The king of War - บทที่ 1862 จะฆ่าหรือไม่ฆ่า
ความหนาวเยือกในแววตาของไป๋หลี่จิงหวินดูเข้มข้นขึ้น หยีตามองไปที่ทิคาโนะ ทาเคชิ ความคิดในการฆ่าทอประกายจ้าในดวงตา
“คุณหยาง!”
นักบูโดจิ่วโจวหลายคนที่ยังอยู่ในโรงเทพบู๊ ต่างก็ตะโกนกันขึ้นมาลั่น แต่ละคนกำหมัดกันแน่น สีหน้าเต็มไปด้วยความเคียดแค้น
ทิคาโนะ ทาเคชิโหดเหี้ยมไร้ปรานีขนาดนี้ ขนาดหยางเฉินอยู่ในสภาพรอตายแล้ว ก็ยังมีใจจะทรมานได้อีก
ในทันทีนั้นไป๋หลี่จิงหวินก็มองไปที่หยางเฉินที่ถูกทิคาโนะ ทาเคชิเหยียบอยู่ พูดด้วยสีหน้าราบเรียบว่า “แกไปด้วยใจสบาย ๆ เถอะ ข้าจะช่วยแกปกป้องศักดิ์ศรีของนักบูโดจิ่วโจว วันนี้ นักบูโดประเทศซันที่อยู่ในงานนี้ จะต้องตายทั้งหมด!”
เสียงของเขา ไม่มีอารมณ์ใด ๆ แม้แต่น้อย หนาวเยือกอย่างเป็นที่สุด
เพียงแค่คำพูดประโยคเดียว ก็ทำให้นักบูโดประเทศซันทุก ๆ คน ต่างก็หนาวเยือกเข้าไปถึงกระดูก ในความรู้สึกพวกเขามีว่า ไป๋หลี่จิงหวินไม่ได้คุยโตโอ้โม้ แต่มีความเป็นจริงที่ทำไปได้ขนาดนั้น
ทิคาโนะ ทาเคชิเข้าต่อสู้กับหยางเฉินในครั้งใหม่นี้ ก็ได้ใช้พลังส่วนเกินไปมากแล้ว ตัวร่างเดิมก็ได้รับบาดเจ็บมาอยู่ ถึงขณะนี้คงไม่ได้รักษาสภาพความเป็นสุดยอดอยู่แล้ว
ส่วนไป๋หลี่จิงหวินนั้นเก่งกาจไปถึงขนาดไหน นักบูโดที่อยู่ในบริเวณทั้งหมด คงไม่มีใครรู้ชัดเจน รู้แต่ว่าสูงเอามาก ๆ ขนาดทำเอาทุกคนที่อยู่นี้ต่างก็รับถึงพลังกดดันที่สูงมาก
ทิคาโนะ ทาเคชิก็ต้องรับรู้ในจุดนี้อยู่ด้วยอย่างแน่นอน บนใบหน้าต้องลดความอหังการลงบางส่วน เพิ่มใส่ความอึ้งหนักเข้าไปสักหลายส่วน
ในขณะนั้น หยางเฉินกำลังถูกบดขยี้ทรมานของทิคาโนะ ทาเคชิ กระดูกบริเวณหน้าอกก็หักไปหลายท่อนแล้ว
แม้อาการสาหัสขนาดนี้แล้ว เขาก็ยังไม่ละพยายามในการช่วยตัวเอง ไม่ว่าตำราเทพสงครามก็ดี สายเลือดคลั่งก็ได้ แต่ในนาทีนี้ ทุกอย่างดูเหมือนหมดสภาพในการใช้งาน
เขารู้สึกได้อย่างชัดเจน สัญญาณชีพในส่วนภายในร่างกายของเขา กำลังทยอยหายไป
ในทันใดนั้น ภาพที่ปรากฏขึ้นในตาที่เขาเห็นเหมือนเป็นรูปร่างของคนที่เขาสนิทสนมเอามาก ๆ ฉินซีกำลังจูงเสี้ยวเสี้ยว วิ่งมุ่งหน้ามาหาเขา
ข้างหลังฉินซีกับเสี้ยวเสี้ยว ยังมีฉินอีกับฉินต้าหย่ง อีกทั้งหม่าชาวกับพี่อ้าย ยังมีเฝิงเสียวหว่านกับหวยหลัน….ล้วนแล้วแต่คนใกล้ชิดมากที่สุดที่อยู่รอบตัวเขา
หยางเฉินยื่นมือออกไปข้างหนึ่ง มุ่งไปให้กับคนเหล่านั้น มองเห็นแล้วว่าพวกเขาเข้าใกล้เขามากแล้ว แต่ทำไมมาไม่ถึงข้างหน้าของเขาเสียที
“เป็นภาพลวงตาหรือ?”
หยางเฉินเหมือนมีจิตสำนึกไปถึงอะไรบางอย่าง เขาให้รู้สึกไม่ยอมขึ้นมาเต็มหน้า เขาไม่คิดจะยอมตาย เขาตายไม่ได้ ถ้าเขาตายไป ใครจะมาปกป้องฉินซีกับเสี้ยวเสี้ยว
เขาใช้แรงเฮือกสุดท้ายกัดไปที่ลิ้นตัวเอง เวลานี้เขาต้องใช้ความเจ็บกระตุ้นให้ตัวเองอยู่ในสภาวะตื่น
“อ๊าก…..”
หยางเฉินคำรามลั่นขึ้นมาในทันใดนั้น ไม่รู้ไปเอาแรงมาจากไหน คว้าน่องขาทิคาโนะ ทาเคชิเข้ามา ใช้แรงกอดไว้แน่นในฉับพลันนั้น
ทิคาโนะ ทาเคชิไม่เคยได้นึกได้คิด หยางเฉินยังกลับจะมีแรงขึ้นมาได้ จึงไม่ทันได้ระวังใด ๆ กับหยางเฉิน ด้วยกำลังที่รุนแรงขนาดนั้น ขาของเขาก็เกิดการสะดุด เซก้าวถอยหลังไป ถึงกับแทบจะล้ม
“ผัวะ!”
ในชั่ววูบนั่นเอง หยางเฉินกระอักเลือดพ่นออกมาในทันใด
มีดเลือดเล็กขนาดนิ้วโป้งสองเล่ม พุ่งแยกออกมุ่งแทงเข้าใส่ตาสองข้างของทิคาโนะ ทาเคชิ
และในช่วงเวลานั้น ทิคาโนะ ทาเคชิยังกำลังเซถอย ยังไม่ทันตั้งตัวติด
และก็ในเดี๋ยวนั้น!
“ผัวะ!”
“ผัวะ!”
เลือดสด ๆ ที่พุ่งออกไปจากปากของหยางเฉิน เปลี่ยนกลายเป็นมีดเลือดสองเล่ม แทบจะในเวลาเดียวกัน ทิ่มเข้าใส่ลูกตาทั้งคู่ของทิคาโนะ ทาเคชิ
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นไปอย่างกะทันหันมากเป็นที่สุด ถึงขนาดตอนที่มีดเลือดสองเล่มแทงเข้าไปในตาของทิคาโนะ ทาเคชิ ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ยังแทบจะไม่ได้ตั้งสติกลับมาได้
“โอ๊ย ลูกตาของข้า!ลูกตาของข้า!”
จนกว่าได้ยินเสียงระเบิดร้องด้วยความเจ็บปวด ดังออกมาจากคอหอยของทิคาโนะ ทาเคชิ ทุกคนถึงรู้ได้
แต่ละคนเต็มไปด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อบนใบหน้า หยางเฉินที่เพิ่งทำท่าจะม้วยมอดแล้ว กลับพ่นเลือดออกมาคำใหญ่ พุ่งเข้าแทงใส่ลูกตาของทิคาโนะ ทาเคชิจนบอดไปได้?
มันเป็นไปได้ยังไงกัน?
และในเวลานั้น หยางเฉินยืนกับพื้น ตัวโงนเงนไปมา สีหน้าซีดเผือดอย่างที่สุด มุมปากยังมีเลือดเยิ้มไหล
ไป๋หลี่จิงหวินก็ถึงกับตะลึงงง พูดอย่างหน้าตื่นว่า “พลังธาตุน้ำ!นี่เจ้ารับรู้ได้ถึงพลังธาตุน้ำแล้ว ไม่ได้เพียงแค่รับรู้ ยังสามารถใช้พลังธาตุน้ำแปรขึ้นรูปได้!พลังฝีมือของเจ้ามันแค่เพิ่งเข้าแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้า แล้วทำไปได้ยังไง?”
ให้แม้แต่ไป๋หลี่จิงหวินที่มีความรอบรู้อย่างกว้างไพศาล ก็ไม่สามารถคิดออกได้ ว่าหยางเฉินถึงขนาดรับรู้ถึงพลังธาตุน้ำได้แล้ว ยังสามารถผ่านพลังธาตุน้ำ แทงตาทั้งคู่ของทิคาโนะ ทาเคชิไปจนบอด
คำพูดของไป๋หลี่จิงหวิน ก็ทำให้เหล่านักบูโดในบริเวณที่อยู่ในสภาพตะลึงงงอยู่ ได้รู้กระจ่างในที่สุด อะไรที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ ที่แท้ก็คือพลังธาตุน้ำผนึกแน่นรวมกันกลายเป็นมีดสายเลือด
หยางเฉินไม่สนใจกับใครต่อใครรอบข้าง อาศัยกำลังใจที่มุ่งมั่นของตัวเอง ฝืนยืนอยู่ตรงที่เดิม สองตาเข้มข้นด้วยใจมุ่งฆ่า
เขากัดลิ้นตัวเองอย่างโหดร้ายอีกครั้ง สัญญาณเจ็บปวดทิ่มแทงกระตุ้นไม่หยุด ทำให้สมองยังคงสติที่เหลือดุจฟางเส้นสุดท้ายนั้นคงอยู่
“ตายซะ!”
เขาคำรามขึ้นมาลั่น ขาขยับ โถมตัวเข้าใส่ทิคาโนะ ทาเคชิ
“คุณหยาง!”
นักบูโดจิ่วโจวตกตะลึงกันไปหมด หยางเฉินยังลงมือได้อีก?
ไป๋หลี่จิงหวินยืนอยู่กับที่เดิม ไม่ได้ลงมือแต่อย่างใด ได้แต่มองหยางเฉินที่โถมตัวพุ่งไปใส่ทิคาโนะ ทาเคชิ
ขณะนั้น หยางเฉินพุ่งถึงข้างหน้าทิคาโนะ ทาเคชิแล้ว
ไม่รู้ตอนไหน อยู่ ๆ ในมือของเขาปรากฏมีมีดพกอยู่เล่มหนึ่ง
“ปึก!”
มีดพกแทงเข้าตรงกลางหัวใจของทิคาโนะ ทาเคชิอย่างสุดโหด
สีหน้าที่เพิ่งกำลังเต็มไปด้วยความเจ็บปวดของทิคาโนะ ทาเคชิ ชะงักหยุดการขยับตัว ตาทั้งคู่ที่เต็มไปด้วยเลือดสด ๆ หันไปทางหยางเฉิน มีอาการขยับหมัดทั้งสอง เหมือนกับว่าจะลงมือกับหยางเฉิน แต่ทว่า แขนไม่มีแรงแม้แต่จะยกขึ้นมา
มีดพกเล่มนี้ ก็คือกริชอาถรรพ์ที่เจ้าเมืองเหมียวได้มอบให้หยางเฉิน ตอนที่เขาจะไปเมืองหวยเฉิง ก็ด้วยเพราะมีกริชอาถรรพ์เล่มนี้ จึงทำให้การเข้าไปเมืองหยางเฉิง สะดวกขึ้นไปอีกมาก
แต่ทุกครั้งที่ใช้กริชอาถรรพ์เล่มนี้ ก็จะทำให้เขาต้องถูกแว้งกัดอย่างรุนแรงต่อร่างกายของเขา นอกจากอยู่ในสถานะสุดท้ายของความเป็นความตาย ไม่งั้นเขาก็ไม่คิดจะใช้กริชอาถรรพ์เล่มนี้
เวลานี้ เขาก็เหมือนลูกธนูปลายแรงแล้ว หรือจะพูดอีกทีว่า แขวนอยู่กับลมหายใจเฮือกสุดท้ายแล้ว วินาทีข้างหน้าจะต้องตายหรือไม่ ไม่มีอะไรรับประกันได้
การจู่โจมให้ถึงตายครั้งนี้ ก็คือสุดท้ายของครั้งสุดท้าย มีแต่ต้องลงมือในช่วงทีเผลอ จึงมีทางสำเร็จได้
ที่โชคดีก็คือ เขาทำได้สำเร็จ!
ทั่วทั้งบริเวณเงียบเป็นตาย ทุกคนแต่ละคนตาโตค้าง มองร่างของทิคาโนะ ทาเคชิ ค่อย ๆ ทรุดล้มลงกับพื้น
นานไปอยู่พักใหญ่มาก จึงมีนักบูโดจิ่วโจวนายหนึ่ง จู่ ๆ ก็พูดขึ้นมา “คุณหยาง ชนะแล้ว?”
ตู้จ้งพูดขึ้นมาด้วยความตื้นตัน “ใช่!คุณหยางชนะแล้ว เขาทำได้แล้วจริง ๆ!”
“คุณหยางชนะแล้ว!เขาทำเพื่อนักบูโดจิ่วโจวทั้งหมด ชนะเอาศักดิ์ศรีคืนมา เขาคือความภาคภูมิใจของพวกเรานักบูโดแห่งจิ่วโจว”
“คุณหยางจงเจริญ!”
……
นักบูโดจิ่วโจว แต่ละคนโห่ร้องขึ้นมาด้วยความดีใจอย่างตื้นตัน
หันมองไปด้านนักบูโดประเทศซัน แต่ละคนหน้าซีดเป็นขี้เถ้า สีหน้ายังคงรู้สึกไม่อยากเชื่อ ผู้แข็งแกร่งที่เปรียบดั่งเทพในสายตาของพวกเขา ตายเสียแล้ว อีกทั้งถูกฆ่าด้วยนักบูโดจิ่วโจวที่พลังฝีมือยังต่ำกว่าทิคาโนะ ทาเคชิด้วยซ้ำ
ไป๋หลี่จิงหวินมีสีหน้าในอารมณ์หนักอึ้ง เขาเริ่มรู้สึกกังวลกับตระกูลไป๋หลี่ขึ้นมาในทันใดนั้น
หยางเฉินอายุยังจัดว่าน้อยอยู่มาก พลังฝีมือบูโดก้าวขึ้นมาถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้นแล้ว มองทั่วในบ้านตระกูลไป๋หลี่ ก็ยังไม่เคยมีนักบูโดแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้นที่ยังอายุน้อยขนาดนี้
ที่ทำให้เขารู้สึกตื่นตระหนกมากที่สุดก็คือ หยางเฉินถึงขนาดรับรู้ได้ถึงพลังแห่งธาตุแล้ว อีกทั้งฝึกจนคล่องได้ถึงขั้นใช้พลังธาตุน้ำให้ขึ้นรูปเป็นดาบเลือดผนึกแข็งได้ ต่อให้พวกที่รับรู้ถึงพลังธาตุน้ำทั่วไป และเป็นถึงนักบูโดแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นสุดยอดที่ขึ้นชื่อมานานแล้วก็เถอะ ก็ไม่แน่ว่าจะมีที่ว่าฝึกจนคล่องในการใช้พลังธาตุน้ำได้อย่างหยางเฉิน
นอกจากนี้แล้ว ที่ทำให้เขาต้องยิ่งผวาหนักมากก็คือ หยางเฉินยังมีของอาถรรพ์ เรื่องของอาถรรพ์ ก็เป็นอาวุธวิเศษที่ต้องมีพลังในแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าขั้นสุดยอดจึงจะควบคุมในการใช้ได้
หนุ่มน้อยอัจฉริยะบูโดที่มีพรสวรรค์ยอดเยี่ยมขนาดนี้ เบื้องหลังน่าจะไม่ใช่ธรรมดามัง?
บ้านตระกูลไป๋หลี่มีคำสั่งให้เขามาฆ่าหยางเฉิน เขาสมควรจะฆ่าหรือไม่ฆ่า?
ถ้าจะฆ่า เวลานี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุด หากแม้นหลุดจากโอกาสนี้ไป รอจนหยางเฉินฟื้นฟูคืนกลับสภาพได้ เขาคิดจะฆ่าหยางเฉินคงไม่มีทางเป็นไปได้ตลอดทั้งชาติ