The king of War - บทที่ 1688 ส่งตัวหยางเฉินออกมา
บทที่ 1688 ส่งตัวหยางเฉินออกมา
ภายใต้การต้อนรับของเจ้าเมืองมู่ ไม่นานพวกหยางเฉินก็ได้นั่งลง
ทุกคนเพิ่งนั่งลง ก็มีหญิงสาวสวยงามหลายคนมาเทน้ำชาบริการให้
มารยาทของจวนมู่นั้นละเอียดมาก
หยางเฉินนิ่งสงบอย่างมาก
หากพวกเขาต้องการจะจากไป แทบจะไม่มีความหวังเลย
ในเมื่อมาแล้วก็ต้องสงบจิตไว้ เหมือนดั่งที่มู่ฮว๋าพูด
ในเมื่อเช่นนี้ หากมาที่จวนมู่ บางทีอาจจะพอมีความหวังบ้าง
หยางเฉินเอ่ยปากพูดว่า “ไม่ทราบว่าเจ้าเมืองมู่เชิญพวกผมมานั้นมีธุระอะไรงั้นหรือครับ?”
ก่อนหน้านี้ที่มู่ฮว๋าขวางพวกเขาไว้ก็ได้พูดแล้วว่า ให้พวกเขามาจวนมู่เพื่อหลบซ่อนให้สถานการณ์ดีขึ้นก่อน เมื่อสถานการณ์ดีขึ้นแล้ว ค่อยให้พวกเขาจากไป
แต่ว่าหยางเฉินรู้ดี ว่าจวนมู่ไม่มีทางที่คิดแค่อยากจะช่วยเหลือพวกเขาเฉยๆ แล้วกล้าเสี่ยงรั้งพวกเขาไว้ที่จวนมู่ชั่วคราว
เมื่อได้ฟังคำพูดของหยางเฉินแล้ว
เจ้าเมืองมู่ยิ้ม มองไปที่หยางเฉินแล้วพูดว่า “ในเมื่อน้องหยางเอ่ยปากถามมาตามตรงอย่างนี้แล้ว
อย่างนั้นฉันก็พูดตามตรงเลยละกัน”
เงียบสักพัก เจ้าเมืองมู่ก็เอ่ยปากพูดว่า
“ฉันได้ยินมาว่า ข้างกายของน้องหยางมีน้องหมอวิเศษที่เก่งวิชาแพทย์อย่างมากคนหนึ่ง?
นามว่าเฝิงเสียวหว่าน?”
หยางเฉินระแวดระวังขึ้นมาทันที สายตาจับจ้องเจ้าเมืองมู่ แล้วเอ่ยปากพูดว่า “เธอเป็นน้องสาวของผม!”
ประโยคเดียว แสดงออกถึงความคิดของเขาชัดเจน
เมื่อรู้สึกได้ถึงความเป็นศัตรูของหยางเฉิน
“น้องหยางอย่าได้เข้าใจผิด ฉันไม่ได้มีความคิดร้ายใดๆต่อน้องสาวนาย แต่แค่อยากจะเชิญเธอมารักษาให้กับฉันเท่านั้น”
เจ้าเมืองมู่เองก็ไม่ได้ถือสา พูดยิ้มๆว่า
“ไม่ปิดบังพวกนายเลย หลายปีก่อน
ฉันต่อสู้กับผู้อื่น ประมาทอีกฝ่าย ทำให้ถูกจัดการขาทั้งสองข้าง หลายปีมานี้
ฉันหาหมอผู้มีชื่อเสียงทั่วโลก ล้วนไม่สามารถรักษาขาของฉันให้หายได้”
“ได้ยินมาว่าวิชาการแพทย์ของน้องสาวนายเก่งกาจไม่มีใครเทียบได้
ดังนั้นฉันจึงอยากจะเชิญให้น้องสาวนายมารักษาขาทั้งสองข้างให้กับฉัน น้องหยางก็ถือเป็นผู้มีพระคุณของมู่เจียงซานคนนี้
ต่อไปหากมีอะไรที่ต้องการให้ฉันช่วยเหลือ ก็สามารถพูดมาได้เลย ฉันจะไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน”
เมื่อฟังคำพูดของเจ้าเมืองมู่แล้ว หยางเฉินถึงได้รู้เจตนาของอีกฝ่าย
เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายได้ตรวจสอบตัวเขามาแล้ว ไม่อย่างนั้นก็คงไม่รู้ว่าข้างกายของเขามีเฝิงเสียวหว่านที่เก่งวิชาแพทย์อย่างมาก”
ในเวลานี้
มู่ฮว๋าที่ยืนอยู่ด้านหลังเจ้าเมืองมู่ เอ่ยปากพูดว่า “เพียงแค่คุณหยางตอบตกลง พวกเราสามารถรับประกันกับคุณได้ว่า ถึงแม้จะเป็นเจ้าเมืองหวยเฉิงมาด้วยตัวเอง
ก็ไม่สามารถพาตัวของคุณไปได้”
ในคำพูดของมู่ฮว๋า เต็มไปด้วยความมั่นใจ
หยางเฉินมีความตกใจเล็กน้อย ดูแล้วตระกูลมู่แห่งนี้จะไม่ธรรมดา ไม่อย่างนั้นก็คงไม่พูดคำพูดเช่นนี้ออกมา
หยางเฉินเงียบไปสักพัก แล้วเอ่ยปากพูดว่า
พวกนายต้องรับประกันความปลอดภัยของน้องสาวฉัน”
“ฉันตอบตกลงพวกนายได้ แต่ว่า
ในตอนนี้ รอบกายของเขาเต็มไปด้วยความอันตราย ถ้าหากต้องทำให้เฝิงเสียวหว่านเดือดร้อนเพียงเพราะรักษาให้กับเจ้าเมืองมู่ อย่างนั้นทุกอย่างก็ไม่คุ้มกับการสูญเสีย
เจ้าเมืองมู่ยิ้มเล็กน้อย
ฉันก็ต้องมีความมั่นใจของฉันแน่นอน หากว่าเจ้าเมืองหวยเฉิงมาที่จวนมู่ของฉันด้วยตัวเองจริงๆ ก็ไม่มีทางกล้าทำตัวกำเริบเสิบสาน!”
“น้องหยางสบายใจได้ ในเมื่อฉันกล้าพูดอย่างนี้แล้ว
หยางเฉินเหลือบมองเจ้าเมืองมู่อย่างลึกซึ้ง
แต่ว่า ต้องรออีกหลายวัน ไม่ทราบว่าได้หรือไม่?”
แล้วเอ่ยปากพูดว่า “ฉันสามารถให้น้องสาวฉันมาได้
เจ้าเมืองมู่พยักหน้าเล็กน้อย “ได้
ตามที่นายว่า ให้เวลานายอีกสามวัน
เป็นยังไง?”
หยางเฉินพยักหน้า “ตกลง!”
เจ้าเมืองมู่ยิ้มอ่อน แล้วออกคำสั่งกับมู่ฮว๋าว่า
“มู่ฮว๋า หลายวันนี้ น้องหยางและผองเพื่อนของเขาก็มอบหมายให้นายดูแลแล้วกันนะ
อย่าได้เสียมารยาทต่อแขกสำคัญละ”
มู่ฮว๋าพยักหน้า พูดว่า “ท่านเจ้าเมืองวางใจได้ครับ ผมจะไม่เสียมารยาทต่อแขกสำคัญแน่นอนครับ”
เจ้าเมืองมู่พยักหน้า “นายไปจัดเตรียมที่พักของพวกน้องหยางเขาก่อน”
“ครับ!”
มู่ฮว๋าพยักหน้า แล้วก็พาพวกหยางเฉินเขาจากไป
ทุกคนเพิ่งจากไป ผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งที่สวมใส่เสื้อเพ้าสีดำปกคลุมไปทั้งตัวก็เดินออกมา
ผู้แข็งแกร่งเพ้าดำถามเสียงเข้มว่า “ท่านเจ้าเมืองครับ คุณคิดจะเป็นศัตรูกับเจ้าเมืองหวยเฉิงเพราะเจ้าหนุ่มคนนี้จริงๆงั้นหรือครับ?”
เจ้าเมืองมู่ยิ้มเล็กน้อย
เอ่ยปากพูดว่า “ทำไม?
นายคิดว่า หยางเฉินไม่มีค่าพอให้ฉันทำแบบนี้ด้วยงั้นหรอ?”
ผู้แข็งแกร่งเพ้าดำพูดว่า “จวนเจ้าเมืองหวยเฉิงกำลังแข็งแกร่ง ได้ยินมาว่าแม้แต่หุบเขาราชายา
ก็ได้ถูกเขาจัดการไปแล้ว ราชายาในตอนนี้ ก็ได้กลายเป็นนักโทษภายใต้ของเขา เห็นได้ชัดว่า
เจ้าเมืองหวยเฉิงคาดการณ์ไม่ได้นะครับ”
“ในเวลาแบบนี้ พวกเรารับตัวพวกหยางเฉินมาที่จวนมู่ของเรา ถ้าหากถูกเจ้าเมืองหวยเฉิงรู้เข้า เขาไม่มีทางปล่อยไปอย่างง่ายดายแน่นอนครับ”
เจ้าเมืองมู่ยิ้มเยาะ
เบื้องลึกในสายตา มีความคมเข้มแวบเข้ามา และหรี่ตาพูดว่า “ถ้าหากว่าเจ้าเมืองหวยเฉิงกล้ามาหยิ่งผยองในจวนมู่ของฉันจริงๆ
ฉันจะทำให้มันมาแล้วไม่ได้กลับ!”
พูดจบ เขาก็ออกคำสั่งว่า “ย้ายทีมพิทักษ์เงาเพชฌฆาตมาที่จวนมู่ แล้วเตรียมตัวรับมืออยู่ตลอดเวลาด้วย”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้แข็งแกร่งเพ้าดำก็ตกตะลึง “ท่านเจ้าเมืองครับ คุณคิดจะทำสงครามกับเจ้าเมืองหวยเฉิงงั้นหรือครับ?”
เจ้าเมืองมู่พูดด้วยสีหน้านิ่งเฉยว่า “อย่างนั้นก็ต้องดูว่าเจ้าเมืองหวยเฉิงคิดยังไงแล้วละ
ฉันก็จะให้เขาได้รู้ ว่าจวนมู่ของฉันไม่ได้รังแกใส่กันได้ง่ายๆ”
ถ้าหากเขาจะสู้
ผู้แข็งแกร่งเพ้าดำพยักหน้า ในสายตามีความเคร่งขรึมมากขึ้น
เอ่ยปากพูดว่า “ผมก็ยังคิดว่า การให้ที่หลบภัยหยางเฉิน ไม่ใช่เรื่องที่ดี ในตอนนี้ผู้มีอำนาจระดับต้นภายในเมืองซ่านเฉิงของเรา โดยเฉพาะตระกูลติง ไม่ซื่อสัตย์เลยสักนิดครับ หน้าไหวหลังลอกต่อจวนมู่ของเรา ถ้าหากเราทำสงครามกับจวนเมืองหวยเฉิง
คาดว่าพวกมีอำนาจพวกนี้จะแทงข้างหลังเรานะครับ”
เจ้าเมืองมู่มองไปยังผู้แข็งแกร่งเพ้าดำ เอ่ยปากพูดว่า
“นายตามติดฉันมานานหลายปีขนาดนี้แล้ว น่าจะรู้ว่าฉันเป็นคนยังไง นายคิดว่า
ฉันจะปล่อยให้เรื่องอย่างนั้นมันเกิดขึ้นงั้นหรอ?”
ผู้แข็งแกร่งเพ้าดำรีบส่ายหน้า สัมผัสได้ว่าในน้ำเสียงคำพูดของเจ้าเมืองมู่มีความโมโหแฝงอยู่ด้วย
เขาก็หวาดกลัวขึ้นมาทันที “พรุ่บ” คุกเข่าลงกับพื้น
“ท่านเจ้าเมืองครับ ผมผิดไปแล้วครับ!”
เจ้าเมืองมู่โบกมือ ทันใดนั้นกำลังมหาศาลก็ได้ดึงตัวของผู้แข็งแกร่งเพ้าดำขึ้นจากพื้น
วินาทีนี้
ภายในแววตาของผู้แข็งแกร่งเพ้าดำเต็มไปด้วยความตกตะลึง มองไปยังเจ้าเมืองมู่แล้วถามอย่างตื่นเต้นว่า “ท่านเจ้าเมืองครับ
พลังของคุณ ฟื้นฟูแล้วหรือครับ?”
เขาสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจน เมื่อครู่ที่เจ้าเมืองมู่โบกมือ มีกำลังที่นุ่มนวลมากอย่างหนึ่งดึงเขาขึ้นจากพื้น นี่คือพลังแห่งธาตุ
เจ้าเมืองมู่ส่ายหัว พูดว่า “ถ้าหากว่าน้องหมอวิเศษคนนั้น
สามารถรักษาของฉันให้หายได้ พลังของฉันก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ถึงตอนนั้น ถึงแม้เจ้าเมืองหวยเฉิงจะมาด้วยตัวเอง ถ้าหากฉันต้องการให้เขาตาย เขาก็ต้องตาย!”
ฟังคำพูดของเจ้าเมืองมู่ผู้แข็งแกร่งเพ้าดำถึงคิดได้ว่า ทำไมเจ้าเมืองมู่ต้องปกป้องหยางเฉินแล้ว เพราะหากสองขาของเขาได้รับการรักษาแล้ว ยังจะมีใครทำอะไรเจ้าเมืองมู่ได้อีก?
เหมือนว่าเจ้าเมืองมู่จะเดาความคิดของผู้แข็งแกร่งเพ้าดำออก จึงเอ่ยปากพูดว่า
“นายคงจะคิดว่า ที่ฉันปกป้องหยางเฉิน
ก็เพื่อรักษาสองขาของฉัน ใช่มั้ย?”
ผู้แข็งแกร่งเพ้าดำพยักหน้า ถามว่า “หรือว่า ท่านเจ้าเมืองยังมีเจตนาอย่างอื่นอีกหรือครับ?”
เจ้าเมืองมู่หัวเราะออกมา
“เจ้าเมืองหวยเฉิงเสียแรงมากมายขนาดนี้เพื่อไล่ฆ่าหยางเฉิน แต่ล้วนไม่สำเร็จ แล้วยังมีติงชางที่ต้องการฆ่าหยางเฉิน
ก็ทำไม่สำเร็จเช่นกัน นายคิดว่า ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเขาโชคดีงั้นหรอ?”
ผู้แข็งแกร่งเพ้าดำรีบส่ายหัว แล้วเขาก็กระจ่างแจ้งขึ้นมาในทันที “ผมเข้าใจแล้ว
ท่านเจ้าเมืองคุณเห็นความสำคัญต่อตัวหยางเฉิน อายุไม่ถึงสามสิบก็แข็งแกร่งมากเพียงนี้ พรสวรรค์ด้านบูโดเช่นนี้ กวาดมองดูทั่วทั้งแผ่นดินใหญ่
ก็พบได้น้อยมาก”
เจ้าเมืองมู่พยักหน้าเล็กน้อย พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “คนนี้ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน
เบื้องหลังจะต้องมีผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งอย่างมากอยู่แน่นอน เพียงแต่ตอนนี้เขายังไม่ถึงทางตัน ดังนั้นผู้พิทักษ์จึงไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน”
คนเช่นนี้
“ถ้าหากว่าเจ้าเมืองหวยเฉิงจะฆ่าเขา ผู้พิทักษ์ของเขา จะต้องปรากฏตัวออกมาแน่นอน!”
ได้ยินเช่นนั้น ผู้แข็งแกร่งเพ้าดำมีสีหน้าตกตะลึง ในสายตาเต็มไปด้วยความหนักใจ
เขาต้องเคยได้ยินมาก่อนอยู่แล้ว ปีศาจของตระกูลระดับต้น เบื้องหลังล้วนมีผู้พิทักษ์ที่มีกำลังแข็งแกร่งอย่างมากคอยตามติดอยู่ เพื่อรับประกันว่าในขณะเดียวกันกับที่อีกฝ่ายได้รับการฝึกฝนประสบการณ์นั้นยังมีชีวิตรอดอยู่
ในเวลานี้เอง จู่ๆมู่ฮว๋าก็มาที่ห้อง มองไปยังเจ้าเมืองมู่
“ท่านเจ้าเมืองครับ คนของจวนเมืองหวยเฉิง มาแล้วครับ!”
พูดด้วยสีหน้าหนักใจว่า
เมื่อได้ยินเช่นนั้น คิ้วของเจ้าเมืองมู่ก็ขมวดเข้าด้วยกัน มองไปยังมู่ฮว๋าแล้วพูดว่า “ให้พวกเขาเข้ามา!”
มู่ฮว๋าหันหลังเดินจากไป
ไม่รู้ว่าเวลาไหน ผู้แข็งแกร่งเพ้าดำเองก็ได้หายตัวไปแล้ว ภายในห้อง เหลือเพียงแค่เจ้าเมืองมู่คนเดียว
ในแววตาของเขามีความคมเข้มแวบเข้ามา แล้วหรี่ตาพูดว่า
“ดูแล้ว เจ้าเมืองหวยเฉิงจะมีใจอยากฆ่าเจ้าคนนี้อย่างหนักมากทีเดียว
ถึงได้มายังจวนมู่ของฉันรวดเร็วขนาดนี้”
ในเวลานี้ มู่ฮว๋านำพาชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง
“เจ้าเมืองมู่ กระผมหวยเจิ่น มาทำความเคารพเจ้าเมืองมู่ครับ!”
ชายวัยกลางคนเอ่ยปากพูด แม้ว่าคำพูดจะสะสวย แต่ภายในสายตา กลับมีความหยิ่งทะนงแฝงอยู่ด้วย
เหมือนกับว่าต่อหน้าของเขา แม้แต่เจ้าเมืองมู่ ก็ไม่สามารถเข้าสายตาเขาได้
เจ้าเมืองมู่มองอีกฝ่ายด้วยความนิ่งเฉย แล้วเอ่ยปากถามว่า “มาหาฉันมีธุระอะไร?”
หวยเจิ่นเอ่ยปากพูด “ผมหวังว่า เจ้าเมืองมู่จะส่งตัวหยางเฉินออกมาครับ!”