The king of War - บทที่ 1559 ไม่อาจเข้าร่วม
ประตูห้องเปิดออก ร่างของคนที่คุ้นเคยก็ปรากฏขึ้น
“หม่าชาว !”
เมื่อได้พบกับสหายที่ไม่เจอนานกว่าครึ่งปี หยางเฉินก็ลุกขึ้นด้วยความรู้สึกตื่นเต้น เมื่อหม่าชาวเห็นหยางเฉินเข้า สีหน้าของเขาแสดงออกอย่างตกใจ แต่สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว “พี่เฉิน พี่มาได้อย่างไร ?”
เมื่อได้ยินดังนี้ หยางเฉินก็สีหน้ากลับมานิ่งเงียบทันที
แต่ไม่ช้าเขาก็คิดขึ้นมาได้ว่าตอนที่เจอกับหม่าชาวครั้งแรกสีหน้าของเขาก็ดูสงบเช่นกัน
แปลว่าเขาตัดสินใจแล้วที่จะอยู่ที่ราชวงศ์เฝิง
หยางเฉินจู่ ๆ ก็หันไปทางหยางเฉินและถามว่า “ท่านลุงเฝิง ข้าจะขอคุยกับหม่าชาวเป็นการส่วนตัวหน่อยได้หรือไม่ ?”
เฝิงจื้อหย่วนยิ้มเล็กน้อย และลุกขึ้น “ถ้าอย่างนั้นข้าขอตัวก่อน ทั้งสองคงไม่ได้เจอกันนานแล้วก็คุยกันไปก่อนเถอะ อย่าลืมงานราชพิธีในวันพรุ่งเช้านี้ล่ะ”
หลังจากที่เฝิงจื้อหย่วนจากไป ภายในห้องก็เหลือเพียงหยางเฉินและหม่าชาว
หยางชาวจึงถามออกไปตรง ๆ “ข้าได้ร่วมมือกับเฝิงจื้อเอ้าแล้ว เขาสัญญาว่าจะช่วยนำตัวเสี่ยวหว่านและเสี่ยวจิ้งอันออกมาจากราชวงศ์เฝิง จากนั้นพวกเราจะหนีออกมาจากราชวงศ์เฝิงด้วยกัน”
แต่ใครจะคาดคิดว่าหม่าชาวกับส่ายหัวด้วยความรู้สึกซับซ้อน มองไปยังหยางเฉินและพูดขึ้น “พี่เฉิน พี่ไปเถอะ !”
หยางเฉินถามด้วยความตกใจ “เจ้าว่าอะไรนะ ?”
หม่าชาวตอบด้วยสีหน้าจริงจัง “พี่เฉิน เรื่องภายในราชวงศ์เฝิงลึกลับสุดพวกเราจะหยั่งถึง พวกเราคงไม่มีทางต่อกรกับราชวงศ์ได้ อีกทั้งตอนนี้ตัวตนของข้าก็ถูกเปิดเผยแล้ว ต่อให้หนีออกมาได้แล้วจะอย่างไรกัน ?”
“ด้วยความเย็นชาของราชวงศ์เฝิง หากข้ากับเสี่ยวจิ้งอันยังอยู่บนโลกใบนี้ พวกเขาไม่มีทางปล่อยพวกเราไว้แน่”
“ข้าไม่อยากทำให้คนรอบตัวต้องลำบาก พี่เฉิน พี่คงเข้าใจความรู้สึกข้า ใช่หรือไม่ ?”
หยางเฉินส่ายหัว กัดฟันพูด “หลังจากช่วยเหลืออ้ายหลิน เสี่ยวจิ้งอัน และเฝิงเสี่ยวหว่านแล้ว พวกเราก็ออกไปจากเมืองเฝิงหวง หาสถานที่ที่ไม่มีใครพบและใช้ชีวิตเยี่ยงคนธรรมดากัน”
“หรือไม่ก็ออกไปจากประเทศนี้ ซื้อเกาะสักเกาะ ทั้งครอบครัวเจ้าและครอบครัวข้าอาศัยกันอยู่ที่นั่นอย่างสงบสุข”
หม่าชาวส่ายหัวด้วยความขมขื่น “พี่เฉิน แต่ละคนก็ต่างมีตัวเลือกเป็นของตนเอง พวกเราจะกีดกั้นอิสระของพวกเราเพียงเพราะกลัวพวกเขาลำบากไม่ได้”
“หรือถ้าหากพวกเรายอมรับกำมันได้ แล้วลูก ๆ ของพวกเราล่ะ จำอย่างไร ? หรือจะให้พวกเขาอยู่กับพวกเราบนเกาะนั่นไปทั้งชีวิต ข้าว่ามันจะไม่ยุติธรรมเกินไป”
“ราชวงศ์เฝิงมีพลังมหาศาล ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ก็มีอยู่มากมาย รวมถึงขนาดผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ชั้นยอดขั้นเจ็ด ไม่แน่ว่าอาจจะมีผู้พิทักษ์อยู่ด้วย จะแข็งแกร่งแค่ไหนกัน ?”
“แล้วพลังของพวกเราในตอนนี้ ก็ไม่มีทางสู้ชนะพวกมันได้ ขนาดพลังของพี่เฉิน ถ้าราชวงศ์โบราณกับตระกูลบู๊โบราณไม่มีปัญหากัน ในโลกนี้คงมีเพียงไม่กี่คนที่ทำอะไรท่านได้แล้ว”
“ระหว่างเจ้ากับพี่สะใภ้มันไม่ง่ายเลยจริง ๆ จนกว่าจะจัดการปัญหารอบตัวหมด หากอยากมีชีวิตที่สงบสุข อย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับราชวงศ์โบราณเลย”
“หรืออีกอย่างก็คือ การที่ข้าอยู่ที่ราชวงศ์เฝิงที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร อีกทั้งในวันพรุ่งนี้ข้าก็จะกลายเป็นทายาทรุ่นที่สามของราชวงศ์เฝิงแล้ว มีแค่การไม่ได้พบกับพี่อ้ายอีกเท่านั้น ที่เหลือคงไม่มีอะไรแล้วล่ะ”
หยางเฉินรับรู้ถึงความรู้สึกขมขื่นของเขา
เขารู้ว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่หม่าขาวต้องการ พวกเขาเป็นคนประเภทเดียวกัน ไม่มีทางยินยอมถูกคนอื่นควบคุมเป็นแน่ แต่หากหม่าชาวอยู่ที่นี่ คงจะหนีเรื่องพวกนี้ไม่พ้น
อีกเรื่องหนึ่งคือ เขากับอ้ายหลินต้องแยกจากตลอดไป
ทั้งสองคนได้แต่เงียบ สักพักหนึ่งหยางเฉินก็พูดขึ้น “ถ้าอย่างนั้นเจ้าคิดแล้วหรือยัง ถามเจ้ากับเสี่ยวจิ้งอันยอมอยู่ที่นี่ แล้วพี่อ้ายล่ะจะเป็นอย่างไร ?”
“ต้องเสียทั้งสามีและลูกชาย นางคงจะเป็นบ้าแน่ ๆ เจ้าไม่รู้หรือไงว่ากว่านางจะคลอดเสี่ยวจิ้งอันมาได้ต้องลำบากขนาดไหน”
“การที่คนเป็นแม่ที่ต้องสูญเสียลูกไปมันเป็นเรื่องที่โหดร้ายมาก ๆ”
หม่าชาวสมีสีหน้าทุกข์ทรมาน นี่ก็เป็นเหตุผลที่เขาไม่อยากยอมรับสถานะของตัวเองเช่นกัน
ขนาดเขายังรักลูกที่ไม่เคยพบหน้ากัน และหากต้องเปรียบเทียบความรักที่เขามีต่อลูกมากเท่าไหร่ ความรักของเขาที่มีต่ออ้ายหลินยิ่งมากกว่านั้นมาก หากต้องและทั้งสามีและลูกไปล่ะก็ อ้ายหลินคงได้เป็นบ้าแน่ ๆ
“พี่เฉิน ข้าเองก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรแล้ว ข้าไม่รู้แล้วจริง ๆ !”
หม่าชาวกุมหัวใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด น้ำเสียงของเขาสะอึกสะอื้น
เขาเองก็รู้สึกเจ็บปวดที่ต้องเห็นสหายรักทนทุกข์ทรมาน เขาตบไปบนไหล่ของหม่าชาว พูดปลอมโยน “ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ลองคิดดูให้ดี ๆ มันอาจจะมีวิธีที่ดีกว่านี้ก็ได้”
หม่าชาวเงยหน้าขึ้นมองไปยังหยางเฉิน ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวัง “พี่เฉิน พี่มีวิธีอะไรหรือไม่ ?”
หยางเฉินฝืนยิ้มออกมาอย่างข่มขื่น “หากว่าข้ามีคงรีบบอกเจ้าไปแล้วล่ะ”
หม่าชาวผิดหวังไปครู่หนึ่ง ทั้งสองได้แต่นิ่งเงียบ
ผ่านไปสักพัก หยางเฉินก็พูดขึ้น “เฝิงจื้อเอ้าบอกกับข้า เรื่องที่เจ้าถูกทอดทิ้งในตอนนั้นมันไม่เกี่ยวกับเขา นั่นอาจเป็นฝีมือของเฝิงจื้อหย่วน เจ้ารู้เรื่องนี้หรือไม่ ?”
หม่าชาวตกใจไปชั่วขณะ “จะเป็นไปได้อย่างไร ?”
จากที่เขาถูกเฝิงจื้อหย่วนส่งตัวผู้แข็งแกร่งมานำตัวเขากลับมา เขาก็ได้แต่ถูกขังอยู่ในห้องลับ ไม่ได้ติดต่อกับคนอื่น ๆ เลย
กับเฝิงจื้อเอ้าเขาก็รู้จากปากของเฝิงจื้อหย่วนเท่านั้นว่าเขาคือผู้สืบรัชทายาทราชวงศ์เฝิงรุ่นที่สอง รอจักรพรรดิเฝิงสละบัลลังก์ เขาก็จะขึ้นมาแทน
หยางเฉินพูด “วันนี้ข้าเองก็เพิ่งจะได้พบกับเฝิงจื้อเอ้า แม้จะพบกันเพียงครั้งแรก แต่เมื่อเทียบกับเฝิงจื้อหย่วน ถ้ารู้สึกเชื่อใจเขามากกกว่า”
“จากคำพูดของเขา เฝิงจื้อหย่วนเป็นคนเจ้าเล่ห์เพทุบาย เพื่อให้ได้มาตามความต้องการของตนเอง ไม่สนว่าจะด้วยวิธีการใด แม้จะต้องหักหลังคนใกล้ตัว เขาก็ทำได้”
“เจ้าคิดดูให้ดี เจ้าเป็นรัชทายาทรุ่นที่สาม หากตอนนี้เจ้าถูกทิ้งไป ใครจะน่าสงสัยที่สุด ?”
หม่าชาวพูด “องค์ชายใหญ่ เฝิงจื้อเอ้า !”
หยางเฉินพยักหน้า “ถูกต้อง ! เพราะเจ้าเกิดมาเป็นรัชทายาทรุ่นที่สาม เฝิงจื้อหย่วนเป็นถึงพระบิดาของเจ้า แล้วจะทอดทิ้งเจ้าไปได้อย่างไร ? ก็เหลือเพียงเฝิงจื้อเอ้าที่ทำอย่างนี้ได้ ที่อยากให้เจ้าหายตัวไปก็เพื่อลูกชายของเขาจะได้ขึ้นมาแทนที่ยังไงล่ะ”
“แต่ถ้าหาก คนที่ทอดทิ้งเจ้าไปในตอนนั้นคือเฝิงจื้อหย่วน ก็อาจเพราะต้องการใส่ร้ายเฝิงจื้อเอ้า เพื่อให้ถูกถอดถอนจากบัลลังก์ เขาก็จะสามารถขึ้นมารับจำแหน่งแทนได้”
“เพียงแค่รอจนถึงเวลาเท่านั้น แค่เจ้ากลับมาที่ราชวงศ์เฝิง บัลลังก์ก็จะตกเป็นของเจ้า”
“แต่ว่า เรื่องทั้งหมดก็ผิดผลาดเพราะว่าเขามีหลักฐานไม่เพียงพอ ทำได้เพียงให้เฝิงจื้อเอ้าถูกถอดถอนสิทธิชั่วคราวเท่านั้น และก็จะกลับมารับตำแหน่งอีกครั้ง”
เมื่อได้ยินเรื่องพวกนี้ หม่าชาวก็ได้แต่ยืนทื่อ จากนั้นสีหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธ “หากเป็นเฝิงจื้อหย่วนทอดทิ้งข้าไปจริง ๆ ล่ะก็ ข้าไม่มีทางอภัยให้เขาแน่ !”
หยางเฉินพูดต่อ “หรือก็คือ หากเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง เฝิงจื้อหย่วนคนนี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน ในจิตใจของเขาไม่หลงเหลือความเมตตาเลยสักนิด มีแต่พลังอำนาจเท่านั้น”
“หากเจ้ากับเสี่ยวจิ้งอันยังอยู่ที่นี่ เจ้าทั้งคู่ก็อาจจะตกอยู่ในอันตราย โดยเฉพาะเมื่อเสี่ยวจิ้งอันต้องอยู่ด้วยกันกับเจ้า เจ้าจะกลายเป็นเบี้ยของเฝิงจื้อหย่วน”
“ดังนั้นอย่างไรก็ตาม เจ้าไม่ควรอยู่ที่ราชวงศ์เฝิงโดยเด็ดขาด ไม่ต้องพูดถึงปกป้องเสี่ยวจิ้งอัน แม้จะปกป้องตนเองยังทำไม่ได้”
“แล้วถ้าให้ข้าเดา งานราชพิธีในวันพรุ่งนี้จะต้องมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นแน่ ๆ ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเขาวางแผนมานานขนาดนี้ ขนาดลูกของตัวเองยังกล้าทิ้งไป จะให้เจ้าขึ้นสืบทอดราชบัลลังก์ง่าย ๆ ได้อย่างไร”
“งานราชพิธีถวายสัตย์ในวันพรุ่งนี้ เจ้าจะเข้าร่วมไม่ได้ !”