The king of War - บทที่ 1871
บทที่ 1871
อย่าลังเลอีกเลย
สีหน้าของหนิงเทียนเหอดูจริงจังและไม่มีท่าทีล้อเล่นเลยสักนิด
ดวงตาของว่านฉีมีรังสีสังหารอันเข้มข้น เขาอยากได้ตำแหน่งหัวหน้าสมาคม แต่ว่าเขาก็รู้ชัดดีว่า อาศัยตนเองในตอนนี้ ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตู้จ้ง
หากต้องรอจนกว่าตู้จ้งกลับมาและพูดถึงการแต่งตั้งหัวหน้าสมาคมขึ้นมาใหม่ ต่อให้ปลดหยางเฉินจากหัวหน้าสมาคมได้แล้ว แต่ตำแหน่งหัวหน้าสมาคมนี้ก็ยังวนมาไม่ถึงเขาอยู่ดี แต่ต้องตกไปเป็นของตู้จ้งที่แข็งแกร่งกว่า
ดังนั้นหากเขาต้องการเป็นหัวหน้าสมาคม เขาจะต้องได้มันมาในช่วงเวลานี้ที่ตู้จ้งไม่อยู่
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ หนิงเทียนเหอ มีท่าทีคิดจะสู้ตายกับเขา หากพวกเขาสู้เป็นสู้ตายกัน ต่อให้ตนเอาชนะได้ก็ต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส
ข้างเขา ยังมี เฉินยวี่ และผู้อาวุโสแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นต้นอีกสองคน หากเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส คนเหล่านี้จะฆ่าเขาหรือไม่?
เขาไม่รู้ อีกทั้งยังไม่กล้าเสี่ยง!
ดูเหมือนว่า เฉินยวี่ จะเข้าใจความคิดของ ว่านฉีและรีบพูดว่า “ผู้อาวุโสว่าน ในสมาคมบูโดมีแค่คุณเป็นหัวหน้าสมาคมเท่านั้น ฉันถึงจะยอม! ขอแค่คุณพูดออกมาคำเดียว ฉันก็จะสู้ตายเพื่อช่วยให้คุณได้กลายเป็นหัวหน้าสมาคม!”
ว่านฉีไม่ได้พูดอะไร ดวงตาของเขายังคงจ้องมองไปที่ หนิงเทียนเหอ เขาไม่ได้เชื่อใจอะไรเฉินยวี่
เฉินยวี่ยิ่งเริ่มวิตกกังวลมากขึ้นทันทีและรีบพูดว่า “ผู้อาวุโสว่าน หากพลาดโอกาสนี้ ต่อให้คุณอยากจะเป็นหัวหน้าสมาคมก็ไม่มีหวังแล้ว!”
“ขอแค่คุณช่วยผมยื้อ หนิงเทียนเหอ เอาไว้ ผมก็จะฆ่าคนพวกนี้ตอนนี้ทันที จากนั้นก็ไปช่วยคุณฆ่า หนิงเทียนเหอ ด้วยกัน!”
ว่านฉีที่แต่เดิมคิดจะยอมแพ้แล้ว เมื่อได้ยินคำพูดของ เฉินยวี่ ในใจของเขาก็หวั่นไหวขึ้นมา
เขากังวลว่าหลังจากที่ตนฆ่า หนิงเทียนเหอ แล้ว เฉินยวี่ และคนอื่นๆ จะถือโอกาสนี้มาลงมือกับเขา แต่ถ้า เฉินยวี่ ยินดีที่จะช่วยเขาต่อสู้กับ หนิงเทียนเหอ อย่างนั้น หนิงเทียนเหอ ก็จะต้องตายแน่ในวันนี้!
หลังจากได้ยินคำพูดที่ไม่ปกปิดใดๆ ของ เฉินยวี่ หนิงเทียนเหอ ก็เบิกตากว้างทันทีและพูดอย่างโกรธเคือง “เฉินยวี่ นายมันคนหน้าด้าน! คิดจะฆ่าฉันหรือไง?”
เฉินยวี่ เยาะเย้ย “หนิงเทียนเหอ นายอย่ามาแสร้งทำเป็นไร้เดียงสา มาถึงแดนพลังในขั้นนี้ของเรา ใครกันที่ไม่อยากจะเป็นหัวหน้าสมาคม? เกรงว่าแม้แต่ตัวนายเองก็อยากได้ตำแหน่งหัวหน้าสมาคมด้วย?”
หนิงเทียนเหอ ตะคอกอย่างโกรธเคือง “ไร้สาระ! ฉันรู้ว่าฉันไม่แข็งแกร่งพอ สำหรับตำแหน่งหัวหน้าสมาคมฉันไม่เคยละโมบคิดฝัน!กลับเป็นพวกนายต่างหาก ที่อยากเป็นหัวหน้าสมาคมจนไม่มีคุณธรรมเลยสักนิด?”
“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณหยางเอาชีวิตเข้าสู้และฆ่าทิคาโนะ ทาเคชิได้ ยังจะมีสมาพันธ์บูโดในทุกวันนี้หรือ? วันนี้คุณหยางบาดเจ็บสาหัสไม่ได้สติ พวกเราไม่คิดจะรักษาเขาก็แล้วไปแต่นี่ยังกล้ามาโลภในตำแหน่งหัวหน้าสมาคมอีก?”
เฉินยวี่แค่นเสียง เขาไม่สนใจหนิงเทียนเหอ แต่มองไปที่ผู้อาวุโสเว่ยและผู้อาวุโสหงที่อยู่ด้านข้างและหรี่ตาพูดว่า “พวกคุณสองคนตอนนี้ก็แสดงท่าทีออกมาเถอะ! ตรงไปตรงมาสักหน่อย พวกคุณจะเลือก หนิงเทียนเหอ หรือผู้อาวุโสว่าน”
ผู้อาวุโสเว่ยและผู้อาวุโสหงในใจกำลังโกรธมาก แต่พวกเขาก็ไม่กล้าแสดงออกมา ตอนนี้สถานการณ์ยีงไม่ชัดเจน พวกเขาจึงไม่กล้าไปตอแย เฉินยวี่
ทั้งสองคนมองหน้ากัน ผู้อาวุโสเว่ยก็เอ่ยปากขึ้นก่อน “ผู้อาวุโสเฉิน อย่าได้ทำให้พวกเราต้องลำบากใจ จะแย่งชิงกันยังไง พวกเราก็แล้วแต่ แค่พวกเราได้เป็นผู้อาวุโสของสมาพันธ์บูโด แค่นี้ก็พอใจมากแล้ว!”
ผู้อาวุโสหงเองก็พยักหน้ารัวๆ เช่นกัน “ใช่ใช่ใช่ พวกเราพอใจกับสิ่งที่เราเป็นอยู่ตอนนี้มากแล้ว!”
“ฮ่าฮ่า!”
เฉินยวี่เยาะเย้ย “พวกนายช่างวางตัวเป็นเสียจริง ตอนนี้ก็ยังรักษาความเป็นกลาง สุดท้ายไม่ว่าใครจะชนะ พวกนายล้วนได้ผลประโยชน์ทั้งนั้น ช่างฉลาดจริงๆ!”
คำพูดของเขาเต็มไปด้วยการเสียดสี
ผู้อาวุโสเว่ยและผู้อาวุโสหงต่างก็หน้าแดง แต่กลับไม่กล้าระเบิดความโกรธออกมา และได้แต่เก็บความโกรธไว้ในใจเท่านั้น
“ผู้อาวุโสเว่ย! ผู้อาวุโสหง! พวกคุณเองก็เห็นแล้วว่า เฉินยวี่ ตอนนี้หยิ่งผยองมากขนาดไหน ถ้าหาก ว่านฉีได้กลายเป็นหัวหน้าสมาคมแล้วจริงๆ เกรงว่าสมาพันธ์บูโดในอนาคตจะไม่มีที่ของพวกคุณแล้ว”
หนิงเทียนเหอ รีบมองไปที่พวกเขาและพูดต่อ “รองหัวหน้าตู้เป็นคนยังไง พวกคุณล้วนรู้ดี พวกคุณอย่าได้ช่วยปีศาจทำชั่วเด็ดขาด!”
ตราบใดที่ ผู้อาวุโสเว่ยและ ผู้อาวุโสหงไม่ช่วย ว่านฉี ว่านฉีก็จะไม่กล้าลงมืออย่างง่ายดาย
หนิงเทียนเหอ กล่าวขึ้นอีกว่า “ตอนนี้ผมรู้ว่าพวกคุณกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่ฉันไม่ต้องการให้พวกคุณช่วยฉันจัดการกับว่านฉี พวกคุณแค่ช่วยปกป้องเพื่อนของคุณหยางก็พอส่วนทางว่านฉี ให้ผมจัดการเอง!”
หนิงเทียนเหอ พูดถึงขนาดนี้แล้ว แต่ผู้อาวุโสเว่ยและผู้อาวุโสหงก็ยังคงไม่สามารถตัดสินใจได้
ว่านฉีสร้างความกดดันให้พวกเขามากเกินไป อีกทั้งตู้จ้งก็ไม่อยู่ ถ้า หนิงเทียนเหอ ตายเพราะเงื้อมมือของ ว่านฉีอย่างนั้นพวกเขาก็คงจะหนีพ้นเงื้อมมือของ ว่านฉีไปไม่ได้เช่นกัน
เว้นเสียแต่ หนิงเทียนเหอ จะหยุด ว่านฉี ได้จริงๆ
หม่าชาวที่ไม่ได้เอ่ยปากมาตลอด ตอนนี้ย่อมเข้าใจได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เขารู้เช่นกันว่า หนิงเทียนเหอ ต้องการช่วยเขาจริงๆ
ในเมื่อเป็นแบบนี้ เขาก็ย่อมช่วยหนิงเทียนเหอได้เช่นกัน
หม่าชาวกัดฟันแน่น เขาปลดผนึกของลูกแก้วดูดเลือดให้เกิดเป็นรอยร้าวที่ใหญ่ขึ้นและมีพลังรุนแรงออกมาจากตัวเขา
“อ๊าก…”
เขาส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด
พลังนี้แข็งแกร่งมากจนเขารู้สึกว่าร่างกายของตนกำลังจะแตกออก
“คุณหม่า!”
เมื่อสองพี่น้องตระกูลซ่งเห็นเช่นนี้ สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
สถานการณ์ของหม่าชาวก็ดึงดูดความสนใจของทุกคนในที่นี้ด้วยเช่นกัน
ว่านฉีรู้สึกได้ถึงพลังอันมหาศาลที่หม่าชาวปล่อยออกมา สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันทีและรีบตะโกนลั่น “เฉินยวี่ ลงมือเดี๋ยวนี้! ไม่อย่างนั้นทุกอย่างจะสายเกินไปแล้ว!”
เฉินยวี่ได้สติกลับมา เขาไม่มีความลังเลใดๆ เหลืออยู่และพุ่งเข้าใส่หม่าชาวพร้อมพลังต่อสู้เต็มเปี่ยม
“ตายซะ!”
หม่าชาวคำรามดังลั่น เมื่อฝีเท้าขยับ ตัวของเขาก็หายไปจากที่เดิมทันทีและเริ่มการต่อสู้
“ปึง!”
ในวินาทีต่อมา คนทั้งก็พุ่งเข้าใส่กันจนเกิดเป็นพลังอันมหาศาลโอบรอบ
ร่างกายของหม่าชาว และ เฉินยวี่ ถูกกระแทกกลับไปพร้อมกัน
แต่ในครั้งนี้ หม่าชาวกลับถอยไปเพียงสามก้าว ขณะที่เฉินยวี่ถูกกระแทกจนถอยไปห้าก้าว
ภาพนี้ทำให้ทุกคนตกใจ
เห็นได้ชัดว่าหม่าชาวเป็นเพียงผู้แข็งแกร่งในแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าชั้นต้นเท่านั้น สามารถระเบิดพลังเทียบเท่ากับแดนเหนือมนุษย์ชั้นยอดขั้นเจ็ดออกมาได้ก็เหนือความคิดฝันของทุกคนไปแล้ว แต่มาตอนนี้ เขากลับสามารถกระแทกจนเฉินยวี่ล่าถอยไปได้และเป็นฝ่ายได้เปรียบ นี่แสดงให้เห็นว่าความแข็งแกร่งของหม่าชาวได้มาถึงช่วงแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นต้นแล้วและอาจแข็งแกร่งกว่า เฉินยวี่ ด้วย
ใบหน้าของ เฉินยวี่ อึ้งไป”เป็นไปได้อย่างไร?”
เมื่อกี้เขาพุ่งเข้าไปเพื่อเอาชีวิตของหม่าชาวและไม่ได้ยั้งมือไว้เลยสักนิด แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังถูกหม่าชาวโจมตีตนล่าถอย
หม่าชาวฝืนแบกรับความเจ็บปวดในร่างกายของเขาที่คล้ายจะระเบิดออกเอาไว้ เขามองไปที่ผู้อาวุโสเว่ยและผู้อาวุโสหงก่อนจะพูดว่า “ฉันเป็นพี่น้องที่ดีที่สุดของหยางเฉิน ถ้าพวกคุณเต็มใจช่วยฉัน ฉันสัญญาว่าเมื่อพี่เฉินฟื้นแล้วจะไม่มีทางปฏิบัติต่อคุณไม่ดีอย่างแน่นอน!”
ขอแค่ ผู้อาวุโสหงและผู้อาวุโสเว่ยเข้าร่วมกับพวกเขาว่านฉีและ เฉินยวี่ ก็จะพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์
หนิงเทียนเหอ เข้าใจความหมายของหม่าชาว เขาพูดเสียงดังลั่นกับผู้อาวุโสหงและผู้อาวุโสเว่ย “พวกคุณยังลังเลอะไรอยู่? หรือว่าต้องรอจนกว่า ว่านฉีจะฆ่าฉันก่อนจากนั้นก็ฆ่าพวกคุณ?”