The king of War - บทที่ 2210 ภารกิจดำเนินต่อไป
The king of War บทที่ 2210 ภารกิจดำเนินต่อไป
ทุกคนในตระกูลตกตะลึง เมื่อเห็นเฉินชานชงนอนนิ่งอยู่บนพื้น
ขณะนี้พลังที่น่าสะพรึงกลัวที่กระทำต่อศูนย์ย่อยของตระกูลบู๊โบราณเฉินได้หายไปแล้ว
จากนั้นสมาชิกของตระกูลเฉินจึงกล้าขยับตัว ชายชราคนหนึ่งของตระกูลเฉินรีบก้าวไปฉันงหน้าและตรวจอาการของเฉินชางชง ไม่ช้าเขาก็เซถอยหลังไปสองสามก้าวและพูดด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว :”ท่านผู้นำ ตายแล้ว!”
“อะไรนะ?”
สมาชิกของตระกูลเฉินต่างตกตะลึง ชายผู้ทรงพลังที่อยู่ชั้นยอดของโลกล่างตายแล้ว?
เป็นไปได้อย่างไร?
ในโลกบู๊โบราณล่าง แดนนภาขั้นสามชั้นยอดเป็นผู้แข็งแกร่งที่อยู่จุดสูงสุดแล้ว แม้แต่ตู้อวี้ซานผู้นำของพันธมิตรพิทักษ์ก็ยังไม่กล้าพูดว่าเขามีความแข็งแกร่งที่จะฆ่าเฉินชานชงได้ในทันที
แต่ตอนนี้เฉินชานชงซึ่งมีพลังแดนนภาขั้นสามชั้นยอดนั้นตายแล้วจริงๆ และตายตาไม่หลับสีหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ ราวกับว่าเขาเคยเห็นเหตุการณ์ที่น่าสยดสยองก่อนตาย
“ตี้ชุนผู้ทรงพลัง! ท่านผู้นำถูกตี้ชุนฆ่า!”
สมาชิกของตระกูเฉินนึกถึงเสียงที่ปรากฏขึ้นในตระกูล อีกฝ่ายอ้างว่ามาจากตี้ชุน ชื่อว่าตี้ชิงซาน
มีคนหนึ่งพูดด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสยดสยอง: “เหมือนตี้ชิงซายได้พูดอะไรบางอย่างก่อนที่จะฆ่าท่านผู้นำ!”
อีกคนหนึ่งกล่าวว่า “เขาบอกว่า ‘บุกรุกโลกมนุษย์ ต้องถูกลงโทษ!’”
ทันทีที่เขาพูดคำนี้ออกมาทุกคนก็หน้าซีดอย่างที่สุด เห็นได้ชัดว่าตี้ชุนผู้ทรงพลังมาฆ่าเฉินชานชงเพราะคนของตระกูลบู๊โบราณเฉินรุกรานโลกมนุษย์
แม้ว่าทุกวันนี้ม่านพลังจะขาดแล้ว แต่โลกบู๊โบราณล่างยังคงอยู่ ฉะนั้นตี้ชุนจึงไม่อนุญาตให้โลกล่างรุกรานโลกมนุษย์
ชายชราที่มาตรวจชีพจรของเฉินชานชงเมื่อกี้นี้ชื่อว่าเฉินยวี่ เขาเป็นชายชราที่อายุมากที่สุดในตระกูลเฉิน ตามลำดับแล้วเฉินชานชงควรจะเรียกเขาว่าลุงเล็ก
จู่ๆเฉินยวี่ก็นึกถึงบางสิ่งได้และสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก เขารีบพูดว่า “ติดต่อเฉินไห่เฟิงทันที ให้เขาพาคนกลับไปโลกล่างทันที!”
เมื่อครู่ตี้ชุนฆ่าเฉินชานชงในพริบตา แต่ยังไม่ได้โจมตีคนอื่นๆของตระกูลเฉินแต่ ทีมที่นำโดยเฉินไห่เฟิงล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสามทั้งนั้น
ตอนนี้พวกเขากำลังไปที่ศูนย์อำนวยการกองยุทธการ และตี้ชิงซานคงไม่ปล่อยพวกเขาไปอย่างแน่นอน
คนที่เฉินไห่เฟิงพาไปล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งที่เก่งที่สุดของตระกูลเฉิน ถ้าตี้ชิงซานฆ่าพวกเขาด้วย ผู้แข็งแกร่งชั้นยอดของตระกูลเฉินก็จะตายกันหมด
ต่อไปตระกูลเฉินก็จะไม่มีความแข็งแกร่งที่จะแข่งขันกับตระกูลบู๊โบราณอื่นๆอีกต่อไป
ทันใดนั้นมีคนโทรหาเฉินไห่เฟิง
ไม่ทันที่เฉินไห่เฟิงจะพูด เฉินยวี่ก็คว้าโทรศัพท์และพูดอย่างเร่งรีบว่า “ไห่เฟิง พาคนกลับไปที่โลกล่างทันที!”
เฉินไห่เฟิงพูดด้วยความสงสัย: “ท่านห้า ฉันกำลังจะพาคนเข้าไปศูนย์อำนวยการกองยุทธการตงโจวแล้ว ไม่มีเวลาคุยกับท่านฉันจะพาคนเข้าไปเดี๋ยวนี้”
พูดจบเขาไม่เปิดโอกาสให้เฉินยวี่ได้พูดแล้วก็วางสาย
เมื่อเฉินยวี่เรียกโทรไปอีกครั้งก็โทรไม่ติดแล้ว
“ไอ้เวร!”
เฉินยวี่โกรธทันที เขาโยนโทรศัพท์แตกเป็นเสี่ยงๆ เงยหน้าขึ้นมองดวงดาวบนท้องฟ้าและพูดด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง: “นี่พระเจ้าจะทำลายตระกูลเฉินของฉันหรือ!”
ขณะเดียวกัน นอกศูนย์อำนวยการกองยุทธการตงโจว
เฉินไห่เฟิงนำผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสามสี่คน เขากวาดสายตามองทั้งสี่คนและพูดด้วยเสียงต่ำว่า “ปิดโทรศัพท์กันหมดแล้วใช่ไหม?”
ทั้งสี่คนพยักหน้า
เฉินไห่เฟิงพยักหน้าและพูดด้วยเสียงทุ้ม: “นี่คือการต่อสู้ครั้งแรกของเราในโลกใหม่ เราต้องชนะห้ามแพ้! เดี๋ยวเราจะแยกกันทำตามแผนแ ฉันจะตัดหัวผู้นำมัน พวกนายจะทำลายอาวุธร้อนของพวกมัน!”
“รับทราบ!”
ทั้งสี่พยักหน้าอย่างรวดเร็ว
ขณะนี้เจตนาฆ่าที่น่าสะพรึงกลัวล็อกเป้าไว้ที่ทั้งห้าคน
ตอนนี้พวกเขาทั้งห้าคนเหมือนตกลงไปในห้องน้ำแข็งใต้ดิน สีหน้าของทุกคนก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ฉันงๆเฉินไห่เฟิงคือมผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสามชั้นปลาย สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกลัว ทั้งตัวเขาสั่นไม่หยุดและพูดอย่างสั่นเทาว่า “ผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสี่!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้อีกสี่คนที่เหลือก็ตกใจอย่างมาก
พวกเขาตกเป็นเป้าหมายของผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสี่?
“ฆ่า!”
วินาทีถัดมาเสียงที่เย็นยะเยือกก็ดังขึ้น
สมาชิกของผู้แข็งแกร่งชั้นยอดของตระกูลเฉินที่นำโดยเฉินไห่เฟิงต่างตกใจและลุกขึ้นยืนเพื่อต่อต้าน
แต่พวกเขาถูกฆ่าตายทันทีโดยที่ไม่เห็นหน้าอีกฝ่ายด้วยซ้ำ
ตอนนี้เฉินชานชงผู้นำตระกูลบู๊โบราณเฉิน รวมถึงทายาทของตระกูลเฉินเฉินไห่เฟิงและผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสามและสี่คนอื่นๆล้วนถูกฆ่าตัดหัว
ศูนย์ย่อยของตระกูลบุ๊โบราณเฉินในตงโจว กำลังคร่ำครวญ
การตายของเฉินชานชงเท่ากับจุดจบของพวกเขา
ขณะที่ตระกูลเฉินตกอยู่ในความเศร้าโศก ศพห้าศพตกลงมาอย่าลานบ้านตระกูลเฉิน
“ท่านห้า ผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสามที่เฉินไห่เฟิงนำทีมไปตายหมดแล้ว!”
หลังจากยืนยันตัวตนของศพแล้วผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งของตระกูลเฉินมาด้านฉันงของเฉินยวี่และพูดด้วยสีหน้าหวาดกลัว: “เหมือนการตายของท่านผู้นำ ต่างถูกตบที่หัวใจด้วยฝ่ามือและหัวใจแตกเป็นเสี่ยงๆ ตายคาที่!”
เฉินยวี่เดินเซและล้มลงบนเก้าอี้สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและดวงตาที่ขุ่นมัวของเขาก็เต็มไปด้วยน้ำตา
ผู้แข็งแกร่งของตระกูลเฉินคนนั้นถามว่า: “ท่านห้า จะบอกเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่กับ พันธมิตรพิทักษ์ไหม?”
เฉินยวี่กัดฟันและพยักหน้า: “ฉันจะติดต่อหัวหน้าสมาคมเดี๋ยวนี้!”
ผู้แข็งแกร่งของตระกูลเฉินคนนั้นห้ามเฉินยวี่ทันทีและพูดเสียงต่ำว่า “ท่านห้า ฉันคิดว่าไม่จำเป็นต้องบอกพวกเขา ตระกูลเฉินเสียหายหนักมากแล้ว ถ้าท่านบอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับตระกูลเฉินตอนนี้พวกเขาจะเตรียมรับมือ ถึงตอนนั้นตระกูลบู๊โบราณเฉินจะเสียหายมากที่สุด และสถานะของตระกูลเฉินในโลกล่างก็จะตกลงสู่จุดต่ำสุดเช่นกัน”
เฉินยวี่ขมวดคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “นายคิดว่าในตระกูลเฉินจะไม่มีคนสอดแนมของหัวหน้าสมาคมหรือ?”
ทันทีที่คำพูดนี้พูดออกมา สีหน้าของผู้แข็งแกร่งตระกูลเฉินก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
เฉินยวี่ไม่สนใจอีกฝ่าย แต่โทรหาตู้อวี้ซานและพูดเสียงทุ้มว่า “หัวหน้าสมาคม เมื่อกี้นี้ ชายผู้แข็งแกร่งอย่างยิ่งที่อ้างว่ามาจากตี้ชุนปรากฏตัวขึ้นที่ศูนย์ย่อยตระกูลเฉินในตงโจว โจมตีและฆ่าท่านผู้นำ!”
ตู้อวี้ซานซึ่งอยู่ห่างไกลถึงจงโจว ไม่แปลกใจเลยที่ได้รับข่าวนี้เพราะเขารู้ข่าวเมื่อห้านาทีก่อนหน้านี้แล้ว
แต่เขายังคงแสร้งทำเป็นประหลาดใจและพูดด้วยความโกรธ: “อย่ากังวล ผู้นำเฉินจะไม่ตายฟรี!”
พูดจบตู้อวี้ซานก็วางสายโทรศัพท์
จงโจว ศูนย์ย่อยพันธมิตรพิทักษ์
สีหน้าของตู้อวี้ซานกังวลอย่างมาก เขากำลังจะเคลื่อนไหวแล้วแต่ไม่คิดว่าสิ่งนี้จะเกิดเรื่องนี้ที่ตงโจว
ขณะะนี้สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวล เขาเดินไปที่หน้าต่างมองไปยังภาพกลางคืนฉันงนอกและพูดด้วยเสียงต่ำว่า “เฉินชางชงถูกฆ่าตายแล้ว พื้นที่อื่น มีผู้แข็งแกร่งของตี้ชุนหนือไม่? ”
พูดจบเขาก็เดินไปฉันงๆแล้วโทรหาคนๆหนึ่งและพูดเสียงต่ำ: “เมื่อนี้ ตี้ชุนผู้ทรงพลังปรากฏตัวในตงโจว และฆ่าเฉินชางชงผู้นำตระกูลเฉินทันที แผนการเที่ยงคืนของคืนนี้นะดำเนินการต่อไหม?”
อีกฝ่ายดูไม่แปลกใจเลยแต่พูดอย่างเย็นชา: “ดำเนินต่อไป!”
พูดแค่สี่คำนี้เท่านั้นเขาก็วางสายอย่าง