The king of War - บทที่ 1929 ใช่แดนนภาหรือ
“อิงเทียนสิงอิงเทียนสิง!”
ผู้แข็งแกร่งหลายนายเดินกันออกมา เห็นคนที่มาแล้ว แต่ละคนสีหน้าเห็นเครียดกันชัด
อิงเทียนสิงอิงเทียนสิง เจ้าสำนักกามิ กาโสะ ตัวจริงที่อยู่ในฐานะหนึ่งในห้าผู้แข็งแกร่งขั้นสุดยอดแห่งภูเขามาร
ในภูเขามาร ผู้แข็งแกร่งของสำนักกามิ กาโสะมีกระจัดกระจายอยู่ทั่วภูเขามาร และก็เป็นกลุ่มอิทธิพลที่มีระบบเครือข่ายสื่อสารที่กว้างขวางมาก
ขณะนี้ อิงเทียนสิงอิงเทียนสิงถึงกับมาสำนักมารด้วยตัวเอง
ถึงแม้จะเพียงตัวเขาคนเดียว แต่แค่เขาคนเดียวนี้ ก็ยันกับกองทัพได้นับพันนับหมื่น
ขณะนั้นเอง อิงเทียนสิงอิงเทียนสิงยืนเอามือไพล่หลัง พลังบูโดที่น่าสะพรึงกลัวกระแสหนึ่ง ครอบคลุมทั่วสำนักมาร
เหล่าบรรดานักบูโดที่พลังฝีมือยังฝึกไม่เข้าขั้น แต่ละคนแทบอยากจะกลิ้งนอนลงกับพื้น ภายใต้ความกดดันบูโดหนักหน่วงขนาดนี้ นักบูโดแดนเหนือมนุษย์ต่ำกว่าขั้นห้า จะต้องรับความกดดันที่สุดหนัก
“ข้าอิงเทียนสิงอิงเทียนสิงมาขอเรียนพบ!”
ในเวลานั้นเอง อิงเทียนสิงอิงเทียนสิงก็พูดขึ้นด้วยเสียงอันดังในทันทีนั้น
เสียงของเขาดังปานฟ้าลั่น ระเบิดสนั่นไปทั่วฟ้าสำนักมาร
ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดของสำนักมาร เดินออกมา มองไปที่อิงเทียนสิงอิงเทียนสิง ตวาดใส่ไปอย่างเกรี้ยวกราด “อิงเทียนสิงอิงเทียนสิง ที่นี่เป็นสำนักมาร ไม่ใช่สำนักกามิ กาโสะของเจ้า อย่ามาทำบังอาจ!”
“ฮึ!”
อิงเทียนสิงอิงเทียนสิงสะบัดเสียงออกจมูก สะบัดมือออกไป พลังบูโดบ้าคลั่งกระแสหนึ่ง กวาดเข้าใส่ฝ่ายตรงข้าม
ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดของสำนักมารท่านนั้น ให้รู้สึกเหมือนมีขุนเขาทั้งลูกทับใส่ลงมาที่หัวไหล่ น้ำหนักกดที่สูงมากนั้น ทำให้เขารู้สึกจะต้องทรุดตัวคุกเข่าลง
ก็อิงเทียนสิงอิงเทียนสิงนั้นอยู่เป็นหนึ่งในห้าผู้แข็งแกร่งสุดยอดแห่งภูเขามาร หนึ่งผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด จะเอาอะไรไปทานสู้กับเขาได้?
“อิงเทียนสิงอิงเทียนสิง!”
ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดในสำนักมารหลายคน ต่างบันดาลโทสะขึ้นมา แต่ละคนเดินก้าวออกไป พร้อมกับเปล่งพลังบูโดของแต่ละคนออกไป
ขณะนั้นเอง อิงเทียนสิงอิงเทียนสิงคนเดียว ประจันหน้ากันกับผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดแปดนาย ความกดดันของพลังบูโดที่น่าสะพรึงกลัวสองกระแส เหมือนจะทำให้ผืนดินกับแผ่นฟ้าฉีกขาดออกจากกัน
ท้องฟ้าเหนือสำนักมาร เมฆดำทะมึนควบแน่นเข้ามาในพลัน สายฟ้าฟาดคำรามลั่น
ดูเหมือนว่า แม้แต่ฟ้ายังจะลงโทษใส่ลงมา เพื่อสยบเหล่าบรรดานักบูโดระดับสุดยอดในโลกสามัญพวกนี้
อิงเทียนสิงอิงเทียนสิงยืนเอามือไพล่หลัง เสียงผ้าสะบัดดังพรึบพรับ
สีหน้าหยิ่งผยองของเขา เผชิญกับพลังบูโดที่แผ่กระจายแรงกดดันมาจากแปดผู้แข็งแกร่งบูโดสำนักมาร เขามองยังไม่ใส่ใจมอง สายตาเย็นเยือกจ้องจับไปที่ทิศทางของหอหนังสือของสำนักมาร
เพราะที่นั่น เขาได้สัมผัสถึงพลังปราณของลี่เฉิน
“บรึม!”
ในวินาทีต่อมา ปรากฏเงาร่างสีแดงสายหนึ่ง ร่อนลงมาจากฟากฟ้าอย่างฉับพลัน เสียงดังสนั่น ขาทั้งสองของฝ่ายตรงข้ามยืนปักมั่นกับพื้น และตรงตำแหน่งที่เขาย่ำลงมานั้น จมลึกลงไปอย่างเห็นชัด
“มารแดง!”
พอเห็นชัดคนที่มา อิงเทียนสิงอิงเทียนสิงย่นคิ้วเข้าหากัน
มารแดงเอ่ยปากขึ้นพูดเหยียด ๆ “ในสิบเฮือกหายใจ ไสหัวออกไปจากสำนักมาร ไม่งั้น ตาย!”
ในสำนักมาร มีผู้แข็งแกร่งที่สร้างผลงานเป็นประจักษ์แก่สำนักมารอยู่สี่ท่าน ได้รับการแต่งตั้งจากลี่เฉินให้เป็นสี่ยอดขุนพลมาร
ฐานะของสี่ยอดขุนพลมารในสำนักมาร สูงมาก เพียงแค่รองจากเจ้าสำนักและทายาทมารสองคนนี้เท่านั้น
สำหรับมารแดง ในสี่ยอดขุนพลมาร ก็คือคนที่เก่งกาจที่สุด
เพราะประเด็นอยู่ที่ ไล่เรียงกับอีกสามขุนพลมารแล้ว เขาอยู่ในวัยอ่อนที่สุด ตอนนี้อายุยังไม่เกินสี่สิบเก้า ก็ได้มีพลังฝีมือถึงกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นแล้ว
หลายคนยังคาดเดาว่าอาจจะเป็นได้ถึงทายาทมารของสำนักมาร
และนักบูโดในสำนักมาร ตั้งความหวังในตัวเขาไว้สูงมาก ถึงเขายังไม่ได้เป็นทายาทมาร แต่ในสายตาของนักบูโดสำนักมาร เขาก็คือทายาทมาร
อิงเทียนสิงอิงเทียนสิงมองมารแดง อย่างลึก ๆ นี่เป็นคนแรกตั้งแต่เขาเหยียบเข้ามาที่สำนักมาร ที่ได้ใช้สายตามองตรงกับนักบูโด
มองไปทั่วสำนักมาร ก็มีแต่ลี่เฉินกับมารแดงสองคนนี้เท่านั้น ที่ดูจะเข้าผ่านตาอันสูงส่งของอิงเทียนสิงอิงเทียนสิงได้
เขามองมารแดง สะบัดเสียงฮึออกจมูก “ให้ข้าไสหัวออกไปจากสำนักมาร?รอไว้ให้แกขึ้นมาเป็นทายาทมารของสำนักมารให้ได้ก่อน แล้วค่อยมาพูด!”
“สิบเฮือกหายใจถึงแล้ว!”
มารแดงพูดเพียงประโยคเดียว ร่างก็หายไปจากที่เดิม
“ปึง!”
วินาทีต่อมา เกิดเสียงดังสนั่นฟ้าจากการกระแทกกัน ท่ามกลางความสะเทือนขวัญของเหล่าบรรดาผู้แข็งแกร่งสำนักมาร มารแดงที่เป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีอิงเทียนสิงอิงเทียนสิงก่อน กลับถูกกระแทกเซถอยกลับไปห้าก้าว
ย้อนดูด้านอิงเทียนสิงอิงเทียนสิง ยังคงเอามือไพล่หลัง ยืนอยู่ที่เดิม มองดูเหมือนยังไม่ได้ขยับตัว
แต่ผู้แข็งแกร่งของสำนักมารต่างรู้กันชัดเจน อิงเทียนสิงอิงเทียนสิงได้มีการลงมือแล้ว ไม่งั้นมารแดงที่เป็นฝ่ายรุก คงไม่ถึงกับต้องถูกฝ่ายตรงข้ามกระแทกถอยไปห้าก้าวได้
ทั้งสองต่างก็เป็นผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้น แต่ระหว่างทั้งสองคนนี้ ก็ยังมีระดับห่างกันอยู่มาก
อิงเทียนสิงอิงเทียนสิงนั้นเป็นถึงหนึ่งในห้าผู้แข็งแกร่งแห่งภูเขามาร ก้าวเข้าถึงกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นก็หลายปีแล้ว ส่วนมารแดง ก็แค่เพิ่งก้าวเข้ามาถึงขั้นนี้เมื่อไม่นานนี้เอง
ไม่ว่าจะรากฐานบูโดของทั้งสองก็ดี หรือประสบการณ์สะสมก็ดี ล้วนมีความต่างกันอยู่มาก
มารแดงถูกกระแทกเซถอยไปแล้ว ไม่ได้รู้สึกเป็นที่ผิดคาด ความฮึกเหิมสู้ในแววตากลับเข้มข้นมากขึ้น พลังบูโดที่แข็งแกร่งมากกระแสหนึ่งแผ่กระจายออกมาจากตัวของเขา
“ปัง!”
พื้นที่เขาเหยียบอยู่แตกพัง พริบตานั้น ตัวของเขาประชิดเข้าไปถึงข้างหน้าอิงเทียนสิงไอ เตนโออีกครั้ง
“โครม ๆ ๆ !”
ทั้งสองซัดกันพัลวัลอยู่ด้วยกัน พลังบูโดที่น่าสะพรึงกลัว เหมือนวงคลื่นเสียง แผ่กระจายออกเป็นระลอกวนตลบออกไปรอบด้าน
ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดของสำนักมารหลายคน ต่างก็เดินขึ้นหน้าไป ต่างปล่อยกระแสพลังออกมาพร้อมกัน ปกป้องคุ้มกันนักบูโดสำนักมารที่พลังยังอ่อนให้อยู่ข้างหลัง
สองผู้แข็งแกร่งระดับสุดยอดที่หย่อนกว่าขั้นแดนนภา พลังที่ระเบิดออกมาจากการเข้าปะทะกัน จะมีอานุภาพทำลายอย่างล้างผลาญ นักบูโดระดับธรรมดา ไม่มีทางจะทานรับได้
ทว่า สองคนที่กำลังต่อสู้กัน ดูเหมือนจะเป็นการรุกโจมตีอย่างดุเดือดของมารแดงอยู่ฝ่ายเดียว
ตั้งแต่ต้นมา ฝ่ายอิงเทียนสิงไอ เตนโอไม่เห็นมีความจริงจัง ต่อการรุกโจมตีแต่ละครั้งของมารแดง เขาก็รับและปัดออกไปสบาย ๆ
ถึงแม้เขาก็ต้องสูญเสียพลังไปมากอยู่ แต่มารแดงก็ไม่สามารถทำให้เขาต้องถึงกับบาดเจ็บได้แต่อย่างใด
ตรงกันข้าม หากถ้าเขาเอาจริงขึ้นมา ถึงจะฆ่ามารแดงไม่ได้ แต่คงทำให้มารแดงรับบาดเจ็บสาหัสได้อย่างง่ายดาย
แต่ที่เขามาในวันนี้ ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้มารแดงบาดเจ็บสาหัส ถึงแม้เขาก็อยากฆ่าเจ้าอัจฉริยะบูโดสำนักมารคนนี้ทิ้งเสีย แต่ที่นี่ถึงยังไงก็เป็นเขตสำนักมาร ถ้าฆ่ามารแดงตาย ผลตามมาต้องหนักหนารุนแรงอย่างมาก
“พอได้แล้ว!”
อิงเทียนสิงไอ เตนโอตะวาดลั่นขึ้นมาในทันใดนั้น ควงฝ่ามือไปอย่างดุเดือด ฟาดใส่เข้าที่หน้าอกมารแดง มารแดงถึงกับเซถอยออกไปเจ็ด-แปดก้าว
อิงเทียนสิงไอ เตนโอพูดด้วยเสียงหนาวเยือกว่า “มารแดง แกน่าจะรู้ชัดเจนนะ ถ้าข้าใช้กำลังของข้าลงไปทั้งหมด แกก็ตายแล้ว!ถ้าขืนยังกล้าจะท้ากวนอีก ก็อย่ามาหาว่าข้าไม่เกรงใจนะ ข้ามาวันนี้ ต้องการแต่จะพบลี่เฉิน!”
มารแดงกำหมัดของเขาแน่นทั้งสองข้าง สีหน้ายังแสดงอยู่ที่ยังไม่ยอมใจ
เขารู้อยู่ อิงเทียนสิงไอ เตนโอพูดนั้นไม่ผิด ทั้งสองถึงอยู่ในระดับแดนเดียวกัน แต่ช่องว่างระหว่างเขาทั้งสองยังห่างกันไม่น้อย อิงเทียนสิงไอ เตนโอนั้นกำลังจะก้าวขึ้นเป็นผู้แข็งแกร่งแดนนภาชั้นสุดยอด ส่วนเขานั้นเพิ่งจะเข้ามาในขั้นนี้เท่านั้น
และในขณะนั้นเอง อานุภาพพลังมารกระแสหนึ่ง จู่ ๆ ก็แผ่เข้ามาถึงตัวของมารแดง
มารแดงสะท้านขึ้นมาทั้งตัว สีหน้าให้เห็นว่ารู้สึกไม่อยากเชื่อ ทั่วทั้งสำนักมาร ผู้อยู่ในระดับที่แผ่กระจายอานุภาพแดนมารได้นั้น จะมีเพียงลี่เฉินคนเดียว แต่เขตแดนวิถีมารกระแสนี้ ไม่ใช่ของลี่เฉิน แต่เป็นของชายหนุ่มก่อนหน้านี้ ที่อยู่แค่ระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลาง ถล่มจนเนี่ยชิวระดับกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นพ่ายแพ้ลงไป
นี่ยังไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ประเด็นสำคัญอยู่ที่ อานุภาพแดนมารกระแสนี้กับที่หยางเฉินปล่อยออกมาครั้งที่ต่อสู้กับเนี่ยชิวนั้น มีพลังอานุภาพที่ดูจะแข็งแกร่งขึ้นไปอีกมาก
มารแดงถึงกับเห็นเป็นภาพหลอนแล้วว่า พลังฝีมือบูโดของหยางเฉิน ได้ก้าวขึ้นไปถึงแดนนภาแล้ว
“นี่มันเป็นไปได้ยังไง?”
ความไม่อยากเชื่อแสดงออกเต็มหน้า เมื่อตอนที่เขาอายุสี่สิบเก้า ก้าวขึ้นไปได้ถึงกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้น ก็ถูกจัดว่าเป็นความพิสดารของความพิสดารแล้ว
แต่นี่หยางเฉิน เห็นว่าอายุแค่เพียงยี่สิบแปด จากเมื่อประมาณหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว ยังแค่เพียงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางอยู่เลย ตอนนี้พลังฝีมือบูโดจะก้าวทะลุขึ้นไปถึงแดนนภาแล้วหรือ?
ไม่เฉพาะมารแดง อิงเทียนสิงไอ เตนโอก็สะท้านผวาเอาเหมือนกัน
ด้วยพลังฝีมือของเขา ย่อมต้องสัมผัสรู้ถึงได้ ลี่เฉินนั้นอยู่ทางด้านหอหนังสือของสำนักมาร แต่กระแสพลังอานุภาพมารที่น่าสะพรึงกลัวนี้ มาจากด้านตรงกันข้ามกับหอหนังสือ
จึงบอกได้ว่า พลังอานุภาพมารของผู้แข็งแกร่งนี้ ไม่ใช่ของลี่เฉิน แต่ต้องมีคนอื่นอีก
มันอะไรตั้งแต่เมื่อไหร่กัน สำนักมารจึงได้มีผู้แข็งแกร่งแดนนภาปรากฏเพิ่มมาอีก?