The king of War - บทที่ 2236 เธอยังมีชีวิตอยู่
The king of War บทที่ 2236 เธอยังมีชีวิตอยู่
ไอสังหารที่น่ากลัวได้เข้ามาล้อมตู้อวี้ซานไว้
ตู้อวี้ซานกัดฟันพูด “ฉันแค่อยากปกป้องตัวเอง แต่ความแข็งแกร่งของนายตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าสามารถฆ่าฉันได้ง่ายๆ ถ้าฉันเล่าความลับเกี่ยวกับชีวิตนายแล้ว นายไม่มีทางปล่อยฉันไปแน่นอน”
“ฉันสาบานกับนายเลยว่า ถ้านายกลับมาจากสำนักเหอฮวนแล้ว ฉันจะบอกคุณทุกอย่างที่ฉันรู้แน่นอน”
ดวงตาของหยางเฉินมีประกายอาฆาตน่ากลัว เท้าของเขาขยับ แล้วเขาก็ปรากฏตัวตรงหน้าตู้อวี้ซานทันที
“แป๊ะ!”
แค่เสี้ยววินาที เขาเอื้อมมือไปจับคอของตู้อวี้ซานเอาไว้ วินาทีถัดมา พลังอันแข็งแกร่งก็รายล้อมคอของตู้อวี้ซาน ร่างกายของตู้อวี้ซานถูกยกขึ้นในอากาศ
“ฉันบอกแล้ว ว่าจะไว้ชีวิตนาย ฉันให้เวลานายในการพิจารณาหนึ่งนาที ถ้าไม่บอกฉันทุกอย่าง ฉันจะฆ่านายเสีย”
เสียงเย็นของหยางเฉินดังขึ้น
พูดจบ แขนของเขาแค่ขยับ ร่างกายของตู้อวี้ซานก็ถูกโยนออกไปไกลกว่าสิบเมตรและตกกระแทกกับพื้นอย่างแรง พ่นเลือดออกมาด้วยสีหน้าซีดเซียว
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เดิมทีเขานึกว่าหยางเฉินมาถึงขีดจำกัดแล้ว หลังจากเขากินยาผดุงจิตเข้าไป เขาอาจจะสามารถปกป้องตัวเองได้บ้าง แต่เขาไม่คิดเลยว่าต่อหน้าหยางเฉิน เขายังคงไม่สามารถปกป้องตัวเองได้แม้แต่น้อย หยางเฉินสามารถฆ่าเขาได้ง่ายๆ
ชั่วขณะหนึ่ง จู่ๆ เขาก็ไม่รู้ว่าควรจะทํายังไง
ถ้าบอกหยางเฉิน หยางเฉินจะไว้ชีวิตจริง ๆ เหรอ?
แต่ถ้ายังเก็บความลับของหยางเฉินต่อ หยางเฉินจะประนีประนอมไหม?
ทันใดนั้น หลิวชิ่งก็เดินเข้ามาและมองมาทางหยางเฉินพร้อมบอกว่า “คุณหยาง ผมมีวิธีทําให้เขาพูด”
หลังจากฟังคําพูดของหลิวชิ่งแล้ว สีหน้าของตู้อวี้ซานก็เปลี่ยนไปทันที
ในโลกบู๊โบราณกลางมีวิชาลับที่เรียกว่าการค้นหาวิญญาณซึ่งสามารถดึงความทรงจําของคนออกมาได้ คนที่ถูกดึงความทรงจํามีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นคนโง่
เมื่อนึกได้แบบนี้ ตู้อวี้ซานก็ร้อนรนทันที รีบพูดว่า “หยางเฉิน ตอนนี้ฉันจะบอกทุกอย่างเกี่ยวกับชีวิตของนายให้ฟัง”
พูดพลางก็มองหลิวชิงด้วยความกลัว เขาบอกว่า “เรื่องที่ฉันจะเล่า มันเกี่ยวกับความลับของหยางเฉิน คุณช่วยหลบไปหน่อยเถอะ!”
หากหลิวชิ่งอยู่ด้วย เขาคงรู้สึกไม่สบายใจ ถ้าหยางเฉินพูดว่าต้องการให้หลิวชิ่งใช้วิชาการค้นหาวิญญาณกับเขาจริงๆ เขาไม่สามารถรับผลที่ตามมาทนได้
หลิวชิ่งมองตู้อวี้ซานเล็กน้อย แล้วหันมองหยางเฉินแล้วพูดว่า “คุณหยาง ถ้าต้องการให้ผมลงมือ บอกผมได้เลย!”
พูดจบเขาก็หันหลังกลับ
หยางเฉินยกมือขึ้นแล้วใช้วิชากลลับ จากนั้นก็พูดเสียงเย็นว่า “ตอนนี้ นายคงจะเล่าได้แล้ว”
ตู้อวี้ซานตกใจ ไม่กล้ามีแผนอื่นอีกต่อไป เขาบอกว่า “แม่ของนายอาจไม่ใช่ผู้หญิงตระกูลเลือดคลั่ง และเธออาจไม่มีสายเลือดคลั่งเลย และสายเลือดของนายก็อาจไม่ใช่สายเลือดคลั่ง”
พอคําพูดนี้ออกมา หยางเฉินกลับดูประหลาดใจ
ขาคิดมาตลอดว่าแม่ของเขามาจากตระกูลเลือดคลั่ง แต่แม่เอาเลือดที่เป็นสายเลือดคลั่งของตัวเองให้เขา ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้
หยางเฉินกล่าวอย่างเย็นชา “พูดต่อ!”
ตู้อวี้ซานมองหยางเฉินนิ่งแล้วพูดต่อว่า “ในโลกบู๊โบราณกลาง มีสิบสายเลือดใหญ่ แต่มีนักบูโดบางสายเลือด ที่เป็นชั้นยอดในโลกบู๊โบราณกลาง ในอนาคตก็น่าจะประสบความสําเร็จที่ไม่ธรรมดา”
“เท่าที่ฉันรู้ เจ้าพ่อชั้นนําหลายคนในโลกบู๊โบราณกลาง ปัจจุบันก็มาจากสิบสายเลือดใหญ่ ”
“แถมในสิบสายเลือดนี้ มีสายเลือดหนึ่ง เคยมีอยู่ในตํานานเท่านั้น นั่นก็คือร่างบูโดฟ้ากำหนด”
หยางเฉินเลิกคิ้ว จ้องมองตู้อวี้ซานแล้วถามว่า “นายหมายความว่า ร่างบูโดฟ้ากำหนดมีความคล้ายคลึงกันมากกับสายเลือดคลั่ง?”
เขาพอเดาได้แล้วว่าตู้อวี้ซานจะพูดอะไร
ตู้อวี้ซานพยักหน้าว่า “คุณเดาไม่ผิด นักบูโดที่เป็นร่างบูโดฟ้ากำหนด มีทางลัดโดยกำเนิด ทําให้นักบูโดบำเพ็ญได้ง่ายขึ้น รับรู้ทุกอย่างได้เร็วมาก และเจ้าของร่างกายร่างบูโดฟ้ากำหนด ในภาวะความโกรธสุดขีด หรือในขณะที่กำลังจะตาย จะระเบิดพลังที่เหนือกว่าขีดจำกัดตัวเองออกมา”
“จุดนี้คล้ายกับสายเลือดคลั่งมาก สามารถเปลี่ยนความโกรธเป็นพลังที่แข็งแกร่งกว่าเดิมได้”
หยางเฉินขมวดคิ้ว “ทั้งหมดนี้เป็นการคาดเดาของนายเอง นายจะแน่ใจได้ยังไงว่าฉันไม่ใช่สายเลือดคลั่ง แต่เป็นร่างบูโดฟ้ากำหนด?”
ตู้อวี้ซานมองหยางเฉินอย่างจริงจังและกล่าวว่า “ไม่ว่าจะเป็นนักบูโดโบราณหรือผู้ฝึกเซียน เมื่อข้ามผ่านมาแล้ว ล้วนต้องผ่านลิขิตสวรรค์สายเก้าทั้งนั้น แต่นักบูโดที่มีร่างบูโดฟ้ากำหนด จะต้องผ่านลิขิตสวรรค์สายสิบ!”
“ส่วนนาย เคยผ่านลิขิตสวรรค์สายสิบมาแล้ว!”
พอเขาบอกแบบนี้ หยางเฉินก็ทําหน้าตกใจ
ตอนที่เขาฝ่าฟันภัยพิบัติสวรรค์ เขาผ่านลิขิตสวรรค์สายสิบ แล้วจริงๆ ตามที่ตู้อวี้ซานบอก ทั้งนักบูโดโบราณ ทั้งผู้ฝึกเซียน ต้องผ่านลิขิตสวรรค์สายเก้าแต่ตัวเขาผ่านลิขิตสวรรค์สายสิบมาแล้ว หรือว่าเขาเป็นร่างบูโดฟ้ากำหนดจริง ๆ
“นอกจากนี้ ยังมีจุดสําคัญมาก สายเลือดคลั่งสามารถถ่ายเทจากนักบูโดอีกคนไปหาอีกคนได้ แต่เมื่อถ่ายเทแล้ว คนให้ก็จะหมดพลัง”
ตู้อวี้ซานพูดต่อว่า “แต่สายเลือดคลั่งจะถูกส่งต่อให้ลูกสาว ไม่ส่งต่อให้ลูกชาย ถ้าบอกว่าแม่ของนายถ่ายโอนสายเลือดคลั่งของตัวเองเข้าไปในร่างกายของนาย ท่านคงตายไปนานแล้ว”
หยางเฉินยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ในความทรงจําของเขา แม่ไม่ได้ถ่ายโอนสายเลือดคลั่งมางร่างกายของเขา แม้ว่าท่านจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ไม่ใช่เพราะสูญเสียพลังสายเลือดคลั่ง
“แม่ของนาย ยังไม่ตาย!”
อยู่ๆ ตู้อวี้ซานก็บอกเรื่องนี้ออกมา
“ครืน!”
หยางเฉินรู้ราวกับถูกฟ้าผ่า เขานิ่งไปอย่างสมบูรณ์ แม่ยังไม่ตายเหรอ?
หยางเฉินแทบจะกัดฟันพูด “ตู้อวี้ซาน นายรู้ใช่ไหมว่าผลที่ตามมาของการหลอกฉันคืออะไร?”
ตู้อวี้ซานรีบบอกออกมา “ฉันไม่ได้หลอกนาย เพื่อจัดการนาย ฉันได้ตรวจสอบเรื่องของนายอย่างละเอียด แม้กระทั่งที่นายไปตามหาสุสานของแม่นายด้วย”
พูดถึงตรงนี้ เขามองหยางเฉินด้วยความกลัวเล็กน้อย แล้วพูดต่อว่า “และหลุมศพของแม่นายเป็นหลุมเปล่า!”
“นายว่าอะไรนะ?”
หยางเฉินบีบคอของตู้อวี้ซาน ไอสังหารระเบิดออกจากร่างกายของเขา
“หยางเฉิน นายใจเย็นๆ ก่อน ฉันไม่ได้ขุดหลุมฝังศพของแม่นาย นายก็รู้ดีว่า เมื่อความแข็งแกร่งเข้าขั้นแดนนภาแล้วจะสามารถสํารวจสถานการณ์ใต้ดินไม่กี่เมตรได้อย่างง่ายดาย”
ตู้อวี้ซานมีสีหน้าตื่นตระหนกและรีบอธิบาย “ฉันแค่สํารวจใกล้กับหลุมฝังศพของแม่นายและไม่พบศพในหลุม และหลุมก็ไม่มีร่องรอยของการขุดด้วย”
“ถ้าฉันเดาไม่ผิด แม่ของนายน่าจะการแกล้งตายด้วยเหตุผลบางอย่าง ตอนนี้ท่านต้องมีชีวิตอยู่แน่ ๆ”
ด้วยกลัวว่าหยางเฉินจะบีบคอเขาหัก เขาจึงรีบพูดทุกอย่างที่จะพูดออกมา
หยางเฉินยืนอยู่ที่เดิม ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ
เขาไม่เคยคิดว่าแม่ของเขาจะยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้