The king of War - บทที่ 2124 มาสู่ขอ
The king of War บทที่ 2124 มาสู่ขอ
ได้ยินเสียงฝ่ายตรงข้าม หยางเฉินทำสีหน้าเอือมระอา แต่ก็ยังเก็บอารมณ์พูดออกไปว่า “เซี่ยหลิน เธอโทรฯ.หาฉันมีเรื่องอะไรหรือ?”
คนที่โทรฯ.มาหาเขา ก็คือเซี่ยหลิน คนน้องของพี่น้องสองสาว ที่ได้พบกันบนเครื่องบินตอนที่เขาเดินทางมาจงโจว
เซี่ยหลินในความประทับใจของหยางเฉินนั้นไม่เลวนัก ฉะนั้นตอนที่เซี่ยหลินได้ขอที่ติดต่อกับหยางเฉิน หยางเฉินก็จึงได้ให้ไว้
“คุณอา หมดสนุกเลย!ไม่ทันไรคุณก็ทายถูกแล้ว”
เซี่ยหลินพูดอย่างหมดสนุก และตามติด ๆ พูดต่อไปว่า “คุณอา ที่หนูโทรฯ.มาหานี่ มีเรื่องด้วยจริง ๆ อยากขอให้คุณช่วยอะไรสักนิด แต่ก็อยู่ที่คุณอาเองนะที่จะยอมช่วยเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้ไหม?”
หยางเฉินไม่มีการลังเล ตอบสวนกลับไปว่า “ไม่เอาด้วยหรอก!”
“คุณอา!”
เซี่ยหลินเซ่อไปนิดหนึ่ง ส่งเสียงออกอาการโมโหออกมา
หยางเฉินพูดว่า “เอาละ ฉันยังมีเรื่องต้องทำ ถ้าไม่มีเรื่องอะไรสำคัญ ฉันก็จะไปทำงานของฉันละ”
คืนพรุ่งนี้ต้องออกงานที่เขาต้องแปลงตัวเป็นหมอปรุงยา จะมีอะไรพลาดไม่ได้ หยางเฉินรู้ตัวว่าต้องฝึกฝนซักซ้อมให้ดี เพื่อพรุ่งนี้จะได้ไม่มีอะไรผิดพลาด
“อย่าเพิ่งตัดสายนะ!”
เซี่ยหลินรีบร้องห้ามหยางเฉินไว้ เร่งพูดตามออกไปว่า “คุณอา ไม่โกหกคุณนะ หนูมีเรื่องเร่งด่วนจำเป็นต้องขอให้คุณอาช่วยจริง ๆ หนูกลับมาเที่ยวนี้ หนูถูกบังคับให้แต่งงาน ในช่วงฉุกละหุก หนูเลยบอกพวกเขาไปว่า หนูมีเพื่อนชายแล้ว อีกทั้งบอกพวกเขาไปว่า พี่ซือซือก็เคยเจอด้วย”
“และหนูยังบอกกับพวกเขาว่า คืนนี้จะพาเพื่อนชายมาที่บ้าน แล้วนี่ หนูก็เลยคิดถึงคุณอาขึ้นมาไง ที่บ้านก็ได้จัดเตรียมอาหารค่ำไว้ หนูคิดอะไรไม่ออกเลยจริง ๆ ก็จึงได้ติดต่อคุณมา”
“คุณอาคะ ขอร้องให้คุณอาคิดว่าเรามีวาสนาได้รู้จักกัน ได้โปรดช่วยหนูสักครั้งเถอะ!คุณอาคะ ขอร้องนะคะ!”
หยางเฉินขมวดคิ้วย่นขึ้นมา เขาไม่อยากที่จะไปผูกสัมพันธ์ใด ๆ กับตระกูลบ้านไหน ๆ ในจงโจวจริง ๆ
แต่ทว่า เด็กสาวเซี่ยหลินคนนี้ ให้ความรู้สึกประทับใจกับเขาไม่เลวทีเดียว ก่อนที่จะจากกัน ฝ่ายตรงข้ามยังแสดงเจตนาอย่างดี บอกว่าถ้าอยู่ที่จงโจวแล้วประสบปัญหายุ่งยากอะไร ก็ให้ติดต่อหาหล่อนได้
หยางเฉินเป็นคนที่ชอบมองต่างมุม เขาก็ได้คิด ถ้าหากตัวเองอยู่ที่จงโจวแล้วมีความต้องการความช่วยเหลือ ถ้ามีติดต่อกับเซี่ยหลิน เซี่ยหลินก็ต้องยื่นมือให้ความช่วยเหลือเป็นแน่
เวลานึ้จริงอยู่ที่เขาจำเป็นต้องฝึกฝนเรื่องการปรุงยา แต่ที่ผ่านมาก็ได้ฝึกฝนไปหนึ่งวันเต็ม ๆ แล้ว ความจริงก็เพลียอยู่ ก็น่าจะใช้จังหวะที่เข้าไปช่วยธุระของเซี่ยหลิน ผ่อนคลายตัวเองลงบ้าง
คิดมาได้ถึงนี้ เขาจึงเอ่ยปากพูดไปว่า “บอกพิกัดที่อยู่มา ฉันไปหาเธอเดี๋ยวนี้เลย!”
เห็นหยางเฉินรับปาก เซี่ยหลินอุทานออกมาอย่างตื่นเต้น รีบบอกตำแหน่งของตัวเองให้หยางเฉิน
หลังจากตัดสายโทรศัพท์ เซี่ยหลินจ้องมองยิ้มใส่กับโทรศัพท์ พูดด้วยสีหน้าหยิ่งทะนงว่า “ฉันก็รู้อยู่แล้วว่าคุณอาเป็นคนดีมาก คำพูดของเรา เขาก็ยอมเชื่อเอาจริง ๆ”
หล่อนก็รู้อยู่ว่าคุณตาของหล่อนอยากจะเลี้ยงอาหารหยางเฉิน จึงไม่ปล่อยให้เสียเวลา รีบโทรศัพท์ไปที่กู้ไท่ชู แจ้งบอกข่าวให้กู้ไท่ชูรู้ว่าหยางเฉินกำลังจะมาพบกับหล่อน แล้วจะไปที่บ้านตระกูลกู้เดี๋ยวนี้
พอรู้ข่าวว่าหยางเฉินจะมา กู้ไท่ชูตื่นเต้นแทบแย่ รีบสั่งคนให้จัดเตรียมงานต้อนรับระดับสูงสุดเพื่อต้อนรับหยางเฉิน
“คุณปู่ หยางเฉินเป็นนักท่องเที่ยวธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่มาทัศนาจรจงโจว ไม่เห็นจำเป็นต้องจัดอะไรให้มันใหญ่โตโอฬารขนาดนี้มัง?”
กู้ซือซือมองดูคุณปู่ที่ให้ความสำคัญกับหยางเฉินขนาดนี้ อดไม่ได้ที่ต้องทักท้วงเตือนสติ
กู้ไท่ชูขมวดคิ้ว สายตาที่มองไปที่กู้ซือซือ แววตาแห่งความผิดหวังยิ่งเข้มข้นขึ้น
“ซือซือเอ๋ย ด้วยความสามารถที่จัดว่าดีมาก ขอเพียงเธอขยันไว้ อนาคตก็ได้เป็นผู้มีอิทธิพลหญิงชั้นยอดในจงโจวได้ แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่า เธอจะต้องวางลดทิฐิตัวเองลงด้วย”
กู้ไท่ชูพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ถ้าเธอยังไม่คิดจะปรับตัวเธอเอง ไม่แน่ว่าปู่คงต้องจัดให้เธอหาคู่ครองแต่งออกไปละ”
พูดจบ กู้ไท่ชูมองก็ยังไม่หันไปมองกู้ซือซือ หันตัวกลับเดินออกไป
กู้ซือซือยืนอึ้งอยู่พักหนึ่ง สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น การที่หล่อนมีอายุเข้าวัยหาคู่แล้ว แต่ยังไม่ยอมแต่งออกไป ไม่ใช่เพราะกู้ไท่ชูลืมเรื่องนี้ไป เพียงแต่มีความตั้งใจจะเสริมสร้างหล่อนขึ้นมา
ถ้าไม่เช่นนั้นแล้ว ป่านนี้หล่อนก็ต้องกลายเป็นเครื่องเซ่นสังเวยของตระกูล ถูกจัดให้แต่งออกไปแล้ว
และคำพูดของกู้ไท่ชูเมื่อครู่นี้ ก็บ่งบอกแล้วว่า เขาเริ่มมีความคิดที่จะจัดการให้กู้ซือซือแต่งออกไปแล้ว
ในตระกูลกู้ ไม่ใช่ให้เฉพาะผู้ชายเป็นผู้ดูแลจัดการตระกูลเท่านั้น ผู้หญิงก็เป็นได้
ขอเพียงแต่ให้มีความสามารถ ถึงจะเป็นผู้หญิง ก็ยังคงเป็นคนของตระกูล อีกทั้งยังมีสิทธิ์เลือกคู่ครองเองได้อย่างอิสระ
แต่มาถึงตอนนี้ ด้วยเพราะกู้ซือซือเตือนย้ำแล้วย้ำอีกต่อหน้ากู้ไท่ชูว่าหยางเฉินเป็นคนธรรมดาทั่วไป เลยทำให้กู้ไท่ชูบันดาลโทสะ
มองเงาหลังของกู้ไท่ชูเดินจากออกไป กู้ซือซือให้รู้สึกอ่อนปวกเปียกไปทั้งตัว จนแทบจะทรุดนั่งลงกับพื้น
แต่ไม่นานนัก แววตาของหล่อนก็หนักแน่นขึ้น พูดออกไปด้วยสีหน้าจริงจังว่า “คุณปู่ คราวนี้ คุณปู่มองพลาดไปแน่นอน หยางเฉินเป็นคนธรรมดาทั่วไปเท่านั้นแน่นอน!”
หล่อนเข้าใจแจ้งชัด ถึงตอนนี้ขอเพียงแต่แฉชัดได้ว่าหยางเฉินเป็นคนธรรมดาทั่วไป หล่อนจึงจะเปลี่ยนภาพพจน์ตัวเองในสายตาของคุณปู่ได้
ในขณะเดียวกันนั้น หยางเฉินก็ได้มาถึงจุดที่นัดพบกับเซี่ยหลินแล้ว
เป็นเรื่องบังเอิญที่พอดีคือ จุดนัดพบนั้นเป็นเมืองจิ่วโจวที่อยู่ในเครือของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป หยางเฉินก็เพิ่งมาที่นี่กับเซี่ยเหอเมื่อไม่กี่วันก่อน
“คุณอา ทางนี้!”
หยางเฉินพอมาถึง ก็ได้ยินเสียงเรียกของเซี่ยหลิน
เซี่ยหลินวิ่งเหยาะ ๆ เข้ามาหา ยิ้มแย้มเต็มใบหน้า กอดแขนหยางเฉินอย่างดูสนิทสนม หัวเราะเสียงใสพูดกับหยางเฉินว่า “คุณอา ไม่คิดเลยว่าคุณจะยอมรับปากกับการขออย่างไร้สาระแบบนี้ก็ได้ คุณนี่มีคุณธรรมสูงในใจจริง ๆ!คุณอาแบบนี้ หนูยอมรับเลย!”
หยางเฉินค่อย ๆ ชักมือออกจากอ้อมกอดของเซี่ยหลินอย่างเป็นธรรมชาติ พูดอย่างขอไปทีว่า “ก็เธอเรียกเป็นคุณอาแล้วนี่นา แล้วยังมาให้ฉันสวมรอยเป็นคุณอาของเธอ เธอว่าเหมาะแล้วหรือ?”
“อีกอย่าง เธออายุสักเท่าไหร่เองเชียว?ทางบ้านก็จะบังคับให้แต่งงานแล้วหรือ?”
หยางเฉินพินิจดูเซี่ยหลิน มองดูแล้วก็แค่ยี่สิบบวกลบ จริงหรือจะมีพ่อแม่บังคับเด็กสาววัยอ่อนขนาดนี้ให้แต่งงาน?
“แล้วมีตรงไหนไม่เหมาะสม?ก็หนูชอบคนที่มีอายุมากนี่!”
เซี่ยหลินพูดอย่างภาคภูมิใจ แล้วรีบพูดเสริมขึ้นมาว่า “ที่บ้านของหนูค่อนข้างหัวก้าวหน้า จึงคิดอยากให้หนูรีบแต่งงาน”
ความรู้สึกสงสัยครอบเต็มหน้าหยางเฉิน ในความรู้สึกลึก ๆ ทำไมเหมือนว่ากำลังถูกอำเล่น?
“ไปเถอะ ฉันตามเธอไป!”
หยางเฉินไม่อยากคิดอะไรมากละ คิดแต่จะรีบทำธุระให้เสร็จ ๆ ไป จะได้กลับไปที่พักปรุงยา
เซี่ยหลินเต็มไปด้วยความตื่นเต้น รีบพูดไปว่า “ตกลง หนูจะพาคุณไปพบกับคุณพ่อคุณแม่หนู!”
ในขณะนั้น ที่บ้านตระกูลกู้
รถโรลส์-รอยซ์ซีดานช่วงยาวสีดำ ค่อย ๆ เคลื่อนตัวเข้ามา
และตามหลังรถโรลส์-รอยซ์คันนี้ ก็ยังติดตามมาด้วยโรลส์-รอยซ์ซีดานธรรมดาอีกสามคัน
หลังจากรถจอดสนิท พลังที่แข็งกร้าวหลายกระแสจากนักบูโด ก้าวลงมาจากภายในรถ
ตั้งแต่รถเหล่านี้เข้ามาในบ้านตระกูลกู้ กู้ไท่ชูก็ได้นำคนออกมารอต้อนรับที่หน้าประตูแล้ว
“คุณเฉิน ท่านมาได้ยังไงครับนี่?”
เห็นชายวัยกลางคนที่นำหน้ามา กู้ไท่ชูก็รีบเอ่ยปากทักถามไป
คนอื่น ๆ ในตระกูลกู้ ต่างยืนตัวสั่น เหมือนกำลังเผชิญหน้ากับข้าศึกที่น่ากลัว
เพราะว่า พวกเขาเคยปะทะกับคนพวกนี้มาแล้ว รู้ดีถึงความน่าสะพรึงกลัวของผู้แข็งแกร่งจากโลกบู๊โบราณพวกนี้
ชายกลางคนผู้นั้นหัวเราะร่วนเสียงใส แล้วก็มองไปที่กู้ไท่ชูพูดว่า “ทำไมหรือ?คุณอากู้ไม่ต้อนรับผมหรือ?ผมมาวันนี้ เป็นการนำเอาความจริงใจอย่างสุดซึ้ง มาสู่ขอสาวจากท่านให้กับลูกชายของผม”
พูดจบ โบกมือที่หนาใหญ่ของเขา สั่งกับคนที่อยู่ข้างหลังไปว่า “เอาสินสอดทองหมั้นเข้ามา!”