The king of War - บทที่ 1571 สังหารหม่าชาว
วินาทีต่อมา ชายชราผมขาวที่มีใบหน้าเหมือนเด็กก็ปรากฏตัวขึ้น
ในขณะเดียวกับที่หยางเฉินไปปรากฏตัวอยู่ที่เวที โดยที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าชราคนนี้เป็นใคร แต่ร่างกายชายคนนี้กลับเต็มไปด้วยแรงกดดันของลมปราณวิถีบู๊อันกล้าแกร่ง
ก่อนหน้านี้เฝิงจื้อหย่วนให้เขาตกลงคอยปกป้องหม่าชาว
หยางเฉินมีลางสังหรณ์ว่าอันตรายของหม่าชาวจะมาจากชายคนนี้
“เจ้าเป็นใคร ?”
ฝ่าบาทที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ถามไปยังชายชราคนนั้นด้วยความเยือกเย็น
ทั้งคู่ต่างก็สัมผัสได้ว่าพลังของทั้งคู่ต่างก็เทียบเคียงกันได้
หรือก็คือพลังของอีกฝ่ายก็คือแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดเช่นกัน
เพียงอึดใจเดียว ฝ่าบาทและผู้ชมต่างก็ได้สติกลับมา จับจ้องไปยังชราผมขาวหน้าตาเหมือนเด็กด้วยความตกใจ
ชายชราไม่ไม้แต่จะสนใจฝ่าบาท ดวงตาทั้งคู่มองไปยังหม่าชาวด้วยแววตาอันคมกริบ
ในเวลานี้ หม่าชาวราวกับอยู่ในห้องเย็น บรรยากาศเยือกเย็นไปจนถึงกระดูก เขารู้สึกว่าฝ่ายตรงข้ามกำลังเข้ามาหาเขา
หม่าชาวถามไปว่า “พี่เฉิน เขาเป็นใครกัน ?”
เมื่อชายชราผมขาวปรากฏตัวขึ้น หยางเฉินก็เข้ามาอยู่ข้างกายเขาทันที แปลว่าหยางเฉินอาจจะรู้อะไรบางอย่าง
หยางเฉินตอบอย่างสงสัย “ข้าเองก็ไม่รู้ แต่เป็นไปได้ว่าเขามาที่นี่ก็เพราะเจ้า และเป็นพ่อเจ้าที่ให้ข้าคอยปกป้องเจ้า”
หม่าชาวอึ้ง ดวงตาทั้งคู่เหลือบมองไปยังเฝิงจื้อหย่วน แต่ทันทีที่เขามองไป ก็ไม่พบเฝิงจื้อหย่วนแล้ว
หยางเฉินเองก็มองไป เมื่อเห็นว่าเฝิงจื้อหย่วนหายตัวไป เขาก็ขมวดคิ้วขึ้น
แม้ว่าเขาจะเชื่อในสิ่งที่เฝิงจื้อหย่วนพูด แต่ก็ไม่ได้เชื่อทั้งหมด จนถึงตอนนี้เขาเองก็ไม่แน่ใจว่าแท้จริงแล้วเฝิงจื้อหย่วนเป็นคนอย่างไรกันแน่
กระทั่งตอนนี้ เฝิงจื้อหย่วนก็มาหายตัวไปอีก ทำให้เขายิ่งร็สึกไม่สบายยิ่งขึ้น
ขณะนั้นเอง ชายชราผมขาวก็แผ่พลังลมปราณวิถีบู๊ออกมา พลังแห่งการฆ่าฟันพุ่งไปยังหยางเฉินทันที
“หาโอกาสหนีออกไปจากที่นี่ซะ !”
หยางเฉินเข้าไปขวางด้านหน้าหม่าชาว พูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
หม่าชาวไม่ตอบสนองอะไร แววตามองเขาแสดงออกถึงด้วยความมุ่งมั่น เขารับรู้ได้ว่าชายชราผมขาวคนนี้ต้องการจะสังหารเขา ด้วยพลังระดับนี้ หากเขาหนีไป หยางเฉินจะจัดการอีกฝ่ายได้ยังไง ?
“ตาย !”
น้ำเสียงเยือกเย็นราวกับความตาย ดังมาจากชายชราผมขาว วินาทีต่อมา ร่างของเขาก็หายไป
ในขณะเดียวกัน พลังลมปราณของหยางเฉินก็พุ่งขึ้นจนถึงขีดสุด เทคนิคการหายใจขั้นหกของคัมภีร์ต้าเต้าเทียนหยาน รวมกับสายเลือดคลั่ง สองขุมพลังหลอมรวมเข้าด้วยกัน ทำให้ระดับพลังจากแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้า กลายเป็นแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดทันที
ไม่มีเวลาให้ลังเล เขาสะบัดมือไปยังความว่างเปล่า
“ตู้ม !”
หลังจากนั้น ก็เสียงดังมหาศาลขึ้น
ชายชราใช้ฝ่ามือตบไปยังหมัดที่หยางเฉินเหวี่ยงออกมา
หยางเฉินรู้สึกว่ามือข้างนี้แทบหัก พลังอันน่ากลัว จากปลายหมัด มายังข้อมือจนกระทั่งเข้าไปยังทั่วร่าง
หยางเฉินรับรู้ได้ถึงรสชาติในลำคอ เขากระอักเลือดออกมาคำโต บินไถลไปไกลกว่าสิบเมตร
“พี่เฉิน ?”
หม่าชาวก็ได้สติร้องขึ้นวิ่งเข้าไปหาหยางเฉิน
“หืม ?”
ชายชราผมขาวทำเสียงประหลาดใจ มองไปยังหยางเฉิน สายตาเต็มไปด้วยเคร่งขรึม ก่อนจะถามว่า “เด็กน้อย เจ้าเป็นใครกัน ?”
เขาเจออัจฉริยะบูโดมามากมาย แต่คนหนุ่มอย่างหยางเฉินที่มีพลังถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้า และยังปะทุพลังแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดออกมาได้ เขายังไม่เคยเจอมาก่อน
ขนาดในตระกูลโบราณยังไม่มีใครมีพรสวรรค์ด้านบูโดเทียบเท่ากับชายหนุ่มคนนี้ได้เลย
ตั้งแต่ที่ชราเริ่มลงมือ หยางเฉินเริ่มโจมตี จนกระทั่งเขากระเด็นลอยไป ทั้งหมดเกิดขึ้นในเสี้ยววินาที จวบจนกระทั่งตอนนี้ ผู้คนในราชวงศ์เฝิงยังเพิ่งจะได้สติกลับมาเท่านั้น
ฝ่าบาทที่นั่งอยู่บนบัลลังก์แววตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่า สหายร่วมเป็นร่วมตายของหม่าชาวจะมีพลังกล้าแกร่งขนาดนี้
ขณะนั้น หยางเฉินที่ได้หม่าชาวช่วยพยุงขึ้น ปากก็มีเลือดไหลออกมา ดวงตาคมกริบมองไปยังชายชราผมขาว สายตายังฉายแววความบ้าคลั่ง กัดฟันและพูดว่า “ดูท่าเจ้าจะพอรู้ว่าต้นกำเนิดของข้าไม่ธรรมดา แท้จริงแล้วข้าเป็นใคร เจ้าคงยังไม่จำเป็นต้องรู้ แต่ที่แน่ ๆ ถ้ากล้ามายั่วโมโหข้าล่ะก็ เจ้าจะต้องเสียใจ !”
“ตอนนี้ ข้าจะนำสหายข้าออกไปจากราชวงศ์เฝิง หากเจ้ามีอะไรกับราชวงศ์เฝิงนั่นเป็นปัญญาระหว่างพวกเจ้า ไม่เกี่ยวกับพวกข้าทั้งสอง”
พูดจบ เขาก็หันไปบอกหม่าชาว “ไปกันเถอะ !”
สถานการณ์เช่นนี้ เขาใช้สถานะของตนเองเพื่อหลอกล่อชายชราเท่านั้น
แม้ตอนนี้เขาจะแข็งแกร่ง แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปด เขาก็ไม่มีทางสู้ได้
ตอนนี้ถึงขีดจำกำกัดของเขาแล้วที่จะรับมือกับชายชราผมขาวได้ เกรงว่าถ้าหากโดนการโจมตีแบบเมื่อสักครู่อีกรอบ เขาก็อาจตายได้
“เข้าใจแล้ว !”
หม่าชาวไม่ลังเล รีบตามหยางเฉินออกไปทันที
แม้จะรู้สึกโกรธ แต่เขาก็รู้ตัวว่าไม่มีทางรับมือกับผู้มีพลังแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดได้ ต่อหน้าชายชราคนนี้ เขาก็ไม่ต่างไปจากมดตัวเล็ก ๆ
หากจะแก้แค้น รอจนกระทั่งเขาแข็งแกร่งพอค่อยมาว่ากันอีกที
“ฮึ !”
หยางเฉินและหม่าชาวเพิ่งจะเดินลงมาจากเวที ชายชราก็สบถเสียงอย่างเยือกเย็น “ไอ้หนู ข้าแนะนำเจ้าว่าอย่าไปยุ่งเรื่องของคนอื่นให้มาก หากข้าต้องการฆ่าใคร ไม่มีใครจะมาหยุดข้าได้”
แม้คำพูดนี้จูดกับหยางเฉิน
แต่หยางเฉินมั่นใจ ว่าคนที่เป็นเป้าหมายของเขาก็คือหม่าชาว
จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความเศร้า หรือว่าวันนี้เขาจะไม่มีทางปกป้องหม่าชาวได้จริง ๆ ?
หม่าชาวกัดฟันพูดว่า “พี่เฉิน ไม่ต้องสนใจข้า ! นี่เป็นเรื่องของคนตระกูลเฝิง ไม่เกี่ยวอะไรกับท่าน !”
หยางเฉินพูดขึ้น “เงียบไปซะ !”
หม่าชาวพูดด้วยความโมโห “หยางเฉิน ! ที่นี่คือราชวงศ์เฝิง ซึ่งเป็นเรื่องของข้า เกี่ยวอะไรกับท่าน ? อย่าคิดว่าแค่อยู่ด้วยกันในสนามรบมาไม่กี่ปี แล้วจะมีสิทธิ์มาใส่ใจเรื่องของข้าได้”
หยางเฉินเข้าใจดีว่า หม่าชาวต้องการทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขาแน่ชัด
ชายชราผมขาวมองไปยังหม่าชาว พูดด้วยเสียงเยือกเย็นว่า “ข้าให้โอกาสเจ้าสั่งเสียอะไรสัหน่อย สั่งเสียเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาของเจ้า !”
หยางเฉินยืนนิ่งต่อหน้าหม่าชาว สายตามองไปที่ชายชรา พูดด้วยสีหน้าหนักแน่นว่า “จะฆ่าเขา ก็ข้ามศพข้าไปก่อน !”
ดวงตาชายชราฉายแววดูถูก พูดด้วยเสียงเยือกเย็นว่า “เจ้ายังเด็กนัก พลังปราณยังมีถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้า ข้าแนะนำเจ้าว่าอย่าเข้ามายุ่งในเรื่องที่ไม่ควรยุ่งจะดีกว่า บางสิ่ง เจ้าก็ไม่เหมาะที่จะมายุ่งเกี่ยวด้วย”
“ข้าจะนับแค่สิบ หากยังไม่ออกไปล่ะก็ ตาย !”