The king of War - บทที่ 1573 การโจมตีที่รุนแรงที่สุด
ชายชราผมขาวแววตาสุดเยือกเย็น จ้องมองไปยังฝ่าบาทที่ค่อย ๆ ลุกขึ้น
ฝ่าบาทมีพลังแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปด กับบูโดอัจฉริยะที่ไม่ทราบที่มาที่ไป ตอนนี้ยากที่จะรับมือแล้ว
ฝ่าบาทยืนมือไพล่หลัง มองไปยังชายชราผมขาวด้วยสีหน้าสงบนิ่ง “ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปด ไม่น่าจะไร้ชื่อเสียงเรียงนาม และไม่ควรจะปิดบังตนเองไว้ ใต้เท้า ท่านเป็นใครกันแน่ ?”
ชายชราผมขาวตอบอย่างเย็นชา “ที่ข้ามาในวันนี้ ก็เพียงเพื่อสังหารคนๆ เดียว ฝ่าบาทย่ามายุ่งเรื่องนี้จะดีกว่า ส่วนที่ถามว่าข้าเป็นใครนั้น ฝ่าบาทเองคงไม่ต้องรู้ ไม่อย่างนั้นคงมีเรื่องวุ่นวายตามมาแน่”
ฝ่าบาทไม่ได้รู้สึกโมโหกับคำพูดของเขา ฝ่ายตรงข้ามมีพลังแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปด อีกทั้งยังกล้าพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงเช่นนี้ เห็นได้ชัดเลยว่าไม่รู้สึกเกรงกลัวเขาเลยสักนิด
ผู้ที่มีพลังระดับนี้ นอกจากสองราชวงศ์โบราณแล้ว ก็มีตระกูลบู๊โบราณที่หลบซ่อนตัวเท่านั้น
ในตอนนี้ราชวงศ์โบราณก็มีแค่จักรพรรดิที่มีพลังแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปด จักรพรรดิเฝิงก็เป็นจักรพรรดิแห่งราชวงศ์เฝิง ถ้าหากชายชราผมขาวเป็นคนนอกเหนือจากราชวงศ์โบราณแล้วล่ะก็ ก็เหลือแค่คนจากตระกูลบู๊โบราณ
แต่ว่าราชวงศ์อู่ที่มีพลังแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปด มีเพียงจักรพรรดิอู่คนเดียวเท่านั้น ดังนั้นแล้วชายชราผมขาวคนนี้ ต้องมาจากราชวงศ์อู่โบราณแน่
คิดได้ดังนั้น ฝ่าบาทก็พูดขึ้นว่า “ถ้าเพียงรู้ชื่อของท่านแล้วจะทำปัญหามากมายมายังราชวงศ์เฝิงล่ะก็ ถ้างั้นราชวศ์เฝิงก็คงจะอ่อนแอเกินไป สรุปแล้วท่านเป็นใครกันแน่ ?”
ชายชราผมขาวพูดขึ้น “ไป๋หลี่เยี่ยน !”
ได้ยินดังนั้น สีหน้าของฝ่าบาทก็เปลี่ยนไป แซ่ไป๋หลี่นั้นมาจากตระกูลอู่โบราณที่ซ่อนเร้น
ตอนนี้ ในหัวของฝ่าบาท ก็ค่อย ๆ มีความทรงจำมากมายปรากฏขึ้น สีหน้าของเขาค่อย ๆ บูดเบี้ยวอย่างช้า ๆ
ฝ่าบาทพูดเสียงต่ำลง “เจ้ากับไป๋หลี่ชิวเหว่เป็นอะไรกัน ?”
ไป๋หลี่เยี่ยนพูดด้วยสีหน้าสงบนิ่ง “คนในตระกูลของข้า !”
ฝ่าบาทตะลึงงัน ตอนนี้เขานึกเรื่องราวทั้งหมดออกแล้ว ทั้งเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ 26 ปีก่อน และเรื่องที่ทำไมไป๋หลี่เยี่ยนต้องการสังหารหม่าชาว
“ท่านพ่อ ไป๋หลี่ชิวเหว่เป็นใครกัน ?”
ในเวลานั้น ที่นั่งด้านหน้าข้างเวที เฝิงเจียหยีมองไปยังเฝิงจื้อเอ้า และถามด้วยความสงสัย
เฝิงจื้อเอ้าพูดอย่างเคร่งขรึม “ไป๋หลี่ชิวเหว่ นางเป็นภรรยาของเฝิงจื้อหย่วน และก็เป็นแม่ของหม่าชาวด้วย”
“เมื่อ 26 ปีก่อน ขณะที่หม่าชาวเพิ่งจะออกมาดูโลก และได้หายตัวไปจากราชวงศ์เฝิง ตอนนั้นไป๋หลี่ชิวเหว่ก็ได้หายตัวไปเช่นกัน”
“ไม่มีใครรู้ว่านางไปอยู่ที่ไหน หลาย ๆ คนต่างคิดว่าหม่าชาวถูกไป๋หลี่ชิวเหว่นำตัวไป”
ใบหน้าอันบอบบางของเฝิงเจียหยีถึงกับอึ้ง พูดพำพัมกับตัวเองว่า “งั้นไป๋หลี่ชิวเหว่ก็เป็นคนของตระกูลอู่โบราณ แล้วถ้าอย่างนั้นไป๋หลี่เยี่ยนจะตามสังหารหม่าชาวทำไมกัน ?”
เฝิงจื้อเอ้าตอบอย่างเคร่งขรึม “ได้ยินมาว่า ราชวงศ์อู่โบราณยึดมั่นในความบริสุทธิ์ของสายเลือดมาก ไม่เคยยอมให้คนของตระกูลอู่โบราณไปอยู่ร่วมกับผู้อื่นเลย”
“ไป๋หลี่ชิวเหว่เป็นคนจากราชวงศ์ไป๋หลี่ แต่กลับมามีลูกกับเฝิงจื้อหย่วน หาหม่าชาวยังมีชีวิตอยู่ล่ะก็ จะต้องทำให้เลือดอันบริสุทธิ์ของตระกูลต้องแปดเปื้อน”
“จนกระทั่งเร็ว ๆ นี้ ราชวงศ์เฝิงก็ประกาศออกมาว่าพบตัวรัชทายาทรุ่นที่สิบเก้าที่หายตัวไปกว่า 26 ปี เรื่องนี้ถูกราชวงศ์ไป๋หลี่รับรู้ เมื่อ 26 ปีก่อน ไป๋หลี่ชิวเหว่ได้มีลูกชายกับที่ไม่ใช่คนของราชวงศ์อู่โบราณ”
เฝิงเจียหยีพูดด้วยความตกใจ “ก็หมายความว่า หม่าชาวเป็นเด็กทารกที่หายสาบสูญไปเมื่อ 26 ปีก่อนจริง ๆ และได้ถูกเฝิงจื้อหย่วนพาตัวกลับมายังราชวงศ์เฝิง เขาย่อมรู้แน่ชัดอยู่แล้วว่าถ้าหากหม่าชาวปรากฏตัวขึ้น จะต้องถูกคนของตระกูลอู่โบราณหมายชีวิตแน่ แต่เขาจะทำแบบนี้ไปทำไม ?”
เฝิงจื้อเอ้าทราบเรื่องนี้ดี เพียงแต่เขาก็ไม่เข้าใจเป้าหมายที่แท้จริงของเฝิงจื้อหย่วน
เขาส่ายหัว และพูดขึ้นว่า “แม้จะไม่รู้ว่าเฝิงจื้อหย่วนต้องการอะไร แต่เขาจะต้องมีแผนการใหญ่อยู่แน่ ๆ และแผนการนี้ก็ต้องการใช้หม่าชาวเป็นเครื่องมือ การที่ต้องทำให้ราชวงศ์ไป๋หลี่ปรากฏตัวออกมา เป็นสิ่งที่อันตรายอย่างยิ่งต่อราชวงศ์เฝิง”
แม้แต่ตอนนี้เฝิงจื้อหย่วนเองก็หายตัวไปไหนแล้วไม่รู้
ขณะนั้นเอง ดวงตาเย็นชาของไป๋หลี่เยี่ยนก็มองไปยังจักรพรรดิเฝิง และพูดว่า “ในเมื่อท่านรู้แล้วว่าข้าเป็นใคร แล้วยังรู้ว่าข้ากับไป๋หลี่ชาวเหว่มีความสัมพันธ์อะไรต่อกัน งั้นก็ต้องเข้าใจแล้วว่า เป้าหมายที่ข้ามาในวันนี้ ไม่ได้ต้องการมาเผชิญหน้ากับราชวงศ์เฝิง แต่ข้าต้องมากำจัดคนที่ทำให้ราชวงศ์ไป๋หลี่ต้องแปดเปื้อน”
ฝ่าบาทไม่ได้พูดอะไร ไม่รู้ว่าทรงคิดอะไรอยู่ ในแววตาของเขาฉายแววของการต่อสู้ขึ้น
หยางเฉินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หม่าชาว แม้จะได้รับบาดเจ็บ แต่หากต้องมาตายต่อหน้าหม่าชาวล่ะก็ เขาก็จะทำ
ใบหน้าของหม่าชาวเต็มไปด้วยความโกรธ แววตาเข่นฆ่าจ้องมองไปยังไป๋หลี่เยี่ยน ฝ่ายตรงข้ามมาเพื่อสังหารเขา
แต่ว่าสิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาเป็นกังวล ที่เขากังวลอยู่ก็คือ ผู้หญิงที่ชื่อไป๋หลี่ชิวหยาน นางมีความสัมพันธ์อะไรกับเขากันแน่ ?
ก่อนหน้านี้ที่เขาถูกเฝิงจื้อหย่วนนำตัวมา เขาได้บอกว่า แม่ของเขาชื่อว่าไป๋หลี่ชาวเหว่
“ไอ้เด็กน้อย ข้าจะให้โอกาสแก่เจ้าอีกครั้ง ออกไปจากที่นี่ซะ แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า !”
ไป๋หลี่เยี่ยนสายตามองไปที่หยางเฉิน น้ำเสียงมีแต่ความเยือกเย็น
ดวงตาสีเลือดของหยางเฉิน จ้องมองไปที่ไป๋หลี่เยี่ยน ขบฟันแล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นข้าจะบอกท่านอีกหนึ่งครั้ง เขาคือสหายของข้า ไม่ว่าใครก็ตามที่ต้องการฆ่าเขา จะต้องข้ามศพข้าไปก่อน !”
“ฮึ ! เจ้าคนไม่เจียมตัว !”
ไป๋หลี่เยี่ยนพูดอย่างเยือกเย็น “ในเมื่อเจ้ารนหาที่ตาย ข้าก็พร้อมสนองให้ !”
สิ้นเสียง พลังปราณผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดก็พุ่งออกมาจากร่างของเขา เข้าผนึกตัวหยางเฉินทันที
ตอนนี้ หยางเฉินรู้สึกเย็นวูบไปจนถึงกระดูกราวกับคนตาย ในตอนนี้เหมือนกับเพียงแค่ไป๋หลี่เยี่ยนคิดเท่านั้นก็สามารถสังหารเขาได้
“พี่เฉิน !”
หม่าชาวตะโกนไปด้วยความตื่นตระหนก “ต่อจากนี้ไม่ว่าชาติไหน ข้าก็ขอเป็นพี่น้องรวมเป็นร่วมตายกับท่าน !”
พูดจบหม่าชาวก็พุ่งตัวเข้าไปหาไป๋หลี่เยี่ยนทันที “ไอ้เฒ่ามาสู้กับข้านี่ !”
ในครั้งนี้หยางเฉินไม่ได้ห้ามเขา เพราะเขารู้ดีว่าถ้าหากจักรพรรดิเฝิงไม่ลงมือ ยังไงซะพวกเขาก็ลงต้องตายด้วยน้ำมือของไป๋หลี่เยี่ยน
เขาไม่ได้พูดอะไร ในขณะที่หม่าชาวลงมือนั้น ร่างก็เขาก็ขยับขึ้น วินาทีเดียว เขาก็พุ่งผ่านหม่าชาวเข้าไปเผชิญหน้ากับไป๋หลี่เยี่ยน
พลังลมปราณวิถีบู๊อันบ้าคลั่งปะทุออกมาจากร่างของเขา รวมรวบพลังทั้งหมดไปยังหมัดขวา
เขารวบรวมพลังทั่วร่างทั้งหมดไปยังหมัดขวา การโจมตีในครั้งนี้ ถือเป็นการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของเขา
“ตายซะ !”
หยางเฉินคำรามด้วยความโกรธ หมัดขวาพุ่งเข้าใส่ไป๋หลี่เยี่ยนอย่างดุดัน
ไป๋หลี่เยี่ยนแววตาสงสัยเล็กน้อย เขารับรู้ได้ถึงพลังปราณอันบ้าคลั่งที่มาจากหยางเฉิน สีหน้าแสดงออกด้วยความประหลาดใจ
“หายไปซะ !”
ไป๋หลี่เยี่ยนตะโกนขึ้น วินาทีนั้น กำปั้นก็พูดปล่อยสวนออกมา
“ปัง !”
พลังอันรุนแรงทั้งสองเข้าปะทะกันราวกับลูกระเบิด แรงผลักจากพลังปราณอันน่ากลัวระเบิดออกไปทุกทิศทุกทาง
ร่างของหยางเฉินราวกับว่าวไร้สายป่าน ลอยกระเด็นออกไป