The king of War - บทที่ 1838 แพ้อย่างต่อเนื่อง
บทที่ 1838 แพ้อย่างต่อเนื่อง
พอเห็นฉินเฮ่าล่าถอยอย่างต่อเนื่อง เหล่านักสู้ของจิ่วโจวต่างใจเสียไปตามๆ กัน
ยามาชิตะ คาซึยะเป็นผู้แข็งแกร่งชั้นแนวหน้าของประเทศซัน ถึงจะอยู่แค่แดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าชั้นสุดยอด การที่สามารถก้าวข้ามแดนเล็กหนึ่งขั้นจนเอาชนะหวังจงได้ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจเท่าไหร่
อย่าว่าแต่ผู้แข็งแกร่งที่มีพรสวรรค์สูงของประเทศซันเลย แม้แต่ผู้แข็งแกร่งของจิ่วโจวที่มีพรสวรรค์ในวิถีบู๊สูงกว่าคนทั่วไป ก็สามารถเอาชนะผู้แข็งแกร่งที่มีแดนสูงกว่าได้
แต่ว่า ฉินเฮ่าเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกชั้นกลาง ยามาชิตะ คาซึยะห่างกับเขาสองชั้น ถ้าฉินเฮ่าก็แพ้ไปด้วย งั้นพรสวรรค์ในวิถีบู๊ของยามาชิตะ คาซึยะมันไม่น่ากลัวเกินไปหน่อยเหรอ?
ฉินเฮ่าก็รับรู้ถึงความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้เหมือนกัน สีหน้าของเขามีแต่ความเคร่งขรึม เขารู้ดี ถ้าขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไปเขาก็มีแต่ต้องแพ้สถานเดียว
“ตูม!”
ทันใดนั้น รังสีวิถีบู๊อันน่าสะพรึงกลัวก็ระเบิดออกจากร่างของฉินเฮ่า
ภายใต้ความตกตะลึงของทุกคน ดวงตาทั้งสองของเขาก็กลายเป็นสีดำ แม้แต่ตาขาวก็ยังกลายเป็นสีดำ สภาพของเขาดูน่ากลัวมาก ราวกับปีศาจที่มาจากนรก
ความแข็งแกร่งของเขา เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
เมื่อกี้ เขายังมีฝีมืออยู่ที่ระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกชั้นกลางเท่านั้น แต่ว่าตอนนี้ บนตัวของเขากลับมีรังสีวิถีบู๊ของแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกชั้นปลายเอ่อล้นออกมา
“นี่คือเคล็ดวิชาลับของตระกูลฉินที่ไม่เผยแพร่ให้บุคคลภายนอก หลังจากที่ใช้ จะทำให้ฝีมีเพิ่มสูงขึ้นชั่วขณะ นึกไม่ถึงจริงๆ ว่าฉินเฮ่าจะฝึกสำเร็จ”
มีนักสู้ของจิ่วโจวที่พบเจออะไรมาเยอะ หลังจากที่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของฉินเฮ่า จึงได้วิเคราะห์ออกมา
ตามคาด หลังจากที่ฉินเฮ่าใช้เคล็ดวิชาลับ ฝีมือก็เพิ่มขึ้น ความเร็วก็เพิ่มขึ้นมามาก เพียงพริบตาเดียว ก็มาอยู่ตรงหน้ายามาชิตะ คาซึยะแล้ว
ยามาชิตะ คาซึยะรับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย แววตาเคร่งขรึม เขาตัดสินใจชกออกไปอย่างไม่ลังเล
แต่ยามาชิตะ คาซึยะก็ยังโจมตีช้าไป ในจังหวะที่เขาชกออกไป หมัดของฉินเฮ่าก็ได้ชกมากระแทกใส่หน้าอกของยามาชิตะ คาซึยะแล้ว
“ตุบ!”
เกิดเสียงดังอุดอู้ขึ้น ร่างกายของยามาชิตะ คาซึยะถอยหลังอย่างต่อเนื่อง เขาอยากหยุดแนวโน้มในการถอยหลัง แต่กลับไม่สามารถทำได้เลย
พอเห็นว่าเขากำลังจะตกจากเวที การโจมตีของ ฉินเฮ่าก็มาถึงอีกครั้ง
ครั้งนี้ ยามาชิตะ คาซึยะไม่มีโอกาสแม้แต่จะโต้กลับ ก็ถูกฉินเฮ่าซัดฝ่ามือใส่หน้าอกจนกระเด็นลอยออกนอกสังเวียนไป
ฉินเฮ่าชนะ!
บรรยากาศตกอยู่ในความเงียบทันที ทุกคนต่างจ้องมองฉินเฮ่าที่อยู่อยู่กลางเวทีด้วยความตกใจ
ในที่สุดยามาชิตะ คาซึยะก๋แพ้แล้วอย่างนั้นเหรอ ?
เยี่ยม!
ทันใดนั้น เสียงโห่ร้องดีใจก็ได้ดังขึ้น ดังมาจากทาง่ายของจิ่วโจว เสียงตะโกนดีใจดังไปทั่วบริเวณ
ในที่สุดขวัญกำลังใจในค่ายจิ่วโจวก็ได้พุ่งจากจุดต่ำสุดเมื่อไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งของจิ่วโจวทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างพากันร้องตะโกน เสียงดังสนั่นหวั่นไหว
ตู้จ้งทำหน้าดีใจ พูดทั้งหัวเราะว่า “ฉินเฮ่า เยี่ยมมาก! จากนี้ ก็สั่งสอนนักสู้ของประเทศซันให้มันได้รู้ ทำให้พวกมันได้รู้ว่านักสู้จิ่วโจวอย่างเรา ไม่ใช่สวะ”
แต่ว่าไม่นาน สิ่งทำให้นักสู้ของจิ่วโจวไม่พอใจก็ได้เกิดขึ้น การประลองรอบต่อไปที่ควรเริ่มขึ้นตั้งนานแล้ว แต่ทางประเทศซันกลับยังไม่ได้ส่งนักสู้คนต่อไปขึ้นมา
ไม่เพียงเท่านั้น กรรมการกลับหาข้ออ้างไปเข้าห้องน้ำแล้ว
“ไอ้พวกสารเลวจากประเทศซัน ช่างไร้ยางอายซะจริง พวกมันรู้ว่าฉินเฮ่าใช้เคล็ดวิชาลับ ซึ่งเคล็ดวิชาลับมันมีเวลาจำกัดพวกมันจึงจงใจถ่วงเวลา เพื่อรอให้เคล็ดวิชาลับของฉินเฮ่าสิ้นสุดลง”
ตู้จ้งพูดด้วยสีหน้าที่โกรธเกรี้ยว
“ผมว่าแล้ว พวกประเทศซันไม่มีทางประลองอย่างขาวสะอาดอยู่แล้ว ผมถึงขั้นสงสัยว่า ยามาชิตะ คาซึยะได้ใช้สารต้องห้ามรึเปล่าฝีมือถึงได้เพิ่มสูงได้ขนาดนี้ ไม่อย่างนั้นจากคนที่อยู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าชั้นสุดยอดจะเกือบเอาชนะฉินเฮ่าที่เป็นแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกชั้นกลางได้ยังไง?”
นักสู้ของจิ่วโจวอีกคนขมวดคิ้วอย่างแรง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ชอบใจ
ตู้จ้งมองไปที่เขาแล้วพูดขึ้นว่า “การประลองในครั้งนี้พวกประเทศซันเป็นคนเสนอมาเอง กรรมการก็เป็นคนของพวกมัน แถมก่อนนัดประลองก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องกฎมาก่อน ต่อให้ยามาชิตะ คาซึยะจะใช้สารต้องห้ามจริง มันก็ไม่ถือว่าผิดกฎ.
ถ้ายึดตามกฎในโลกบู๊ของจิ่วโจว ระหว่างการประลอง นักสู้สามารถใช้เพียงเคล็ดวิชาของตนมาเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตัวเองเท่านั้น การใช้สิ่งที่มาจากภายนอกเพื่อเพิ่มพลังนั้นถือว่าผิดกฎ
แต่ว่า กฎการประลองในครั้งนี้ จิ่วโจวไม่ได้เป็นฝ่ายกำหนด
พริบตาเดียว เวลาสิบนาทีก็ได้ผ่านไป กรรมการถึงได้ออกมา แถมยังอธิบายอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวว่า “ขอโทษทีครับ ผมท้องเสีย ทำให้เสียเวลาไปหน่อย จากนี้ จัดทำการประลองต่อ! ขอเชิญนักสู้ของประเทศซันขึ้นสังเวียนด้วยครับ!”
ในตอนนี้ สีดำในดวงตาของฉินเฮ่าได้หายไปกว่าครึ่งแล้ว มันก็เท่ากับว่า ผลจากการใช้เคล็ดวิชาของเขากำลังจะหมดลง
ตู้จ้งกำหมัดทั้งสองแน่น พูดพร้อมกัดฟันว่า “ชาวซันนี่ช่างไร้ยางอายจริงๆ!”
ไม่ว่าเคล็ดวิชาอะไรที่สามารถเพิ่งพลังได้ในเวลาสั้นๆ ต่างก็ต้องมีผลข้างเคียงที่รุนแรงมาก หลังจากที่เคล็ดวิชาหมดฤทธิ์ผู้ใช้ก็ต้องทนรับกับผลที่สะท้อนกลับมาจากเคล็ดวิชา พลังลดลงอย่างมหาศาล จนอาจอ่อนแอกว่าฝีมือจริงๆ ของตน
ครั้งนี้ ผู้แข็งแข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกชั้นปลายเดินขึ้นสังเวียน
อีกฝ่ายมามองฉินเฮ่าด้วยสายตาที่ดูถูกเหยียดหยาม ถึงตอนนี้ฉินเฮ่าจะมีพลังเทียบเท่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกชั้นปลายเหมือนกัน แต่มันก็เป็นการเพิ่มพลังด้วยเคล็ดวิชา แต่นักสู้ของประเทศซันคนนี้ เดิมก็อยู่ในแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกชั้นปลายอยู่แล้ว
“เริ่มการประลองได้!”
หลังจากที่เสียงของกรรมการสิ้นสุดลง นักสู้ชาวซันคนนี้ก็ได้พุ่งเข้าใส่ฉินเฮ่าทันที
ฉินเฮ่าอดทนต่อผลข้างเคียงของเคล็ดวิชาที่หมดลง แล้วพุ่งทะยานออกไป
“ตุบ!”
เกิดเสียงดังขึ้น ร่างกายของฉินเฮ่า ถูกอีกฝ่ายใช้แรงอันมหาศาลกระแทกจนลอยออกไป
“ตูม!”
วินาทีต่อมา ฉินเฮ่ากระแทกเข้าไปในค่ายนักสู้ของจิ่วโจว กระอักเลือดแล้วหมดสติไปเลย
เห็นเพียงนักสู้ชาวซันที่ยืนอยู่บนสังเวียนกวาดตามองนักสู้ของจิ่วโจวที่อยู่ในค่ายด้วยสายตาที่ดูถูก แล้วพูดด้วยความมั่นใจว่า “รองจากแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ด ฉันไร้เทียมทาน เชิญพวกแกตามสบายเลย!”
การกระทำของอีกฝ่ายยโสและเย่อหยิ่งอย่างถึงที่สุด ทั้งๆ ที่อยู่แค่ระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกชั้นปลายเท่านั้น แต่กลับบอกว่ารองจากแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดแล้ว ตัวเองไร้เทียมทาน
งั้นก็เท่ากับว่า ต่อให้ทางจิ่วโจวจะมีผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดอยู่ด้วย เขาก็มีความมั่นใจที่จะเอาชนะได้อย่างนั้นเหรอ
“ไอ้บัดซบนี่ มันโอหังเกินไปแล้ว ผมจัดเป็นคนสั่งสอนมันเอง!”
นักสู้แดนเหนือมนุษย์ขั้นหกชั้นปลายคนหนึ่งของจิ่วโจวได้กระโดดขึ้นเวที
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็ทำให้นักสู้ของจิ่วโจวถึงกับสิ้นหวังอย่างถึงที่สุด
ผู้แข็งแกร่งที่อยู่ต่ำจากแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดห้าคนแพ้ให้นักสู้ชาวซันคนนั้นในรวดเดียว แถมยังมีผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดชั้นต้นหนึ่งคนกับแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกชั้นสุดยอดสองคน
สำหรับนักสู้ของจิ่วโจวแล้ว ถือเป็นความอัปยศอย่างใหญ่หลวง แต่ว่า ฝีมือของอีกฝ่ายนั้นแข็งแกร่งมากจริงๆ เหมือนดั่งที่อีกฝ่ายเพิ่งพูด รองจากแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ด เขาไร้เทียมทาน!
“ท่านตู้ พวกเราควรทำยังไงดีครับ?คงไม่ต้องให้ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดไปสู้กับนักสู้ชาวซันคนนั้นหรอกมั้งครับ?”
นักสู้ของจิ่วโจวคนหนึ่งมองมาที่ตู้จ้ง แล้วถามด้วยสีหน้าที่โกรธเกรี้ยว “คุณหยางที่คุณพูดถึง ทำไมการประลองเริ่มไปนานขนาดนี้แล้วยังไม่ปรากฏตัวอีก? คงไม่ได้ตกใจกลัวในความแข็งแกร่งของนักสู้ชาวซันจนไม่กล้ามาแล้วนะครับ?