The king of War - บทที่ 1691 แรงกดดันหนักมาก
บทที่ 1691 แรงกดดันหนักมาก
ติงชางนิ่งอึ้งไปอยู่นานสักพักก็ได้สติ ในแววตาของเขาเองก็มีความคะนองเพิ่มเข้ามา
ไม่ว่าจะสำหรับตระกูลไหนก็ตาม หากได้มีอาวุธของอาถรรพ์ไว้ในครอบครอง ล้วนสามารถเปลี่ยนแปลงดวงชะตาของตระกูลนั้นได้
อย่างเช่นหยางเฉิน มีพลังเพียงแค่ระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดชั้นยอด แต่กลับมีของอาถรรพ์ไว้ในครอบครอง กำลังการต่อสู้จึงสามารถเทียบได้กับระดับการป้องกันของผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้น
ถ้าหากว่า ในมือของติงอู่เองก็มีอาวุธเช่นนี้สักชิ้นเหมือนกันละ?
ตามกำลังของติงอู่ที่อยู่ในระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลาง แล้วบวกกับมีดพกอาถรรพ์อีกเล่ม ถึงแม้จะเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดเขาก็กล้าต่อสู้ด้วย
แต่ว่าไม่นาน ความคะนองในแววตาของติงชางก็หายไป
เขามองติงอู่แล้วพูดว่า “พี่ใหญ่ครับ ที่จวนเมืองหวยเฉิงไล่ฆ่ายหยางเฉิน จะต้องเป็นเพราะมุ่งเป้ามาที่ดาบเล่มนี้แน่นอน แล้วพวกเราจะแย่งกับจวนเมืองหวยเฉิงไหวได้ยังไงกันครับ?”
ติงอู่ส่ายหัว “จวนเมืองหวยเฉิงไม่รู้เรื่องที่ในมือหยางเฉินมีของอาถรรพ์”
ติงชางถามอย่างไม่เข้าใจว่า “ไม่รู้? จะเป็นไปได้ยังไงครับ? ถ้าหากไม่ใช่เพราะรู้ว่าในมือของหยางเฉินมีของอาถรรพ์ แล้วจะยอมมาเสียแรงมากมายขนาดนี้เพื่อฆ่าหยางเฉินหรอครับ?”
ติงอู่พูดว่า “ก่อนหน้านี้ที่หวยเจิ่นมาบ้านตระกูลติง มาหานาย ก็เพราะไม่รู้ว่าระหว่างนายกับหยางเฉินเกิดเรื่องอะไรขึ้น เขาคิดว่า พลังของนายสามารถเทียบได้กับผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้น ส่วนผู้แข็งแกร่งข้างกายของหยางเฉินคนนั้น ได้ถูกเจ้าเมืองหวยเฉิงทำร้ายบาดเจ็บสาหัสมาก่อนแล้วดังนั้นเพียงแค่คนสองคนที่บาดเจ็บสาหัส ไม่มีทางจะสู้นายได้”
“ดังนั้นที่เขามาหานาย ก็เพราะอยากจะรู้เรื่องนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่รู้เรื่องที่หยางเฉินมีมีดพกอาถรรพ์ ถ้าหากว่ารู้ จวนเมืองหวยเฉิงคงไม่ตั้งเงินรางวัลหมื่นล้าน เพื่อดึงดูดให้ผู้มีอำนาจแต่ละทิศมาไล่ฆ่าหยางเฉิน แต่เจ้าเมืองหวยเฉิงคงจะลงมือไล่ฆ่าเองไปแล้วแน่นอน”
“พลังในระดับขั้นอย่างเจ้าเมืองหวยเฉิง ถ้าหากว่ามีของอาถรรพ์สักชิ้นในมือ มองหาไปทั่วจิ่วโจว แล้วยังมีใครที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้อีก?”
เมื่อฟังคำพูดของติงอู่แล้ว ติงชางก็กระจ่างแจ้งในทันที เอ่ยปากพูดว่า “อย่างนี้แล้ว คนที่รู้ว่าในมือของหยางเฉินมีของอาถรรพ์ ก็มีแค่พวกเรา?”
ติงอู่พยักหน้า “น่าจะเป็นเช่นนี้ ไม่อย่างนั้น เขาคงโดนผู้มีอำนาจแต่ละทิศไล่ฆ่าไปนานแล้ว”
ความกังวลในแววตาของติงชางไม่ได้ลดน้อยลง เอ่ยปากพูดว่า “พี่ใหญ่ครับ ถึงแม้จะมีเพียงแค่เราที่รู้ว่าในมือของหยางเฉินมีมีดพกอาถรรพ์ แล้วเราจะมั่นใจได้ยังไง ว่าเบื้องหลังของเขาไม่มีผู้มีอำนาจที่ยิ่งใหญ่?”
“ปีศาจอัจฉริยะบูโดอย่างเขาแบบนี้ เบื้องหลังต้องมีผู้มีอำนาจระดับต้นอยู่แล้ว อีกอย่างผู้พิทักษ์ของเขา ก็ต้องเป็นยอดฝีมือที่มีพลังเก่งกาจอย่างมากแน่นอน”
ติงอู่พูดเสียงทุ้มว่า “แล้วถ้าหากว่าไม่มีละ?”
ติงชางเงียบในทันที มีความเป็นไปได้เช่นนี้อยู่จริงๆ ถึงแม้ว่าความเป็นไปได้จะน้อยมาก แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้เช่นนี้อยู่จริง
ติงอู่พูดว่า “กล้าเสี่ยงถึงจะมีโอกาส ตระกูลติงของเราเงียบสงบมานานมากแล้ว ถึงเวลาที่ควรจะมีการเคลื่อนไหวแล้ว แรงดึงดูดของดาบเล่มนี้มันสูงมากเกินไปและในเมื่อตอนนี้มีเพียงแค่เราที่รู้ อย่างนั้นก็หาทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้ดาบเล่มนี้มาอยู่ในมือซะ”
“พลังของฉันอยู่ในระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางมานานหลายปีแล้ว ถ้าหากสามารถได้มีดพกอาถรรพ์เล่มนี้มาอยู่ในมือ ฉันมีความมั่นใจว่าสามารถทำให้ตัวเองทะลุเป้าระดับแดนบูโดไปถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลายได้ ถ้าหากว่าฉันทะลุไปได้ถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลายได้ แล้วบวกกับมีดพกอาถรรพ์ ไม่พูดถึงมองไปทั่วจิ่วโจว เพียงแค่ในเมืองซ่านเฉิงแห่งนี้ ยังมีใครจะสามารถทำอะไรฉันได้อีก? ถึงแม้จะเป็นจวนมู่ ก็ทำอะไรไม่ได้!”
เมื่อเห็นว่าติงอู่พูดเช่นนี้แล้ว สองมือของติงชางเองก็กำหมัดเข้าด้วยกันแน่น ในแววตาเต็มไปด้วยความคะนอง แล้วเอ่ยปากพูดว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ อย่างนั้นพวกเราก็มุ่งมั่นพยายามตามหาตัวหยางเฉินกัน?“
ติงอู่ยิ้ม เอ่ยปากพูดว่า “ไม่ใช่พวกเรา แต่ให้พวกเราร่วมมือกับจวนเมืองหวยเฉิง”
มองดูรอยยิ้มบนใบหน้าของติงอู่แล้ว ติงชางก็กระจ่างแจ้งในทันที พูดยิ้มๆว่า “ผมเข้าใจแล้ว พี่ใหญ่คิดอยากจะใช้กำลังของจวนเมืองหวยเฉิง ให้ได้ตัวหยางเฉินมาอยู่ในมือก่อน ส่วนจวนเมืองหวยเฉิงไม่รู้เรื่องที่ในมือหยางเฉินมีมีดพกอาถรรพ์ เพียงแค่พวกเราได้ช่วงเวลาที่จะเผชิญหน้ากับหยางเฉินเป็นการส่วนตัว ก็จะมีโอกาสอย่างมากในการได้มีดพกอาถรรพ์เล่มนั้นมา”
“เพียงแค่พวกเราจัดการได้อย่างลึกลับมากพอ ถึงแม้เบื้องหลังหยางเฉินจะมีผู้มีอำนาจที่ยิ่งใหญ่มาก ถึงแม้ว่าเบื้องหลังเขาจะมีผู้พิทักษ์อยู่ แต่ในตอนนั้น จวนเมืองหวยเฉิงก็ต้องแบกรับอารมณ์โกรธของอีกฝ่ายแน่นอน ส่วนพวกเรา ถึงแม้จะได้รับผลกระทบด้วย แต่ถ้าเทียบกับการได้ของอาถรรพ์มา ผลกระทบแค่นี้ ไม่ถือว่าหนักหนา”
ติงอู่พยักหน้า แล้วพูดกับทางด้านนอกว่า “ติดต่อกับหวยเจิ่น บอกไปว่า ฉันมีเรื่องสำคัญจะปรึกษากับเขา!”
“ครับ ท่านผู้นำ!”
มีคนไปติดต่อกับหวยเจิ่นในทันที
เมืองซ่านเฉิง จวนมู่
ภายในคฤหาสน์หรูหลังเดี่ยวแห่งหนึ่ง เจ้าเมืองมู่นั่งอยู่บนรถเข็น ในมือถือหนังสือคัมภีร์ไบเบิลเล่มหนึ่งอ่านอยู่ ในเวลานี้ ผู้แข็งแกร่งเพ้าดำคนหนึ่ง จู่ๆก็เดินเข้ามา
“ท่านผู้นำครับ ประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อน หวยเจิ่นนายน้อยของเมืองหวยเฉิงไปที่บ้านตระกูลติง แต่ไม่นานก็ออกมาจากตระกูลติงแล้ว แต่เมื่อกี้นี้เอง ตระกูลติงก็ได้เชิญหวยเจิ่นไปก่อน บอกว่ามีเรื่องสำคัญจะหารือครับ”
ผู้แข็งแกร่งเพ้ดำเอ่ยปากพูด
เจ้าเมืองมู่วางคัมภีร์ไบเบิลลง ในแววตามีความคมเข้มปรากฏขึ้น หรี่ตาพูดว่า “ตระกูลติง คิดที่จะร่วมมือกับจวนเมืองหวยเฉิงแล้วงั้นหรอ?”
ผู้แข็งแกร่งเพ้าดำส่ายหัว “ขณะนี้ยังไม่ทราบครับ แต่ที่สามารถมั่นใจได้ก็คือ ถ้าหากพวกเขารู้ว่าหยางเฉินอยู่ในจวนมู่ของเรา จะต้องร่วมมือกันสร้างความกดดันให้กับจวนมู่ของเราแน่นอนครับ”
เจ้าเมืองมู่ไม่ได้พูดจา แต่ผู้แข็งแกร่งเพ้าดำสามารถรู้สึกถึงความโมโหที่มาจากเจ้าเมืองมู่
เวลาผ่านไปทุกนาที ทั่วทั้งห้อง ทั่วทั้งห้องมีพลังอย่างหนึ่งแผ่กระจายเต็มไปหมดอยู่ห้านาทีเต็ม แล้วเจ้าเมืองมู่ถึงได้เอ่ยปากพูดว่า “สั่งให้ทีมพิทักษ์เงาเพชฌฆาตเตรียมตัวให้พร้อม ถ้าหากตระกูลติงกล้าทำอะไรบุ่มบ่าม ก็ให้ทำลายล้างตระกูลติงก่อนเลย!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้แข็งแกร่งเพ้าดำตกตะลึง แต่ก็ไม่กล้าไปสะกิดอารมณ์โกรธของเจ้าเมืองมู่ จึงรีบตอบรับว่า “ครับ!”
เมื่อผู้แข็งแกร่งเพ้าดำจากไปแล้ว เจ้าเมืองมู่ก็หรี่ตาลงพูดว่า “ดูแล้ว ฉันคงจะเมตตามากเกินไป ดังนั้นจึงทำให้บางคนในเมืองซ่านเฉิงลืมไปแล้วว่า ฉันชื่อเสียงฉายาของฉันเคยเป็น ‘เจ้าเมืองโหดเหี้ยม’ มาก่อน”
ในเวลานี้ หยางเฉินผู้ที่เป็นตัวการหลักของเหตุการณ์ครั้งนี้ อยู่ในคฤหาสน์หรูของจวนมู่กับเหล่าจิ่วและหวยหลัน
มู่ฮว๋าเองก็อยู่ มองไปทางหยางเฉิน พูดด้วยสีหน้าขมขื่นว่า “คุณหยางครับ ความจริงใจจากจวนมู่ของเราคุณก็ได้เห็นแล้ว หวังว่าคุณจะรีบนำพาน้องหมอวิเศษมารักษาให้กับท่านเจ้าเมืองนะครับ”
หยางเฉินเอ่ยปากพูดว่า “ท่านมู่ ไม่ใช่ว่าผมไม่ยินดีทำ แต่ว่าในตอนนี้น้องสาวของผมยังมาไม่ได้ ถึงแม้เธอจะมา แต่ยังไงก็ต้องจัดการเรื่องในมือให้เสร็จเสียก่อน ในเมื่อผมตอบตกลงเจ้าเมืองมู่ไปแล้ว หลังจากนี้สามวัน สั่งให้น้องสาวของผมมา ก็จะไม่มีทางผิดคำพูดแน่นอนครับ”
มู่ฮว๋ายิ้มขมขื่น “คุณหยางครับ คุณคงจะยังไม่รู้ เจ้าเมืองของพวกเรา ได้ช่วยคุณขัดขวางปัญหาไว้มากมายขนาดไหนแล้ว”
“ฮืม?”
หยางเฉินพูดว่า “ผู้แข็งแกร่งของจวนเมืองหวยเฉิง มาที่เมืองซ่านเฉิงแล้ว?”
มู่ฮว๋าพยักหน้า “เมื่อสามชั่วโมงก่อน หวยเจิ่นนายน้อยของเมืองหวยเฉิง มาที่จวนมู่ด้วยตัวเอง ต้องการให้ท่านเจ้าเมืองส่งตัวคุณออกไป แต่ว่าได้ถูกท่านเจ้าเมืองปฏิเสธไปครับ”
“และเมื่อกี้นี้ พวกเราได้ข่าวสารมาว่า หวยเจิ่นก็ไปที่บ้านตระกูลติง คุณหยาง พวกคุณเคยได้ต่อสู้กับติงชางมาก่อนแล้ว พี่ชายของติงชางนามว่าติงอู่ คือผู้นำตระกูลติง มีพลังระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลาง”
“ถ้าหากว่าหวยเจิ่นกับติงอู่หารือตกลงกันเรียบร้อยแล้ว จะต้องทำการกดดันมาที่จวนมู่ของเราแน่นอน ถึงตอนนั้นแล้วแรงกดดันของจวนมู่คงจะหนักมาก ถ้าหากว่าน้องสาวของคุณหยางสามารถรักษาขาของท่านเจ้าเมืองเราให้หายได้ถึงแม้จวนเมืองหวยเฉิงจะร่วมมือกับตระกูลติง ก็ต้องชั่งน้ำหนักคิดวิเคราะห์ว่าพวกเขาสามารถสร้างแรงกดดันให้กับจวนมู่ของพวกเราได้หรือเปล่า”