The king of War - บทที่ 1462 สี่จักรพรรดิแดนเหนือมนุษย์
ทันทีที่เย่เทียนหมิงพูดจบ พี่น้องตระกูลซ่งก็เดินออกมาด้านหน้า พร้อมกับแผ่จิตสังหารที่รุนแรง ออกมาจากทั้งสองคน และปกคลุมตัวเย่เทียนหมิงกับหวังเอ้าไว้
ในตอนนี้ เย่เทียนหมิงกับหวังเอ้ารู้สึกแค่ว่า เหมือนมีภูเขาวางอยู่บนไหล่ของตัวเอง ทั้งสองคนยืนอยู่กับที่ ไม่กล้าแม้แต่จะขยับไปไหน เหงื่อก็ไหลไม่ยอมหยุด
หยางเฉินมองไปที่เย่เทียนหมิงที่กำลังหวาดกลัว และพูดเบาๆ ว่า “รักษาช่วงชีวิตสุดท้ายนี้ไว้ให้ดีที่สุดเถอะ!”
พูดจบ หยางเฉินเดินผ่านเย่เทียนหมิงกับหวังเอ้าไปแบบง่ายๆ ทำเหมือนว่าไม่เห็นสองคนนั้นเลย พี่น้องตระกูลซ่งก็เดินตามออกมาไปเช่นกัน
ไม่นาน ทั้งสามคนก็หายไปจากสายตาของเย่เทียนหมิงกับหวังเอ้า ความกดดันที่เหมือนแบกภูเขาไว้บนหลัง ก็หายไปทันที
เย่เทียนหมิงกับหวังเอ้ารู้สึกร่างกายสบายตัวขึ้นมาในทันที พร้อมกับหายใจอย่างรวดเร็ว
“คุณชายหมิงครับ ครั้งนี้ ดูเหมือนท่านจะเตะโดนท่อนเหล็กเข้าให้จังๆ แล้วล่ะครับ”
พอผ่านไปสักพัก หวังเอ้าก็พูดออกมาอย่างเคร่งขรึม
เย่เทียนหมิงกัดฟัน และพูดด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมว่า “ในราชวงศ์เย่ ไม่มีใครที่เป็นท่อนเหล็ก ต่อให้มันเป็นท่อนเหล็กจริงๆ ฉันก็จะเหยียบมันให้พังด้วยตีนของฉันเอง”
“คุณชายหมิงครับ มีมหาอำนาจสองคนคอยปกป้องชายหนุ่มคนเมื่อกี้ คนคนนั้นไม่มีทางเป็นคนทั่วไปอย่างแน่ หรืออาจจะเป็นคุณชายใหญ่ของ ตระกูลบู๊โบราณครับ”
หวังเอ้าพูด แม้ว่าหยางเฉินจะไปแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกเหมือนถูกจับตามองอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะก่อนที่หยางเฉินจะไป และพูดคำคำนั้นกับเย่เทียนหมิง
“ไม่น่าจะใช่หรอก? คนของ ตระกูลบู๊โบราณ จะมาที่เมืองราชวงศ์เย่ทำไม?” ครั้งนี้ก็ทำให้เย่เทียนหมิงกลัวเหมือนกัน
เมื่อกี้ที่อารมณ์ฉุนเฉียว ก็เพราะโกรธจนเลือดขึ้นหน้า แต่เป็นถึงกับหลานของกษัตริย์เย่ ผ่านประสบการณ์อะไรมากมายมาตั้งแต่เด็ก เขาเองก็ไม่ใช่คนโง่ ไม่นานเขาก็เข้าใจเรื่องบางอย่างได้อย่างรวดเร็ว
แม้ว่าพรสวรรค์ด้านบูโดจะแค่ปานกลาง แต่ก็อยู่ในแดนเทพชั้นต้น แต่หวังเอ้าที่ยืนอยู่ข้างๆ เขา เป็นถึงกับผู้แข็งแกร่งแดนเทพขั้นปลาย ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหวังเอ้า
แม้แต่หวังเอ้าที่แข็งแกร่งขนาดนี้ ยังถูกจิตสังหารที่แผ่ออกมาจากตัวของอีกฝ่ายกดทับเอาไว้ เป็นไปได้ว่า มหาอำนาจสองคนที่มากับชายหนุ่มคนนั้น อย่างน้อยคงอยู่ในระดับแดนเหนือมนุษย์
อาจจะเป็นไปได้ที่ อยู่ในระดับแดนเหนือมนุษย์
เด็กหนุ่มคนหนึ่ง มีชายสองคนที่อาจจะแข็งแกร่งเทียบเท่ากับแดนเหนือมนุษย์คอยตามแบบนี้ งั้นชายหนุ่มคนเมื่อกี้ คงไม่ใช่คนธรรมดาๆ แน่?
เมื่อนึกถึงก่อนที่หยางเฉินจะไป พูดกับเขาว่า ให้เขารักษาช่วงชีวิตสุดท้ายไว้ให้ดีๆ เขาถึงกลับกลัวขึ้นมาทันที
“หวังเอ้า ตอนนี้ฉันควรทำอย่างไรดี? เมื่อกี้มันพูดว่า ให้ฉันรักษาช่วงชีวิตสุดท้ายนี้ไว้ให้ดีๆ หรืออยากจะสื่อว่า เขาจะฆ่าฉันงั้นเหรอ หวังเอ้าแกรีบบอกฉันมาสิ ว่าฉันต้องทำอย่างไรดี?”
ครั้งนี้ เย่เทียนหมิงอยู่ไม่สุขจริงๆ แล้วล่ะสิ
หวังเอ้าใจเย็นมาก หลังจากเงียบไปสักพัก ก็พูดว่า “สบายใจเถอะครับ ต่อให้เขาเป็นคุณชายใหญ่ของ ตระกูลบู๊โบราณ ก็ไม่มีทางทำอะไรคุณได้หรอกครับ ตอนนี้เรารีบกลับไปที่ราชวงศ์เย่ดีกว่าครับ”
“ใช่ พวกเราต้องรีบกลับไปที่ราชวงศ์เย่ ที่ราชวงศ์เย่มีคนคอยปกป้องคุ้มครองอยู่ ที่นั่นปลอดภัยที่สุดแล้ว”
เย่เทียนหมิงพูดอย่างรวดเร็ว พร้อมกับหันหลังและเดินออกไป
ขณะที่กำลังกลับ เย่เทียนหมิงก็ถามขึ้นมาว่า “หวังเอ้า เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า? ทำไมจู่ๆ คุณปู่ถึงเรียกคนที่อยู่นอกตระกูลกลับมาด้วย?”
หวังเอ้ามองไปที่เย่เทียนหมิง และพูดว่า “กษัตริย์เย่ เสียแล้วครับ!”
“อะไรนะ? นี่นายพูดบ้าอะไรของนาย?”
เย่เทียนหมิงถึงกับตาค้าง พร้อมกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สูงๆ
มีคนไม่มากนัก ที่รู้เรื่องการตายกษัตริย์เย่ แม้ว่าเย่เทียนหมิงเองจะเป็นหลานของกษัตริย์เย่ก็ยังไม่รู้เลย
“อาทิตย์ที่ผ่านมา ฝ่าบาทไปจัดงานวันเกิดที่เมืองเยี่ยนตูอันที่จริงแล้วก็เพื่อตี้ชุน และก็เพื่อขัดขวางกลุ่มของจิ่วโจว และหลังจากนั้นก็สร้างพันธมิตรที่ดี แล้วให้ราชวงศ์เย่เป็นศูนย์กลาง”
“นอกจากนี้ ก็เพื่อจัดการกับคนคนหนึ่ง แต่สุดท้าย ก็เกิดการต่อสู้กัน ทำให้กษัตริย์เย่เสียที่ภูเขาเยี่ยนซาน”
หวังเอ้าพูดถึงสิ่งนี้ ก็กลัวเล็กน้อยอยู่บ้าง เพราะว่าความสามารถของเขาไม่ได้อยู่ในแดนเทพชั้นยอด เลยไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมงานวันเกิดในครั้งนั้น ถือว่าเป็นเรื่องดีที่ไม่ได้เข้าร่วม ไม่งั้นไม่แน่ว่าเขาเอง ก็อาจจะตายในการต่อสู้ครั้งนั้น
เย่เทียนหมิงสติหลุดไปนาน สำหรับคนในราชวงศ์เย่แล้วกษัตริย์เย่ก็เหมือนกับพระเจ้า ขอแค่มีกษัตริย์เย่ ราชวงศ์เย่ก็จะมีแต่เจริญก้าวหน้าขึ้นไปเรื่อยๆ
แต่ทว่า วันนี้หวังเอ้ากลับพูดว่า คนที่เป็นเหมือนพระเจ้าของคนราชวงศ์เย่ เสียแล้ว
อาจจะเป็นไปได้ ที่เย่เทียนหมิงจะตกใจ และเป็นกังวลอย่างมาก
แม้ว่าเขาจะเป็นหลานของกษัตริย์เย่ แต่ก็เพราะว่าพรสวรรค์ด้านบูโดของเขาอยู่แค่ระดับปานกลาง เลยไม่โดดเด่นพอ ทำให้เขากับกษัตริย์เย่ ไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน
ไม่เพียงแต่ราชวงศ์เย่ ยังมีตระกูลมหาเศรษฐีอื่นๆ อีกมากมาย ล้วนแล้วมีพรสวรรค์ด้านบูโดที่โดดเด่น หรืออาจจะเป็นทายาทของผู้ที่มีความโดดเด่น ถึงจะเป็นประโยชน์ต่อตระกูล
แม้ว่าเย่เทียนหมิงจะอยู่ในระดับ แต่เมื่อเทียบกับรุ่นเดียวกันแล้ว ความสามารถนั้นยังห่างชั้นอยู่มาก
ครั้งนี้ จู่ๆ เขาก็ถูกเรียกตัวกลับไปที่ตระกูล เดิมทีอยากให้กษัตริย์เย่นั้นรู้เรื่องที่เขานั้นก้าวข้ามแดนเทพชั้นต้นได้แล้ว และเขาจะมีความสำคัญมากขึ้น แต่ใครจะไปรู้ว่า กษัตริย์เย่จะเสียแล้วจริงๆ
“ใครเป็นคนฆ่า คุณปู่?”
หลังจากผ่านไปนาน เย่เทียนหมิงค่อยๆ ใจเย็นลง พร้อมกับจ้องไปที่หวังเอ้าและถาม
ในสายตาของหวังเอ้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว พร้อมกับพูดว่า “หยางเฉินครับ!”
คนในราชวงศ์เย่ ไม่มีใครไม่รู้จักชื่อหยางเฉิน หลังจากเย่เทียนหมิงที่ได้ยินชื่อนี้ เขาก็เงียบทันที
ตามข้อมูลที่ทางตระกูลมี หยางเฉินเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ และเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ที่อายุไม่ถึงสามสิบ ไม่ใช่คนที่เขาจะไปเทียบได้ด้วยซ้ำ
ความจริงแล้ว กษัตริย์เย่ไม่ได้ถูกหยางเฉินฆ่า แต่ถูกฆ่าโดยหลิวเหล่าก้วย แต่เย่หลินอยากให้ผู้แข็งแกร่งในตระกูลมีความแค้นต่อหยางเฉิน เลยพูดไปว่าหยางเฉินเป็นคนฆ่ากษัตริย์เย่
“หยางเฉิน!”
เย่เทียนหมิงกัดฟันพร้อมกับพูดชื่อออกมา
“แต่สบายใจเถอะครับ แม้ว่ากษัตริย์เย่จะเสียแล้ว แต่ฝ่าบาทก็กลับมารับตำแหน่งต่อแล้ว ถ้ามีท่านคอยปกป้องราชวงศ์เย่ ราชวงศ์เย่ก็จะมีแต่แข็งแกร่งมากขึ้น”
หวังเอ้าพูดปลอบใจ และพูดต่อว่า “ครั้งนี้ ฝ่าบาทเรียกคนในราชวงศ์เย่ทั้งหมดมารวมตัวกัน ก็เพื่อความปลอดภัยของคนสำคัญในตระกูล”
“เพราะอยู่ในราชวงศ์เย่ จะมีคนคอยปกป้องคุ้มครองเรา อีกอย่างฝ่าบาทก็ยังอยู่ ไม่มีใครทำร้ายเราได้หรอกครับ”
“ได้ยินมาว่า วันนี้หยางเฉินจะมาที่ราชวงศ์เย่ และยังขู่อีกว่าจะทำลายราชวงศ์เย่ครับ”
เย่เทียนหมิงหัวเราะเยาะ “ไอ้คนไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง! คิดว่าตัวเองอยู่ในแดนเหนือมนุษย์ และพอมีพรสวรรค์ด้านบูโดอยู่บ้าง แล้วจะทำลายราชวงศ์เย่ได้งั้นเหรอ?”
“ขอแค่มันกล้าเหยียบเข้ามาในราชวงศ์เย่ รับรองเลยว่าจะต้องตายอย่างทรมาน!”
ตอนที่ทั้งสองคนกำลังรีบเดินทางกลับไปที่ราชวงศ์เย่ อีกฝั่งหนึ่ง หยางเฉินก็ได้มาพบคนของเมืองราชวงศ์ซ่านกวนและตระกูลหลี่
“คุณหยาง!”
เมื่อหลี่จ้งเห็นหยางเฉิน ก็ตื่นเต้น พร้อมกับคุกเข่าลงกับพื้นทันที และพูดด้วยท่าทางที่ตื่นเต้นว่า “ในที่สุดคุณก็มา!”
อาทิตย์ที่ผ่านมา เขาถูกหยางเฉินสั่งให้มาเมืองราชวงศ์เย่ เดิมทีหยางเฉินตัดสินใจว่าหลังจากจัดการเรื่องเมืองเยี่ยนตูเสร็จแล้ว ก็จะมาที่เมืองราชวงศ์เย่ เพื่อจะมาช่วยหลี่จ้งทำลายราชวงศ์เย่ แทนที่จะเป็นไปตามแผนที่วางไว้
แต่ไม่นึกเลยว่า อวี๋เหวินเกาหยางจะเสียแล้ว แต่หยางเฉินรอให้ครบเจ็ดวัน กว่าจะมาเมืองราชวงศ์เย่
ในตอนนี้ ผู้แข็งแกร่งนับสิบกว่าคน ที่อยู่ด้านหลังหลี่จ้ง ต่างก็คุกเข่าลงกับพื้น
พี่น้องตระกูลซ่งมองไปที่หลี่จ้งที่กำลังคุกเข่าอยู่กับพื้น และแอบตกใจ เพราะหลี่จ้งเองก็เป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์
และรวมกับพวกที่เขามี แต่ฝ่ายหยางเฉิน กลับมีสี่จักรพรรดิแดนเหนือมนุษย์ นอกจากราชวงศ์โบราณและ ตระกูลบู๊โบราณ แค่นี้ก็สามารถเอาชนะได้ง่ายๆ แล้ว?
หยางเฉินหรี่ตาเล็กน้อย พร้อมกับโบกมือ “ไปกันเถอะ!”