The king of War - บทที่ 1575 แค้นเก่า
เมื่อเห็นหยางเฉินแข็งแกร่งขึ้นไม่หยุด สีหน้าของไป๋หลี่เยี่ยนก็เต็มไปความตกใจ
หยางเฉินเมื่อมีพลังแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้า ยังสามารถมีพลังเทียบเท่ากับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดได้
แล้วถ้าหากครั้งนี้เขาสามารถข้ามมาถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกได้ล่ะ จะมีพลังมหาศาลขนาดไหนกัน ?
จะสามารถข้ามผ่านมายังแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดได้หรือไม่ ?
ขนาดไป๋หลี่เยี่ยนเองยังไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่า พลังแดนเหนือมนุษย์ที่อยู่ต่ำกว่าขั้นแปดจะสามารถระเบิดพลังมาจนถึงระดับแปดได้
แดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดเป็นสันเขากั้นน้ำ ขนาดผู้แข็งแกร่งที่มีพรสวรรค์ด้านบูโดที่ใช้เวลาทั้งชีวิตก็ไม่สามารถข้ามมายังแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดได้
แม้แต่ไป๋หลี่เยี่ยนเอง เมื่อครั้งอยู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ด ข้ามมายังแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดก็ยังไม่เกิดนิมิตฟ้ากำเนิดเลย นั่นหมายความว่า มีเพียงแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดข้ามไปยังแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าเท่านั้นที่จะเกิดนิมิตฟ้ากำเนิดขึ้น
แต่หยางเฉินเป็นเพียงแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้า การข้ามมายังแดนเหนือมนุษย์ขั้นหก แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดนิมิตฟ้ากำเนิดขึ้น !
“ไป๋หลี่เยี่ยน ตอนนี้ท่านยังคิดว่าจะนำตัวหลานชายข้าไปอีกไหม ?”
ในเวลานี้จักรพรรดิเฝิงฉีกยิ้มจ้องมอง พลางถามไปยังไป๋หลี่เยี่ยน
ด้วยพลังของหยางเฉิน เขาเองก็รู้สึกตกใจ แต่ว่าที่น่ากลัวมากกว่านั้น กลับเป็นที่มาที่ไปของหยางเฉิน
เขาไม่เชื่อว่า หนุ่มที่มีพรสวรรค์ด้านบูโดอันน่ากลัวมากขนาดนี้ จะไม่มีเบื้องหลังอะไรอยู่เลย
ตอนนี้ใบหน้าของไป๋หลี่หยวนเต็มไปด้วยความลังเล ผู้แข็งแกร่งจากราชวงศ์อู่โบราณ ไม่เคยเกรงกลัวนักบู๊คนไหน แต่กับพรสวรรค์ด้านบูโดของหยางเฉินนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง จนเขาอดเหลือเชื่อไม่ได้
คนแบบนี้ ต้องมีเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดาแน่
จากการแสดงออกของหยางเฉินเมทื่อสักครู่ก็ดูออกได้ไม่ยาก หยางเฉินกับหม่าชาวเป็นพี่น้องร่วมเป็นร่วมตายกัน หากเขาจะตัวหม่าชาวกลับไป แม้หยางเฉินกับจักรพรรดิเฝิงจะหยุดเขาไว้ไม่ได้ ยังไงหยางเฉินก็ต้องตามไปยังราชวงศ์ไป๋หลี่อยู่ดี
ในเมื่อเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นขนาดนี้ ทำให้เขากังวลถึงเบื้องหลังของหยางเฉิน ซึ่งตระกูลหลี่ก็อาจจะไม่สามารถรับมือไหว
นอกเสียจากว่า เขาจะสังหารคนที่นี่ทิ้งทั้งหมด
ฝ่าบาทหัวเราะ พลางจ้องมองไปยังใบหน้าที่ลังเลของไป๋หลี่เยี่ยน เขาไม่พูดอะไร ได้แต่รออีกฝ่ายลงมือ
“เรื่องต้องไม่จบลงแค่นี้แน่ !”
ไป๋หลี่เยี่ยนพูดจบก็หันกำลังจะจากไป
“ใครอนุญาตให้ท่านออกไปกัน ?”
ทันใดนั้นเสียงอันเยือกเย็นก็ดังไปทั่วราชวงศ์เฝิง
สายตาของทุกคนจ้องมองไปยังเจ้าของเสียงเมื่อสักครู่ ซึ่งเป็นชายวัยกลางคนที่ปรากฏตัวออกมา
“เฝิงจื้อหย่วน !”
ทุกคนต่างตกใจ
ขณะที่ไป๋หลี่เยี่ยนปรากฏตัวออกมา เฝิงจื้อหย่วนก็หายตัวไป แต่ว่าคนส่วนใหญ่กลับไม่รู้ว่าเมื่อสักครู่เขาไม่ได้อยู่ที่นี่
ฝ่าบาทขมวดคิ้ว พูดอย่างเย็นชาว่า “ถอยไปซะ !”
แต่เฝิงจื้อหย่วนกลับไม่ยอมถอยออกไป สายตาอันโกรธแค้น จ้องมองไปยังไป๋หลี่เยี่ยน เขากัดฟันและพูดว่า “ไป๋หลี่เยี่ยน ในที่สุดเราก็ได้พบกัน !”
นัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยแรงอาฆาต
ไป๋หลี่เยี่ยนขมวดคิ้ว พูดอย่างเย็นชา “เจ้าเป็นใคร ?”
เฝิงจื้อหย่วนกัดฟันแน่น ตอบว่า “ข้าคือภรรยาของไป๋หลี่ชิวเหว่ เฝิงจื้อหย่วน !”
ไป๋หลี่เยี่ยนยิ้มอย่างเย็นชา “ในตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะน้องหญิงแล้วล่ะก็ เจ้าคิดว่าจะยังมีชีวิตมาได้จนถึงวันนี้งั้นหรือ ? อะไรอีก ? จะมาฆ่าข้าหรือไง ?”
สายตาของเขาเต็มไปด้วยการดูถูก แม้ว่าเฝิงจื้อหย่วนจะเป้นถึงสองราชวงศ์โบราณ แต่สำหรับไป๋หลี่เยี่ยนแล้วราชวงศ์เฝิงนั้นไม่อาจเทียบเคียงกับราชวงศ์ไป๋หลี่ได้
ในราชวงศ์อู่โบราณ เต็มไปด้วยผู้แข็งแกร่งแดนเหนือธรรมชาติสิบกว่าคน แต่ในราชวงศ์เฝิงกลับมีอยู่แค่ห้าคน
อีกทั้งในราชวงศ์เฝิงผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดคือจักรพรรดิที่มีพลังแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปด แต่ในราชวงศ์ไป๋หลี่ พลังที่แข็งแกร่งที่สุด คือระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าผู้แข็งแกร่งวิถีบู๊ในโลกชั้นยอด
ดวงตาของเฝิงจื้อหย่วนแดงก่ำ มองไปยังไป๋หลี่เยี่ยนอย่างอาฆาตแค้น “ข้ารอมานานกว่า 26 ปี ก็เพื่อวันนี้ แล้วท่านคิดจริง ๆ หรือว่า ท่านจะสามารถออกไปจากราชวงศ์เฝิงอย่างมีชีวิตได้ ?”
ฝ่าบาทพูดด้วยความโมโห “ถอยออกมาซะ !”
ไม่ง่ายเลยกว่าไป๋หลี่เยี่ยนจะยอมกลับไป ผลคือเฝิงจื้อหยวนกลับออกมาหาเรื่องอีก
ด้วยระดับพลังไป๋หลี่เยี่ยน หากจะจัดการกับผู้แข็งแกร่งในราชวงศ์เฝิง นอกจากจักรพรรดิเฝิงแล้ว ในที่นี้ก็ไม่มีใครเป็นคู่มือของเขาได้อีก
การกระทำของเฝิงจื้อหย่วน ก็ไม่ต่างจากการฆ่าตัวตาย
เฝิงจื้อเอ้ารีบลุกขึ้น พูดเสียงต่ำลงทันที “น้องสอง ฟังที่ฝ่าบาทพูด แล้วถอยออกมาเถอะ !”
เฝิงจื้อเอ้าที่มองเฝิงจื้อหย่วนเป็นศัตรูมาโดยตลอด ในตอนนี้เขาได้เข้าใจเรื่องทุกอย่างมากขึ้นแล้ว เฝิงจื้อหย่วนไม่ได้ทำเพื่อพลังอำนาจของตนเอง แต่ก็เพื่อจัดการกับไป๋หลี่เยี่ยน
หลังจากรู้เรื่องพวกนี้แล้ว เขาก็มองเฝิงจื้อหย่วนเป็นศัตรูน้องลงมาก
ไป๋หลี่เยี่ยนจ้องไปที่เฝิงจื้อหย่วนและพูดว่า “ข้าไป๋หลี่เยี่ยน อยากจะมาก็มา อยากจะไปก็ไป แล้วเจ้าน่ะ จะมาขวางข้าหรืออย่างไร ?”
สิ้นเสียง แดงกดดันลมปราณอันมหาศาลจากร่างของเขาก็ทะลักออกมา พุ่งเข้าหาเฝิงจื้อหย่วน
เฝิงจื้อหย่วนตาแดงก่ำ ลมปราณวิถีบู๊พุ่งขึ้นสูงขึ้นทันที
“แดนเหนือมมนุษย์ขั้นเจ็ด !”
ทุกคนต่างก็ตกตะลึงกับพลังปราณวิถีบู๊ที่ปะทุออกมา
เฝิงจื้อเอ้าอึ้งกับสิ่งที่เกิดขึ้น “ในที่สุดเจ้าก็ข้ามมาได้ !”
ตั้งแต่เด็กจนโต แดนวิถีบู๊ของเขา มักจะแข็งแกร่งกว่าเฝิงจื้อหย่วนเสมอ
แต่ตอนนี้ ในที่สุดเฝิงจื้อหย่วนก็สามารถข้ามมาถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดได้
เฝิงจื้อเอ้ารับรู้ได้ถึงแรงกดดันอันมหาศาลของเฝิงจื้อหย่วน จึงเป็นไปได้ว่า เขาได้ผ่านแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดแล้ว และเป็นไปได้ว่าอาจจะเร็วกว่าเขาด้วยซ้ำ
เฝิงจื้อหย่วนเพิ่งจะได้แสดงพลังที่แท้จริงของเขาออกมา
สีหน้าของจักรพรรดิเฝิงเองก็ประหลาดใจเช่นกัน
“ถอยออกมา !”
หลังจากตกใจได้ไม่นาน เขาก็พูดออกมาด้วยความโกรธอีกครั้ง
แม้เฝิงจื้อหย่วนจะมาถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดได้ แต่ไป๋หลี่เยี่ยนอยู่ในระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปด ช่องว่างระหว่างขั้นเจ็ดกับขั้นแปดนั้นต่างกันมาก ฝ่าบาทนั้นรู้ดี
ดังนั้น ต่อให้ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ชั้นยอดขั้นเจ็ด เมื่อมาอยู่ต่อหน้าแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปด ก็ยังเป็นแค่มดปลวกอยู่ดี
เพราะระยะห่างระหว่างสองระดับนี้ห่างชั้นกันมาก
อย่างไรก็ตาม แววตาของเฝิงจื้อหย่วนกลับไม่มีท่าทีถอยออกแม้แต่น้อย แต่ยิ่งเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม เขาขบฟันแน่นแล้วพูดว่า “เมื่อ 26 ปีก่อน ก็เป็นสารเลวอย่างเจ้าที่พาตัวภรรยาข้าไป แล้วยังฆ่าข้ากับลูกของนางอีก”
ชาวเหว่คุกเข่าขอร้องอ้อนวอน แต่เจ้าก็ไม่ยอมปล่อยลูกของข้าไป ชาวเหว่พยายามสู้ตายเพื่อหยุดเขา จนกระทั่งมีโอกาสพาตัวเขามาจากราชวงศ์เฝิง
“แต่ไอ้สารเลวอย่างเจ้า กลับฆ่าชาวเหว่ทิ้ง !”
“ตลอด 26 ปีมานี้ข้าไม่รู้ว่าใช้ชีวิตผ่านมาได้อย่างไร แต่เพื่อวันนี้ ข้ายอมเสียสละไปเท่าไหร่มีใครรู้บ้าง !”
ได้ยินคำพูดทั้งหมด หม่าชาวที่ถูกปกป้องอยู่ด้านหลังจักรพรรดิเฝิงก็ถึงกับอึ้ง
เขารู้แล้ว เมื่อ 26 ปีก่อน ทารกที่หายตัวไปวันนั้น ก็คือลูกของเฝิงจื้อหย่วนและไป๋หลี่ชาวเหว่
และ เมื่อสักครู่ที่เฝิงจื้อหย่วนพูดว่า เมื่อ 26 ปีก่อน ไป๋หลี่ชิวเหว่ก็ถูกไป๋หลี่เยี่ยนฆ่าตายไป