The king of War - บทที่ 2132 ทำให้เธอยอม
The king of War บทที่ 2132 ทำให้เธอยอม
พอเห็นเซี่ยเหอกำลังจะกระแทกหินฆ่าตัวตาย เหอหยวนหงก็หน้าเปลี่ยนทันที ถ้าเซี่ยเหอตายไปตระกูลเฉินจะยกเลิกการเกี่ยวดองกับตระกูลเหอรึเปล่าก็ไม่รู้?
หลังจากที่เขาตะโกนออกมา นักบูโดรังสีแข็งแกร่งหลายคนของตระกูลเหอก็พุ่งตัวไปหาเซี่ยเหอทันที
สองพ่อลูกเฉินไห่โจวกับเฉินหยางเองก็นึกไม่ถึงว่าตระกูลเหอจะมีหญิงสาวที่ใจเด็ดแบบนี้ เฉินหยางสายตาเป็นประกาย ผู้หญิงแบบนี้ เขาเพิ่งเคยเจอครั้งแรก
เซี่ยเหอในตอนนี้ แววตามีแต่ความสิ้นหวัง การตายของผู้เป็นแม่ ทำให้เธอรู้สึกผิดมาก เธอต้องการไปอยู่เป็นเพื่อนแม่
พอเห็นว่าหัวของเธอกำลังจะกระแทกไปที่ก้อนหิน ชายชราที่ใส่ชุดจีนสีเขียวคนหนึ่ง ได้ปรากฏตัวออกมาอย่างกะทันหันแล้วขวางเซี่ยเหอเอาไว้
“ปล่อยฉันนะ!”
เซี่ยเหอดิ้นสุดชีวิต แต่ผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอ จะหลุดจากการควบคุมของผู้แข็งแกร่งแดนนภาคนหนึ่งได้ยังไง?
เหอหยวนหงที่เห็นอย่างนั้น ทำให้ใจที่ตื่นเต้นก็ได้ผ่อนคลายลง
ในเวลาเดียวกัน ในใจของเขาก็รู้สึกตะลึงมาก นี่นะเหรอความน่ากลัวของผู้แข็งแกร่งตระกูลเฉิน?
คนที่ช่วยเซี่ยเหอเอาไว้ยืนอยู่ด้านหลังเฉินไห่โจวมาโดยตลอด เห็นได้ชัดว่าเป็นผู้พิทักษ์ที่คอยปกป้องเฉินไห่โจว
เมื่อกี้ยังอยู่ไกลขนาดนั้น ผู้พิทักษ์ชุดเขียวกลับสามารถช่วยเซี่ยเหอเอาไว้ได้ มันก็สามารถแสดงถึงความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายได้แล้ว
มองดูเซี่ยเหอที่กำลังดิ้นรน ผู้พิทักษ์ชุดเขียวก็ได้สับมือไปที่ท้ายทอยของเซี่ยเหอ เซี่ยเหอถึงกับตาเหลือกแล้วสลบไป
ผู้พิทักษ์ชุดเขียวกลับมายืนอยู่ข้างหลังของเฉินไห่โจวตามเดิม
ในตอนนี้ เฉินไห่โจวมองไปที่เหอหยวนหงแล้วพูดขึ้นว่า “เห็นที เจ้าบ้านเหอยังไม่พร้อมที่จะเกี่ยวดองกับตระกูลเฉินสินะ!”
พอได้ยินอย่างนั้น เหอหยวนหงก็ถึงกับสะดุ้ง แล้วรีบพูดไปว่า “คุณเฉิน ต้องขออภัยเป็นอย่างสูง1 ช่วยให้เวลาผมหนึ่งวัน ผมรับปากว่าเธอจะยอมเป็นเมียเก็บของคุณชายเฉินด้วยความเต็มใจอย่างแน่นอนครับ”
เฉินไห่โจวไม่ได้ตอบ แต่เลือกที่จะมองไปทาง เฉินหยางที่อยู่ข้างๆ
เฉินหยางพยักหน้าใด้เฉินไห่โจว จากนั้นก็หันไปพูดกับเหอหยวนหงว่า “เมื่อเป็นอย่างนั้น งั้นจะให้เวลาเจ้าบ้านเหออีกวันหนึ่งก็ได้”
เหอหยวนหงแอบโล่งอกขึ้นมาทันที จึงรีบพูดไปว่า “ขอบคุณคุณชายเฉินมากครับ! คุณไม่ต้องเป็นห่วง พรุ่งนี้ เธอต้องไปกับคุณอย่างเต็มใจแน่นอนครับ!”
ไม่นาน คนตระกูลเฉินก็จากไป
คนของตระกูลเหอต่างรู้สึกโล่งอก ความกดดันจากตระกูลเฉินมามากมายเกินไป คนของตระกูลเฉินอยู่ที่นี่ ทำให้พวกเขารู้สึกอึดอัดจนหายใจแทบไม่ออก
เหอหยวนหงสีหน้าเคร่งขรึมอย่างถึงที่สุด กวาดตามองทุกคนที่อยู่ตรงนั้น แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “พามันออกไปจับตาดูให้ดี ห้ามให้เกิดอะไรขึ้นกับมันเด็ดขาด”
มีคนเข้ามาแล้วพาตัวเซี่ยเหอออกไปทันที
ไม่นาน เหอหยวนหงก็เรียกระดับสูงทุกคนของตระกูลเหอมาประชุมกัน
เหอหยวนหงกวาดตามองทุกคนรอบหนึ่ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “พวกคุณก็เห็นแล้วคุณชายเฉินถูกใจในตัวเซี่ยเหอแต่นังสารเลวอย่างลู่เหวินจิ้นก็ตายแล้ว ตอนนี้หัวใจของได้ตายไปแล้ว ลองว่ามาซิ มีวิธีอะไร ที่สามารถทำให้มันยอมเป็นเมียเก็บของคุณชายเฉินอย่างเต็มใจ?”
หลายคนหันมาสบตากัน ในสถานการณ์แบบนี้เซี่ยเหอไม่มีทางยอมแน่นอน!
และในตอนนั้น ได้มีระดับสูงของตระกูลเหอคนหนึ่งยืนขึ้น แล้วพูดด้วยสีหน้าที่จริงจังว่า “เจ้าบ้านถ้าอยากให้เซี่ยเหอยอมคงเป็นเรื่องที่ยากมาก! เมื่อก่อนยังมีลู่เหวินจิ้น เรายังสามารถควบคุมเธอได้ ตอนนี้ลู่เหวินจิ้นได้ตายไปแล้ว การที่จะควบคุมเธอนั้นไม่มีทางเป็นไปได้เลย!”
เหอหยวนหงขมวดคิ้ว แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “ผมไม่ได้มาฟังคำวิเคราะห์ของพวคุณแต่ให้พวกคุณช่วยคิดหาวิธีว่าจะทำยังไงให้เซี่ยเหอยอมรับปากที่จะเป็นเมียเก็บของ คุณชายเฉิน”
พอได้ฟังอย่างนั้น ทุกคนต่างตกอยู่ในความเงียบ
พวกเขาต่างรู้ดี แม่ของเซี่ยเหอเพิ่งตาย ในสถานการณ์แบบนี้ จะให้เธอไปเป็นเมียเก็บของเฉินหยางนั้น เซี่ยเหอไม่มีทางยอมแน่นอน
ต้องรู้ก่อนว่า แม้แต่ความตายเธอยังไม่กลัวด้วยซ้ำ
จู่ๆ เหอหยวนหงก็หันมองไปที่พวกลูกชายของเขา แล้วพูดไปว่า “พวกแกทุกคน ถ้าใครมีทางทำให้มันยอมเป็นเมียเก็บของเฉินหยาง ฉันจะให้คนนั้นเป็นผู้สอบทอดของตระกูลเหอ!”
พอคำพูดนี้ถูกพูดออกไป ทุกคนต่างตกอยู่ในความตะลึงทันที!
โดยเฉพาะเหล่าทายาทของเหอหยวนหงต่างทำหน้ามีคาดหวังขึ้นมาทันที
เหอหยวนหงอายุมากแล้ว ถึงเวลาที่ควรเกษียณนานแล้ว แต่เขากลับยังไม่มีผู้สืบทอดที่เป็นตัวเป็นตนสักที
เพียงแต่ การจะคิดหาวิธีให้เซี่ยเหอยอมไปเป็นเมียเก็บของเฉินหยางนั้น มันง่ายซะที่ไหน?
ทันใดนั้น เหอจื้อลูกชายคนโตของเหอหยวนหงก็ได้ลุกขึ้น แล้วพูดไปว่า “พ่อครับ ผมมีอยู่วิธีหนึ่งบางทีมันอาจได้ผลก็ได้ครับ!”
เหอหยวนหงตอบกลับ “ว่ามา!”
เหอจื้อพูดไปว่า “การที่ลู่เหวินจิ้นคิดฆ่าตัวตายนั้น ก็เพื่อไม่อยากเป็นตัวถ่วงให้เราไปบังคับเซี่ยเหอ แม้แต่เซี่ยเหอยังคิดฆ่าตัวตาย มันก็สามารถยืนยันจุดยืนของเธอได้อย่างชัดเจนแล้ว”
“ส่วนพวกเราก็มีเวลาเพียงแค่วันเดียว ในเวลาสั้นๆ เพียงหนึ่งวัน ถ้าเราคิดจะทำให้เซี่ยเหอยอมเป็นผู้หญิงของเฉินหยางนั้น เธอไม่มีทางยอมแน่นอน”
พูดถึงตรงนี้ จู่ๆ เขาก็หยุดพูด
ทุกคนต่างขมวดคิ้ว
“พี่ใหญ่ นี่ไม่เท่ากับพี่กำลังพูดไร้สาระอยู่เหรอ? ทั้งๆ ที่พี่เองก็รู้ว่าถึงตายเซี่ยเหอก็ไม่ยอม แล้วจะทำให้เธอยอมเป็นเมียเก็บของเฉินหยางได้ยังไง?”
ลูกชายคนที่สามของเหอหยวนหงเหออวี่พูดจาเหน็บแนม
ทุกคนต่างขมวดคิ้ว
เหอหยวนหงขมวดคิ้วอย่างหนัก แล้วพูดอย่างไม่ชอบใจว่า “พูดแผนของแกมา!”
สายตาของเหอจื้อเป็นประกาย หรี่ตาแล้วพูดไปว่า “ถ้าเซี่ยเหอสูญเสียความทรงจำไปล่ะครับ?”
“หืม?”
เหอหยวนหงสายตาเป็นประกาย
เขาเข้าใจความหมายของเหอจื้อ ตอนนี้ถ้าคิดจะทำให้เซี่ยเหอไปเป็นเมียเก็บของเฉินหยางอย่างเต็มใจนั้นไม่มีทาง
ถ้าตอนนี้เซี่ยเหอสูญเสียความทรงจำไป ก็จะจำเรื่องการตายของลู่เหวินจิ้นไม่ได้ เหมือนกระดาษขาวแผ่นหนึ่ง แล้วให้รับปากว่าจะเป็นเมียเก็บของเฉินหยาง มันก็จะง่ายขึ้นเยอะเลยไม่ใช่รึไง?
เหอหยวนหงเงียบไปพักหนึ่ง แล้วพูดออกมาว่า “นี่เป็นวิธีที่ดีอย่างหนึ่ง แต่ถ้าเซี่ยเหอสูญเสียความทรงจำไปแล้ว คุณชายเฉินยังจะรับเธอเป็นเมียเก็บอีกมั้ย?”
เหอจื้อได้ยิ้มออกมา “พ่อครับ การที่ตระกูลเฉินมาคุยเรื่องเกี่ยวดองกับเรา มันก็เป็นแค่การบังหน้าเท่านั้น เป้าหมายจริงๆ ของพวกเขา คือการหาเหตุผลสักข้อเพื่อแทรกตัวเข้ามาในจงโจวต่างหาก”
“การหาเมียเก็บ ก็แค่ข้ออ้างของพวกเขาเท่านั้น การที่คุณชายเฉินเลือกเซี่ยเหอ ก็แค่ความสวยของเซี่ยเหอเท่านั้น ส่วนเรื่องที่เซี่ยเหอจะมีความทรงจำหลงเหลือหรือไม่ มันไม่สำคัญหรอกครับ”
สีหน้าที่กังวลของเหอหยวนหงปรากฏแล้วหายไป จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฮ่าฮ่า! เยี่ยม! แกพูดถูก สิ่งที่รำกูลเฉินต้องการไม่ใช่การเกี่ยวดองที่แท้จริง แต่เป็นการเข้ามาในจงโจวผ่านตระกูลเหอต่างหาก”
“ส่วนตระกูลเหอของเราก็ต้องการการสนับสนุนจากตระกูลเฉิน เมื่อมีตระกูลเฉินคอยช่วย ตระกูลเหอแห่งชงโจวก็จะกลายเป็นตระกูลเหอแห่งจิ่วโจว!”
ทันใดนั้นเอง ได้มีน้ำเสียงที่สวนกระแสดังขึ้น “ถ้าตระกูลเหอเกี่ยวดองกับตระกูลเฉินจริง ตระกูลเหอก็จะกลายเป็นข้ารับใช้ของตระกูลเฉินไม่ใช่รึไง?”
“อีกอย่าง สมาคมผู้อาวุโสของจิ่วโจวก็เพิ่งออกกฎใหม่ที่มุ่งเป้าไปที่โลกบู๊โบราณล่างออกมาด้วย ในเวลาแบบนี้ ถ้าเราไปเกี่ยวดองกับตระกูลเฉิน สมาคมผู้อาวุโสจะยอมปล่อยเราไปเหรอครับ?”
ทันใดนั้น สายตาทุกคู่ต่างมองไปยังคนที่เพิ่งพูดออกมา
เหอสง ลูกชายคนรองของเหอหยวนหง
เหอจื้อขมวดคิ้ว หันมองเหอสงด้วยสีหน้าที่ไม่ชอบใจ แล้วพูดเสียงเย็นชาว่า “น้องรอง คำพูดของแก มันไม่ดูเวอร์ไปหน่อยเหรอ?”
“ตระกูลเฉินอยากใช้ความช่วยเหลือจากตระกูลเหอเพื่อแทรกแซงเข้ามาในจงโจว แล้วทำไมตระกูลเหอจะไม่ต้องการบารมีของตระกูลเฉินทำให้พัฒนาไปอีกขั้นล่ะ?”
“ส่วนเรื่องที่แกบอกว่าตระกูลเหอจะกลายเป็นข้ารับใช้ของตระกูลเฉินนั้น ช่างเป็นเรื่องที่เหลวไหลสิ้นดี! พวกเรากับตระกูลเฉินก็แค่ใช้ประโยชน์จากอีกฝ่ายเท่านั้น!”
“อีกอย่าง ที่แกบอกว่าสมาคมผู้อาวุโสจะไม่พอใจ มันยิ่งเป็นเรื่องที่ไร้สาระเข้าไปใหญ่ สมาคมผู้อาวุโสเคยบอกรึไงว่าห้ามกองกำลังของโลกมนุษย์ไปเกี่ยวดองกับกองกำลังของโลกบู๊โบราณ?”
“การที่ตอนนี้ม่านพลังแตกสลาย โลกมนุษย์กับโลกบู๊โบราณก็ได้หลอมรวมกันอย่างสมบูรณ์แล้ว ถ้าตอนนี้เราไม่สามารถเกาะขาของหนึ่งในตระกูลบู๊โบราณระดับสูงได้ ต่อไปถ้าคิดจะไปเกาะขาอีก คงไม่มีสิทธิ์อีกแล้ว”