The king of War - บทที่ 1883
ความอิจฉาที่หาที่เปรียบมิได้
เมื่อชายคนนั้นบอกว่ามีเรื่องเกิดขึ้นกับตู้จ้ง ใบหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
หยางเฉินรีบถาม “ท่านตู้เกิดอะไรขึ้นกันแน่? พูดมาให้ละเอียด!”
สายลับกล่าวอย่างเร่งรีบ “ท่านตู้ไปยังพื้นที่สนามรบนอกอาณาเขตอย่างภูเขาวมารและถูกสำนักบู๊แห่งภูเขาวมาร ควบคุมตัวเอาไว้ สำนักบู๊ ลั่นวาจาเอาไว้ว่าหัวหน้าของสมาพันธ์บูโดต้องไปที่ภูเขาวมารด้วยตัวเองก่อนเที่ยววันพรุ่งนี้เขาถึงจะปล่อยคน ถ้าหัวหน้าสมาพันธ์บูโดไม่ไป พวกเขาจะฆ่าท่านตู้”
ชั่วขณะหนึ่ง สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่หยางเฉิน
ใบหน้าของหยางเฉินเย็นชามาก เขาไม่เคยคิดเลยว่าตู้จ้งจะถึงกับไปที่ภูเขาวมารเพื่อตามหายาคืนชีพมาให้เขา และยิ่งคิดไม่ถึงว่า ตู้จ้งจะถูกคนของสำนักบู๊ควบคุมตัวเอาไว้
ในฐานะเทพสงครามผู้ชนะแห่งจิ่วโจว เขารู้ดีอย่างยิ่งเกี่ยวกับทุกสิ่งในสนามรบนอกอาณาเขต
ตัวเขาเองก็เป็นผู้แข็งแกร่งที่ออกมาจากภูเขาวมาร ดังนั้นเขาจึงรู้ดีเกี่ยวกับกองกำลังภายในนั้นด้วย
ภูเขาวมารมีกองกำลังอยู่มากมาย และในบรรดากองกำลังเหล่านี้ มีกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่ห้ากองกำลัง และ สำนักบู๊ ก็เป็นหนึ่งในห้ากองกำลังชั้นนำนั้น
ตอนที่หยางเฉินไปยังภูเขาวมาร เขาแค่เพียงได้ยินเกี่ยวกับสำนักบู๊ แต่ไม่เคยติดต่อกับผู้คนของสำนักบู๊
ในเวลานั้นเขายังอ่อนแอมาก ในสายตาของเขา ความแข็งแกร่งของ สำนักบู๊ เป็นดั่งเทพเซียนบนท้องฟ้า
แน่นอนว่า เมื่อหลายปีก่อน หยางเฉินยังมีเพียงความแข็งแกร่งอยู่แค่ในแดนเทพ
ความแข็งแกร่งของผู้แข็งแกร่งที่สุดใน สำนักบู๊ คือเจ้าสำนัก สำนักบู๊ ชื่อ ภูเขาโบราณ ซึ่งเป็นผู้แข็งแกร่งในแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด
ว่ากันว่า ภูเขาโบราณ มาจากตระกูลบู๊โบราณ เขาไปที่ภูเขาวมารและก่อตั้งสำนักบู๊ ขึ้นเพื่อค้นหาโอกาสในการทะลวงแดนบูโดที่มีอยู่
“ฉันเคยได้ยินเกี่ยวกับ สำนักบู๊ ว่ากันว่า สำนักบู๊ ให้ความสำคัญกับบูโดอัจฉริยะอย่างมาก พวกเขาจะต้องไปรู้มาว่าพรสวรรค์ด้านบู๊ของคุณนั้นร้ายกาจมาก ดังนั้นจึงต้องการให้คุณเข้าร่วม สำนักบู๊”
จู่ๆหนิงเทียนเหอ ก็เอ่ยขึ้นทันที
หยางเฉินรู้สึกประหลาดใจ เขาไม่คาดคิดว่า หนิงเทียนเหอ จะรู้จัก สำนักบู๊
เว่ยเทียนเฉิง รีบพูด “ต้องเป็นอย่างนั้นแน่! อีกฝ่ายระบุมาว่าต้องการให้หัวหน้าสมาคมไปรับตัวรองหัวหน้าตู้ด้วยตนเอง นอกจากนี้หัวหน้าสมาคมยังเพิ่งฆ่าไป๋หลี่ซวนซึ่งมีความแข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลาย นี่แสดงให้เห็นว่าสำนักบู๊ รู้เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่อย่างชัดเจน”
หงฝูเองก็พยักหน้าแต่ไม่ได้พูดอะไร
หยางเฉินไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขาเอ่ยปาก “ในเมื่อ สำนักบู๊ ต้องการให้ฉันไปรับคนที่ภูเขาวมาร อย่างนั้นฉันก็จะไปที่นั่นสักครั้ง!”
ไม่ว่าสำนักบู๊ จะมีจุดประสงค์อะไร เขาก็ต้องไปที่นั่น
ตู้จ้งถูกควบคุมโดยคนของสำนักบู๊ก็เพราะเขาไปตามหายามาช่วยชีวิตตน ถ้าเขาไม่ไปช่วยตู้จ้ง อย่างั้นคนของสมาพันธ์บู๊จะมองเขาอย่างไร?
เมื่อได้ยินว่าหยางเฉินกำลังไปที่ภูเขาวมาร ทุกคนก็ตกใจ
แม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยไปภูเขาวมาร แต่พวกเขาก็รู้สถานการณ์ของภูเขาวมารอยู่บ้าง อีกทั้งสำนักบู๊ก็เป็นหนึ่งในห้ากองกำลังสูงสุดของภูเขาวมารพวกเขาย่อมรู้ดีว่า การที่หยางเฉินไปภูเขาวมารในครั้งนี้นั้นอันตรายมากแค่ไหน
หนิงเทียนเหอ กล่าวด้วยใบหน้าที่จริงจัง “หัวหน้าสมาคม ผมจะไปกับคุณ!”
เมื่อเห็นแบบนั้น หงฝูและเว่ยเทียนก็พูดพร้อมกัน “หัวหน้าสมาคม เราก็จะไปกับคุณ!”
หยางเฉินไม่มีท่าทีลังเลใดๆ เขาเอ่ยปฏิเสธ “สมาพันธ์บูโดยังคงต้องให้พวกนายคอยคุ้มครอง ฉันจะไปรับท่านตู้กลับบ้าน!”
เมื่อได้ยินแบบนั้น คนเหล่านี้ก็ไม่กล้าพูดอะไรมากไปกว่านี้
พวกเขาเองก็รู้ความสามารถของตนดี หยางเฉินสามารถฆ่าผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลายได้อย่างง่ายดาย แต่พวกเขาไม่สามารถและมีพลังแค่ในแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นต้นเท่านั้น หากพวกเขาตามหยางเฉินไปยังภูเขาวมารจริงๆ พวกเขาก็จะกลายเป็นภาระแทน
“พี่เฉิน ผมจะไปกับพี่!”
ในเวลานี้ หม่าชาวก็เข้ามาและพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
เขาวางแผนที่จะไปที่ภูเขาวมารเพื่อฝึกฝนอยู่แลว มาตอนนี้หยางเฉินกำลังจะไปที่ภูเขาวมาร ดังนั้นเขาจึงไม่ยอมพลาดโอกาสนี้
หยางเฉินมองไปที่หม่าชาวแล้วถามว่า “นายคิดดีแล้ว?”
หม่าชาวพยักหน้า “พี่เฉิน คุณวางใจได้ แม้ว่าผมอยากทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นโดยเร็วที่สุด แต่ผมก็รู้ว่าตัวเองยังมีภรรยาและลูก ผมจะไม่เอาตัวเข้าไปเผชิญกับอันตรายโดยไม่คำนึงถึงทุกสิ่งเพียงเพื่อที่จะแข็งแกร่งขึ้นแน่.”
“นอกจากนี้ ในตัวผมยังมีลูกแก้วดูดเลือด หากใช้พลังออกมาทั้งหมดก็จะสามารถระเบิดพลังในแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้นได้ นักบู๊ทั่วๆ ไปคิดจะฆ่าผมก็ไม่ใช่เรื่องง่าย”
หยางเฉินได้พูดทุกอย่างที่ควรจะพูดไปแล้ว ในเมื่อหม่าชาวตัดสินใจแล้ว เขาเองก็ห้ามไม่ได้
“หัวหน้าสมาคม เราควรทำอย่างไรกับคนเหล่านี้?”
ทันใดนั้น หนิงเทียนเหอ ก็เอื้อมมือออกไปและชี้ไปที่นักบู๊สามสิบคนที่ติงเหวินจัวพามา และกล่าวว่า “คนเหล่านี้ล้วนเป็นนักบู๊แดนเหนือมนุษย์และมีพละกำลังไม่ธรรมดา แต่แน่นอนว่าไม่ใช่พวกเขาทุกคนที่จะเป็นนักบู๊ของตระกูลติง”
หยางเฉินมองไปที่คนเหล่านั้น นักบู๊ทั้งสามสิบคนตกอยู่ในความกลัวขึ้นมาทันที ในหมู่พวกเขา ผู้แข็งแกร่งที่สุดสองคนถูกหยางเฉินฆ่าไปแล้ว
ในบรรดานักบู๊ที่เหลืออยู่ ผู้มีพลังแข็งแกร่งที่สุดก็อยู่แค่ในแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดชั้นยอดเท่านั้น หยางเฉินฆ่าได้แม้กระทั่งผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลายได้แล้วนับประสาอะไรกับพวกเขา
แม้ว่านักบู๊ทั้ง 30 คนจะร่วมมือกัน เกรงว่ายังแตะต้องไม่ได้แม้กระทั่งเส้นผมของหยางเฉินก็ถูกฆ่าแล้ว
หยางเฉินถามขึ้น “พวกนายเป็นใครกัน?”
ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดชั้นยอดคนหนึ่งรีบเอ่ยขึ้น “เรียนหัวหน้าสมาคม ในหมู่พวกเรามีเพียงนักบู๊แดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าคนเดียวที่มาจากตระกูลติงแห่งภาคเหนือ และยังมีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าอีกยี่สิบคนที่ตระกูลติงใช้เงินมหาศาลซื้อตัวมาและจ้างพวกเขา ส่วนนักบู๊อีกห้าคนที่เหลือทั้งหมดล้วนเป็นคนที่ตระกูลบู๊โบราณไป๋หลี่มอบให้กับตระกูลติงแห่งภาคเหนือเพื่อเป็นดั่งของกำนัล”
“อย่างไรก็ตาม พวกเราห้าคนไม่ได้มีความรู้สึกที่ดีอะไรต่อตระกูลบู๊โบราณไป๋หลี่ แต่เป็นเพราะพวกเราเป็นทาสของตระกูลไป๋หลี่ ในตระกูลไป๋หลี่ พวกเขาไม่เคยปฏิบัติกับเราเหมือนคน ดังนั้นพวกเราจึงมีแต่ความเกลียดชังต่อตระกูลไป๋หลี่เท่านั้น!”
ทันทีที่เขาพูดจบ ก็มีนักบู๊แดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดชั้นปลายอีกคนหนึ่งกล่าวว่า “ใช่ใช่ใช่ พวกเราห้าคน ล้วนเป็นทาสที่ต่ำที่สุดของตระกูลไป๋หลี่ หากไม่ใช่เพราะถูกบีบบังคับ พวกเราคงออกจากตระกูลไป๋หลี่ไปตั้งนานแล้ว”
“หวังว่าหัวหน้าหยางจะรับพวกเราเอาไว้ เราขอสาบานว่าเราจะไม่ทรยศต่อสมาพันธ์บูโดตลอดชั่วชีวิตนี้ หากเราทรยศ ขอให้สวรรค์ลงโทษ ไม่ตายดี!”
“ได้โปรดหัวหน้าหยางช่วยรับพวกเราเอาไว้ พวกเราเต็มใจที่จะยอมจำนนต่อสมาพันธ์บูโด และรับใช้สมาพันธ์บูโดอย่างสุดใจ!”
……
ชั่วครู่หนึ่ง นักบู๊เหล่านั้น ต่างก็ค่อยๆ ขอร้องออกมาทีละคน
หยางเฉินมองคนเหล่านี้อย่างไร้ความรู้สึก เขาไม่แน่ใจว่าสิ่งที่คนเหล่านี้พูดเป็นความจริงหรือไม่ แต่ดูจากท่าทีของพวกเขาก็ดูเหมือนจะไม่เรื่องโกหก
นอกจากนี้ ต่อให้คนเหล่านี้คิดจะก่อเรื่อง หากมีเขาอยู่ ก็ไม่สามารถสร้างกระแสอะไรได้มากมาย
และแม้ว่าจะไม่มีเขา สมาพันธ์บูโดในอนาคตก็ยังมีตู้จ้งและหนิงเทียนเหอ ที่สามารถปราบปรามคนเหล่านี้ได้เช่นกัน
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หยางเฉินก็มองไปที่ หนิงเทียนเหอ และถามว่า “นายคิดว่ายังไง?”
หนิงเทียนเหอ กล่าวว่า “ผมคิดว่าห้าคนที่มาจากตระกูลติงนั้นให้พวกเขาไสหัวไปซะ! ส่วนนักบู๊อีกยี่สิบห้าคน หากอยากอยู่ต่อก็อยู่ต่อ ไม่อยากอยู่ก็ไสหัวไป”
“บรรดาผู้ที่เต็มใจจะอยู่ในสมาพันธ์บูโด ก็จะต้องรอดูท่าทีของพวกเขาต่อไป ขอแค่พวกเขาเต็มใจที่จะเชื่อฟังการจัดการของ สมาพันธ์บูโด วันหน้าพวกเขาก็จะได้รับรางวัลหากได้ทำตัวอุทิศให้กับสมาคม”
หยางเฉินพยักหน้า “ได้ จัดการตามที่นายพูดเถอะ เรื่องอื่นๆ ปล่อยให้นายจัดการแล้ว!”
พูดจบ หยางเฉินก็หยิบยาเม็ดหนึ่งออกมายื่นให้หนิงเทียนเหอและกล่าวว่า “นี่คือยาทุละแดน หากผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นยอดลงไปใช้มันก็จะมีส่วนช่วยในการทะลวงแดนได้เป็นอย่างมาก หลังจากนายกินเข้าไปแล้วก็น่าจะสามารถทะลวงไปสู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นปลายได้”
เมื่อได้ยินแบบนั้น หนิงเทียนเหอ ก็มีสีหน้ายินดีอย่างมากทันที เขารีบพูดว่า “ขอบคุณหัวหน้าสมาคม! ขอบคุณหัวหน้าสมาคม!”
เวลานี้คนอื่นๆ ที่มอง หนิงเทียนเหอ ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความอิจฉา