The king of War - บทที่ 1482 แม่ผู้ยิ่งใหญ่
“รับทราบครับ เหล่าจู่!”
หลี่เป่าจุ้นดีใจขึ้นมาทันที หลังจากได้รับคำสั่งก็รีบออกไปทันที
หลี่จ้งเดินทางที่พักของหยางเฉิน
“คุณหยาง ได้ข่าวว่าคุณฟื้นแล้ว ผมเลยมาเยี่ยมครับ”
ใบหน้าของหลี่จ้งเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และดูเหมือนจะเคารพหยางเฉินเหมือนเมื่อก่อนไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย
หยางเฉินเหลือบมองหลี่จ้งแล้วพูดว่า “คุณเพิ่งส่งคนมาดูไม่ใช่เหรอครับ?”
หลี่จ้งตกตะลึงไปครู่หนึ่งและคิดไม่ถึงว่าหยางเฉินจะพูดแบบนี้ เขารู้สึกประหม่าขึ้นมาในทันที จนกระทั่งตอนนี้ เขายังไม่รู้ว่า สรุปแล้วพลังของหยางเฉินหมดไปแล้วหรือยัง
หากว่ายัง แม้ว่าตระกูลหลี่จะไม่ได้เป็นเป้าหมายของหยางเฉิน แต่เกรงว่าความฝันที่ตระกูลหลี่จะเข้ามาแทนที่ราชวงศ์เย่คงต้องหมดหวังแล้ว
หลังจากที่เหม่ออยู่สักพัก หลี่จ้งก็รีบปฏิเสธ “ผมไม่ได้ส่งใครมาดูคุณนะครับ!”
หยางเฉินหัวเราะเบาๆ “จริงๆ แล้วเหล่าจู่ตระกูลหลี่ไม่ได้ส่งคนมาดูเหรอครับ ผมก็ว่าคนที่เหล่าจู่ตระกูลหลี่ส่งมาจะกล้าอวดดีต่อหน้าผมได้ยังไง ดีนะที่ผมเห็นแก่คุณ ไม่อย่างนั้นไอ้เด็กคนนั้นคงได้ตายไปแล้วครับ”
หลังจากที่ฟังหยางเฉินพูด ใจของหลี่จ้งก็สั่นขึ้นมา เขารู้ว่าหยางเฉินกำลังเตือนเขาอยู่
ทีแรกเขาอยากจะทดสอบดูว่าสรุปแล้วหยางเฉินได้ฟื้นฟูวิถีบู๊ของเขาหรือยัง แต่ตอนนี้เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะทดสอบอย่างไร
ดูจากตัวหยางเฉิน เขาก็ไม่รู้สึกถึงออร่าของนักสู้เลย แต่เขาก็รู้ว่า ถึงแม้ระดับฝีมือของหยางเฉินจะเทียบเขาไม่ได้ แต่พลังที่แท้จริงนั้นเหนือกว่าเขาอย่างมาก ตราบใดที่หยางเฉินไม่แสดงพลังออกมา แม้แต่เขาเองก็จะสัมผัสถึงพลังนักสู้ของหยางเฉินไม่ได้
แต่ทว่า เขาได้ส่งหลี่เป่าจุ้นไปขวางเฝิงเสียวหว่านและอ้ายหลินไว้แล้ว เมื่อพวกเขาถูกนำตัวกลับมา แล้วเขาจะอธิบายอย่างไรดี?
ในขณะเดียวกัน หลี่จ้งได้ตกอยู่ในที่นั่งลำบาก อยากทดสอบก็กังวลว่าจะทำให้หยางเฉินโกรธ หากพลังของหยางเฉินหมดไปแล้ว ก็แล้วไป แต่หากไม่หมดควรจะทำยังไงล่ะ?
จู่ ๆ หยางเฉินก็พูดขึ้นมาว่า “คุณมีธุระอะไรอีกไหมครับ? ถ้าไม่มี ก็ขอให้คุณออกไปได้แล้วครับ วันนั้นที่ต่อสู้กับผู้พิทักษ์ของราชวงศ์เย่ ผมเองก็รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ แต่ก็ตัดสินใจลองๆ ดู ว่าจะสามารถทะลวงผ่านไปได้ไหม”
ตอนนี้หลี่จ้งยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะทดสอบหยางเฉินหรือไม่ อาจเป็นเพราะในใจลึกๆ เขากลัวหยางเฉิน ในเมื่อหยางเฉินพูดแบบนี้ เขาเองก็ไม่กล้าที่จะอยู่อีกต่อไปจึงรีบลุกขึ้นแล้วพูดว่า “ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นผมก็ไม่รบกวนแล้วนะครับ อีกสักพักผมจะส่งคนใช้มา หากคุณหยางต้องการอะไรก็บอกได้เลยนะครับ”
“ได้ครับ!” หยางเฉินตอบอย่างเฉยชา
แน่นอนว่าเขารู้ว่าคนใช้ที่หลี่จ้งพูดถึงนั้นน่าจะเป็นผู้แข็งแกร่งที่มีฝีมือ ซึ่งจะส่งมาเฝ้าติดตามเขา เขาไม่ได้ปฏิเสธและยังตอบตกลงไปด้วย
ในทางกลับกันหลี่จ้งก็แอบตกใจกลัวเล็กน้อย เมื่อกี้หยางเฉินพูดว่า เขาเองก็รู้สึกมีบางอย่างผิดปกติ แต่ก็ตัดสินใจว่าจะทะลวงผ่านไปให้ได้ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่
หากว่าเป็นเรื่องจริง หยางเฉินก็สามารถก้าวสู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นสี่ได้แล้ว ซึ่งเป็นระดับเดียวกับเขา
เมื่อตอนที่หยางเฉินยังอยู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นสาม เขาเกือบฆ่าเย่หลินที่อยู่ในแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกได้ หากเขาสามารถไปทะลวงเข้าไปในแดนเหนือมนุษย์ขั้นสี่ได้ ถ้าหากเขาเจอกับผู้พิทักษ์ของราชวงศ์เย่อีกครั้งก็อาจจะสู้ได้ก็ได้?
ยิ่งคิดเรื่องนี้มากเท่าไหร่ หลี่จ้งก็ยิ่งหวาดกลัวมากขึ้นเท่านั้น ทันทีที่เขาออกจากห้องของหยางเฉิน ร่างกายของเขาก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่อที่เย็นยะเยือก
ทันทีที่เขาก้าวเท้าออกไป โทรศัพท์ของหยางเฉินก็ดังขึ้น ทันใดนั้นเขารู้สึกถึงลางไม่ดีขึ้นมาทันที จึงรีบรับสาย เขาได้ยินเฝิงเสียวหว่านพูดอย่างประหม่าว่า “พี่หยาง ดูเหมือนว่ามีคนกำลังจับตามองฉันกับพี่อ้ายอยู่ ฉันสัมผัสได้ถึงออร่าพลังการต่อสู้ของอีกฝ่ายที่จับจ้องมาที่พวกเราตลอดเวลาเลย”
ส่วนตัวเฝิงเสียวหว่านเองก็มีแดนราชาสูงสุดก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่จะสัมผัสถึงออร่าของผู้แข็งแกร่งได้ เมื่อได้ยินเฝิงเสียวหว่านพูดแบบนี้ สีหน้าของหยางเฉินก็เปลี่ยนไปในทันทีพร้อมกับสายตที่เฉียบแหลม “ไม่ว่าจะเป็นใคร ถ้าอีกฝ่ายต้องการพาตัวพวกเธอไป ไม่ต้องไปขัดขืนมัน แล้วเดี๋ยวฉันจะไปช่วยพวกเธอเอง”
“แต่ว่า พี่หยางคะ พี่ในตอนนี้……” เฝิงเสียวหว่านไม่ได้พูดต่อ
หยางเฉินพูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วง แม้ว่าวิถีบู๊ของฉันจะถูกทำลาย แต่มันไม่ตลอดไปหรอก ถ้ามีใครจะพาตัวพวกเธอไป พวกเธอก็ยอมไปกับเขาอย่าไปขัดขืน ฉันขอเวลาอีกสามวัน ถ้าฉันฟื้นฟูวิถีบู๊ได้แล้ว ฉันจะไปช่วยพวกเธอด้วยตัวของฉันเอง”
หลังจากที่ฟังหยางเฉินพูด เฝิงเสียวหว่านก็พูดว่า “พี่หยาง ฉันเข้าใจแล้วค่ะพี่วางใจได้เลย”
หลังจากวางสาย สีหน้าของหยางเฉินเต็มไปด้วยความโมโห
เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะฟื้นฟูพลังยังไง และที่เขาพูดไปแบบนั้นก็เพื่อที่จะให้เฝิงเสียวหว่านกับอ้ายหลินสบายใจ
เขามั่นใจว่าคนที่แอบตามเฝิงเสียวหว่านกับอ้ายหลินคือผู้แข็งแกร่งที่ตระกูลหลี่ส่งไป ตอนนี้เขาโกรธจนอยากรีบไปหาหลี่จ้งเพื่อถามให้แน่ใจ แต่ก็รู้ดีว่าเขาในตอนนี้เหมือนกับคนไร้ค่า เขาจะทำอะไรวู่วามไม่ได้เด็ดขาด
จริงๆ แล้ว เขายังสามารถขอความช่วยเหลือจากราชวงศ์ซ่านกวน แต่สำหรับเขาแล้วราชวงศ์ซ่านกวนก็พึ่งอะไรไม่ได้อยู่ดี แค่ตระกูลหลี่ก็ทำให้ลำบากมากพอแล้ว หากยังเอาราชวงศ์ซ่านกวนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแล้วล่ะก็ เขาคงไม่มีหวังที่จะหนีออกไปจากเมืองราชวงศ์ซ่านกวนได้
ตอนนี้ เขายังมีอีกหนึ่งวิธี ที่สามารถทำให้เฝิงเสียวหว่านกับอ้ายหลินหนีรอดไปได้
นั่นก็คือกินยาสองเม็ดที่เฝิงเสียวหว่านให้เขาไว้ เพื่อฟื้นฟูพลังชั่วคราว จากนั้นก็ขัดขวางตระกูลหลี่ ไม่ให้พวกเขาทำตามแผนที่วางไว้
เพียงแต่ว่า หลังจากที่กินยาไปแล้ว เขาจะใช้พลังได้เพียงสิบนาทีเท่านั้น เขาก็ไม่รู้ว่าหลังจากสิบนาทีนี้แล้วเขาจะยังมีชีวิตต่อได้หรือไม่
ในขณะที่หยางเฉินรู้สึกไม่สบายใจและไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรนั้น ที่สนามบินนานาชาติเมืองราชวงศ์ซ่านกวน อ้ายหลินอุ้มเสี่ยวจิ้งอัน ส่วนเฝิงเสียวหว่านก็ตามหลังเธอมาติดๆ พยายามทำตัวให้ปกติมากที่สุด แต่ในใจกลับร้อนรนอย่างมาก
“เสียวหว่าน คุณเองก็มีพลังแดนราชาสูงสุด หากพลังของอีกฝ่ายไม่ได้แข็งแกร่งมาก คุณก็มีโอกาสสูงที่จะหนีไปได้ ถ้าถึงเวลานั้นจริงๆ คุณไม่ต้องสนใจฉัน แค่ช่วยฉันพาเสี่ยวจิ้งอันหนีไปก็พอ”
“จุดประสงค์ของพวกเขาคือจับตัวพวกเราเป็นตัวประกันเพื่อข่มขู่พี่เฉิน ดังนั้นแม้ว่าคุณจะพาเสี่ยวจิ้งอันหนีไปได้แล้ว ตราบใดที่ฉันยังถูกจับไว้ ก็ยังเป็นไปตามแผนของพวกเขา ด้วยวิธีนี้ คุณและเสี่ยวจิ้งอันก็จะปลอดภัย”
อ้ายหลินพูดเบาๆ แต่ในใจของเธอกลับเต็มไปด้วยความกลัว เมื่อเธอมองไปที่เสี่ยวจิ้งอัน ดวงตาของเธอยังเต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์
เฝิงเสียวหว่านตกใจและรีบพูด “พี่อ้าย ฉันไม่ไปหรอก!”
อ้ายหลินขอร้อง “เสียวหว่าน ถือว่าฉันขอคุณล่ะ ช่วยพาเสี่ยวจิ้งอันหนีไปได้มั้ย? ฉันเป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่ง หากตกอยู่ในมือของผู้แข็งแกร่งวิถีบู๊ ไม่มีโอกาสที่จะหนีไปได้เลยด้วยซ้ำ แต่คุณต่างกับฉัน คุณมีพลังและมีโอกาสสูงที่จะหนีไปได้”
“ต่อให้เราจะอยู่ที่นี่ทุกคน ไม่เพียงแต่เราช่วยพี่เฉินไม่ได้ และยังจะทำให้พี่เฉินมีภาระมากขึ้นอีก และคุณก็ไม่ต้องรู้สึกผิด คิดว่าทำเพื่อเสี่ยวจิ้งอันได้มั้ย?”
เสียงสำลักของอ้ายหลินดังขึ้น เธอรู้ดีว่าเมื่อเธออยู่ต่อ สิ่งที่เธอต้องเจอก็คือความตายเท่านั้น
ไม่ใช่ว่าเธอจะถูกคนตระกูลหลี่ฆ่า แต่เธอเลือกที่จะฆ่าตัวตาย ก่อนที่ตระกูลหลี่จะเอาตัวเธอไปข่มขู่หยางเฉิน
เธอรู้สึกอาลัยอาวรณ์เสี่ยวจิ้งอันมาก แต่ไม่มีวิธีไหนแล้ว เฝิงเสียวหว่านมีโอกาสพาเสี่ยวจิ้งอันหนีได้ แต่เธอนั้นไม่มีโอกาสนั้น