The king of War - บทที่ 1568 เกิดเรื่องใหญ่ขึ้น
ไม่นานหยางเฉินก็เดินมาถึงห้องแยกในตัวปราสาท
ร่างชายวัยกลางคนสวมชุดสูทแบบตะวันตกยืนอยู่หน้าหน้าต่าง เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามา เขาก็หันมาด้วยรอยยิ้มมองไปยังหยางเฉิน
“ลุงเฝิง !”
เมื่อเห็นอีกฝ่าย หยางเฉินก็ตะโกนเรียก
คนที่หยางเฉินเรียกว่าลุงเฝิง ก็คือพ่อของหม่าชาว เฝิงจื้อหย่วน
เฝิงจื้อหย่วนพยักหน้าเบา ๆ พลางชี้ไปยังโซฟาข้าง ๆ รอให้หยางเฉินนั่งลงจึงพูดขึ้น “ข้าเรียกเจ้ามาเพราะมีเรื่องต้องการจะขอร้อง”
หยางเฉินตอบ “เชิญท่านลุงเฝิงบอกมาได้เลย !”
เฝิงจื้อหย่วนยิ้มและพูดว่า “ในงานราชพิธี ข้ากลัวว่าจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น ข้าหวังว่าถึงเวลานั้นเจ้าจะช่วยปกป้องหม่าชาว”
“อืม ?”
หยางเฉินขมวดคิ้ว สีหน้าแสดงอาการตกใจ
เขารู้ดีว่าจะต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น เพียงแต่เมื่อได้ยินเฝิงจื้อหย่วนพูด ทำไมเรื่องที่เกิดขึ้นถึงเป็นอันตรายต่อหม่าชาว ?
แล้วยังให้เขาไปปกป้องหม่าชาวอีก ?
ใบหน้าของเฝิงจื้อหย่วนยังคงประดับไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะพูดต่อ “เจ้าน่าจะรู้ ว่าในราชวงศ์เฝิงของเรามีคนมากมายจ้องตำแหน่งรัชทายาท ในขณะที่หม่าชาวกำลังจะขึ้นครองราชย์เป็นทายาทรุ่นถัดไป ก็มีคนมากมายไม่ต้องการเห็นเขาประสบความสำเร็จ”
“แม้ว่าพลังของราชวงศ์เฝิงจะแข็งแกร่ง แต่ในยุทธภพนี้ก็ยังมีคนแข็งแกร่งอยู่อีกมาก ผู้แข็งแกร่งในราชวงศ์เฝิงอาจจะไม่ได้ทำร้ายท่านโดยตรง แต่ว่าเขาสามารถยืมมือของคนอื่นได้”
“เจ้ากับเขาเป็นสหายร่วมชะตากรรมกัน คงเหลือเพียงแค่เจ้าที่คอยปกป้องเขา ข้าถึงจะวางใจได้”
ได้ฟังคูดเหล่านี้ของเฝิงจื้อหย่วน สีหน้าของหยางเฉินดูกระอักกระอ่วนขึ้นทันที และเขาก็ได้ให้คำสัญญาแก่เฝิงจื้อเอ้าไว้แล้ว ว่าในวันนี้จะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าหมี่เสวี่ยเป็นพี่สาวของหม่าชาว
แต่ทว่าตอนนี้เฝิงจื้อหย่วนกลับให้เขามาปกป้องหม่าชาว
ในตอนนี้เขาแทบจะไม่สามารถมองข้ามชายคนนี้ไปได้เลย
เขารู้ดีว่าจิตใจของเฝิงจื้อหย่วนลึกเกินจะหยั่งถึง เรื่องที่หม่าชาวถูกทิ้งไปเมื่อ 26 ปีก่อน เป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นการจัดฉากของเขา
แต่ตอนนี้เขากลับมาขอร้องให้ช่วยปกป้องหม่าชาว
สรุปแล้วสำหรับเขา เขาเห็นหม่าชาวเป็นเพียงเบี้ยหรือเป็นลูกชายกันแน่ ?
หยางเฉินไม่พูดอะไร เฝิงจื้อหย่วนยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “ข้ารู้ว่าเจ้าลำบากใจ แม้ว่าเจ้าจะรับปากกับเฝิงจื้อเอ้าไว้แล้วว่าจะช่วยเหลือเขาก็ไม่เป็นไร เจ้ายังสามารถทำสิ่งที่คุยกันไว้ได้ ข้าเพียงแค่หวังไว้ว่า ในขณะที่เจ้าช่วยเหลือเฝิงจื้อเอ้าอยู่ ก็อย่าลืมปกป้องหม่าชาวไปด้วยเท่านั้น”
ไม่นึกเลยว่า เรื่องที่เขาตกลงช่วยเหลือเฝิงจื้อเอ้า เฝิงจื้อหย่วนก็รู้อยู่แล้ว
“จริงรึเปล่าที่เขาบอกกับเจ้าว่าข้ามีลูกชายอยู่อีกมากมาย และยังบอกเรื่องเมื่อ 26 ปีก่อนด้วย ที่ราชวงศ์เฝิงถูกสับเปลี่ยนเด็กทารกไป”
“เป็นเพราะว่าลูกคนแรกของข้าเป็นลูกสาว ดังนั้นข้าจึงจงใจทิ้งหม่าชาวไป หลังจากนั้นก็ไปมีลูกกับหญิงอื่น รอจนกระทั่งคลอดเด็กออกมา รอเวลาที่เหมาะสม ก่อนจะพาตัวลูกชายคนแรกกลับมาราชวงศ์เฝิง หลังจากนั้นบอกว่านี่คือเด็กทารกที่หายตัวไปเมื่อ 26 ปีก่อน ใช่รึเปล่า ?”
ทีแรกเขานึกว่าเรื่องนี้นอกจากเขา ก็มีแค่เฝิงจื้อเอ้าและเฝิงเจียหยีเท่านั้นที่รู้เรื่อง แต่ไม่คิดเลยว่าเฝิงจื้อหย่วนก็รู้เรื่องทั้งหมดนี้ด้วย
ณ ตอนนี้ เขาไม่แน่ใจแล้วว่า ใครคือคนดีคนเลว
หรือว่าใครจะเป็นคนที่ช่วยเหลือเขาอยู่กันแน่
“ข้ารู้ว่า เจ้าเชื่อในสิ่งที่เฝิงจื้อเอ้าบอกนี้มาก แต่นั่นก็ไม่เป็นไรหรอก เวลาจะพิสูจน์ทุกสิ่งเอง”
เฝิงจื้อหย่วนยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “ไม่ว่าเจ้าจะเชื่อหรือไม่ ข้าก็ต้องบอกเจ้าว่า หม่าชาวคือลูกชายคนแรกที่เกิดมาของราชวงศ์เฝิง และคนที่ทิ้งเขาไป ก็คือข้าจริง ๆ !”
หยางเฉินพูดอย่างตกใจ “อะไรนะ ลุงเฝิง ? เป็นท่านจริง ๆ งั้นหรือ ?”
เฝิงจื้อหย่วนพยักหน้า ใบหน้าที่ยิ้มแย้มก็หายไป เปลี่ยนกลายเป็นความขื่นขม
นี่เป็นครั้งแรกที่หยางเฉินเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของเฝิงจื้อหย่วน
“หากครั้งนั้นข้ายังให้เขาอยู่ที่ราชวงศ์เฝิงแห่งนี้ เขาคงไม่มีทางรอดไปได้แน่ ๆ เขาคือเลือดเนื้อเชื้อไขของข้า ข้าจะใจร้ายใจดำทิ้งเขาไปได้ยังไง ?”
เฝิงจื้อหย่วนมองไปยังหยางเฉิน ใบหน้าเต็มไปด้วยความซับซ้อน “วันนี้ เขาอาจตกอยู่ในอันตราย เจ้าจะต้องคอยปกป้องเขา หากวันนี้สามารถผ่านพ้นไปได้แล้วล่ะก็ ข้าหวังว่าเจ้าจะช่วยนำเขาออกไปจากราชวงศ์เฝิงแห่งนี้ ก่อนที่พลังของเขาจะไปถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ด อย่าให้เขาปรากฏตัวออกมา ไม่อย่างนั้นเขาจะต้องตกอยู่ในอันตรายแน่”
“ในครั้งนี้ สีหน้าของเฝิงจื้อหย่วนเต็มไปด้วยความจริงจัง ราวกับกำลังฝากฝังเรื่องหลังจากนี้ของตนเองไว้กับเขา”
หยางเฉินมีลางสังหรณ์ไม่ค่อยดี พูดด้วยเสียงต่ำลงว่า “ลุงเฝิง สรุปแล้ววันนี้จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ? อีกอย่าง ท่านอาจจะเสียชีวิตงั้นหรือ ?”
มุมปากของเฝิงจื้อหย่วนผุดรอยยิ้มขึ้น พลางเดินไปตบลงบนบ่าหยางเฉิน “มีคนมากมายต้องการให้ข้าตาย แต่น้อยคนนักที่จะจัดการข้าได้ ! วางใจได้ ข้าไม่เป็นอะไรหรอก !”
“นอกจากนั้น เรื่องที่เราพูดคุยกันวันนี้ นอกจากพวกเราแล้ว หวังว่าจะไม่มีบุคคลอื่นรู้เรื่องอีก แม้แต่หม่าชาวเจ้าก็บอกไม่ได้ เจ้ารับปากข้าได้หรือไม่ ?”
มองไปยังใบหน้าเคร่งขรึมของเฝิงจื้อหย่วน ที่ต้องการจะขอร้องเขา หยางเฉินก็ไม่อาจปฏิเสธได้ แม้จะไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ แต่เขามั่นใจว่าเฝิงจื้อหย่วนเก็บซ่อนเรื่องบางอย่างจากเขาไว้
ไม่ว่าจะเรื่องอะไร แต่สิ่งที่พูดออกมาทั้งหมดก็เพื่อหม่าชาว
เขาเงียบไปสักพัก ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ได้ ข้ารับปากท่าน ! เพื่อหม่าชาวข้าจะไม่บอกเรื่องระหว่างเราแก่เขา”
เฝิงจื้อหย่วนยิ้มและพูดขึ้น “หยางเฉิน ข้าขอบใจเจ้าจริงๆ !”
พูดจบเขาก็เดินออกไป พลางพูดว่า “อีกห้านาที พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนก็จะเริ่มแล้ว พวกเราไปกันเถอะ !”
เมื่อตามเฝิงจื้อหย่วนมาจนถึงด้านในคฤหาสน์เฝิงหวง หน้าราชพิธีอันยิ่งใหญ่
ตอนนี้รอบแท่นพิธีสูงเก้าเมตรเต็มไปด้วยทายาทจากตระกูลเฝิง
หยางเฉินเดินเข้ามาพร้อมกับเฝิงจื้อหย่วน วินาทีนี้ดึงดูดสายตาของคนจำนวนมาก
ใกล้กับแท่นพิธีเฝิงจื้อเอ้าและเฝิงเจียหยีก็ได้มาถึงก่อนแล้ว เมื่อทั้งคู่เห็นว่าหยางเฉินมากับเฝิงจื้อหย่วน ก็เต็มไปด้วยสีหน้าตกใจ
“ท่านพ่อ หยางเฉินทำไมถึงมากับเฝิงจื้อหย่วนได้ล่ะ ? เขาจะไปทำข้อตกลงอะไรกันแล้วหรือเปล่า ?”
เฝิงเจียหยีขมวดคิ้วมองไปยังเฝิงจื้อเอ้า
เฝิงจื้อเอ้าส่ายหัว พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “หวังว่าจะไม่ใช่ล่ะนะ !”