนด้วยความโมโห แล้วเขาก็หายตัวไปทันที
คราวนี้ หยางเฉินไม่กล้าที่จะปิดบังซ่อนใด ๆ เขาใช้เทคนิคการหายใจขั้นห้าในคัมภีร์ต้าเต้าเทียนหยานไปถึงขีดสุดอย่างรวดเร็ว เหมือนกับเติมเต็มพลังให้ร่างกายตนเองอย่างรวดเร็ว
“ฆ่า!”
หยางเฉินไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย เขารวบรวมพลังทั้งหมดไปไว้ที่หมัดขวาทันที จากนั้นสะบัดหมัดไปกลางอากาศที่อยู่ตรงหน้า
“ปัง!”
เสียงดังสนั่น หมัดของหยางเฉินปะทะกับหมัดของเย่หลิน
พลังบูโดที่น่าสะพรึงกลัวราวกับพายุเฮอริเคนแผ่กระจายออกไปด้วยความเร็วสูงไปทุกทิศทาง
ภูเขาที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าพวกเขาสองคนถูกตัดขาด แตกออกเป็นชิ้น ๆ มากมาย และภูเขาเยี่ยนซานสั่นสะท้านไปทั่ว
“บูม บูม บูม!”
วินาทีต่อมา ภูเขาที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าพวกเขาสองคนระเบิดทันที
และหยางเฉินเลือกที่จะเคลื่อนไหวทันที หลังจากผ่านไปไม่กี่วินาที หยางเฉินก็ยืนอยู่บนก้อนหินแล้ว และเย่หลินก็ยืนอยู่บนก้อนหินอีกก้อนหนึ่ง
ทั้งสองคนมองหน้ากัน มีเจตนาฆ่าที่รุนแรงอยู่ในสายตาของพวกเขา
หลิวเหล่าก้วยที่กำลังต่อสู้อย่างดุเดือดกับสองพี่น้องตระกูลซ่ง หยุดการต่อสู้ตามสัญชาตญาณ และขณะมองไปที่หยางเฉินนั้น สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ
“เป็นไปได้อย่างไร?”
หลิวเหล่าก้วยรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เขารู้ว่าหยางเฉินมีพรสวรรค์ด้านบูโดมาก และรู้ความแข็งแกร่งของหยางเฉินเป็นอย่างดี ตอนนี้หยางเฉินแข็งแกร่งกว่าครั้งแรกที่พบกันเมื่อครึ่งปีที่แล้ว
เพียงแต่ คิดไม่ถึงว่าเวลาเพียงแค่ครึ่งปี หยางเฉินที่อยู่ในระดับกึ่งแดนเหนือมนุษย์จะสามารถปรับปรุงขึ้นไปเป็นระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้า แม้กระทั่งเข้าใกล้ระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกแล้ว
แม้แต่เขาที่อยู่สถานะที่แข็งแกร่งที่สุดตอนนี้ ก็อยู่ในระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าเท่านั้น!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ สายตาของเขานั้นจ้องไปที่กษัตริย์เย่ที่นอนหายใจรวยรินอยู่ไม่ไกล แล้วรูม่านตาของเขาเกิดประกายแสงแปลก ๆ
“ด้วยความแข็งแกร่งตอนนี้ของผมนั้นไม่เพียงพอที่จะฆ่าหยางเฉินได้ เมื่อเป็นเช่นนั้นผมทำได้เพียงใช้เลือดของคุณเพื่อเพิ่มพลังความแข็งแกร่งของผมได้เท่านั้น”
หลิวเหล่าก้วยแอบคิดอยู่ในใจ
เดิมทีเมืองเหมียวนั้นเป็นดินแดนของวิชาพิษกู่ และหลิวเหล่าก้วยนั้นเป็นปรมาจารย์ด้านวิชาพิษกู่ เหตุผลที่เขาสามารถเพิ่มพลังความแข็งแกร่งจากแดนเทพชั้นยอดถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าด้วยเวลาเพียงครึ่งปี นั่นเป็นเพราะเขาใช้กลอุบายที่ชั่วร้ายนี้ โดยใช้เลือดของผู้แข็งแกร่งแดนเทพเพื่อฝึกฝนวิชาพิษกู่ของเขา
เขายังไม่เคยใช้เลือดของผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์มาฝึกฝนวิชาพิษกู่ของเขา และตอนนี้กษัตริย์เย่กลายเป็นคนไร้ประโยชน์แล้ว เป็นเป้าหมายเหมาะสมมากที่สุด