The king of War - บทที่ 2074 แค่ใช้ซ้อมมือ
The king of War บทที่ 2074 แค่ใช้ซ้อมมือ
หม่าชาวรู้ หยางเฉินได้ตัดสินใจเสี่ยงอันตรายปฏิบัติภารกิจของกลุ่มผู้อาวุโสแน่แล้ว ก็ไม่พูดอะไรอีก และก็มุ่งตรงไปเยี่ยนเฉินกรุ๊ปด้วยกันกับหยางเฉิน
“วันนี้ยูเนี่ยนกรุ๊ปของเราจะมีการต้อนรับแขกสำคัญ คนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ต้องรีบออกไปให้พ้น!”
มาถึงเยี่ยนเฉินกรุ๊ป หยางเฉินกำลังเตรียมเข้าไป ก็ได้ถูกชายวัยกลางคนในชุดสูตรเต็มยศขวางทางเข้าไว้
หยางเฉินมองฝ่ายตรงข้ามแวบหนึ่ง แล้วก็เอ่ยปากพูดว่า “ผมจะมาหาลั่วปิง!”
ชายวัยกลางคนนั่นขมวดคิ้วย่นทันที วางมาดอย่างคนที่อยู่เหนือกว่า กวาดตามองหยางเฉินจากหัวจรดตีน แล้วพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจไปว่า “แกถึงขนาดเรียกชื่อโดยตรงของท่านประธานลั่วของเราเลยรึ ไอ้หนู นี่แกจะมาหาเรื่องหรือไง?”
หยางเฉินเลิกคิ้วขึ้นในพลัน พูดเสียงเยือกว่า “แกชื่ออะไร?ขึ้นกับฝ่ายไหน?”
ฝ่ายตรงข้ามดูจะไม่รู้จักตัวเขาจริง ๆ นี่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ที่สำคัญคือ ท่าทางเบ่งทับคนอื่นของฝ่ายตรงข้ามนี้ ทำให้เขาไม่ชอบใจ
“อะไร?นี่แกยังคิดจะถามชื่อของข้าอีกเรอะ คิดจะทำรายงานข้าหรือไง?”
ชายกลางคนพูดใส่ด้วยสีหน้าหยิ่งจองหองว่า “แกคิดจะรายงานข้าก็ไม่เป็นไร แกฟังให้ชัดนะ ข้าชื่อหลูเฉียง รองผู้จัดการทั่วไปของเยี่ยนเฉิงกรุ๊ป ยังมีนะ ข้าเป็นญาติผู้น้องของลั่วปิง”
ได้ยินที่ฝ่ายตรงข้ามพูด หยางเฉินหน้านิ่วคิ้วย่นขึ้นมา เขาวางใจลั่วปิงขนาดมอบงานของเยี่ยนเฉิงกรุ๊ปให้ดูแล เพราะความเชื่อใจลั่วปิงอย่างที่สุด อีกทั้งลั่วปิงก็สร้างผลงานให้เยี่ยนเฉิงกรุ๊ปไว้มากมาย
พูดได้ว่า ถ้าไม่มีลั่วปิง ก็ไม่มีเยี่ยนเฉิงกรุ๊ปในวันนี้
การที่หลั้วปิงจะวางเสียบญาติพี่น้องเข้ามาในเยี่ยนเฉิงกรุ๊ป ไม่ใช่จะมีปัญหาอะไรแม้แต่นิดเดียว แต่ว่า เขาไม่ควรเอาคนบัดซบอย่างหลูเฉียงแบบนี้เข้ามา
ประเด็นสำคัญคือ หลูเฉียงยังเป็นถึงผู้จัดการทั่วไป
หลูเฉียงออกคำสั่ง “รปภ. จัดการเอาไอ้บัดซบสองคนนี้ไปข้าง ๆ โน่น อัดสั่งสอนมันสักหน่อย แล้วตะเพิดออกไป!”
พอได้ยินคำสั่งของเขา รปภ.หลายคนก็รุมล้อมหยางเฉินกับหม่าชาวเข้าไว้ทันที
หม่าชาวถลันตัวออกไปในทันที กระแสฆ่าที่น่าสะพรึงกลัว ระเบิดออกมาจากตัวเขา
รปภ.หลายคนนั้นเพิ่งกำลังคิดจะลงมือ ต่างชะงักหยุดนิ่งกับที่ บนสีหน้าแต่ละคน ต่างส่อออกถึงความหวาดกลัว
ขณะนั้นเอง หยางเฉินตบไหล่หม่าชาวสองสามที หม่าชาวจึงได้เก็บเอาความคิดฆ่าขึ้น พูดเสียงเยือกไปว่า “ไม่อยากตาย ไสหัวไปให้พ้นซะ!”
ตั้งแต่หม่าชาวถูกเทพบู๊สะกดพลังสายมังกรที่อยู่ในตัวไว้แล้ว หลังจากฟื้นขึ้นมา ก็เหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เปลี่ยนเป็นคนมุทะลุดุดันอย่างมาก
ด้วยพลังฝีมือที่เขามีอยู่ในปัจจุบัน ตะคอกสั่งไปคำเดียว รปภ.พวกนั้นถึงกับสะท้านถอยออกไปหลายคน
หลูเฉียงเห็นรปภ.ถูกคำพูดคำเดียวของหม่าชาวถึงกลับตกใจถอยออก สีหน้าบึ้งตึงดูไม่ได้ขึ้นมา เขาหยีตาจ้องไปที่หยางเฉินพูดว่า “ดูไม่ออกเลยนะ ข้างตัวแกนี่จะมีองครักษ์นักบูโดคนหนึ่งด้วย”
“แต่ว่า ถ้าหากจะอาศัยแค่องครักษ์แบบนี้ แล้วคิดจะมาเป็นอริกับข้า แกก็ตายแน่!”
พูดเสียงขาดคำ กระแสพลังปราณบูโด แผ่กระจายออกมาจากตัวหลูเฉียงในทันที
หยางเฉินจึงได้ประจักษ์เห็น ฝ่ายตรงข้ามนี้ก็เป็นนักบูโดคนหนึ่ง ถึงพลังฝีมือจะอยู่แค่เพียงแดนราชา แต่ก็พอก้อมแก้มนับเป็นนักบูโดได้ อีกทั้งในโลกมนุษย์ดั้งเดิม ก็จัดว่าเป็นยอดฝีมือได้
“เวลานี้ชี่ทิพย์ของโลกนี้ฟื้นกลับมา ข้าก็ได้คิดก้าวเข้ามาในแวดวงนักบูโด พอดี ข้าเพิ่งได้ทะลุผ่านมาถึงแดนราชาเมื่อหลายวันก่อน วันนี้ก็เอาไอ้บัดซบอย่างแกสองคนนี้แหละมาซ้อมมือเล่น”
หลูเฉียงพูดพลาง ถอดเสื้อนอกออก แล้วถลกแขนเสื้อขึ้น ทำท่าเหมือนพร้อมจะลงมือ
แต่ในขณะนั้นเอง พลังบูโดที่แข็งกร้าวกระแสหนึ่ง แผ่กระจายครอบคลุมลงมาทั่วทั้งเยี่ยนเฉิงกรุ๊ป
หลูเฉียงที่กำลังเตรียมพร้อมจะลงมือ ภายใต้พลังบูโดที่แข็งกร้าวนี้ อ่อนระทวยทรุดนั่งลงกับพื้น ด้วยสีหน้าที่หวาดกลัวเต็มที่มองไปยังคนในชุดดำสี่คน ที่ยืนล้อมหยางเฉินกับหม่าชาวไว้ตรงกลาง
“หยางเฉิน แกมาถึงเยี่ยนเฉิงกรุ๊ปได้จริง ๆ พวกข้ารอเจ้ามาตั้งนานแล้ว”
คนในชุดดำที่เป็นผู้นำ จ้องเขม็งที่หยางเฉินแล้วพูด
แววตาหยางเฉินทอประกายเยือก “พวกแกเป็นคนของพันธมิตรพิทักษ์สินะ?สี่ผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสองชั้นต้น จัดใหญ่กันเอาจริงเลยนะ!”
ได้ยินที่หยางเฉินพูด หลูเฉียงที่นั่งทรุดอยู่กับพื้น แทบจะฉี่แตก
เขาเวลานี้ได้เข้ามาในวงการบูโด ย่อมเข้าใจดีว่า ผู้แข็งแกร่งแดนนภามีความหมายอย่างไร และย่อมรู้แจ้งถึงความยิ่งใหญ่ของพันธมิตรพิทักษ์
ในขณะนี้ ถึงขนาดมีผู้แข็งแกร่งแดนนภามาถึงสี่นาย อีกทั้งยังเป็นถึงผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสองชั้นต้น
ด้วยพลังฝีมือแดนราชาขั้นต้นของเขา น่ากลัวแค่ความคิดผุดขึ้นมาของฝ่ายตรงข้าม ก็สามารถฆ่าเขาทิ้งได้เลย
คนชุดดำไม่ตอบคำถามของหยางเฉิน ทั้งแต่ละคนยังจ้องติดที่หยางเฉิน พร้อมลงมือกันอย่างทันที
“บรึม!”
พลังปราณบูโดที่น่ากลัวกระแสหนึ่ง ระเบิดออกมาจากตัวหม่าชาวฟุ้งกระจายออกไป
หม่าชาวในขณะนี้ ทั่วทั้งตัวคลุมเต็มไปด้วยไอควันสีดำ ดวงตาทั้งคู่พลันกลายเป็นสีดำทะมึน กลิ่นอายหนาวเยือกกระแสหนึ่ง ระเบิดออกมาจากตัวของเขา พลังเขตแดนวิถีมารถูกปลดปล่อยออกมา ครอบใส่ลงไปที่คนชุดดำทั้งสี่นั้น
หยางเฉินพูดขึ้นมาในทันทีนั้นว่า “ในเมื่อมาถึงแล้ว ก็จงอยู่กันที่นี่ตลอดไปเถอะ!”
“ฆ่า!”
ทันใดนั้น สี่ผู้แข็งแกร่งก็ได้พุ่งเข้าใส่หยางเฉิน
“ไสหัวไป!”
หม่าชาวตวาดเสียงลั่น กระทืบขาลงพื้นอย่างแรง ตามมากับเสียงโครมลั่น ผิวพื้นแตกกระจาย
หมัดที่เขาซัดออกไป เหมือนฟ้าดินทลาย ถล่มใส่คนชุดดำคนหนึ่ง
“ปัง!”
กำปั้นของคนทั้งสองกระแทกใส่เข้าหากัน ระเบิดกระแสพลังน่าสะพรึงกลัวออกมาในฉับพลัน กวาดม้วนไปรอบทิศทาง
พวกหลูเฉียง ต่างก็มีสีหน้าซีดเผือด ที่พวกเขาสัมผัสรู้สึกได้อยู่นั้น ตัวเองกำลังจะตาย และเป็นการตายที่เกิดจากพลังปราณที่หนักหน่วงจากการปะทะกันของสองผู้แข็งแกร่ง
หลูเฉียงจู่ ๆ ก็คิดขึ้นมาได้ เมื่อตะกี้นี้ยังคิดจะไปรับมือกับหม่าชาว ที่แท้ตัวเองนั้นแค่มดปลวกเซ่อซ่าเท่านั้นเอง
ขณะที่สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหมดหวัง คิดว่าตัวเองต้องตายแน่ ทันใดนั้นก็มีลมปราณที่อบอุ่นกระแสหนึ่ง ปกคลุมตัวของเขาไว้
เห็นหยางเฉินยกมือขึ้นสะบัด พลังเขตแดนได้ถูกปล่อยออกมา ครอบคลุมไปทั่วบริเวณพื้นที่ในรัศมีสองสามร้อยเมตร
การต่อสู้กันในระดับนี้ เพียงแค่การปะทะกันด้วยพลังเดี่ยว ๆ ก็สามารถกวาดสังหารคนธรรมดาได้
หยางเฉินยืนเอามือไพล่หลัง มองดูหม่าชาวต่อสู้กับสี่ผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสองชั้นต้น ไม่มีทีท่าจะสอดมือเข้าไปด้วย
ด้วยพลังฝีมือของเขาเวลานี้ ถ้าได้ลงมือ ผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสองชั้นต้นทั้งสี่คนนี้ มีแต่จะต้องถูกกวาดสังหารเรียบ
แต่หม่าชาวนั้นไม่เหมือนกัน เขาเพิ่งตื่นฟื้นขึ้นมาไม่นาน ก็รับเอาพลังสายมังกรที่แข็งกล้ามากเข้ามา ยังไม่ได้ปรับสภาพให้สมดุล กำลังจำเป็นต้องมีผู้แข็งแกร่งระดับนี้มาเป็นคู่ซ้อม
เดิมทีสี่ผู้แข็งแกร่งชุดดำตั้งใจจะมาฆ่าหยางเฉิน แต่มาตอนนี้ กลับถูกหม่าชาวเข้าขวาง ทั้งสี่ก็มีสีหน้าไม่ดีเอาเลยขึ้นมา
พวกเขาจะไม่มีโอกาสได้ปะมือกับหยางเฉินเลยหรือ?
“ไม่ต้องเก็บออมกันแล้วทุกคน จัดการฆ่าไอ้เด็กนี่ก่อน!”
ทันใดนั้น ผู้แข็งแกร่งในชุดดำที่เป็นหัวหน้าหยิบเอายาเม็ดสีแดงเม็ดหนึ่งกลืนกินลงไป
ผู้แข็งแกร่งในชุดดำอีกสามคน ต่างก็หยิบเอายาเม็ดสีแดงออกมาแล้วกลืนกินกันลงไป
หยางเฉินคิ้วขมวดย่นขึ้นมา ถึงแม้เขาไม่รู้ว่าทั้งสี่คนนั้นกลืนยาอะไรเข้าไป แต่ก็รู้ได้ว่า หลังจากกินยานี้เข้าไปแล้ว พลังฝีมือจะต้องระเบิดสูงขึ้นเป็นแน่
“บรึม!”
และก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ คนชุดดำทั้งสี่พอได้กลืนยาเม็ดเข้าไปแล้ว ตาทั้งคู่ของแต่ละคนแดงเป็นเลือด ร่างกายของพวกเขาแผ่กระจายพลังปราณที่มากขึ้นกว่าเดิมอีกมาก
หยางเฉินกำลังเตรียมจะลงมือ หม่าชาวกัดฟันพูดออกมาในทันทีว่า “พี่เฉิน เหลือเป็นคู่ซ้อมให้ผมสักคน!”
“ได้เลย!”
หยางเฉินผงกหัว
“ฆ่ามัน!”
ผู้แข็งแกร่งชุดดำทั้งสี่ พุ่งเข้าใส่หม่าชาวกับหยางเฉิน
มาคราวนี้ หม่าชาวไม่ลากวงต่อสู้ให้กว้าง จ้องใส่อยู่กับผู้แข็งแกร่งชุดดำอยู่คนเดียว
เมื่อครู่ก่อนหน้านี้สู้กับสี่ผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสองชั้นต้น ก็หนักแรงเอามากอยู่ ตอนนี้ทั้งสี่คนกินยาเข้าไปกัน พลังเพิ่มพูนขึ้นมาอย่างมาก เขาสามารถฝืนรับมือกับหนึ่งคนในนั้น ก็นับว่าแน่พอตัวแล้ว
“หยางเฉิน ไม่มีเขามาปกป้องแก ข้าจะดูซิว่าใครจะช่วยแกได้อีก?”
ผู้แข็งแกร่งในชุดดำแสยะยิ้มเยือก แล้วโบกมือสั่งไปในทันที “ฆ่ามัน!”
สามผู้แข็งแกร่ง พุ่งเข้าใส่หยางเฉินพร้อมกันในทันที
“ฮึ!”
แววตาหยางเฉินฉายประกายเยือก ปล่อยพลังขั้นหนักของพลังเขตแดนออกมาโดยตรง
และในชั่วพริบตานั้นเอง ความเร็วของสามผู้แข็งแกร่งในชุดดำลดลงวูบ แรงกดลงมาที่หนักอึ้งน่าสะพรึงกลัว ทำให้พวกเขารู้สึกถึงความสั่นสะท้านที่มาจากส่วนลึกของวิญญาณ ยิ่งกว่านั้นยังนึกใคร่ที่จะฟุบลงเกลือกกลิ้งไปกับพื้น
“ปึง ปึง ปึง!”
วินาทีต่อมานั้น ร่างพร้อมเงาของหยางเฉินหายไปจากที่เดิมในฉับพลันนั้น
ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง ร่างของสามคนในชุดดำลอยเป็นลูกปืนใหญ่กระเด็นออกไปหลายสิบเมตร ล้มลงกับพื้น อ้าปากกระอักเลือดออกมา ถึงขนาดแรงฝืนให้ลุกขึ้นยังไม่มี
นาทีนี้เอง หลูเฉียงงงเซ่ออยู่กับที่จริง ๆ ตัวสั่นอย่างบังคับตัวเองไม่อยู่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความกลัว
เขารู้สึกขึ้นมาได้ในทันที เมื่อสักครู่ที่เขาได้ทำลงไปนั้นช่างโง่สิ้นดี