The king of War - บทที่ 2110 ก็เหมาะสมนิ
The king of War บทที่ 2110 ก็เหมาะสมนิ
ชี่ทิพย์ในคฤหาสน์นี้มีอยู่มากมาย มิน่าล่ะถึงถูกตระกูลบู๊โบราณครอบครอง
ฐานของตระกูลบู๊โบราณอื่นๆในจงโจวก็น่าจะเป็นแบบนี้
“ผู้อาวุโสสี่ มีบางอย่างผิดปกติ!”
จางจี้พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมอย่างกะทันหัน”ก่อนหน้านี้ที่เราไปที่อีกสามตระกูลบู๊โบราณ ทันทีที่เราไปถึงหน้าประตู เราก็ถูกคนของพวกเขาขัดขวางทางไป”
“แต่ตอนนี้ ราชวงศ์ไป๋หลี่ไม่มีใครมาขวางทางพวกเราเลย ผมรู้สึกว่า พวกเขาดูเหมือนจะเดาได้ว่าท่านจะมาที่นี่ตั้งนานแล้ว และพวกเขากำลังรอให้ท่านมาพบพวกเขาเป็นการส่วนตัว”
“ไม่ก็ ให้ผมติดต่อผู้บัญชาการเย่ และให้เขาจัดเตรียมผู้แข็งแกร่งกองยุทธการมาไหม?”
หยางเฉินส่ายหัวและพูดด้วยสีหน้าที่เรียบสงบ”ไม่จำเป็น!ในเมื่อพวกเขากำลังรอผมอยู่ ผมก็จะไม่ทำให้พวกเขาผิดหวังอย่างแน่นอน ไปตามถนนสายนี้และตรงไปจนสุดทาง”
จางจี้ตอบอย่างรวดเร็ว”ครับ!”
ก่อนที่หยางเฉินจะเข้าไปในคฤหาสน์ เขาได้รับรู้ทุกอย่างในคฤหาสน์แล้ว และที่ปลายสุดของถนนสายนี้ มีผู้แข็งแกร่งแดนนภาอยู่หลายคน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่หยางเฉินไม่เข้าใจก็คือ ในบรรดาผู้แข็งแกร่งเหล่านี้ ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่ที่แดนนภาขั้นสองชั้นยอดเท่านั้น และมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไปถึงความแข็งแกร่งดังกล่าว
ทำไมพวกเขาถึงยังไม่ดำเนินการใดๆ
ต้องรู้ว่า เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา หยางเฉินได้ฆ่าผู้แข็งแกร่งสิบห้าคนจากตระกูลบู๊โบราณด้วยตัวคนเดียวที่บนดาดฟ้าของโรงแรมจงโจว ในนั้นรวมถึงผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสองชั้นยอดอีกห้าคน
คฤหาสน์ใหญ่โต จางจี้ขับรถไปถึงสามนาทีเต็ม ก่อนจะหยุดที่หน้าคฤหาสน์สไตล์ยุโรปขนาดใหญ่
และรอบๆคฤหาสน์ก็มีกลิ่นอายของผู้แข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัว
“ในที่สุดคุณก็มาสักที!”
มองดูหยางเฉินเดินออกมาจากรถ ชายวัยกลางคนก็เดินออกมาจากกลุ่มผู้แข็งแกร่ง หรี่ตามองไปที่หยางเฉินแล้วพูด
จริงตามที่คิดไว้ไม่ผิด ราชวงศ์ไป๋หลี่กำลังรอให้หยางเฉินมา
หยางเฉินหรี่ตามองอีกฝ่ายและพูดว่า”ในเมื่อรู้ว่าผมกำลังมา ยังกล้าที่จะไม่มีการป้องกันใดๆ นี่มันไม่ได้เห็นผมอยู่ในสายตาใช่ไหม?หรือราชวงศ์ไป๋หลี่ไม่มีเจตนาที่จะขัดแย้งกับผม?”
“ใช้แค่กำลังของตนเอง ก็ได้ฆ่าผู้นำของตระกูลบู๊โบราณทั้งห้าในจงโจว และผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสองชั้นปลายห้าคน รวมถึงผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสองชั้นยอดอีกห้าคน ผลงานเช่นนี้ ผู้แข็งแกร่งในแดนนภาขั้นสามชั้นต้นทั่วไปก็ไม่สามารถทำได้”
อีกฝ่ายมองหยางเฉินด้วยรอยยิ้มและพูดว่า”ผมกล้าที่จะไม่เห็นคุณหยางอยู่ในสายตาได้อย่างไร?”
หลังจากพูดจบ เขาก็ทำท่าทางเชิญ และพูดด้วยรอยยิ้มว่า”คุณหยาง เชิญเข้าไปข้างใน!”
เมื่อเห็นชายวัยกลางคนที่โค้งคำนับเล็กน้อย และปฏิบัติต่อกันด้วยความสุภาพ หยางเฉินก็หรี่ตาลงเล็กน้อย
ทันใดนั้นเขาก็ไม่เข้าใจว่าราชวงศ์ไป๋หลี่หมายความว่าอย่างไร
“สี่ผู้อาวุโสสี่!”
จางจี้รีบขวางอยู่ตรงหน้าหยางเฉิน และพูดอย่างเคร่งขรึม”ผมรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติในคฤหาสน์นี้ ท่านอย่าเข้าไปจะดีกว่านะ”
หลังจากพูดจบ เขาก็มองไปที่ชายวัยกลางคนและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา”ไป๋หลี่จื้อเหอ คุณวางแผนชั่วร้ายอะไรกันแน่?บอกมาตรงๆ อย่าได้คิดที่จะให้ผู้อาวุโสสี่ของเราเอาตัวเองไปตกอยู่ในอันตราย ”
ไป๋หลี่จื้อเหอมองไปที่จางจี้อย่างดูถูกเหยียดหยาม และพูดอย่างเย็นชา”คุณคิดว่า แค่พวกเรา ก็สามารถทำอะไรคุณหยางได้งั้นเหรอ?
หรือว่า กองยุทธการจงโจวของพวกคุณ ไม่มีความมั่นใจในตัวคุณหยางเลย? ”
จางจี้โกรธมาก และพูดด้วยความโกรธ”คุณพูดไปเรื่อย!”
ขณะที่เขาต้องการที่จะเถียงต่อไป หยางเฉินก็หยุดเขาและพูดว่า”ในเมื่อราชวงศ์ไป๋หลี่เชิญ เราก็เข้าไปนั่งข้างในหน่อยกันเถอะ”
เมื่อได้ยินสิ่งที่หยางเฉินพูด จางจี้จึงปิดปากของเขา แต่เมื่อมองไปที่ไป๋หลี่จื้อเหอ สายตาของเขาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรง
จางจี้กำลังจะเข้าไปในบ้านพร้อมกับหยางเฉิน แต่ถูกคนจากราชวงศ์ไป๋หลี่ขัดขวาง
จางจี้พูดด้วยความโกรธ”ไป๋หลี่จื้อเหอ คุณหมายความว่าไง?”
ไป๋หลี่จื้อเหอมองไปที่จางจี้อย่างเฉยเมยและพูดว่า”ผมเชิญคุณหยาง คุณมีคุณสมบัติอะไรที่จะไปนั่งร่วมกับทายาทสายตรงของราชวงศ์ไป๋หลี่ของผม”
ไป๋หลี่จื้อเหอไม่ได้ปิดเรื่องที่เขาดูถูกจางจี้เลย และแสดงความเย่อหยิ่งของทายาทสายตรงของตระกูลบู๊โบราณออกมาจนหมด
จางจี้โกรธมาก แต่ว่า เขาก็รู้ว่า ไป๋หลี่จื้อเหอมีคุณสมบัติที่จะดูถูกเขา
เพราะว่า ไป๋หลี่จื้อเหอเป็นผู้แข็งแกร่งแดนนภา แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะอยู่ที่แดนนภาขั้นหนึ่งชั้นยอด แต่ก็สามารถฆ่าเขาได้อย่างง่ายดายในไม่กี่วินาที
“ไปให้พ้น!”
ในขณะนี้ หยางเฉินตะโกนด้วยความโกรธ และผู้พิทักษ์ของราชวงศ์ไป๋หลี่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าจางจี้ก็บินออกไปทันที
เมื่อเหล่าผู้แข็งแกร่งในราชวงศ์ไป๋หลี่เห็นสิ่งนี้ ต่างก็ก้าวไปข้างหน้าและจ้องมองไปที่หยางเฉิน
“ถอยไปให้หมด!”
ไป๋หลี่จื้อเหอคำรามเสียงดัง และเหล่าผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์ ก็ถอยกลับอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อทุกคนมองไปที่หยางเฉิน นอกจากความโกรธแล้ว ยังมีความกลัวอย่างมากในดวงตาของพวกเขา
หยางเฉินแค่ตะโกน ก็ทำให้ผู้พิทักษ์แดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นกระเด็นออกไป รู้ได้เลยว่าหยางเฉินแข็งแกร่งแค่ไหน
หยางเฉินกล่าวว่า”จางจี้ เข้ามากับผม!”
“ครับ!”
จางจี้ตอบเสียงดัง ราวกับว่าเป็นการยั่วยุและมองไปที่ไป๋หลี่จื้อเหอ
ไป๋หลี่จื้อเหอขมวดคิ้ว มองไปที่หยางเฉินแล้วพูดว่า”คุณหยาง มีเรื่องบางเรื่องที่ไม่สะดวกให้บุคคลภายนอกรู้”
หยางเฉินพูดอย่างเย็นชา”จางจี้ไม่ใช่คนนอก!”
หลังจากพูดจบ เขาก็ก้าวไปข้างหน้า และจางจี้ก็ติดตามไปอย่างใกล้ชิด
หลังจากไป๋หลี่จื้อเหอลังเลอยู่พักหนึ่ง เขาก็ไม่ได้ห้ามจางจี้ไว้ และรีบตามไป
ในห้องรับแขกขนาดใหญ่ของวิลล่า มีเพียงหยางเฉิน จางจี้และไป๋หลี่จื้อเหอสามคน
ไป๋หลี่จื้อเหอได้รินน้ำชาให้หยางเฉินเป็นการส่วนตัว และพูดด้วยรอยยิ้ม”คุณหยาง นี่คือโลกบู๊โบราณล่าง มีเพียงคนใหญ่คนโตเท่านั้นที่สามารถดื่มชาบูโดได้ ท่านลองชิมดู”
หยางเฉินไม่สงสัยเลยว่าไป๋หลี่จื้อเหอกล้าที่จะวางยาในชา ดังนั้นเขาจึงหยิบถ้วยชาขึ้นมาและดื่มชาในแก้วในอึกเดียว
“เป็นชาที่ดี!”
หยางเฉินไม่งกในคำชมของเขาเลย
ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้แต่แสร้งทำเป็นรู้ แต่เพราะน้ำชานี้วิเศษจริงๆ เมื่อถูกนำเข้าสู่ช่องท้องชี่ทิพย์ที่เข้มข้นก็ระเบิดออกมาในช่องท้อง หล่อเลี้ยงอวัยวะภายในร่างกาย
ถ้าสามารถดื่มน้ำชาชนิดนี้ได้ทุกวัน แม้แต่คนธรรมดาที่ไม่มีพื้นฐานบูโดแม้แต่น้อย ก็อาจกลายเป็นนักบูโดได้
แม้แต่นักบูโดระดับเขา ถ้าได้ดื่มน้ำชานี้ทุกวัน มันจะมีประโยชน์อย่างมากต่อร่างกายของเขา
ไป๋หลี่จื้อเหอหัวเราะและพูดว่า”ถ้าคุณหยางชอบ ราชวงศ์ไป๋หลี่ของเรายินดีที่จะให้ชาบูโดแก่คุณหยางฟรี”
ราวกับว่าเขาไม่ได้ยินคำพูดของไป๋หลี่จื้อเหอหยางเฉินหยิบกาน้ำชา รินชาบูโดสองถ้วย จากนั้นยื่นหนึ่งแก้วให้จางจี้และพูดว่า”จางจี้ คุณก็ลองชิมชาบูโดนี้ดู”
จางจี้รับถ้วยน้ำชาด้วยมือทั้งสองอย่างรวดเร็ว และดื่มชาบูโดทั้งถ้วยทันที
ในไม่ช้า เขาก็รู้สึกได้ว่าอวัยวะภายในทั้งหมดถูกล้อมรอบด้วยกระแสน้ำอุ่นที่อ่อนโยน และจู่ๆออร่าอันทรงพลังของบูโดก็แผ่ซ่านออกมาจากร่างกายของเขา
จางจี้มีความสุขมาก มองไปที่หยางเฉินอย่างตื่นเต้นและพูดว่า”ผู้อาวุโสสี่ หลังจากที่ผมดื่มชานี้ บูโดของผมได้รับการพัฒนามากขึ้น ถ้าผมไม่ระงับมันไว้ เกรงว่าจะต้องฝ่าฟันลิขิตสวรรค์เดี๋ยวนี้เลย!”
แน่นอนว่าหยางเฉินเองก็รู้สึกเช่นนั้นเช่นกัน และพูดด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย”ด้วยพื้นฐานบูโดของคุณ การทะลวงผ่านแดน ก็ไม่ใช่เรื่องยาก!”
หลังจากพูดจบ เขาก็หยิบขวดพอร์ซเลนสีขาวออกมาโดยตรง ส่งให้จางจี้และพูดว่า “คุณกินยาเม็ดนี้ และคุณจะต้องฝ่าฟันลิขิตสวรรค์ ณ ตอนนี้เลย ผมจะเป็นผู้พิทักษ์ให้คุณ!”
หลังจากได้ยินคำพูดของหยางเฉินแล้ว จางจี้ก็ผงะไปชั่วขณะ
เมื่อกี้เขาสามารถฝ่าฟันลิขิตสวรรค์ได้ แต่ที่นี่เป็นที่ของราชวงศ์ไป๋หลี่ หากต้องการฝ่าฟันลิขิตสวรรค์ในเวลาแบบนี้จริงๆ มันจะนำปัญหาที่ไม่จำเป็นมาให้หยางเฉิน
แต่คิดไม่ถึงว่า หยางเฉินได้ให้ยาเม็ดแก่เขาโดยตรง ให้เขาฝ่าฟันลิขิตสวรรค์เดี๋ยวนี้
สีหน้าของไป๋หลี่จื้อเหอน่าเกลียดมาก เขาคิดไม่ถึงว่า จางจี้แค่ดื่มน้ำชาบูโดไปหนึ่งแก้ว ก็จะบุกทะลุแดน
ดูเหมือนว่า หลังจากม่านพลังถูกทำลาย ทำให้ความเร็วในการฝึกฝนของนักบูโดชั้นนำหลายคนในโลกมนุษย์ได้รับการยกระดับขึ้นอย่างมาก หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่นาน อาจมีผู้แข็งแกร่งแดนนภามากขึ้นเรื่อยๆในโลกมนุษย์
“คุณหยาง นี่ไม่เหมาะสมมั้ง?”
เมื่อเห็นจางจี้กำลังจะทะลุผ่านที่นี่ ไป๋หลี่จื้อเหอมองไปที่หยางเฉิน และพูดด้วยสีหน้ามืดมน
หยางเฉินชำเลืองมองไป๋หลี่จื้อเหออย่างเฉยเมย และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา”ผมว่ามันเหมาะสมมาก!”