The king of War - บทที่ 1917 ร้ายแรงมาก
“คุณหยางข้างหน้าก็คือผาลุกไหม้ครับ”
เฉินอู่ที่กำลังขับรถได้พูดออกมา
หยางเฉินที่กำลังหลับตาฝึกตนถึงได้ลืมตาขึ้น ระหว่างทางที่มา เขาก็ฝึกตนมาตลอดทาง
การมาเขาวมารครั้งนี้ ทำให้เขาได้รับรู้ว่า ในบรรดาคนที่อายุเท่ากัน แดนวิถีบู๊ถือว่าสูงมาก แต่มันก็ยังไม่พอ ถ้าเขาแข็งแกร่งพอ จะเกิดเรื่องแบบนี้กับหม่าชาวได้ยังไง?
มีเพียงเขาแข็งแกร่งมากพอ จึงจะสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาได้
หยางเฉินพูดไปว่า “พาผมไปจุดที่หม่าชาวหายตัวไปก่อน”
“ครับ!”
เฉินอู่ตอบรับ
ในภูเขาวมาร ถูกแบ่งเป็นห้าเขตใหญ่ นอกจากเหนือใต้ออกตกสี่เขตแล้ว ยังมีเขตกลางของภูเขาวมาร
และห้ากองกำลังใหญ่ของภูเขาวมารได้แบ่งห้าเขตนี้ไปแล้ว อย่างสำนักบู๊ อยู่ทางเหนือของภูเขาวมาร ส่วนกามิ กาโสะก็อยู่ทางใต้
ทางตะวันออกในวันนี้ เป็นเขตปกครองของหนึ่งในห้ากองกำลังใหญ่อย่างสำนักมาร
หยางเฉินถามขึ้นมาว่า “พวกคุณแจ้งทางสำนักมารรึยัง?”
ถึงเขาจะไม่ใช่คนในภูเขาวมาร แต่กฎของภูเขาวมาร จะมากจะน้อยเขาก็พอรู้บ้าง ห้าเขตใหญ่ของภูเขาวมาร ต่างมีกองกำลังชั้นแนวหน้าคอยปกครอง ถ้ากองกำลังไหนจะเขาไปเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในเขตปกครองของกองกำลังอื่น ก็จำเป็นต้องแจ้งให้เจ้าของที่ทราบก่อน
เฉินอู่รีบตอบกลับมาว่า “แจ้งแล้วครับ คุณหยางไม่ต้องห่วง”
หลังผ่านไปยี่สิบนาที เฉินอู่ก็จอดรถ แล้วพูดว่า “ตำแหน่งสุดท้ายก่อนคุณหม่าจะหายตัวไปคือที่นี่ครับ”
หยางเฉินลงจากรถ แล้วเริ่มสังเกตการณ์ อาจเป็นเพราะดินที่นี่ไม่ค่อยดี มีพื้นขึ้นอยู่ไม่มาก มองไปก็โล่งกว้าง ไม่มีที่ไหนที่คนจะสามารถเข้าไปซ่อนตัวได้เลย
“ถึงเนี่ยชิวจะจับตัวหม่าชาวไป ก็ต้องเลือกสถานที่ที่หลบหนีง่ายๆ สิ? ทำไมถึงเป็นสถานที่ที่ไม่ได้เรื่องแบบนี้?”
หยางเฉินพึมพำกับตัวเอง
เฉินอู่ยืนอยู่ข้างๆ จ้องมองไปรอบๆ อย่างหวาดระแวง
ทั้งสองตรวจสอบไปรอบๆ แต่ถึงตรวจสอบไปทั่ว ก็ไม่พบร่องรอยของต่อสู้กับรอยเลือดแม้แต่น้อย
“อาจเป็นเพราะฝีมือของทั้งสองแตกต่างกันเกินไป เลยไม่ได้สร้างร่องรอยขอการต่อสู้ขึ้นมาแม้แต่น้อย”
หยางเฉินพูดออกมาเบาๆ ว่า “อาจจะ หม่าชาวเป็นคนเลือกรับการผนึกที่นี่เอง เพื่อไม่ให้ถูกรบกวน”
“เพียงแต่ สิ่งที่หม่าชาวไม่มีทางนึกถึงก็คือ เนี่ยชิวกลับรู้เรื่องยามากมายที่หม่าชาวพกติดตัวมา ด้วยเหตุนี้เนี่ยชิวเลยแอบตัดการติดต่อกับแพลตฟอร์มของกามิ กาโสะ”
“จากนั้น หม่าชาวที่ไม่รู้เรื่องก็ถูกเนี่ยชิวพาตัวไป จนถึงตอนนี้ หม่าชาวก็อาจจะยังไม่รู้ว่าตนได้ตกเป็นเป้าหมายของอีกฝ่ายแล้ว”
เขารู้จักหม่าชาวดี ถ้าเกิดหม่าชาวรู้ว่าตัวเองรู้แผนของอีกฝ่าย ต่อให้สู้ไม่ได้ก็เลือดที่จะสู้ตาย แต่ที่แห่งนี้ ไม่มีร่องรอยของการต่อสู้แม้แต่น้อย ยืนยันได้อย่างเดียวว่า หม่าชาวได้ออกไปจากที่นี้กับเนี่ยชิวโดยไม่รู้ว่าตัวเองกำลังตกเป็นเป้าของอีกฝ่าย
หยางเฉินวิเคราะห์ต่อว่า “เนี่ยชิวรู้ว่าทันทีที่ตัดการติดต่อกับทางแพลตฟอร์มของกามิ กาโสะ ไม่นานก็จะถูกตรวจพบ ถึงตอนนั้น กาม กาโสะต้องออกตามล่าเขาแน่นอน”
“กล้าล่วงเกินกามิ กาโสะในภูเขาวมาร ก็แสดงว่าเขาได้เตรียมการที่จะออกจากภูเขาวมารไว้แล้ว ดังนั้น หลังจากที่เขาปล้นยาจากหม่าชาวแล้ว ก็จะหาทางหลบหนีออกจากภูเขาวมาร”
พอคิดถึงตรงนี้ เขาก็หันไปถามเฉินอู่ว่า “ถ้าจะออกจากภูเขาวมาร จากตรงนี้ มีเส้นทางกี่เส้น?”
เฉินอู่ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ยื่นมือชี้ไปทางเขาลูกใหญ่ที่อยู่ทางตะวันออก แล้วพูดว่า “ถ้าอยากออกจากภูเขาวมารเร็วๆ ก็มีแต่ต้องข้ามเขาลูกนั้นไป ที่นี่เป็นเขตตะวันออก มีเพียงข้ามเขาลูกนั้นไป จึงจะเป็นเส้นทางที่ดีที่สุด”
หยางเฉินมองไปทางที่เฉินอู่ชี้ แล้วสีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้นมา
เดิมทีตรงนี้ก็อยู่ในเขตตะวันออก การที่เนี่ยชิวจะออกจากภูเขาวมาร มีเพียงการออกไปทางทิศตะวันออกจึงจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
อำนาจของกามิ กาโสะในภูเขาวมารนั้นแข็งแกร่งมาก แหล่งข้อมูลก็มีอยู่ทั่วเขา การที่เนี่ยชิวคิดจะออกไปนั้นยากมากเขาจึงไม่มีทางเสี่ยงใช้เส้นทางอื่นแน่นอน
เมื่อเป็นแบบนั้น ก็มีแค่ทางนี้ทางเดียว
“ใช่ครับ!”
เฉินอู่รีบสตาร์ทรถ แล้วรีบมุ่งไปทางเขาลูกใหญ่ที่อยู่ทางตะวันออก
ภูเขาลูกนี้สูงมาก ดูเหมือนไม่ไกล แต่ต้องขับรถถึงสิบนาที และต้องใช้ความเร็วสูงสุดจึงมาถึงตีนเขา
เดินหน้าต่อไป รถก็ไม่สามารถวิ่งต่อไปได้แล้ว
ฉินอู่ยืนอยู่ข้างๆ หยางเฉิน เงยหน้ามองขึ้นไปบนเขา แล้วพูดออกมาว่า “เขาลูกนี้ชันมาก ถ้าคิดจะข้ามไป เป็นเรื่องที่ยากมากต่อให้ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขันเก้าชั้นสุดยอดคิดจะปีนข้ามไปก็ยากมาก”
มันเป็นเขาที่เกือบจะแปดสิบองศา คนทั่วไป ถ้าไม่ใช้อุปกรณ์ช่วย ก็ไม่มีทางปีนผ่านไปได้เลย
ถึงแม้เนี่ยชิวจะเป็นผู้แข็งแกร่งเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นสุดยอดก็ตาม ถ้าคิดจะพาหม่าชาวไปด้วย มันก็เป็นเรื่องที่ยากมาก
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดี
การที่เนี่ยชิวอยากออกจากภูเขาวมาร พาหม่าชาวไปก็มีแต่จะเป็นตัวถ่วง ถ้าเขาเป็นเนี่ยชิว ต้องฆ่าหม่าชาวทิ้งแน่
แต่ว่า ตลอดทางมานี้ ไม่มีร่องรอยของการต่อสู้เลย
จะเป็นไปได้มั้ยว่า เนี่ยชิวไม่ได้อยากใช้เส้นทางนี้ออกไป?
“คุณหยางครับ บนนั้นมีถ้ำ!”
ทันใดนั้นเอง เฉินอู่ที่ค้นหาอยู่ไม่ไกล ก็ได้ตะโกนมาทางหยางเฉิน
หยางเฉินรีบวิ่งไปหา
เฉินอู่เงยหน้าขึ้น ชี้ไปยังถ้ำที่อยู่สูงไปประมาณสิบกว่าเมตร แล้วพูดออกมาว่า “คุณหยางครับ บนนั้นมีถ้ำ ผมสังเกตว่าแถวนี้มีแค่ถ้ำนี้ถ้ำเดียว มีความเป็นไปได้ที่จะเอาคนไปซ่อนในนั้น”
พูดถึงตรงนี้ เขาทำหน้าเหมือนอยากพูดอะไรแล้วหยุด
มองจากตรงนี้สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ว่ายังไม่มีศพของหม่าชาว ถ้าเนี่ยชิวออกจากภูเขาวมารไปแล้ว ก่อนที่จะออกไป เขาต้องฆ่าหม่าชาวไปแล้ว
และถ้ำที่อยู่ตรงกลางเขานั้น เหมาะที่จะเอาศพไปซ่อนมาก
หยางเฉินก็กังวลถึงจุดนี้ พอเห็นถ้ำนั้น ก็ดีดขาอย่างไม่ลังเล ร่างกายก็ได้พุ่งขึ้นไป ใช้ทั้งมือทั้งเท้า เคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว ในเวลาไม่กี่อึดใจ หยางเฉินก็มาถึงหน้าปากถ้ำแล้ว
เฉินอู่ก็ตามมาติดๆ
พอหยางเฉินมาถึงหน้าถ้ำ ก็สัมผัสถึงกลิ่นอายที่แสนคุ้นเคย ซึ่งมันก็คือกลิ่นอายของหม่าชาวนั่นเอง
ภายในถ้ำ สภาพเละเทะ เห็นได้ชัดว่าเพิ่งเกิดการต่อสู้ขึ้น
ไม่เพียงเท่านั้น หยางเฉินยังเห็นรอยเลือดอีกหลายจุด
สีหน้าของเขาเคร่งขรึมขึ้นมาทันที ถึงเขาจะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ที่มั่นใจคือ ร่องรอยของการต่อสู้เกิดจากหม่าชาวแน่แถมเลือดนั่น ยังเป็นของหม่าชาวด้วย
“เนี่ยชิว!”
หยางเฉินกัดฟันแล้วเรียกชื่อนี้ออกมา
คนอื่นอาจไม่เข้าใจสถานการณ์ของหม่าชาว แต่คนที่เป็นพี่น้องของหม่าชาวอย่างเขา ย่อมรู้ดีว่า การต่อสู้ระดับนี้ หม่าชาวต้องปลดผนึกของลูกแก้วดูดเลือดออกแล้ว
เดิมทีผนึกลูกแก้วดูดเลือดในตัวหม่าชาวก็ใกล้จะแตกแล้ว การมาภูเขาวมารในครั้งนี้ ก็เพื่อมาจัดการกับผนึกของลูกแก้วดูดเลือดนี่แหละ แต่ในเวลาแบบนี้ หม่าชาวกลับทำลายผนึก ผลที่ตามมาเลวร้ายแค่ไหน หยางเฉินรู้ดี