The king of War - บทที่ 1797 หยางเฉินแต่งหน้า
บทที่ 1797 หยางเฉินแต่งหน้า
หยางเฉินมองไปที่หวยหลัน รอให้เธออธิบาย
หวยหลันพูดด้วยรอยยิ้ม “คุณรู้ไหมว่า ตอนนี้เสี่ยวหว่านกำลังยุ่งอยู่กับอะไร?”
หยางเฉินเหลือบมองไปทางห้องของเฝิงเสี่ยวหว่าน และพูดว่า “เธอกำลังศึกษาค้นคว้าเรื่องยาไม่ใช่หรือ?”
นอกจากเฝิงเสี่ยวหว่านแล้ว หยางเฉินยังไม่เคยเห็นใครที่สามารถกลั่นเม็ดยาได้ ยารักษาโรคเกือบทั้งหมดที่มีในตอนนี้ ส่วนใหญ่คือสิ่งที่อาจารย์กลั่นยาสมัยโบราณเหลือทิ้งไว้
หวยหลันเม้มริมฝีปากและยิ้ม แล้วพูดว่า “เสี่ยวหว่านกำลังศึกษาค้นคว้าเรื่องยา แต่เธอกำลังกลั่นยาเพื่อเยี่ยนเฉินกรุ๊ปคุณยังจำได้ไหม หกเดือนก่อน ตอนที่คุณกับเสี่ยวหว่านยังอยู่ที่เยี่ยนตู เสี่ยวหว่านเคยขอให้คุณช่วย ให้คุณช่วยหาวัสดุยาให้เธอ?”
หยางเฉินพยักหน้า “จำได้แน่นอน เสี่ยวหว่านยังเคยพูดว่า เธอต้องการทำเซอร์ไพรส์ให้ผม เพียงแต่ว่าระยะหลังมีเรื่องมากมาย ซึ่งทำให้เธอเสียเวลาไปมาก”
หวยหลันพูดว่า “เริ่มตั้งแต่ตอนนั้นเสี่ยวหว่านเริ่มศึกษาค้นคว้ายาที่เกี่ยวกับยายั้งอายุในความเป็นจริง หลายเดือนก่อนยายั้งอายุนั้นกลั่นสำเร็จแล้ว เพียงแต่ว่าค่าใช้จ่ายของยายั้งอายุ นั้นสูงเกินไป เธอเลยต้องปรับปรุงมาตลอด เพื่อลดต้นทุน เพื่อให้ยายั้งอายุกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำกำไรได้มากที่สุดของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป
หยางเฉินตกตะลึงครู่หนึ่ง “ยายั้งอายุ?”
เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเกี่ยวกับเม็ดยาชนิดนี้ ตามความหมายของชื่อที่แท้จริง สามารถทำให้ใบหน้าของบุคคลนั้นได้รับการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์อย่างถาวรเหรอ?
ดูเหมือนว่าหวยหลันจะเดาความคิดของหยางเฉินได้ และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ยายั้งอายุของแท้ สามารถล้างพิษและปรับแต่งใบหน้าได้ แต่ถ้าต้องการให้ยายั้งอายุแพร่กระจายในตลาดจริงๆ จะทำให้เกิดความโกลาหล ในเวลานั้น เป็นไปได้มากที่จะดึงดูดตระกูลบู๊โบราณ หรือผู้แข็งแกร่งของสำนักโบราณ”
เมื่อพูดตรงนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของหวยหลันก็หายไป และพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ด้วยความรอบรู้ของตระกูลบู๊โบราณกับสำนัก มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะแยกแยะออกว่ายายั้งอายุเป็นยาที่แท้จริงหรือไม่”
“เท่าที่ฉันรู้ แม้แต่ตระกูลบู๊โบราณและสำนัก ก็ไม่มีอาจารย์กลั่นยา ยาที่แพร่หลาย ก็คงไม่ใช่ยาจริง น่าจะเป็นยาเม็ดโบราณที่แพร่หลายมาหลายร้อยปี
“ถ้าให้พวกเขารู้ว่า เสี่ยวหว่านเป็นอาจารย์กลั่นยา ถึงตอนนั้นปัญหาก็จะใหญ่โต และแน่นอนว่าจะต้องมีคนจำนวนมากที่อยากได้เสี่ยวหว่าน”
เมื่อได้ยินคำพูดของหวยหลัน ชั่วขณะสีหน้าหยางเฉินก็เคร่งขรึม เขาก็เข้าใจเรื่องนี้ และตอนนี้เขาพึ่งตั้งสติได้ เมื่อก่อนนี้เขาประมาทเลินเล่อเกินไป และไม่ได้พิจารณาถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นเหล่านี้ด้วยซ้ำ
หยางเฉินรีบพูดทันที “ไม่ได้ เสี่ยวหว่านกลั่นยายั้งอายุไม่ได้! ผมมีความมั่นใจที่จะทำให้เยี่ยนเฉินกรุ๊ปยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลก แต่ต้องไม่ให้เสี่ยวหว่านมารับความเสี่ยงนี้ จุดสูงสุดเช่นนี้ ผมไม่เอาดีกว่า”
หลังจากพูดเสร็จ เขาก็ลุกขึ้นและจะไปคุยกับเฝิงเสี่ยวหว่าน
ขณะที่เขากำลังจะไปพบเฝิงเสี่ยวหว่าน ประตูห้องของเฝิงเสี่ยวหว่านก็เปิดออกก่อน และเฝิงเสี่ยวหว่านที่ยิ้มแย้ม ก็เดินออกมาจากห้อง
“พี่หยาง คุณไม่ต้องเป็นห่วงฉัน หวยหลันคิดเรื่องพวกนั้นไว้แล้ว ดังนั้นฉันจึงเปลี่ยนยายั้งอายุให้กลายเป็นครีมยั้งอายุไม่เพียงแค่นั้น ยังทำให้ประสิทธิภาพของยาลดลงอย่างมาก ไม่มีใครเอายายั้งอายุมาเชื่อมโยงกับครีมยั้งอายุ”
เฝิงเสี่ยวหว่านพูดด้วยรอยยิ้ม เมื่อกี้การสนทนาข้างนอกเธอบังเอิญได้ยิน และก็อบอุ่นใจ หยางเฉินคิดถึงความปลอดภัยของเธอก่อน แต่ไม่ใช่ผลประโยชน์ของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป
หลังจากฟังคำพูดของเฝิงเสี่ยวหว่าน หยางเฉินถึงเข้าใจ ที่แท้หวยหลันได้คำนึงและพิจารณาถึงอันตรายรอบตัวเสี่ยวหว่านแล้ว ทันใดนั้นก็รู้สึกโชคดีมาก และพาหวยหลันออกไป
หวยหลันฉลาดมาก และอยู่เคียงข้างเขา สามารถช่วยเขาได้มาก
หวยหลันสามารถเห็นความซาบซึ้งใจในดวงตาของหยางเฉิน เธอเดินไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้มและพูดว่า “ประสิทธิภาพของยานั้น แรงเกินไป ถ้ามันแพร่หลายอยู่ในตลาดจริงๆ ย่อมทำให้เกิดปัญหามากมาย แน่นอน แม้กระทั่งหากนำยายั้งอายุเปลี่ยนเป็นครีมยั้งอายุ ถ้าประสิทธิภาพของยาแรงเกินไป มันจะยังดึงดูดความสนใจของผู้อื่นได้”
“อย่างไรก็ตาม เฝิงเสี่ยวหว่านได้ลดประสิทธิภาพของยายั้งอายุลงอย่างมาก เป็นผลให้ ไม่เพียงแต่จะสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายให้อยู่ในระดับที่ต่ำลงเท่านั้น แต่ยายั้งอายุยังคงสภาพเดิม”
“แน่นอน พี่หยางไม่ต้องกังวล แม้จะลดประสิทธิภาพของยายั้งอายุไปแล้ว แต่ว่าประสิทธิภาพของครีมยั้งอายุ ก็ยังสามารถตีตลาดเครื่องสำอางที่มีอยู่ตามท้องตลาดได้”
หลังจากที่พูดจบ เธอมองไปที่เฝิงเสี่ยวหว่าน “ถ้าฉันเดาไม่ผิด เสี่ยวหว่านได้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับครีมยั้งอายุได้สำเร็จแล้วใช่ไหม?”
เฝิงเสี่ยวหว่านพยักหน้า ในมือยังถือขวดแก้วเล็กๆ ในขวดแก้ว ใส่บางอย่างไว้ซึ่งเป็นสีดำๆ น่าจะเป็นครีมยั้งอายุ
เฝิงเสี่ยวหว่านกะพริบตาโตที่สวยงามของเธอ มองไปที่หยางเฉินแล้วพูดว่า “พี่หยาง หรือว่าคุณมาลองดูประสิทธิภาพของครีมยั้งอายุไหม?”
หวยหลันพูดด้วยรอยยิ้ม “ฉันเคยทานยายั้งอายุที่เสี่ยวหว่านเคยมอบให้แล้ว นอกจากนี้ ฉันเกิดมาก็สวยธรรมชาติ ใช้ครีมยั้งอายุ ก็คงไม่เห็นผลอะไร”
สีหน้าหยางเฉินเคร่งเครียด “เพราะฉะนั้น เป็นเพราะผมน่าเกลียด ดังนั้นจึงต้องการให้ผมทดลองยาเหรอ?”
เฝิงเสี่ยวหว่านและหวยหลันต่างพากันหัวเราะ ไม่ใช่ว่าหยางเฉินน่าเกลียด แต่ผิวของหยางเฉินไม่ดีเท่ากับผิวของพวกเธอ
ถ้าหยางเฉินรู้ว่า ผู้หญิงสองคนนี้เอาผิวของเขาเปรียบเทียบกับผิวของผู้หญิง เขาจะต้องบ้าคลั่งอย่างแน่นอน
ภายใต้การอ้อนของผู้หญิงสองคน หยางเฉินก็เลยเห็นด้วย
เฝิงเสี่ยวหว่านทาครีมยั้งอายุที่มีสีดำจาง ทาบริเวณข้างซ้ายของหยางเฉิน สำหรับใบหน้าข้างขวาของเขา ไม่ได้ทาครีมยั้งอายุเลยสักนิด เพียงเพื่อรอดูประสิทธิผล
“ของสิ่งนี้ ค่อนข้างสบาย!”
หยางเฉินรู้สึกว่าใบหน้าของเขาชาชา และมีความรู้สึกที่เยือกเย็นมาก
เฝิงเสี่ยวหว่านพูดด้วยรอยยิ้ม “นี่คือครีมยั้งอายุที่กำลังช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่ตายแล้วบนใบหน้าของคุณ หลังจากผ่านไปสิบนาที คุณสามารถล้างหน้าได้”
เช่นนั้น หลังจากรอสิบนาที หยางเฉินก็ล้างครีมยั้งอายุที่อยู่บนใบหน้า
“แม่งเอ้ย!”
เมื่อหยางเฉินเงยหน้าขึ้นมองกระจก เขาก็อุทานคำหยาบออกมา
ใบหน้าด้านซ้ายและด้านขวาของเขา เป็นเหมือนผิวของคน2คน ใบหน้าข้างซ้ายที่ทาครีมยั้งอายุ ผิวนั้นขาวและละเอียดอ่อน ผิวขาวแดงระเรื่อ และรูขุมขนเล็กลงมาก
ในทางกลับกันผิวข้างขวา มีผิวหยาบกร้าน และมีรูขุมขนกว้างเมื่อเทียบกับผิวข้างซ้าย เทียบกันไม่ได้เลย
หยางเฉินรีบเร่ง “ผิวข้างขวาของผม รีบทาครีมยั้งอายุ”
ในสภาวะนี้ ไม่สามารถออกไปพบปะผู้คนได้ ใบหน้าข้างซ้ายและข้างขวา มีสีผิวสองสี
หวยหลันกับเสี่ยวหว่านเห็นท่าทางกังวลของหยางเฉิน ก็หัวเราะสุดๆ
อีกสิบนาทีผ่านไป สีผิวข้างขวาของหยางเฉิน ก็กลับคืนสู่สภาพเหมือนใบหน้าด้านซ้าย
เดิมทีใบหน้าคมชัด ใบหน้าที่หล่อเหลา ตอนนี้ผิวเปลี่ยนแปลงไปมาก ดูตอนนี้ เหมือนเปลี่ยนไปคนละคน คนที่ไม่รู้ คิดว่าเขาแต่งหน้าบางๆ
เมื่อหยางเฉินมาถึงล็อบบี้ชั้นหนึ่ง และเห็นคนอื่นๆอีกครั้ง ทุกคนต่างก็ประหลาดใจ
“หยางเฉิน ใครเป็นคนแต่งหน้าบางๆให้นาย?”
อ้ายหลินมีใบหน้าที่ดูเหลือเชื่อ ไม่เคยคิดว่า หยางเฉินจะแต่งหน้าจริงๆ
เฝิงเจียหยีก็ประหลาดใจเช่นกัน
ซ่งจั่วกับซ่งโย่วสองพี่น้อง มีสีหน้าตกใจยิ่งกว่าเดิม พวกเขานึกไม่ถึงเลยว่า หยางเฉินจะแต่งหน้าจริงๆ