The king of War - บทที่ 2135 เชือดไก่ให้ลิงดู
The king of War บทที่ 2135 เชือดไก่ให้ลิงดู
หลังจากที่คำพูดของหวยหลันสิ้นสุดลง ได้มีรังสีอันน่าสะพรึงกลัวระเบิดออกจากร่างของหยางเฉิน
หยางเฉินพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นราวกับหิมะว่า “ตระกูลเหอ ช่างกล้าซะจริงนะ!”
ไม่ว่าจะด้านความรู้สึกหรือด้านเหตุผล เขาก็ไม่มีทางปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเด็ดขาด
เซี่ยเหอเป็นเพื่อนของเขา เขาควรให้ความช่วยเหลือเซี่ยเหอ
นอกจากนั้น เขายังเป็นผู้อาวุโสที่สี่แห่งสมาคมผู้อาวุโสจิ่วโจว เขาเป็นตัวแทนของสมาคมผู้อาวุโสมาประกาศกฎใหม่ที่จงโจวเห็นได้ชัดว่ามุ่งเป้าไปที่โลกบู๊โบราณล่าง
ในสถานการณ์แบบนี้ เหอหยวนหงยังการบังคับเซี่ยเหอให้แต่งไปที่โลกบู๊โบราณล่างอีก แบบนี้มันไม่ได้เห็นหัวสมาคมผู้อาวุโสเลยสักนิด จู่ๆ หยางเฉินก็ถามออกมาว่า “เซี่ยเหอน่าจะถูกบังคับใช่มั้ย?”
หวยหลันมองดูหยางเฉินอย่างเป็นกังวล แล้วพยักหน้าเบาๆ จากนั้นก็พูดต่อว่า “เซี่ยเหอไม่ได้เต็มใจ แต่เหอหยวนหงกลับใช้ลู่เหวินจิ้นแม่ของเธอมาข่มขู่ ส่วนลู่เหวินจิ้นที่ไม่อยากถูกตระกูลเหอใช้เป็นตัวเบี้ย จึงได้เอาหัวไปกระแทกหินฆ่าตัวตาย……”
หยางเฉินเดือดดาลอย่างสมบูรณ์แล้ว “ว่ายังไงนะ?”
เขาเคยเจอลู่เหวินจิ้น แถมเขายังเป็นคนยื่นมือเข้าไปช่วยตามหาไตให้กับลู่เหวินจิ้น ลู่เหวินจิ้นมีชีวิตรอดมาได้
ลู่เหวินจิ้นเป็นผู้หญิงที่ดีและอ่อนโยนมาก เธอเป็นญาติเพียงคนเดียวของเซี่ยเหอในโลกนี้ นึกไม่ถึงว่าเธอจะถูกบีบจนต้องฆ่าตัวตาย
มองดูหยางเฉินที่ดวงตาแดงก่ำ หวยหลันก็ทนไม่ไหวจนสะดุ้งไปหนึ่งที แล้วเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตระกูลเหอไปตามความจริง
หลังจากที่เล่าจบ หยางเฉินกลับไม่ได้อาละวาดออกมา เห็นเพียงเขาหลับตาทั้งสองข้าง แต่ก็ได้มีรังสีอันเกรี้ยวกราดเอ่อล้นออกมาจากตัวเขาอย่างเงียบๆ เป็นการแสดงถึงความโกรธที่อยู่ในใจเขา
หลังผ่านไปห้านาทีเต็ม หยางเฉินถึงลืมตาขึ้น ลุกเดินไปที่หน้าต่าง สองตาจ้องมองไปยังทิวทัศน์ที่อยู่ด้านนอก แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “ถ้าผมเดาไม่ผิด นอกจากตระกูลเหอแล้ว ยังมีตระกูลระดับสูงของโลกมนุษย์มากมายที่ต้องการเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลบู๊โบราณใช่มั้ย?”
หวยหลันพยักหน้า “ไม่ใช่แค่จงโจว ตระกูลอื่นๆ ในรัฐต่างๆ ก็พากันไปเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลบู๊โบราณ เพื่อให้ได้มาซึ่งการสนับสนุนของตระกูลบู๊โบราณ มีบางตระกูลถึงขั้นยอมก้มหัวแล้วยกทุกอย่างของตระกูลให้ตระกูลบู๊โบราณเอง”
“มีคนมากมายต่างคิดว่า หลังจากที่ม่านพลังสลายไปแล้ว ตระกูลบู๊โบราณจะกลายเป็นกองกำลังชั้นแนวหน้าของแต่ละพื้นที่ของจิ่วโจวอย่างรวดเร็ว คนพวกนี้จึงคิดหาทางเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลบู๊โบราณ”
“มีบางตระกูลที่ส่งสาวสวยในตระกูลไปให้ตระกูลบู๊โบราณ บ้างก็มอบกิจการให้ตระกูลบู๊โบราณ พูดได้เลยว่า ตระกูลบู๊โบราณไม่จำเป็นต้องตามหา ก็จะมีตระกูลชั้นแนวหน้าขอโลกมนุษย์มากมายมาหาถึงที่แล้ว”
“ถ้าไม่สามารถควบคุมกระแสสังคมแบบนี้ให้ได้โดยเร็ว เกรงว่าอีกไม่นาน ตระกูลบู๊โบราณคงกลายเป็นกองกำลังชั้นแนวหน้าของแต่ละพื้นที่แน่นอน”
หยางเฉินรู้ดีว่าสถานการณ์มันเลวร้ายมาก แต่ก็นึกไม่ถึงว่า มันจะแย่เลวร้ายขนาดนี้
ตอนแรกเขาคิดว่า หลังจากที่สมาคมผู้อาวุโสออกหน้าตั้งกฎใหม่แล้ว จะทำให้ตระกูลชั้นแนวหน้าของโลกมนุษย์พอเข้าใจเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้บ้าง ตอนนี้ดูแล้ว มันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย
เขาต้องการใช้กฎใหม่มาควบคุมการพัฒนาของตระกูลบู๊โบราณในโลกมนุษย์ พร้อมกับควบคุมไม่ให้นักบูโดลงมือทำร้ายคนทั่วไปอย่างตามใจชอบ แต่กลับมองข้ามเหล่าตระกูลเศรษฐีในโลกมนุษย์ไป
“พี่หยางคะ จากทุกสิ่งที่เกิดขึ้นสามารถดูออกว่า คนในโลกมนุษย์ไม่ได้มีความมั่นใจในสมาคมผู้อาวุโสเลย พวกเขาต่างรู้สึกว่า ตระกูลบู๊โบราณจะกลายเป็นผู้ควบคุมของโลกใบใหม่อย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงอยากใช้โอกาสนี้ผูกมิตรกับตระกูลบู๊โบราณให้ได้”
“ส่วนนักบูโดของโลกมนุษย์ต่างพร้อมอ้าแขนรับ แถมยังถึงขั้นเอาทรัพยากรชั้นต่ำที่มีเฉพาะในโลกบู๊โบราณล่าง มาแลกสิ่งที่พวกเขาต้องการกับเหล่าตระกูลเศรษฐีของโลกมนุษย์”
“ต่อให้ทรัพยากรที่ตระกูลบู๊โบราณเอาออกมาจะคุณภาพต่ำแค่ไหน แต่ในสายตาของตระกูลเศรษฐีในโลกมนุษย์ มันก็คอของล้ำค่า ยกตัวอย่างเช่น หินอาถรรพ์ระดับต่ำของโลกบู๊โบราณล่าง ตอนนี้ในโลกมนุษย์ ราคาของหินอาถรรพ์ระดับต่ำหนึ่งชิ้นได้พุ่งสูงถึงหนึ่งพันเหรียญแล้ว”
“นอกจากนั้น ยังมีพวกยาเกรดต่ำกับของอาถรรพ์ระดับต่ำ ของเหล่านี้ตอนอยู่ในโลกบู๊โบราณล่างก็ไม่ได้ถือว่ามีค่าอะไร แต่ในโลกมนุษย์ราคากลับถูกปั่นจนสูงลิ่ว”
หวยหลันค่อยๆ พูดออกมา รายงานข้อมูลที่เธอหาได้ให้กับหยางเฉิน
หยางเฉินถามไปว่า “ยาระดับต่ำ ตอนนี้ราคาถูกปั่นไปถึงเท่าไหร่แล้ว?”
หวยหลันตอบว่า “ยาระดับหนึ่งหนึ่งเม็ด ถูกปั่นไปถึงประมาณร้อยล้าน ส่วนยาระดับสองหนึ่งเม็ด ราคากลับสูงถึงพันล้าน ยาที่คุณภาพสูงมากๆ ราคาก็พุ่งไปถึงหมื่นล้านแล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะหากันได้ง่ายๆ”
รูม่านตาของหยางเฉินหดเล็กลงทันที เขารู้ดีว่าต่อให้อยู่ในโลกบู๊โบราณ นักปรุงยาก็ยังน้อยมาก และรู้ดีว่าราคาของยานั้นไม่ธรรมดา แต่ก็ไม่คาดคิดว่า ในโลกมนุษย์ราคาของยาจะถูกปั่นจนสูงขนาดนี้
วันสองวันนี้ เขาเพิ่งฝึกปรุงยาเป็น และยาที่ใช้ในการปรุงยาระดับหนึ่งหนึ่งเม็ด ต้นทุนมันก็อยู่แค่หลักสิบเท่านั้น ส่วนต้นทุนของยาระดับสองหนึ่งเม็ด ก็ใช้แค่ไม่กี่ร้อย
แต่ว่า ราคาของยาระดับหนึ่งได้ถูกปั่นไปถึงร้อยล้านแล้ว
“ดูท่า ยังไงทรัพยากรในการฝึกวิชาของโลกมนุษย์มันขาดแคลนมากจริงๆ จึงทำให้โลกบู๊โบราณเอาทรัพยากรที่คุณภาพต่ำที่สุดออกมา ราคายังถูกปั่นจนสูงเกินเอื้อม”
หยางเฉินถอนหายใจแล้วพูดออกมาว่า “โดยเฉพาะพวกตระกูลเศรษฐีชั้นแนวหน้าของโลกมนุษย์ อย่างอื่นพวกเขาไม่มี แต่เงินนี่มีมากมายมหาศาล จึงต้องกว้านซื้อทรัพยากรในการฝึกวิชากับโลกบู๊โบราณล่างเป็นจำนวนมากแน่”
พูดถึงตรงนี้ จู่ๆ เขาก็หันไปถามหวยหลันว่า “คุณคิดว่า ถ้าผมเอายาที่ปรุงออกมาไปขายในราคาที่ต่ำกว่าโลกบู๊โบราณล่างมากๆ มันจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
หวยหลันตาเป็นประกายขึ้นมาทันที แล้วพูดไปว่า “พี่หยางคะ ถ้าคุณสามารถปรุงยาออกมาเป็นจำนวนมาก แถมราคายังต่ำกว่าโลกบู๊โบราณล่าง ตระกูลเศรษฐีของโลกมนุษย์ที่เดิมทีต้องการไปแลกยากับโลกบู๊โบราณ ต้องคิดแล้วว่ายังจะติดต่อสื่อสารกับตระกูลบู๊โบราณต่อไปอีกมั้ย”
“เนื่องจากการที่พวกเขาติดต่อกับตระกูลบู๊โบราณ หลักๆก็เพื่อต้องการทรัพยากรในการฝึกวิชาจากโลกบู๊โบราณล่าง ส่วนราคาทรัพยากรของโลกบู๊โบราณล่างก็แพงหูฉี่ ต่อให้พวกเขาจะเป็นตระกูลเศรษฐีของโลกมนุษย์ ความกดดันก็ยังสูงมากอยู่ดี”
“พวกเขาไม่ได้โง่ พวกเขายิ่งมีความสัมพันธ์กับตระกูลบู๊โบราณลึกซึ้งเท่าไหร่ ตระกูลของพวกเขาก็จะถูกตระกูลบู๊โบราณควบคุมมากขึ้นเท่านั้น”
หยางเฉินพยักหน้า หรี่ตาแล้วพูดไปว่า “เมื่อเป็นอย่างนั้น งั้นก็ใช้งานเลี้ยงในคืนพรุ่งนี้ มาทำให้ตระกูลบู๊โบราณกับตระกูลเศรษฐีในท้องที่ ‘เซอร์ไพรส์’ กัน”
พูดจบ เขาก็ได้หันไปพูดกับหวยหลันต่อ “คุณส่งคนไปจับตาดูตระกูลเหอไว้ ภารกิจคือปกป้องความปลอดภัยของเซี่ยเหอ!”
หวยหลันรีบพยักหน้าทันที “ค่ะ!”
หยางเฉินลังเลไปครู่หนึ่งแล้วพูดไปว่า “ยังไงก็ให้ผู้อาวุโสจั่วโย่วฝีมือของทั้งสองไปดีกว่า!” ซ่งจั่วกับซ่งโย่วแข็งแกร่งมาก ถ้าทั้งสองร่วมมือกัน ฝีมือจะแข็งแกร่งขึ้นไปอีก
หยางเฉินกลัวเซี่ยเหอจะทำอะไรโง่ๆ
พรุ่งนี้ก็จะเปิดตัวในนามของนักปรุงยาแล้ว ตอนแรกเขาแค่ต้องการใช้โอกาสนี้รับสมัครผู้แข็งแกร่ง ตอนนี้ดูแล้ว ยังสามารถใช้โอกาสนี้ สั่งสอนพวกตระกูลเศรษฐีในท้องที่ที่คิดจะไปสานสัมพันธ์กับตระกูลบู๊โบราณด้วย
ส่วนตระกูลเหอนั้น สายตาของหยางเฉินได้ปรากฏลำแสงเยือกเย็นออกมา หรี่ตาแล้วพูดไปว่า “หวังว่าตระกูลเหอทำอะไรจะมีขอบเขตบ้าง ไม่อย่างนั้น ผมก็ไม่ขัดข้องที่จะใช้ตระกูลเหอมาเชือดไก่ให้ลิงดู!”