The king of War - บทที่ 1876
บทที่ 1876
ผนึกกำลังฉีกออก
หม่าชาวตกใจมากเมื่อเห็นฉินยี ในฐานะพี่น้องที่สนิทของหยางเฉิน เขาคุ้นเคยกับทุกคนรอบตัวหยางเฉิน และรู้ดีว่าฉินยีเป็นคนแค่ธรรมดา
แต่ตอนนี้ เขากลับพบว่าฉินยีมีพลังในแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้น แล้วจะไม่ให้เขาตกใจได้อย่างไร?
นอกจากหม่าชาวแล้ว คนอื่นๆ เองก็ตกใจเช่นกันเพราะฉินยียังเด็กเกินไป อีกทั้งยังเป็นผู้หญิง แต่กลับครอบครองความแข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้น หากมองหาทั่วทั้งจิ่วโจวจะมีผู้หญิงกี่คนที่มีพรสวรรค์วิถีบู๊เช่นนี้?
ฉินยีมีเลือดออกจากมุมปากของเธอ เธอพยายามลุกขึ้นจากพื้นและจ้องไปที่ผู้แข็งแกร่งจากตระกูลไป๋หลี่ด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม
เมื่อชายชราในชุดผ้าคลุมเห็นว่าฉินยีเป็นผู้หญิง สีหน้าเขาก็ตกใจไปเช่นกัน “เป็นหญิงสาวคนหนึ่งหรอกหรือ! ไม่คาดคิดจริงๆ ในโลกฆราวาสจะมีปีศาจสายบู๊มากขนาดนี้ คนแรกก็คือหยางเฉินที่อายุยังไม่ถึง 30 ปีแต่กลับเข้าสู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้น มาตอนนี้ก็ยังมีหญิงสาวอายุไม่ถึง 30 ปีแต่กลับไปถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดแล้ว”
ส่วนหม่าชาว แทบจะไม่มีอะไรให้หันไปสนใจเขาอีก ต่อหน้าหยางเฉินและฉินยี พรสวรรค์วิถีบู๊ของหม่าชาวยังดูอ่อนแอไปเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม แม้แต่ในตระกูลบู๊โบราณ คนหนุ่มสาวที่ครอบครองจำนวนไม่มากที่มีพลังแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้า
ฉินยีจ้องไปที่ชายชราในชุดผ้าคลุมของตระกูลไป๋หลี่คนนั้นและพูดอย่างเย็นชา “คุณในฐานะผู้อาวุโสของตระกูลบู๊โบราณกลับมากดขี่โลกฆราวาส แบบนี้ออกจะเกินไปรึเปล่า?”
เธอรู้สึกถึงได้ถึงออร่าบู๊อันทรงพลังอย่างมากจากตัวของอีกฝ่าย พลังของอีกฝ่ายนั้นอย่างน้อยๆ ก็ต้องอยู่ในแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางหรืออาจจะเป็นแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลาย
อย่างไรก็ตาม เธอมีพลังแค่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้นเท่านั้น จึงไม่ใช่ศัตรูของชายชราในชุดผ้าคลุม
“หึ!”
ชายชราในชุดผ้าคลุมแค่นเสียงอย่างเย็นชา “สาวน้อยโลกฆราวาสคนหนึ่ง กล้ามาตั้งคำถามกับฉัน:black”ไป๋หลี่ซวนงั้นหรือ?”
“เขาก็คือไป๋หลี่ซวน!”
มีผู้แข็งแกร่งของสมาพันธ์บูโดเมื่อได้ยินชื่อนี้ก็ถึงกับตกตะลึง
ผู้แข็งแกร่งอีกคนหนึ่งของสมาพันธ์บูโดถามว่า “ใครคือไป๋หลี่ซวน?”
มีคนพูดด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม “ไป๋หลี่ซวน เป็นสมาชิกของบ้านที่สามของตระกูลบู๊โบราณไป๋หลี่ สถานะของเขาในตระกูลไป๋หลี่ไม่ได้ถือว่าอยู่ระดับท็อป แต่ว่าหลานชายคนโตของเขาไป๋หลี่เยว่ เป็นผู้สืบทอดของบ้านที่สามของตระกูลไป๋หลี่ ว่ากันว่าไป๋หลี่เยว่ มีอายุเพียง 35 ปี แต่พลังบู๊ของเขากลับไปถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางแล้ว และเป็นผู้มีพรสวรรค์วิถีบู๊มากที่สุดของบ้านที่สามตระกูลไป๋หลี่”
“นอกจากนี้ยังมีลูกชายคนโตของ ไป๋หลี่ซวน ซึ่งก็คือบิดาของไป่หลี่หวู่ซวง ตอนนี้ก็เป็นเจ้าบ้านของบ้านที่สามตระกูลไป๋หลี่ พรสวรรค์บู๊ของเขาก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน และเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด
หลังจากฟังคำพูดของชายผู้นี้ ผู้แข็งแกร่งของสมาพันธ์บูโดก็ล้วนตกตะลึง
แม้แต่ในตระกูลบู๊โบราณ ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดยังเป็นผู้ดำรงอยู่ในอันดับต้น ๆ เข่นกัน คิดไม่ถึงว่าลูกชายของ ไป๋หลี่ซวน ก็เป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดด้วย แม้แต่หลานชายของเขาก็ได้ก้าวไปถึงผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางแล้ว
แต่เดิมเขาก็เป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลาย ตระกูลแบบี้ แข็งแกร่งราวกับสวรรค์!
หม่าชาวแต่เดิมก็มีความเกลียดชังล้ำลึกกับตระกูลไป๋หลี่ มาตอนนี้เพื่อรู้ว่าชายชราในชุดผ้าคลุมนั้นมาจากตระกูลไป๋หลี่ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรังสีสังหารอันรุนแรง
เขากำหมัดแน่น ออร่าบู๊อันทรงพลังเหนือใครเทียบแผ่ออกมาจากตัวเขา
“หืม?”
ไป๋หลี่ซวน ขมวดคิ้วและมองไปทางหม่าชาว ในไม่ช้าเขาก็รู้สึกถึงออร่าที่คุ้นเคยและอุทานออกมาทันที “สายเลือดบรรพชนไป๋หลี่!”
ในเวลานั้น ไป๋หลี่ชิวเหว่มารดาของหม่าชาว เป็นผู้เก่งกาจเพียงคนเดียวในตระกูลไป๋หลี่ที่ปลุกสายเลือดบรรพชนไป๋หลี่ขึ้นมาได้ แต่ต่อมา เธอได้แต่งงานกับเฝิงจื้อหย่วนพ่อของหม่าชาวในโลกฆราวาสและให้กำเนิดหม่าชาว
เนื่องจากเหตุการณ์นี้ ตระกูลไป๋หลี่จึงโกรธจัดและบังคับพาตัวไป๋หลี่ชิวเหว่ไปจากราชวงศ์เฝิง และเพราะเรื่องนี้ผู้แข็งแกร่งของตระกูลไป๋หลี่ถึงกับเปิดฉากฆ่าผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์เฝิงไปด้วย
หลังจากที่ ไป๋หลี่ชิวเหว่ ถูกนำกลับไปตระกูลไป๋หลี่ เธอก็ถูกขังมาโดยตลอด ยิ่งหม่าชาวอายุมากเท่าไหร่ก็เท่ากับไป๋หลี่ชิวเหว่ถูกขังไว้นานเท่านั้น
ตอนนี้ เมื่อได้พบกับคนในตระกูลไป๋หลี่ ก็พอจะจินตนาการได้เลยว่าหม่าชาวโกรธมากแค่ไหน
ไป๋หลี่ซวน กล่าวด้วยใบหน้าเย็นชา “นายก็คือลูกนอกสมรสของนางสารเลวนั่น?”
“รนหาที่ตาย!”
เมื่อได้ยิน ไป๋หลี่ซวน ดูถูกมารดาของตน หม่าชาวก็โกรธจัด ออร่าบู๊บนตัวของเขาพุ่งสูงขึ้นมาทันที เพียงชั่วครู่ เขาก็ไปถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นยอด
“แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้น!”
ทุกคนต่างก็ตกใจเมื่อสัมผัสได้ถึงออร่าบู๊ของหม่าชาวที่พุ่งสูงขึ้น
นั่นเพราะถึงยังไงเขาก็เป็นแค่แดนเหนือมนุษย์ขั้นห้า ก่อนหน้านี้ที่สามารถระเบิดพลังในแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดออกมาได้ก็ทำให้คนตื่นตะลึงมากแล้ว แต่มาตอนนี้เขากลับยังสามารถปล่อยพลังออกมาเทียบเท่ากับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้นได้ด้วย
จากนั้นก็เห็นว่าคิ้วของเขามีรอยแดงเลือดปรากฏอยู่ ซึ่งมันคือเครื่องหมายของสายเลือดบรรพชนไป๋หลี่
ดวงตาของหม่าชาวแดงก่ำด้วยเลือด ตัวของเขาเต็มไปด้วยรังสีสังหารอันรุนแรง ดวงตาสีแดงเลือดของเขาเกรี้ยวกราดอย่างมาก
ฉินยีที่เห็นการเปลี่ยนแปลงของหม่าชาวก็ตกใจจนหน้าถอดสี เธอรีบแนะนำเขาว่า “นายบ้าไปแล้วหรือไง? รีบควบคุมอารมณ์ของนายเร็วเข้า ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับนายแล้วภรรยากับลูกของนายจะทำอย่างไร? หรือว่านายอยากกลายเป็นสัตว์ร้ายที่ไม่สนใจภรรยาและลูกแล้ว? รับควบคุมอารมณ์ของนายเร็วเข้า ถ้านายควบคุมไม่ได้ ทุกอย่างจบเห่!”
หม่าชาวดูเหมือนจะไม่เคยได้ยินคำพูดของฉินยีแล้ว ออร่าของเขายังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังคงห่างจากแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางอยู่อีกไกล
สองพี่น้องตระกูลซ่งยิ่งเป็นร้อนรนมากขึ้น พวกเขารู้ดีว่าหม่าชาวเพิ่งจะฟื้นได้ไม่นาน ตอนนี้ที่เขาสามารถระเบิดพลังอันน่าสยดสยองออกมาได้ในก็เป็นเพราะพลังของลูกแก้วดูดเลือด
ยิ่งความแข็งแกร่งของหม่าชาวมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งแปลว่าผนึกของลูกแก้วดูดเลือดยิ่งใกล้จะถูกทำลายจนหมดมากเท่านั้น
เมื่อผนึกถูกผนึกแล้ว ไม่รู้ว่าหม่าชาวจะรอดไปหรือไม่
ซ่งจั่วเองก็เอ่ยกล่อมเขา “คุณหม่า โปรดควบคุมตัวเองด้วย คุณหยางต้องจ่ายค่าตอบแทนไปอย่างมหาศาลเพื่อผนึกลูกแก้วดูดเลือดในตัวคุณเอาไว้ หรือว่าคุณอยากจะให้สิ่งที่คุณหยางทำไปทุกอย่างเสียเปล่า?”
เวลานี้ใบหน้าของหม่าชาวบิดเบี้ยวและเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเหนือบรรยาย ราวกับว่าเขาไม่ได้ยินเสียงจากภายนอกอีก บนตัวของเขายังคงมีอออร่าพุ่งออกมาไม่หยุด
ในไม่ช้า ทวารทั้งเจ็ดของเขาก็เริ่มมีเลือดออก ผิวหนังของเขาเริ่มแตกเป็นเสี่ยงๆ ตัวของเขาเต็มไปด้วยเลือดมองดูอนาถอย่างยิ่ง
ไป๋หลี่ซวน ไม่สนใจการเปลี่ยนแปลงของหม่าชาวเลยแม้แต่น้อย เขาแค่มองดูอย่างเย็นชา สายตามีความดูถูกเหยียดหยาม
เขาเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลาย หม่าชาวก็แค่ยู่ในแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าขั้นต้น ต่อให้สามารถระเบิดพลังออกมาเทียบเท่ากับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลายจริงๆ ก็เกรงว่าเขาคงต้องระเบิดตัวเองตายเช่นกัน?
ซ่งจั่วตะโกนลั่น “คุณหม่า อย่า!”
ในเวลานี้เองก็มีร่างของชายหนุ่มปรากฏขึ้นมาข้างหม่าชาวในพริบตา
จากนั้นก็เห็นว่าเขายกแขนขึ้น กางนิ้วทั้งห้าและกดมันไว้บนหัวของหม่าชาวพร้อมเขาตะโกน “ผนึกซะ!”
ด้วยเสียงคำรามนี้ ออร่าอันน่าหวาดกลัวที่ปล่อยออกมาจากตัวของหม่าชาวก็ค่อยๆ สลายไป