The king of War - บทที่ 1614 ฉีเหมินตุ้นเจี่ย
บทที่ 1614 ฉีเหมินตุ้นเจี่ย
คำพูดของหวงจิ้น ยั่วโมโหหยางเฉินถึงขั้นสุดแล้ว ระเบิดหมัดหนึ่งออกมา ต่อยหวงจิ้นถอยหลังไปโดยตรง
หยางเฉินกัดฟันบอกว่า “ในเมื่อคุณวอนหาที่ตาย งั้นผมจะทำให้เป็นจริงเอง!”
พอพูดจบลง กำลังอันบ้าคลั่ง ระเบิดออกจากบนตัวเขา เห็นเพียงในดวงตาเขาเคลือบไปด้วยสีเลือด ขณะเดียวกัน ตรงกลางหน้าผากของเขา มีลายที่เป็นสีเลือดพุ่งออกมาแล้ว
สีหน้าหวงจิ้นเคร่งขรึมอย่างยิ่ง จากบนตัวของหยางเฉิน เขาสัมผัสถึงลักษณะพลังที่ไม่มีทางต้านทานได้ ลักษณะพลังอันนี้ อย่างน้อยเป็นระดับความแกร่งของแดนเหนือมนุษย์ชั้นยอดขั้นเจ็ด
ในสายตาของหวงจิ้น เต็มไปด้วยความหนักแน่นทรหด ไม่ได้ถอยหนีเพราะหยางเฉินแกร่งขึ้นเลยสักนิด
“ฆ่า!”
หยางเฉินตะโกนอย่างโมโห เข้าไปฆ่าทางหวงจิ้นโดยตรง
หวงจิ้นกระโดดขึ้นจากพื้น ออกปะทะสู้รบแบบซึ่งหน้า
“ปึง!”
การโจมตีปะทะเข้าด้วยกัน เห็นเพียงร่างกายของหวงจิ้น กระเด็นถอยไปโดยตรงเจ็ดแปดก้าว กลับมามองที่หยางเฉิน ไม่ถอยแต่กลับบุกเข้า พุ่งเข้าไปหาหวงจิ้นอีกครั้งหนึ่ง
“ปึงๆๆ!”
การโจมตีแต่ละครั้งของหยางเฉินตกลง ทำเอาหวงจิ้นถอยหลังไปเจ็ดแปดก้าว โจมตีลงมานับครั้งไม่ถ้วน ร่างกายของหวงจิ้นกระเด็นถอยไปหลายสิบก้าว มุมปากยังมีเลือดสดไหลออกมา
“ไม่เสียงแรงเป็นผู้ครอบครองสายเลือดคลั่ง แกร่งมากตามคาด ถ้านายมีความสามารถแค่นี้ อยากจะฆ่าฉัน เดิมทีมันไม่พอหรอก!”
หวงจิ้นเช็ดเลือดตรงมุมปากแล้ว ทันใดนั้นหลับตาทั้งสองลง ไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่
หยางเฉินก็ไม่รีบร้อน รอหวงจิ้นอยู่
หลังผ่านไปหลายสิบวินาที หวงจิ้นลืมตาขึ้นฉับพลัน ตาขาวของเขาหายลับไปทั้งหมด เหมือนมีเพียงลูกตาดำ แปลกประหลาดอย่างพูดไม่ถูก
ขณะเดียวกัน ลักษณะพลังวิถีบู๊บนตัวเขาแกร่งขึ้นกว่าเดิม เวลานี้น่าจะมีลักษณะของแดนเหนือมนุษย์ชั้นยอดขั้นเจ็ด
“เฮ้อ!”
เจ้าเมืองแห่งเมืองเหมียวที่กำลังตกปลาอยู่ ถอนหายใจทันใด “นี่นายจำเป็นต้องทำแบบนี้ด้วยเหรอ? น่าเสียดาย! น่าเสียดาย!”
หยางเฉินไม่เข้าใจความหมายในคำพูดประโยคนี้ของเจ้าเมืองเหมียวสักเท่าไร แต่เขารู้ว่า คำพูดนี้พูดกับหวงจิ้น
หวงจิ้นเอ่ยปาก “ไม่มีอะไรน่าเสียดายหรอกครับ สู้กับผู้ครอบครองสายเลือดคลั่งได้สักตั้ง ผมตายไปก็ไม่เสียใจ!”
พูดจบ เขาตะโกนออกมา “ไค ซิว
เซิง ซาง ตู้ จิ่ง จิง สื่อ
แปดประตูเปิดออก!”
หลังจากเขาตะโกนพวกนี้ออกมา ลักษณะพลังอันบ้าคลั่ง ระเบิดออกมาจากในร่างกายเขา
สีหน้าหยางเฉินดูตกใจ เขาสามารถรับรู้ได้ว่า หวงจิ้นในเวลานี้ ความสามารถบรรลุถึงระดับของแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดแล้ว
เขารู้ว่า หวงจิ้นมีเพียงความสามารถของแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ด
ส่วนแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ด เดิมทีก็คือด่านยากด่านหนึ่ง
น้อยคนมากที่อยู่ภายใต้แดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ด แล้วระเบิดความสามารถของแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดออกมาได้
ต่อให้เป็นเขา ภายใต้เงื่อนไขที่อาศัยความช่วยเหลือของสายเลือดคลั่งและตำราเทพสงคราม ยังคงทำได้เพียงรักษาแดนเหนือมนุษย์ชั้นยอดขั้นเจ็ดเท่านั้น ต้องฝืนบังคับระเบิดความสามารถของกึ่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดออกมา
ส่วนตอนนี้ คาดไม่ถึงหวงจิ้นใช้แดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ด ระเบิดความสามารถของแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดออกมาแล้ว
“นายเตรียมพร้อมแล้วใช่ไหม?”
หวงจิ้นเอ่ยปากถามขึ้นกะทันหัน
หยางเฉินไม่กล้าชักช้า ใช้งานตำราเทพสงครามถึงขั้นสุด
สายเลือดคลั่งถูกกระตุ้นในชั่วพริบตา ลายตระกูลที่ตรงกลางหน้าผาก
สะดุดตาเป็นพิเศษ
ลักษณะพลังวิถีบู๊ของกึ่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปด กระจายออกจากบนตัวเขา
หยางเฉินตะโกนว่า “มาเถอะ!”
หวงจิ้นได้รับคำตอบแล้ว ไม่ลังเลอีกแม้แต่น้อย
กระโจมไปทางหยางเฉิน
กระโดดจากพื้นทันใด ร่างกายราวกับสปริง ดีดเด้งออกจากที่เดิม
สีหน้าหยางเฉินเคร่งขรึมไร้ที่เปรียบ ไม่กล้าประมาทแต่อย่างใด พอขยับเท้า ก็พุ่งเข้าไปหาหวงจิ้น
“ตึง!”
แวบเดียว ทั้งสองคนปะทะเข้าด้วยกัน ลักษณะพลังวิถีบู๊อันบ้าคลั่ง ระเบิดออกจากบนตัวของทั้งสองคน
“ตูมๆๆ!”
ก้อนหินส่วนหนึ่งด้านข้างลำธารมังกรแตกเป็นเสี่ยงในชั่วพริบตา
มีเพียงภายในรัศมีห้าเมตรรอบตัวของเจ้าเมืองเหมียว ที่ทุกอย่างอยู่ดีไม่เสียหายใดๆ เหมือนว่าสรรพสิ่งไม่ถูกล่วงล้ำ
เขานั่งนิ่งกับที่ การปะทะที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ยังคงไม่ส่งผลกระทบต่อเขาสักนิด
“ตึงๆๆ!”
การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป
หยางเฉินระเบิดสภาพที่แกร่งสุดของตนเองออกถึงที่สุด แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ก็ยังคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหวงจิ้น
ปะทะกันแต่ละครั้ง หยางเฉินก็โดนหยุดยั้ง
หลังจากระเบิดใส่กันหลายครั้ง มุมปากหยางเฉินมีรอยเลือดไหลออกมา
เขาได้รับบาดเจ็บภายในอย่างคาดไม่ถึง
ส่วนหวงจิ้นก็ไม่ดีไปกว่ากันสักเท่าไร สีหน้าซีดเผือด บนหน้ายังมีแววความเจ็บปวดระดับหนึ่ง เหมือนแบกรับแรงกดดันอันมหาศาลไว้
“สู้!”
หวงจิ้นตะโกนเสียงดัง พุ่งไปหาหยางเฉินอีกครั้ง
หยางเฉินยังไม่ทันฟื้นตัวกลับ ก็ปะทะฝีมือด้วยกันกับหวงจิ้นอีกครั้ง
เพิ่งเริ่มต้น หยางเฉินยังแบกรับแรงกดดันมากมายไว้
ทันใดนั้นหยางเฉินพบว่า นับวันลักษณะพลังวิถีบู๊บนตัวของหวงจิ้นยิ่งอ่อนแอลง
แต่พอทั้งสองสู้รบกันต่อไปเรื่อยๆ
“ปึง!”
หยางเฉินโจมตีลงไปโดยตรง หลังทำให้หวงจิ้นลอยไปได้ เขาถึงสำนึกว่า หวงจิ้นไม่ไหวแล้วจริงๆ
เขามึนงงพอสมควร หวงจิ้นที่เมื่อสักครู่ยังครอบครองความสามารถเทียบเท่ากับแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปด ทำไมในเวลาชั่วพริบตาเดียว ความสามารถวิถีบู๊ถึงลดฮวบ? ปัจจุบันโดนเขาโจมตีทีเดียวลอยไปเลย
หลังจากหวงจิ้นร่วงลงพื้น พ่นเลือดออกมา กลิ่นอายวิถีบู๊บนตัวหายเกลี้ยงทันใด
ส่วนตาขาวและลูกตาดำของหวงจิ้นที่เดิมทีดำมืด เวลานี้ค่อยๆ ฟื้นกลับมาเป็นสีปกติ
“คุณแพ้แล้ว!”
หยางเฉินมองทางหวงจิ้นแบบจากบนลงล่าง ท่าทางหนักหน่วง
แต่ทว่าหวงจิ้นกลับดิ้นรนปีนขึ้นมาจากบนพื้น มองทางหยางเฉินก่อนจะพูดว่า “ฉันยังลุกขึ้นยืนได้ ไม่ได้แพ้! ฉันบอกแล้วไง นอกจากนายฆ่าฉันตาย ไม่อย่างนั้น ขอแค่ฉันยังมีแรงสู้อีก จะพัวพันกับนายต่อไปไม่เลิก!”
หยางเฉินไม่เข้าใจว่าทำไมหวงจิ้นถึงยืนหยัดเช่นนี้ แค่เขาเข้าใจว่า ด้วยสภาพในปัจจุบันของหวงจิ้น กลัวว่าแม้แต่การโจมตีทีเดียวของเขาล้วนไม่มีทางรับไหว
หวงจิ้นยังไม่ได้เดินไปตรงหน้าหยางเฉิน พอเท้าซวนเซ ก็ล้มหมอบอยู่บนพื้นด้านหน้า หน้าคะมำลงพื้น ชั่วขณะนั้นเลือดสดอาบเต็มหน้า
แต่ทว่าหวงจิ้นยังไม่ยอมเลิกรา พยายามดิ้นรนปีนขึ้นมาจากบนพื้นแล้ว กัดฟันแน่นพูดว่า “หยางเฉิน มา สู้ต่อ!”
หยางเฉินไม่ได้ขยับ และไม่มีความยินดีของผู้ชนะแต่อย่างใด ในใจหนักหน่วงอย่างยิ่ง เขาไม่เข้าใจว่าทำไมหวงจิ้นถึงต้องยืนหยัดขนาดนี้
หยางเฉินพูดจาด้วยเสียงเย็นชา “ผมจะไม่ฆ่าคุณ! ตอนที่คุณมีความสามารถฆ่าผมได้ชัดๆ กลับไม่ฆ่าผม ถือว่าพวกเราเสมอกันแล้ว ต่อไปถ้าคุณกล้าหาเรื่องอีก ผมจะไม่ปล่อยคุณไปเด็ดขาด!”
“ฉันยังไม่ได้ล้มลง! ฉันยังสู้ต่อไปได้อีก!”
หวงจิ้นพูดจาแบบกัดฟันแน่น แม้แต่เดินเหินยังยากมาก ยังจะมีแรงสู้อีกได้อย่างไรกัน?
หยางเฉินไม่ได้พูดจาอีก มองทางหวงจิ้นที่เดินมาหาตนเองทีละก้าวอยู่ตลอด
ตามองเห็นหวงจิ้นกำลังจะเดินมาถึงด้านหน้าตนเองแล้ว เขาก็เดินซวนเซ ล้มลงบนพื้นโดยตรง
ครั้งนี้ เขาไม่ได้ปีนขึ้นมาอีก แต่ว่าหมดสติไปถึงที่สุดแล้ว
“เฮ้อ!”
เจ้าเมืองเหมียวถอนหายใจยาวๆ ในที่สุดก็ลุกขึ้น มองทางหวงจิ้นที่ล้มบนพื้นแล้วพูดว่า “น่าเสียดาย! ภายในอายุห้าสิบปี ก้าวสู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดได้ ต่อให้เป็นตระกูลบู๊โบราณ ล้วนถือว่าเป็นบูโดอัจฉริยะได้เลย”
“เพียงแค่ ดื้อดึงเกินไป ทั้งที่รู้ว่าตัวเองใช่คู่ต่อสู้ของนาย ยังจะยืนหยัดสู้เอาเป็นเอาตายกับนาย ฉีเหมินตุ้นเจี่ยแปดประตูเปิดออก การฝึกฝนวิถีบู๊ทั้งชีวิตก็พังแล้ว”
ฟังคำพูดของเจ้าเมืองเหมียว หยางเฉินท่าทางตกใจ “ท่านหมายความว่า การฝึกฝนของหวงจิ้น พังแล้ว?”
เจ้าเมืองเหมียวพยักหน้า “วิชาฉีเหมินตุ้นเจี่ยที่เขาฝึกฝน อาศัยแดนวิถีบู๊ของเขาในตอนนี้ ทำได้เพียงเปิดหกประตูจากในแปดประตู แต่ว่าเขาบังคับเปิดออกแปดประตูแล้ว ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ถ้าเกิดแปดประตูเปิดออกหมด มีแค่ผลลัพธ์อย่างเดียว นั่นคือวิถีบู๊พังหมด!”