The king of War - บทที่ 2002 ผู้แข็งแกร่งกับผู้แข็งแกร่งสู้กัน
The king of War บทที่ 2002 ผู้แข็งแกร่งกับผู้แข็งแกร่งสู้กัน
ทุกคนที่อยู่ในยอดเมฆา ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ หวังคุนมาจากราชวงศ์ไป๋หลี่ในโลกบู๊โบราณ และความแข็งแกร่งของเขาแข็งแกร่งเกินไป แม้ว่าพวกเขาจะรวมพลังกัน แต่ก็ทำอะไรหวังคุนไม่ได้
ถึงอย่างนั้น พี่น้องตระกูลซ่งก็ก้าวออกมา ทั้งสองขวางอยู่ข้างหน้าเฝิงเสียวหว่าน จ้องไปที่หวังคุน และกล่าวว่า”อย่าทำเกินไปนะ!ที่นี่ไม่ต้อนรับคุณ!”
“เหอะๆ เคยเห็นคนที่กลัวตาย แต่ไม่เคยเห็นคนที่หาที่ตายเอง ในเมื่อพวกคุณอยากตายนัก ผมก็จะทำให้!”
เสียงของหวังคุนลดลง และออร่าบูโดอันทรงพลังก็พุ่งออกมาจากร่างกายของเขา ปกคลุมซ่งจั่วและซ่งโย่วโดยตรง
ชั่วขณะหนึ่ง เหมือนทั้งสองถูกแช่แข็งอยู่กับที่ ไม่สามารถขยับร่างกายได้เลย
สีหน้าของทั้งคู่เปลี่ยนไปอย่างมาก เดิมที พวกเขาคิดว่าต่อให้ช่องว่างระหว่างพวกเขากับหวังคุนจะกว้างใหญ่แค่ไหน พวกเขาก็ยังมีพลังที่จะต่อสู้อยู่บ้าง แต่คิดไม่ถึงว่า ต่อหน้าเขา พวกเขาไม่มีแรงที่จะสู้กลับเลย
สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกใจก็คือ อีกฝ่ายใช้วิธีอะไร?ที่สามารถทำให้พวกเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้แม้แต่น้อย
“ถ้าคุณกล้าทำร้ายพวกเขา แม้ว่าฉันจะตาย ฉันก็ไม่มีวันไปที่ราชวงศ์ไป๋หลี่กับคุณ!”
เมื่อหวังคุนกำลังจะโจมตีสองพี่น้องตระกูลซ่ง เฝิงเสียวหว่านก็ก้าวออกมาขวางไว้ที่ด้านหน้าพวกเขาโดยไม่ลังเล มองไปที่หวังคุนด้วยความโกรธและพูด
ในเวลานี้ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
หวังคุนขมวดคิ้ว เขารู้สึกได้ว่า ถ้าเขาฆ่าพี่น้องตระกูลซ่งจริงๆ เฝิงเสียวหว่านยอมตายก็ไม่ยอมไปกับเขาแน่นอน
ต้องรู้ว่า ในโลกบู๊โบราณก็มีนักปรุงยาเพียงไม่กี่คน เฝิงเสียวหว่านสามารถปรุงยาได้ ก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าเธอมีค่าเพียงใด ถ้าเฝิงเสียวหว่านเป็นอะไรไปจริงๆ ผู้นำของราชวงศ์ไป๋หลี่จะไม่ปล่อยเขาไปแน่
เขาไม่ใช่นามสกุลไป๋หลี่ เป็นเพียงผู้แข็งแกร่งที่ได้รับการคัดเลือกจากราชวงศ์ไป๋หลี่ หากราชวงศ์ไป๋หลี่ต้องการฆ่าเขา ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลใด
ส่วนเฝิงเสียวหว่าน ถ้าเธอไปที่ราชวงศ์ไป๋หลี่ เธอจะได้รับความสำคัญอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้น ในราชวงศ์ไป๋หลี่ ตำแหน่งและสถานะของเฝิงเสียวหว่านจะเหนือกว่าเขามากแล้ว
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หวังคุนก็รีบยับยั้งออร่าบูโดบนร่างกายของเขา และสองพี่น้องตระกูลซ่งก็รู้สึกว่าความรู้สึกถูกควบคุมก็หายไปในทันที
หวังคุนเปลี่ยนหน้าในทันที มองไปที่เฝิงเสียวหว่านด้วยรอยยิ้มและพูดว่า“คุณเฝิง ผมแค่ล้อเล่นกับพวกเขาเท่านั้น วางใจได้เลย ขอเพียงคุณยอมไปที่ราชวงศ์ไป๋หลี่กับผม ผมจะไม่ทำอะไรใครแน่นอน”
เฝิงเสียวหว่านมองหวังคุนย่างเย็นชา และพูดด้วยดวงตาสีแดงว่า“คุณออกไปก่อน ขอฉันคุยกับพวกเขาสักสองสามคำก่อน แล้วฉันจะไปที่ราชวงศ์ไป๋หลี่กับคุณ”
“โอเค ผมจะไปรอคุณที่ข้างนอกนะ!”
หวังคุนตอบตกลงอย่างรวดเร็ว และออกจากห้องไป
ชั่วขณะหนึ่ง ในห้องก็เหลือเพียงเฝิงเสียวหว่านพวกเขา
“เสี่ยวหว่าน คุณไปที่โลกบู๊โบราณกับเขาไม่ได้ ถ้าคุณไปกับเขาจริงๆ ราชวงศ์ไป๋หลี่จะไม่มีวันปล่อยคุณกลับมาแน่นอน ตลอดชีวิตที่เหลือ คุณก็จะต้องอยู่ในราชวงศ์ไป๋หลี่ เพื่อปรุงยาให้กับราชวงศ์ไป๋หลี่”
ทันทีที่หวังคุนออกไป อ้ายหลินสะอึกสะอื้นและพูด
เธอกับเฝิงเสียวหว่านใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาเป็นเวลานาน และทั้งสองเป็นเหมือนพี่น้องกัน เมื่อเห็นว่าเฝิงเสียวหว่านกำลังจะถูกพาตัวไปในเวลานี้ เธอก็รู้สึกไม่สบายใจเลยจริงๆ
เฝิงเสียวหว่านจับมืออ้ายหลินไว้แน่น และพูดด้วยตาสีแดงว่า“พี่อ้าย ฉันก็ไม่อยากไปที่โลกบู๊โบราณกับเขา แต่ถ้าฉันไม่ไป พวกเราทุกคนในนี้ก็จะต้องตาย ในเมื่อพวกเราขัดขืนเขาไม่ได้ งั้นก็ปล่อยให้ฉันไปกับเขาจะดีกว่า ฉันก็ไม่อยากทำให้พวกคุณต้องมาเดือดร้อนเพราะฉันหรอกใช่ไหม”
หลังจากได้ยินคำพูดของเฝิงเสียวหว่าน ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความอึดอัด
พวกเขาทั้งหมดต้องการช่วยเฝิงเสียวหว่าน แต่ก็ไม่สามารถช่วยได้เลย
ถึงตอนนี้ พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความแข็งแกร่งของหวังคุนนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน
ซ่งจั่วกำหมัดแน่น กัดฟันแล้วพูดว่า“เพราะความแข็งแกร่งของเราต่ำเกินไป ไม่มีทางที่จะปกป้องเสี่ยวหว่านได้เลย!”
เฝิงเสียวหว่านแสร้งทำเป็นสงบ พยายามแสดงรอยยิ้ม เหลือบมองทุกคนแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า“ทุกคน ไม่ต้องห่วง ราชวงศ์ไป๋หลี่สนใจวิชาปรุงยาของฉัน แม้ว่าจะไปที่ราชวงศ์ไป๋หลี่ พวกเขาก็จะไม่ทำอะไรฉันแน่นอน ตรงกันข้าม พวกเขาจะเห็นความสำคัญของฉัน”
“ตอนนี้ฉันไปที่โลกบู๊โบราณ ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสมอไป ความแข็งแกร่งของพี่หยางเติบโตเร็วมาก คาดว่าอีกไม่นาน ก็สามารถไปยังโลกบู๊โบราณแล้ว ฉันไปที่โลกบู๊โบราณในตอนนี้ ถือว่าเป็นการสำรวจทางล่วงหน้าให้พี่หยางแล้วกัน หลังจากที่พี่ใหญ่หยางบุกทะลวงสู่แดนสวรรค์แล้ว ไปที่โลกบู๊โบราณ บางทีฉันอาจจะสามารถช่วยเขาได้”
ในเวลานี้ หวยหลันที่เงียบอยู่นานก็พูดว่า”เสี่ยวหว่านพูดถูก ความเร็วในการฝึกฝนของพี่หยางนั้นเร็วมาก และมันก็เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นที่จะทะลวงสู่แดนสวรรค์ ตอนนี้ เนื่องจากเราไม่สามารถห้ามราชวงศ์ไป๋หลี่พาเสี่ยวหว่านไปได้ และเสี่ยวหว่านก็ไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายใดๆในตอนนี้ ดังนั้นเราจึงจำต้องปล่อยให้ราชวงศ์ไป๋หลี่นำตัวเสี่ยวหว่านไป”
“ทุกคนวางใจได้เลย ด้วยนิสัยของพี่หยาง ถ้าเขารู้ว่าเสี่ยวหว่านถูกราชวงศ์ไป๋หลี่นำตัวไป เขาจะตั้งใจฝึกฝนและพยายามบุกทะลุสู่แดนสวรรค์โดยเร็วที่สุดแน่นอน ไปที่โลกบู๊โบราณเพื่อช่วยเสี่ยวหว่านออกมา”
หลังจากได้ยินคำพูดของหวยหลัน ทุกคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“เสี่ยวหลันพูดถูก คุณหยางจะไปช่วยเสี่ยวหว่านอย่างแน่นอน!”
ซ่งโย่สมองไปที่เฝิงเสียวหว่านและกล่าว”เสี่ยวหว่าน คุณไปรอเราอยู่ในโลกบู๊โบราณก่อนนะ คุณปู่ซ่งของคุณจะฝึกฝนให้หนักขึ้น เพื่อไปหาคุณในโลกบู๊โบราณโดยเร็วที่สุด”
บนใบหน้าเฝิงเสียวหว่านเผยรอยยิ้มอันแสนหวาน มองทุกคนด้วยดวงตาสีแดงและพูดว่า“ได้ ฉันจะรอทุกคนอยู่ในโลกบู๊โบราณนะ!”
หลังจากบอกลาทุกคนแล้ว เฝิงเสียวหว่านก็ก้าวออกจากห้องโถง
หวังคุนกำลังรออยู่ข้างนอก เมื่อเขาเห็นทุกคนเดินออกมาพร้อมกับเฝิงเสียวหว่าน เขายิ้มแย้ม“คุณเฟิง เราไปกันได้แล้วใช่ไหม?”
เฝิงเสียวหว่านไม่สนใจหวังคุน กวาดสายตาไปที่ทุกคน ต้องจากกันแล้ว จู่ๆเธอก็รู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้ แต่เธอก็กลั้นน้ำตาไว้
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ และพยายามสงบอารมณ์ หลังจากมองไปรอบๆ ก็พูดขึ้นว่า“คุณปู่และพี่สาวทุกคน ฉันไปก่อนนะ!แล้วพบกันในโลกบู๊โบราณ!”
พูดจบ เธอก็หันหลังจากไปอย่างแน่วแน่
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทุกคนไม่เห็นก็คือ ในขณะที่เฝิงเสียวหว่านหันกลับไป น้ำตาใสสองบรรทัดก็ไหลออกมาจากใบหน้าของเธอ
แต่ในขณะนี้เอง ออร่าบูโดอันทรงพลังก็ถูกปล่อยลงมา
“ตระกูลเจียงในโลกบู๊โบราณ เจียงจ้าน มารับคุณเฝิงกลับไปยังตระกูลเจียง!”
เมื่อเสียงเย็นชาดังขึ้น วินาทีถัดมา ชายวัยกลางคนก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหน้า
เมื่อเห็นคนที่มา ทุกคนต่างก็ประหลาดใจ
ส่วนหวังคุน เมื่อเห็นเจียงจ้านมา สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก
“คุณเฟิงคือบุคคลที่ผู้นำตระกูลของเราต้องการพบ หากตระกูลเจียงต้องการพบคุณเฝิง ก็ต้องรอให้คุณเฝิงพบกับผู้นำตระกูลของเราก่อนค่อยว่ากัน”
หวังคุนจ้องไปที่เจียงจ้านอย่างไม่ละสายตาและกล่าว
เจียงจ้านส่งเสียงอย่างเย็นชา เหลือบมองหวังคุนอย่างดูถูก แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า“ไสหัวกลับไปที่ราชวงศ์ไป๋หลี่ซะ ไม่เช่นนั้น จะฆ่าโดยไร้ความปราณี!”