The king of War - บทที่ 1694 ทำได้แค่สู้แล้วละ
บทที่ 1694 ทำได้แค่สู้แล้วละ
หยางเฉินเห็นติงชาง อยู่ในกลุ่มผู้คน
ติงชางที่เดิมทีโดนหยางเฉินใช้มีดพกอาถรรพ์ทำร้ายบาดเจ็บสาหัส กลับมาปรากฏตัวที่สนามบิน หยางเฉินไม่เชื่อว่านี่คือความบังเอิญ ตระกูลติงและจวนเมืองหวยเฉิงต้องร่วมมือกันแล้วแน่นอน หลังจากที่รู้ว่าผู้แข็งแกร่งของจวนมู่มาที่สนามบิน พวกเขาเองก็ตามมา
บางที แม้แต่เรื่องที่เฝิงเสียวหว่านจะมารักษาขาของเจ้าเมืองมู่ ตระกูลติงและจวนเมืองหวยเฉิงเองก็อาจจะรู้แล้ว
แน่นอนว่าพวกนี้ล้วนเป็นการคาดเดาของหยางเฉินเท่านั้น ส่วนความจริงเป็นยังไง ก็ทำได้แค่รอต่อไปเท่านั้น
“ฮืม?”
ติงชางที่กำลังแฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้คน รู้สึกได้ว่ามีคนกำลังจ้องเขาอยู่ แต่เมื่อเขาหันไปมองทางสัมผัสนั้น กลับพบว่า อีกฝ่ายได้หายไปในกลุ่มผู้คนแล้ว
ติงชางพูดกับตัวเองว่า “หรือว่าฉันรู้สึกสัมผัสผิดไปเอง?”
พูดจบ เขาก็เดินไปที่ข้างกายผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งของตระกูลติง พูดเสียงเบาว่า“สั่งให้ทุกคนระวังกันให้มากขึ้น คนที่จวนมู่มารับกำลังจะออกมาแล้ว”
“ครับ!”
คนคนนั้นรีบตอบรับ จากนั้นก็หายไปในกลุ่มผู้คน แล้วไปแจ้งคำสั่งของติงชางให้กับผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆของตระกูลติงที่แฝงอยู่ในกลุ่มผู้คน
ในเวลานี้ หยางเฉินได้ออกมาจากตำแหน่งที่เขาอยู่เมื่อกี้แล้ว และได้ซ่อนตัวอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ใกล้ไม่ไกลนัก สามารถมองเห็นประตูทางออกได้อย่างชัดเจนพอดี เมื่อเฝิงเสียวหว่านปรากฏตัว เขาก็จะเห็นได้ในทันที
พูดได้ว่า สถานการณ์ตอนนี้อันตรายอย่างมาก เขาทำได้แค่ภาวนา ขอให้ผู้แข็งแกร่งที่จวนมู่ส่งตัวมาเก่งกาจมากพอ แล้วสามารถพาตัวเฝิงเสียวหว่านออกมาได้อย่างราบรื่น ถ้าหากทำไม่ได้ แม้เขาจะต้องเปิดเผยมีดพกอาถรรพ์ เขาก็จำเป็นต้องช่วยเฝิงเสียวหว่านไว้
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ เพียงชั่วพริบตา ผ่านไปเป็นเวลาสิบนาทีแล้ว สายตาของหยางเฉินก็ยังจับจ้องอยู่ที่ทางออก เฝิงเสียวหว่านน่าจะใกล้ออกมาแล้ว
ในเวลานี้เอง เสียงโทรศัพท์ของหยางเฉินดังขึ้น เขารีบรับสาย แล้วก็ได้ยินเสียงของเฝิงเสียวหว่านดังมา “พี่หยาง ฉันเพิ่งลงจากเครื่องบิน กำลังจะออกจากสนามบินแล้วค่ะ”
หยางเฉินรีบพูดว่า “เสียวหว่าน เธออย่าเพิ่งออกจากสนามบิน รอเดี๋ยวก่อน!รอฉันบอกให้ออกมา แล้วเธอค่อยออกมา”
ได้ยินเช่นนั้น เฝิงเสียวหว่านก็ถามว่า “พี่หยาง เกิดเรื่องอะไรขึ้นใช่หรือเปล่าคะ?”
หยางเฉินพูดว่า “ตอนนี้ฉันอยู่ด้านนอกสนามบิน สังเกตเห็นว่ามีคนมากมายที่มีความเป็นไปได้ว่ามมุ่งเป้ามาที่เธอ เธออยู่ในสนามบินถือว่ายังปลอดภัย แต่ถ้าหากออกมา จะอันตรายมาก”
เฝิงเสียวหว่านรีบพูดว่า “พี่หยางคะ พี่วางใจได้ ฉันจะดูแลตัวเองให้ดี ฉันฟังพี่ค่ะ จะไปซ่อนตัวไว้ก่อน”
หยางเฉินพูดว่า “ดี!รอรับสายจากฉัน!”
ที่เขาไม่ให้เฝิงเสียวหว่านออกมาจากสนามบินในทันที เป็นเพราะว่าจนตอนนี้ เขาสังเกตเห็นเพียงแค่ผู้แข็งแกร่งที่มากับติงชาง แต่ยังไม่เห็นผู้แข็งแกร่งจากจวนมู่
หยางเฉินรีบพูดว่า “เสียวหว่าน เธออย่าเพิ่งออกจากสนามบิน รอเดี๋ยวก่อน!รอฉันบอกให้ออกมา แล้วเธอค่อยออกมา”
ถ้าหากผู้แข็งแกร่งจากจวนมู่ยังไม่มา เมื่อเฝิงเสียวหว่านปรากฏตัว ติงชางจะต้องพาผู้แข็งแกร่งทั้งหมดพุ่งเป้าเข้าไปแน่นอน ถึงตอนนั้นแล้วเพียงแค่หยางเฉินคนเดียว คิดอยากจะพาตัวเฝิงเสียวหว่านไป แทบจะไม่มีความหวังเลย
หยางเฉินกำลังรอ พวกของติงชางเองก็กำลังรอ
“เครื่องบินที่บินจากเมืองเยี่ยนตูมาที่เมืองซ่านเฉิง ยังไม่ลงจอดอีกงั้นหรอ?”
ติงชางมองดูเวลา แล้วขมวดคิ้วถามผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งข้างกาย
คนคนนั้นเอ่ยปากพูดว่า “ไม่น่านะครับ!ท่านสอง เป็นไปได้ไหมว่าเจ้าตัวถูกพาตัวไปแล้วหรือเปล่าครับ?”
ติงชางขมวดคิ้วขึ้นมา “ไม่น่าใช่สิ พวกเรามีคนรออยู่เยอะมากขนาดนี้ ถ้าหากหล่อนปรากฏตัวออกมา พวกเราไม่มีทางที่จะไม่เห็นสิ”
คนคนนั้นถามอีกว่า “ท่านสองครับ ท่านว่า ผู้แข็งแกร่งของจวนมู่ อยู่ด้านในสนามบิน แล้วรับตัวไปแล้วหรือเปล่าครับ?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของติงชางก็เปลี่ยนไปในทันที เอ่ยปากพูดว่า “รอไม่ไหวแล้ว พวกเราบุกเข้าไปกันเดี๋ยวนี้เลย!”
พูดจบ ติงชางได้พาคนบุกเข้าไปด้านใน หยางเฉินที่จับตามองติงชางอยู่ไม่ไกล เมื่อเห็นสถานการณ์นี้ก็ตกใจขึ้นมาทันที
“ไอ้หมาติงชาง!”
เขาเดินตรงออกไป ตะคอกใส่ติงชาง
ติงชางที่กำลังจะบุกเข้าไป จู่ๆก็ได้ยินเสียงของหยางเฉิน จึงหยุดฝีเท้าทันที แล้วหันไปมองทางด้านของหยางเฉิน แล้วในแววตาก็เต็มไปด้วยความโหดร้ายทันที “หยางเฉิน!แกกล้ามาสนามบินด้วยตัวเอง ช่างรนหาเรื่องตายจริงๆ!”
หยางเฉินตะคอกว่า “ในเมื่อเคยถูกฉันเอาชนะมาได้ ยังกล้าพูดว่าตัวเองเก่ง? ถ้าเป็นลูกผู้ชาย ก็เข้ามาต่อสู้เดี่ยวกับฉัน!”
หยางเฉินก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง ในมือของเขายังถือดาบสีดำที่เปล่งประกายไว้อีกเล่มหนึ่ง
เมื่อติงชางมองเห็นดาบในมือของหยางเฉิน แววตาก็หดตัว เต็มไปด้วยความโลภ เขาโบกมือ “ทุกคน ไปจับเจ้านั่นไว้ให้ได้!”
หลังจากคำสั่งของเขาดังออกมา ผู้แข็งแกร่งสิบกว่าคน ต่างก็พุ่งเข้าไปหาหยางเฉินพร้อมกัน ติงชางนำหน้า พุ่งเข้ามาก่อนใคร
แม้ว่าเขาจะกลัวมีดพกอาถรรพ์ในมือของหยางเฉิน แต่ตอนนี้ทางด้านของเขามีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์หลายสิบคน ของอาถรรพ์อยู่แค่ตรงหน้านี้ เขาจะยอมปล่อยไปได้ยังไงกันละ?
หยางเฉินไม่ร้อนรน เมื่อเห็นว่าพวกติงชางกำลังจะไล่มาถึงแล้ว มุมปากของเขาก็ได้ยกยิ้มอย่างเย็นชา วินาทีต่อมา เขาหันหลังกะทันหัน แล้วก็วิ่งตรงไปข้างหน้า
“หยางเฉิน หยุดซะ!”
ติงชางตะคอกเสียงดังที่เบื้องหลังหยางเฉิน
หยางเฉินในตอนนี้ ได้เร่งความเร็วจนถึงขีดสุด ไม่นานก็ทิ้งระยะห่างออกมาจากพวกติงชาง
เนื่องจากตอนเช้าติงชางเพิ่งได้รับบาดเจ็บจากมีดพกอาถรรพ์ของหยางเฉินมา บาดแผลสาหัสมาก ในเวลานี้จึงไม่สามารถเร่งความเร็วถึงขีดสุดได้ หลังจากเพิ่งไล่ตามได้ไม่กี่ร้อยเมตร แผลของเขาที่เดิมทีก็สาหัสมากอยู่แล้ว ได้ฉีกขาดอีกครั้งและเลือดไหลออกมา
เขากัดฟันหยุดวิ่ง
“ท่านสอง ท่านเป็นอะไรมั้ยครับ?”
ผู้แข็งแกร่งของตระกูลติงคนหนึ่งรีบเข้าไปหา สีหน้าแสดงออกถึงความเป็นห่วง
ติงชางตะคอกว่า “ไม่ต้องสนใจฉัน ไล่ตามต่อไปซะ!”
กว่าจะหาตัวหยางเฉินเจอไม่ใช่เรื่องง่าย แล้วยังอยู่ตัวคนเดียวด้วย แล้วเขาจะปล่อยหยางเฉินไปง่ายได้ยังไงกัน?
ชั่วขณะนั้น ผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์นับสิบคน ต่างก็ไล่ตามตัวหยางเฉินไป
หยางเฉินกำลังเตรียมจะโทรหามู่ฮว๋า แต่ในเวลานี้เอง สายของเฝิงเสียวหว่านก็ได้โทรเข้ามา
เฝิงเสียวหว่านพูดว่า “พี่หยางคะ มีคุณปู่คนหนึ่งที่ชื่อว่ามู่ฮว๋า บอกว่าพี่เป็นคนสั่งให้เขามารับฉันค่ะ”
ตามด้วยเสียงของมู่ฮว๋าดังขึ้น “คุณหยางครับ ผมคือมู่ฮว๋า ผมได้ส่งตัวผู้แข็งแกร่งของจวนมู่ไปช่วยเหลือคุณแล้ว คุณวางใจได้ ผมจะพาตัวน้องหมอวิเศษกลับไปยังจวนมู่อย่างปลอดภัยครับ”
เห็นได้ชัดว่ามู่ฮว๋ารู้แล้ว ว่าหยางเฉินเป็นคนล่อตัวผู้แข็งแกร่งของตระกูลติงออกไป
หยางเฉินรีบพูดว่า “โอเค จะต้องพาตัวน้องสาวของผมกลับจวนมู่อย่างปลอดภัยให้ได้ นะครับ!”
มู่ฮว๋าพูดว่า “คุณหยางวางใจได้ครับ!”
ในที่สุดหยางเฉินก็โล่งใจ ถึงแม้เขาจะเสี่ยงตายไปล่อตัวคนออกมา แต่ก็ทำให้ทางด้านมู่ฮว๋าได้โอกาสพาตัวเฝิงเสียวหว่านกลับไปอย่างปลอดภัย
เพียงแต่ ภายในเวลาหนึ่งวัน เขาได้บังคับใช้ควบคุมมีดพกอาถรรพ์มาสองครั้งแล้ว ทำให้เกิดแผลในร่างกายอย่างหนักมาก และตอนนี้ก็ยังไม่หายดี
ตอนเพิ่งเริ่ม เขายังสามารถพึ่งพาความแข็งแรงของร่างกายมาทิ้งระยะห่างจากผู้แข็งแกร่งที่อยู่ด้านหลัง แต่ไม่นาน เขาก็พบว่า พลังในร่างกายของตัวเองไม่พอ อีกอย่างระยะห่างระหว่างเขาและผู้แข็งแกร่งที่อยู่ด้านหลังก็ยิ่งอู่ยิ่งใกล้เข้ามามากขึ้น
หากตามระดับความเร็วนี้ต่อไป คงจะอีกแค่สามนาที ก็คงจะถูกผู้แข็งแกร่งของตระกูลติงกลุ่มที่เร็วที่สุดไล่ตามทันแล้ว
“ดูแล้ว วันนี้คงจะต้องสู้สักตั้งแล้ว!”
หยางเฉินหยุดลงกะทันหัน บนใบหน้า เต็มไปด้วยไอสังหารที่หนักหน่วง
เทียบกับการเผาผลาญพลังในร่างกายอย่างหนักแบบนี้แล้ว ให้ทำการลงมือต่อสู้ฆ่าทิ้งยังดีกว่า ฆ่าได้ก็ถือว่าได้ ยังไงซะเขาก็ไม่เสียหาย