The king of War - บทที่ 2138 ผมจะเข้าร่วมด้วย
The king of War บทที่ 2138 ผมจะเข้าร่วมด้วย
ชั่วขณะหนึ่ง สายตามากมายต่างมองไปที่เหอจื้อ แต่ก็มีส่วนหนึ่งหันมองเหอสง
ผู้สืบทอดของตระกูล มีเพียงหนึ่งในสองคนนี้เท่านั้น
“ผมขอประกาศว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะแต่งตั้งเหอสงให้ขึ้นเป็นผู้สืบทอดของตระกูลเหอ แล้วเลือกวันแต่งตั้งอย่างเป็นทางการอีกที!”
ในตอนที่ทุกคนกำลังรอคอยอยู่นั้น เหอหยวนหงก็ได้พูดออกมา
พอคำพูดนี้ถูกพูดออกมา ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างพากันตะลึง!
รอยยิ้มบนใบหน้าของเหอจื้อแข็งแกร่งขึ้นมาทันที แม้แต่เหอสงก็ยังตกใจ
บอกได้เลยว่า นอกจากเหอหยวนหงกับเซี่ยเหอแล้ว คนอื่นที่เหลือต่างตกใจกับเรื่องที่เหอหยวนหงตั้งเหอสงเป็นผู้สืบทอดมาก
เหอหยวนหงเลี้ยงดูเหอจื้อเหมือนผู้สืบทอดมาโดยตลอด โดยเฉพาะหลายปีมานี้ กิจการส่วนใหญ่ของตระกูลเหอ ต่างค่อยๆ ถูกโอนมาให้เหอจื้อจัดการแล้ว
มีคนไม่กี่คนที่สนับสนุนเหอสง แต่ก็ยังมีบางคนที่แอบให้การสนับสนุนอย่างลับๆ ด้วย
หลังอึ้งไปชั่วขณะ เหอจื้อก็ลุกพรวดขึ้นมา แล้วถามเหอหยวนหงด้วยดวงตาที่แดงก่ำว่า “พ่อครับมันเป็นเพราะอะไรครับ?”
เหอหยวนหงเลิกคิ้วขึ้น หันมองเหอจื้ออย่างไม่ชอบใจ “แกเป็นลูกชายของฉัน เหอสงก็เป็นลูกชายของฉัน การที่ฉันจะตั้งให้เขาเป็นผู้สืบทอด แล้วมันไปมีปํญหาตรงไหน?”
เหอจื้อกำสองมือแน่น กัดฟันแล้วพูดไปว่า “หลายปีที่ผ่านมา ผมทำคุณประโยชน์ให้ตระกูลเหอตั้งมากมายเท่าไหร่? อย่างเหอสงจะมาเทียบได้มั้ย?”
“เหอสงมันมีดีอะไรมาเทียบกับผม?”
สายตาของเหอหยวนหงเคร่งขรึมยิ่งกว่าเดิม เดิมก็ถูกเซี่ยเหอบีบคั้นจนต้องตัดสินใจแบบนี้อย่างไม่มีทางเลือก ตอนนี้เหอจื้อยังกล้ามาสงสัยในการตัดสินใจของเขาอีก นั่นจึงทำให้เหอหยวนหงที่โมโหอยู่แล้ว ยิ่งโมโหขึ้นไปอีก
“ถ้าไม่ใช่เพราะฉันให้อำนาจและทรัพยากรที่มากกว่าเหอสง แกคิดว่า แกจะสามารถสร้างผลงานเหล่านั้นให้ตระกูลเหอได้มั้ย?ตอนนี้ แกกำลังสงสัยใจการตัดสินใจของฉันอย่างนั้นรึ?”
น้ำเสียงของเหอหยวนหงเคร่งขรึมอย่างถึงที่สุด
เหอจื้อถึงกับสะดุ้ง และเขาก็เพิ่งรู้ตัวว่า เขาได้ทำให้เหอหยวนหงโกรธแล้ว
เหอจื้อก้มหน้า แล้วพูดด้วยดวงตาที่แดงก่ำว่า “พ่อครับ ผมผิดไปแล้ว!”
เหอหยวนหงแค่มองเขาด้วยสายตาที่ไม่ชอบใจจากนั้นก็มองไปที่เหอสง แล้วพูดไปว่า “ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป แกคือผู้สืบทอดของตระกูลเหอ พรุ่งนี้ ก็ไปรับตำแหน่งประธานหงเย่กรุ๊ปแทนพี่ของแก เดี๋ยวจะหาวันแต่งตั้งผู้สืบทอดให้แกอย่างเป็นทางการอีกที”
ตอนนี้เหอสงก็ตั้งสติได้แล้ว จึงรีบตอบกลับไปว่า “ครับพ่อ!”
เหอจื้อถึงกับหน้าซีด หงเย่กรุ๊ปเป็นกิจการที่ใหญ่ที่สุดของตระกูลเหอ และเป็นกิจการเดียวที่ติดท็อปร้อยของโลก
เมื่อก่อนก็เขานี่แหละที่เป็นประธานของหงเย่กรุ๊ป บอกได้เลยว่า ด้วยตำแหน่งนี้ มันทำให้เขาสะสมเส้นสายไว้ได้มากมาย
และด้วยเหตุนี้ เขาถึงสามารถชิงความได้เปรียบอย่างมหาศาลจากการแข่งขันกับเหอสง
แต่ในตอนนี้ เหอหยวนหงไม่เพียงตั้งเหอสงเป็นผู้สืบทอด ยังให้เหอสงขึ้นรับตำแหน่งประธานของหงเย่กรุ๊ปอีก มันจึงคาดการณ์ได้ว่า วันเวลาหลังจากนี้ เส้นสายและทรัพยากรของเหอสงต้องเพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอน
กลับกัน ด้วยความที่เขาพ่ายแพ้ในการเลือกผู้สืบทอด ผู้คนที่เคยเข้าหาเขา ก็จะค่อยๆ หายไปแล้วไปเข้าหาเหอสงแทน
เหอหยวนหงพูดขึ้นว่า “เอาล่ะ ที่ผมจะพูดก็พูดไปหมดแล้ว ยังมีใครอยากพูดอะไรอีกมั้ย?”
ทุกคนต่างส่ายหน้า บ่งบอกว่าไม่มีปัญหาอะไร
และทันใดนั้นเอง เซี่ยเหอที่ไม่มีใครสนใจก็ได้พูดออกมาอย่างกะทันหันว่า “คุณปู่คะ เมื่อกี้ที่ปู่บอกว่าจะเลือกวันที่แต่งตั้งลุงรองเป็นผู้สืบทอดนั้น ฉันคิดว่า ยิ่งเร็วยิ่งดีนะคะ!”
พอคำพูดนี้ถูกพูดออกมา สายตาทุกคู่ต่างมองไปที่เซี่ยเหอ
ทุกคนต่างตะลึงในความกล้าของเซี่ยเหอ
หลังจากที่เหอสงแอบตกใจเล็กน้อย เขาก็รีบพูดไปว่า “เซี่ยเหอ อย่าพูดจาเสียมารยาทนะ!”
เขาสามารถรับรู้ถึงความโกรธของเหอหยวนหงในตอนนี้ แม้แต่เหอจื้อยังถูกตำหนิ เขากลัวเซี่ยเหอจะถูกลงโทษจับใจ
เหอหยวนหงเลิกคิ้วขึ้น แล้วถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่ชอบใจว่า “แล้วแกคิดว่า ควรจัดขึ้นตอนไหนล่ะ?”
เซี่ยเหอตอบไปตรงๆ ว่า “พรุ่งนี้เช้า เก้าโมงตรง!”
“เซี่ยเหอ นี่เธอบ้าไปแล้วรึไง? พิธีแต่งตั้งผู้สืบทอดของตระกูลเหอ เธอมีสิทธิ์มาเป็นคนกำหนดตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“ถูกต้องเธอที่เป็นแค่ลูกน้องสมรสของตระกูลเหอ มีสิทธิ์อะไรห๊ะ?”
……
หลายคนต่างตำหนิเซี่ยเหอ
เหอสงก็เริ่มร้อนใจขึ้นมาแล้ว
ตอนที่เขากำลังจะพูด ก็ได้ยินเหอหยวนหงสั่งพ่อบ้านว่า “ไปพิมพ์บัตรเชิญตอนนี้ แล้วส่งไปส่งให้พวกตระกูลใหญ่ภายในคืนนี้เตรียมตัวร่วมงานแต่งตั้งผู้สืบทอดตะกูลเหอในวันพรุ่งนี้”
พ่อบ้านรีบตอบรับ “ครับ เจ้าบ้าน!” เหอหยวนหงหันมองเซี่ยเหอด้วยสายตาที่ไม่ชอบใจ จากนั้นก็พูดออกมาว่า “เลิกประชุม!”
พูดจบ เขาก็เดินออกจากห้องประชุมเป็นคนแรก
ทุกคนยังตั้งสติจากความตะลึงไม่ได้
“ลุงรอง ยินดีด้วยนะคะ!”
เซี่ยเหอแสดงความยินดีกับเหอสง จากนั้นก็เดินจากไป
เหอสงมองไปยังทางที่เซี่ยเหอจากไป และอดไม่ได้ที่จะตกอยู่ในความครุ่นคิด
เขารู้ดีว่า เหอหยวนหงไม่มีทางให้เขาเป็นผู้สืบทอดแน่ ถ้าอยากให้เขาเป็นผู้สืบทอดจริง หลายปีมานี้ ก็ไม่มีทางลำเอียงไปทางเหอจื้ออย่างชัดเจนแบบนี้แน่นอน
การที่อยู่ดีๆ วันนี้ มาประกาศว่าให้เขาเป็นผู้สืบทอด ต้องมีสาเหตุอย่างแน่นอน
อีกอย่าง เมื่อกี้เหอหยวนหงทำตามคำพูดของเซี่ยเหอจริงๆ จัดพิธีแต่งตั้งผู้สืบทอดขึ้นเก้าโมงเช้าของวันพรุ่งนี้ เรื่องนี้มันช่างน่าตกใจเหลือเกิน
หรือว่า มันจะเป็นเพราะเซี่ยเหอ?
“เหอสงยินดีด้วย ฮ่าฮ่า ต่อไปก็ช่วยดูแลกันด้วยนะ!”
“ลุงรอง ยินดีด้วย! ต่อไปถามมีอะไรให้ผมช่วยก็บอกมาได้เลย!”
“คุณเหอ ยินดีด้วยครับ!”
……
ชั่วขณะหนึ่ง คนของตระกูลเหอต่างเข้าไปแสดงความยินดี เหอสงก็ขอบคุณกลับ จากนั้นก็ออกจากห้องประชุมไป
ไม่นาน ในห้องประชุมก็เหลือแค่พวกเหอจื้อเท่านั้น
“ปั้ง!”
เหอจื้อทุบโต๊ะประชุมอย่างแรง แล้วพูดด้วยสีหน้าที่โกรธเกรี้ยวว่า “มีสิทธิ์อะไร? มีสิทธิ์อะไรห๊ะ? ฉันต่างหากลูกชายคนโตของตระกูลเหอ คนที่มีสิทธิ์ขึ้นเป็นผู้สืบทอดที่สุด!”
ข้างๆ ของเขา ต่างพากันนั่งเงียบ ไม่มีใครกล้าพูดอะไร
จู่ๆ เขาก็นึกถึงอะไรขึ้นมาได้ แล้วหันมองไปที่ฉินหวยอย่างกะทันหัน กัดฟันแล้วถามไปว่า “นี่มันเกินอะไรขึ้น? ทำไมเซี่ยเหอถึงยังไม่สูญเสียความทรงจำ?”
ฉินหวยขมวดคิ้ว แล้วพูดอย่างไม่เข้าใจว่า “มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้สิ! ผมยัดยาที่ทำให้ความจำเสื่อมเข้าปากเซี่ยเหอกับมือ ตามสรรพคุณของยานั่น เซี่ยเหอควรสูญเสียความทรงจำไปนานแล้ว แต่ดูจากสภาพของเธอแล้ว เหมือนไม่ได้เป็นอะไรเลย”
พูดจบ เขาก็หันไปพูดกับเหอจื้อว่า “คุณเหอ หรือว่ายานั่นจะเป็นของปลอมครับ?”
“ไม่มีทาง!”
เหอจื้อปฏิเสธทันที แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ชอบใจว่า “ยานั่นผมต้องทุ่มกำลังไปมากมายกว่าจะได้มา และยาพิษแบบนี้ ในโลกบู๊โบราณราคาก็ไม่ได้สูง ไม่มีความจำเป็นที่อีกฝ่ายต้องใช้ยาปลอมมาหรอกผมหรอก”
ฉินหวยทำการวิเคราะห์ “เมื่อเป็นอย่างนั้น ก็เท่ากับว่า มีคนแอบช่วยเซี่ยเหออย่างลับๆ บางที คนคนนี้อาจเป็นเหอสงก็ได้!”
“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง งั้นสิ่งที่เจ้าบ้านประกาศออกมาเมื่อกี้ก็มีเหตุผลแล้ว”
พอได้ฟังอย่างนั้น เหอจื้อก็พูดพร้อมกัดฟันว่า “มันเป็นแบบนี้นี่เอง! ถึงว่าทำไมพ่อถึงต้องทำตามที่เซี่ยเหอพูด ที่แท้เหอสงก็มีวิธีทำให้ยาพิษใช้การไม่ได้ในร่างกายของเซี่ยเหอนี่เอง!”
“ก่อนหน้านี้พ่อก็เคยพูดไว้แล้วว่า ใครที่สามารถทำให้เซี่ยเหอยอมเป็นเมียเก็บของคุณชายเฉินได้ ก็จะให้คนนั้นขึ้นเป็นผู้สืบทอดของตระกูลเหอ เห็นได้ชัดว่า เพื่อเหอสงแล้ว เซี่ยเหอก็ยอมตกลงกับเรื่องนี้ และถึงขั้นใช้การปฏิเสธที่จะเป็นเมียเก็บของคุณชายเฉินมาข่มขู่พ่อ”
การเป็นลูกชายคนโตของตระกูลเหอ เหอจื้อก็ถือว่าฉลาดมาก เขาสามารถคาดเดาสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
ในเวลาเดียวกัน ที่พักของหยางเฉิน
หยางเฉินรับสายที่โทรจากพี่น้องตระกูลซ่ง
“ให้เหอสงขึ้นเป็นผู้สืบทอดตระกูลเหอ ยังไม่พอ!”
หยางเฉินพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “เหอหยวนหงถูกเซี่ยเหอบีบบังคับ เพื่อไม่ให้ผิดใจกับตระกูลบู๊โบราณเฉิน จึงจำต้องเลือกเหอสงวันเดียวที่เหอสงยังไม่ได้ขึ้นเป็นผู้สืบทอดของตระกูลเหอ มันก็อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นได้”
ซ่งจั่วถามอย่างระมัดระวังว่า “แล้วจุดประสงค์ของคุณหยางคือ?”
หยางเฉินสายตาเป็นประการเยือกเย็น หรี่ตาแล้วพูดว่า “พิธีแต่งตั้งผู้สืบทอดของตระกูลเหอในวันพรุ่งนี้ ผมจะเข้าร่วมในฐานะประธานของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป!”
ในตอนนี้ เยี่ยนเฉินกรุ๊ปก็เป็นบริษัทที่อยู่ในท็อปร้อยของโลกเหมือนกัน มีสาขาย่อยอยู่ในจงโจวด้วย ด้วยฐานะอันนี้ของเขามีคุณสมบัติมากพอที่ะเข้าร่วมพิธีแต่งตั้งผู้สืบทอดตระกูลเหอได้สบาย