The king of War - บทที่ 1752 หยางเฉินฟื้นขึ้น
ฟังคำพูดของเจ้าเมืองมู่แล้ว ผู้แข็งแกร่งของจวนมู่ ต่างมีสีหน้าเปลี่ยนแปลงไป
เจ้าเมืองหวยและผู้แข็งแกร่งของตระกูลเจียง ล้วนมีความรู้สึกไม่ดีกันหมด ถึงแม้พวกเขาจะไม่เข้าใจว่าเจ้าเมืองมู่อยากทำอะไร แต่กลับรู้ดีว่า เจ้าเมืองมู่กำลังมอบหมายเรื่องหลังจากตายไปแล้ว
เห็นได้ชัดว่า เขาเตรียมเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เลย
เจียงเหยียนตะโกนไปทางเจ้าเมืองหวยว่า “เจ้าเมืองหวย รีบฆ่าเขาเลย ผมไม่เพียงรับปากคุณว่าจะฆ่าหยางเฉินทิ้ง วันหลังทุกอย่างของจวนมู่ เป็นของคุณทั้งหมด”
ต่อให้เจียงเหยียนไม่พูด เจ้าเมืองหวยก็คงเลือกลงมือต่อเจ้าเมืองมู่เช่นกัน
“ตู้ม!”
ในเวลานี้ ลักษณะพลังวิถีบู๊อันน่าสยองขวัญอย่างมาก กระจายออกมาจากบนตัวของเจ้าเมืองมู่
“หวนถง!”
ทันใดนั้นเจ้าเมืองมู่ตะโกนเสียงดังออกมา
หลังจากเสียงตะโกนครั้งนี้ ลักษณะพลังบนตัวเขาทะยานขึ้นท้องฟ้า ภายใต้ความตื่นตกใจของทุกคน เห็นเพียงเขาที่ผมขาวทั้งหัว กลายเป็นสีดำในระดับความเร็วที่มองเห็นด้วยตาเปล่า
ไม่เพียงแค่นี้ ริ้วรอยบนหน้าของเขา ก็หายไปในระดับความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเช่นกัน
ภายในไม่กี่วินาทีสั้นๆ รูปโฉมภายนอกของเขา ดูขึ้นมาเหมือนหนุ่มกว่าเดิมสี่สิบกว่าปี ตอนนี้ดูแล้ว คือลักษณะของคนอายุสามสิบต้นๆ
“คาดไม่ถึงจะเป็นวิชาลับหวนถงที่เล่าลือกัน นึกไม่ถึงว่า วิชาลับหวนถงที่ไร้ร่องรอยมานานอันนี้ จะยังคงอยู่บนโลก”
สีหน้าของเจียงเหยียนอึมครึมถึงขีดสุดแล้ว
หวนถงคือวิชาลับที่ทำให้เพิ่มความสามารถอันยิ่งใหญ่ใจเวลาสั้นๆ ได้วิชาหนึ่ง ถึงแม้อยู่ในบรรดาตระกูลบู๊โบราณ ก็ยังเป็นวิชาลับชั้นยอดมาก
ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งแดนนภา หลังจากใช้วิชาลับอันนี้ ความสามารถจะเพิ่มขึ้นมาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่า ความสามารถของเจ้าเมืองมู่ ซึ่งยังเป็นเพียงกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่ง
เจ้าเมืองหวยที่เดิมที่ยังคิดจะลงมือต่อเจ้าเมืองมู่ หลังจากสัมผัสถึงกลิ่นอายที่เพิ่มขึ้นบนตัวเจ้าเมืองมู่อย่างรวดเร็ว ชั่วขณะนั้นเริ่มเกิดความรู้สึกอยากถอยแล้ว
ถึงแม้เขาจะอยากฆ่าเจ้าเมืองมู่กับหยางเฉินทิ้ง แต่เขาไม่ใช่พวกที่ไม่รู้จักเจียมตัว กลิ่นอายวิถีบู๊บนตัวของเจ้าเมืองมู่ ยังเกินกว่ากึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งไปแล้ว ส่วนจะบรรลุถึงระดับของแดนนภาขั้นหนึ่งหรือไม่นั้น เขายังไม่รู้ชัด
เขารู้เพียงว่า ความสามารถของเขาในตอนนี้ เดิมทีฆ่าเจ้าเมืองมู่ไม่ได้ มีแต่จะโดนเจ้าเมืองมู่ฆ่าให้แทน
“สักวันหนึ่งพวกเราจะได้เจอกันอีก!”
เจ้าเมืองหวยทิ้งคำพูดไว้ประโยคหนึ่งแบบกะทันหัน แล้วหมุนตัวอยากหนีไป
ชั่วขณะนั้นเจียงเหยียนสีหน้าเปลี่ยนยกใหญ่ ตะโกนว่า “เจ้าเมืองหวย ถ้าคุณกล้าออกไป ตระกูลเจียงจะไปทำลายจวนเมืองหวยเฉิงให้สิ้นซาก!”
เจ้าเมืองหวยหัวเราะเยาะ “ฉันรออยู่!”
พูดจบ เขาก็หายลับไป
ในชั่วขณะที่เขาเพิ่งหายตัวไป เจ้าเมืองมู่ก็หายตัวไปจากที่เดิมเหมือนกัน
เพียงแค่ ตอนที่ผ่านผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งของตระกูลเจียงคนนั้น มีดอาถรรพ์ในมือปาดลำคอของอีกฝ่ายเข้าแล้ว อีกฝ่ายโดนฆ่าในเสี้ยววินาที
เจียงเหยียนหวาดผวาถึงที่สุด ผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งสองคนที่เขาพามา ล้วนโดนฆ่าทั้งหมด ผู้แข็งแกร่งตระกูลเจียงที่เหลือ ก็ได้รับความเสียหายร้ายแรง
ตอนนี้ไม่ต้องพูดว่าเขาจะกลับตระกูลเจียงได้หรือไม่เลย ต่อให้กลับไปได้ แค่ความเสียหายของเขาที่ตระกูลเจียง ตระกูลเจียงคงไม่ปล่อยเขาไปอย่างง่ายดายแน่
นึกถึงตรงนี้ จิตอาฆาตในสายตาเขาเข้มข้นขึ้น พูดด้วยท่าทางดุร้าย “ทุกคน ละทิ้งคู่ต่อสู้ของพวกนาย ไปฆ่าหยางเฉินพร้อมกัน!”
ภารกิจของเขาคือต้องพาหยางเฉินที่มีชีวิตอยู่กลับตระกูลเจียง แต่ว่าตอนนี้ เขาไม่สนใจอะไรมากมายขนาดนั้นแล้ว มีเพียงย้ายความสนใจของทุกคนไปบนตัวของหยางเฉิน เขาถึงจะมีโอกาสรอดชีวิต
เขาอยากจะหนี!
ทิ้งทุกคนไว้แล้วหนีไป!
ถึงแม้ทำแบบนี้จะได้รับการลงโทษของตระกูลเจียง แต่เมื่อเทียบกับความตายแล้ว เขายินยอมโดนรับการลงโทษของตระกูลเจียง อีกอย่าง เขาเป็นญาติสายตรงของตระกูลเจียง ต่อให้ตระกูลเจียงจะลงโทษเขา ก็คงไม่เกินเลยเท่าไร
ทันใดนั้น ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าของตระกูลเจียงสิบกว่าคน ละทิ้งคู่ต่อสู้ของตนเอง จากนั้นตรงเข้าไปฆ่าทางหยางเฉินแล้ว
นักดาบเงาเพชฌฆาตที่เดิมทีต้องรับมือกับเจียงเหยียน แต่หลังจากมองเห็นผู้แข็งแกร่งมากขนาดนี้ไปฆ่าหยางเฉิน เขาจึงทำได้เพียงละทิ้งเจียงเหยียน ขยับเท้า รีบขวางด้านหน้าของหยางเฉินเอาไว้ โบกดาบอาถรรพ์ในมือไปด้านหน้า
“ฟึบ!”
ชั่วขณะนั้นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางคนหนึ่งโดนฆ่าในเสี้ยววินาที
ที่เจียงเหยียนพามาล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้า ปัจจุบันนี้เหลือเพียงผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางและชั้นต้น สำหรับผู้แข็งแกร่งสูงกว่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลาง นอกจากเจียงเหยียนแล้ว กลับถูกฆ่าจนเกลี้ยง
เจียงเหยียนมองไปทางหยางเฉินแวบหนึ่ง รู้ว่าไม่มีทางพาตัวหยางเฉินไปได้ จึงไม่ได้มัวยืดยาดแม้แต่น้อย หมุนตัวจะหนี
เขาเพิ่งหมุนตัว มีดสั้นสีดำเล่มหนึ่ง แทงเข้ามาทางเขาอย่างฉับไว
เหมือนรับรู้ถึงอันตรายจากข้างหลังได้ ชั่วขณะนั้นเจียงเหยียนสีหน้าเปลี่ยนไปมาก กวัดแกว่งดาบอาถรรพ์ในมือ ฟันเข้าไปทางด้านหลังแล้ว
“ฉิ้ง!”
มีดสั้นกระทบลงบนดาบอาถรรพ์อย่างแรง แบบนี้เจียงเหยียนถึงพบว่า เดิมทีข้างหลังไม่มีผู้แข็งแกร่งเข้ามาฆ่า แต่ว่ามีเพียงมีดสั้นสีดำเล่มหนึ่ง
เวลานี้ บนมีดสั้น กระจายกลิ่นอายอันสยองขวัญอยู่ เหมือนกับมีชีวิตเลย โดนกระทบทีหนึ่ง ตามมาด้วยโจมตีใส่เขาไป
เจียงเหยียนสีหน้าเปลี่ยนไป “ของอาถรรพ์!”
เขาตื่นตกใจมากจริงๆ เดิมคิดว่าบนโลกทั่วไปคงไม่มีของอาถรรพ์มากเท่าไร แต่ว่าวันนี้ เขาอยู่บนโลกทั่วไป กลับเจอของอาถรรพ์มากมายเลยทีเดียว
มีดอาถรรพ์ในมือของเจ้าเมืองมู่ ดาบอาถรรพ์ในมือของนักดาบเงาเพชฌฆาต ยังมีดาบอาถรรพ์ในมือของเจ้าเมืองหวยอีก ปัจจุบันนี้ปรากฏมีดอาถรรพ์ขึ้นอีกเล่ม
“สารเลว! สรุปเป็นใครกัน? ที่ควบคุมมีดอาถรรพ์เล่มนี้อยู่?”
หน้าเจียงเหยียนโกรธเคืองเต็มที่ ดาบยาวในมือกวัดแกว่งออกมาต่อเนื่อง มีดอาถรรพ์เหมือนมีชีวิตอยู่จริง แทงเข้ามาทางเขาครั้งแล้วครั้งเล่า
เพียงแค่ ทุกครั้งล้วนโดนเจียงเหยียนใช้ดาบขวางไว้
“ฟึบๆๆ!”
วินาทีต่อมา ลูกธนูน้ำนับไม่ถ้วน เข้าไปโจมตียังเจียงเหยียนพร้อมกันแล้ว
ลูกธนูน้ำมากมายเหลือเกิน เดิมทีเจียงเหยียนไม่มีทางขัดขวาง ลูกธนูน้ำนับไม่ถ้วน จึงยิงมาที่ตัวของเขาแล้ว
เพียงแต่ แรงโจมตีของลูกธนูน้ำมีขีดจำกัด เพียงแค่ฝืนแทงผิวหนังของเจียงเหยียนได้เท่านั้น เดิมทีกลับไม่มีทางทำร้ายเจียงเหยียนจนสาหัสได้
ดีที่ลูกธนูน้ำมีจำนวนมาก หน้าของเจียงเหยียนจึงเต็มไปด้วยรอยเลือดที่ถูกลูกธนูน้ำแทงเข้า
“พลังแห่งธาตุน้ำ!”
เจียงเหยียนพูดอย่างตื่นตกใจอีกครั้ง
คนที่สามารถฝึกฝนพลังแห่งธาตุออกมาได้ มีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อยอีก ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด ก็ไม่อาจฝึกฝนพลังแห่งธาตุกันได้
แต่ว่าตอนนี้ หลับมีมีดอาถรรพ์ที่เป็นฝ่ายโจมตีเขาก่อนปรากฏขึ้นมาเล่มหนึ่ง ยังมีพลังแห่งธาตุน้ำที่ดำเนินการโจมตีต่อเขาอีกด้วย นี่ทำให้ความกลัวในใจเขานับวันยิ่งเข้มข้นขึ้น
เขาตัดสินใจจะละทิ้งหยางเฉินแล้ว ทว่าตอนนี้แม้แต่อยากจะหนีไป ล้วนหนีออกไปไม่ได้
เขารู้ว่า คนที่สามารถฝึกพลังแห่งธาตุน้ำออกมาได้ อย่างน้อยต้องเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด แต่เขารู้แค่ว่าที่จวนมู่มีเพียงเจ้าเมืองมู่และนักดาบเงาเพชฌฆาตเป็นผู้แข็งแกร่งที่อยู่ขั้นสูงกว่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด
แต่เจ้าเมืองมู่ก็ตามเจ้าเมืองหวยไปแล้ว ส่วนนักดาบเงาเพชฌฆาตเพื่อช่วยชีวิตหยางเฉิน กำลังโดนผู้แข็งแกร่งของตระกูลเจียงพัวพันอยู่ นั่นไม่ได้หมายความว่า ที่ตระกูลเจียง ยังมีผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งที่อย่างน้อยอยู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดหรอกเหรอ?
เพียงแต่ สิ่งที่ทำให้เขาสงสัยอยู่บ้างคือ แรงโจมตีของพลังแห่งธาตุน้ำนี้ไม่แข็งแรง มีเพียงแค่ฝืนแทงผิวหนังของเขาให้บาดเจ็บได้
ยังมีมีดอาถรรพ์เล่มนั้น ถึงแม้แรงโจมตีจะน่ากลัวอย่างมาก แต่มุมการโจมตีก็ปลิ้นปล้อนมากเช่นกัน และยังมีแรงโจมตีแบบจำกัด
หรือว่าอีกฝ่ายจะเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดที่ได้รับบาดเจ็บหนักคนหนึ่ง?
นึกถึงตรงนี้ แรงกดดันในใจของเขาลดลงมาในชั่วพริบตา กวัดแกว่งดาบอาถรรพ์ในมืออย่างบ้าคลั่ง
ซึ่งในเวลานี้เอง สิ่งที่ไม่มีใครสังเกตคือ หยางเฉินที่เดิมทีนอนหลับลึกอยู่บนเตียง ลืมตาขึ้นมากะทันหัน
เห็นเพียงในดวงตาของเขา มีแสงสีทองสองดวงกราดยิงออกมา
ปรากฏการณ์ประหลาดที่เดิมทีรวมตัวอยู่บริเวณท้องฟ้าเหนือจวนมู่ ก็หายไปในชั่วขณะนั้นเหมือนกัน