The king of War - บทที่ 294 ก็แค่คนที่ถูกทิ้ง
วันนั้นในงานเลี้ยงวันเกิดของกวนเจิ้งซาน หยางเฉินได้ปรากฏตัวในงาน ก็ได้เหยียบย่ำเขาที่เป็นความภาคภูมิใจของตระกูลกวนอย่างไร้ความปราณี
ถึงขั้นขนาดน้องชายของเขากวนเสว่เฟิง ก็ได้ตายโดยน้ำมือของหยางเฉิน
จากนั้น ชายร่างกำยำกว่าหลายร้อยคน ก็ได้เข้ามา จับคนของตระกูลกวนทั้งหมด ไปขังไว้
เดิมทีเขาก็คิดว่าตระกูลกวนต้องล่มสลายแน่ๆ แต่ว่าในตอนนั้น อยู่หยางเฉินก็ปรากฏตัว แล้วก็ปล่อยตระกูลกวนไป
แต่ว่ามีข้อแม้อย่างหนึ่ง ตระกูลกวนต้องเป็นข้ารับใช้ของเขา แล้วก็ห้ามหักหลังเด็ดขาด ไม่อย่างนั้น ฆ่าไม่เว้น!
คิดถึงตรงนี้ สายตาของกวนเสว่ซงก็ได้เต็มไปด้วยความแน่วแน่ ไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย พูดออกไปเสียงเข้มว่า “ผมเลือกคุณหยาง!”
“ทำไม?” กวนเจิ้งซานถาม สายตาก็ได้แหลมคมเอามากๆ
“ตระกูลกวนได้ล่มไปแล้วครั้งหนึ่ง ถ้าเกิดล่มอีก ก็ไม่มีทางที่จะยืนขึ้นมาได้อีกแล้วครับ! ถ้าเกิดคุณหยางสามารถผ่านวิกฤตนี้ไปได้ จากวันนี้ไป ตระกูลกวนก็จะรุ่งเรืองขึ้นกว่าเดิม เพราะคุณหยางแน่!”
กวนเสว่ซงก็ได้พูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง
“ดีมาก สมแล้วที่เป็นลูกผู้ชายของตระกูลกวน มีความบ้าเลือด!”
กวนเจิ้งซานก็ได้หัวเราะดังๆ “ไหนๆ ก็เป็นแบบนั้น งั้นปู่ก็สั่งให้แกไปนำนักสู้ที่มีฝีมือที่สุดในตระกูลกวน ไปที่ตระกูลเมิ่งที่เมืองเอกช่วยเป็นอีกแรงให้กับคุณหยางด้วยตัวเอง!”
“รอตอนที่แกกลับมา ก็จะเป็นวันที่แกเป็นผู้นำของตระกูลกวน!”
ได้ยินแบบนั้น ใบหน้าของกวนเสว่ซงก็ได้เต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขานั้นก็ถูกกำหนดให้เป็นว่าที่ผู้นำข้ามรุ่นไปตั้งนานแล้ว วันนี้ กวนเจิ้งซานกลับพูดว่า รอเขากลับมา ก็จะยกตำแหน่งให้เขา
“ครับ ผู้นำตระกูล!”
ตาของกวนเสว่ซงแดง พูดเสียงดัง จากนั้นก็ได้หันตัวเดินออกไป
กวนเจิ้งซานมองแผ่นหลังหลานชายของตัวเอง ใบหน้าได้เต็มไปด้วยความภูมิใจ เขาอายุเจ็ดสิบแล้ว แต่กลับยังเป็นผู้นำของตระกูลอยู่ ไม่ใช่เพราะว่าเขาหวงตำแหน่งนี้ แต่ว่าพวกรุ่นลูก ไม่มีคนที่เขาพอใจแม้แต่คนเดียว
แต่ว่ารุ่นหลาน กลับมีรุ่นหลังอย่างกวนเสว่ซงคนนี้ นี่เป็นความโชคดีของตระกูลกวน
ไม่แค่ตระกูลซูกับตระกูลกวน ยังมีหวังเฉียงแห่งเมืองคิง แล้วก็ตระกูลเฉินใน เมืองโจวเฉิง ก็ได้รับสายจากตระกูลอวี๋เหวิน
นอกจากตระกูลซู ตระกูลที่มีอำนาจตระกูลอื่น ก็ได้เลือกหยางเฉินทั้งหมด
พวกเขาไม่ใช่ไม่รู้ถึงอำนาจของตระกูลอวี๋เหวิน แต่ว่าสำหรับพวกเขา เป็นหยางเฉินที่ได้ให้ทุกอย่างกับพวกเขา
ชั่วขณะ ก็ได้มีรถหรูหลายคัน ออกเดินทางจากเจียงโจวและเมืองโจวเฉิง มุ่งหน้าไปทางเมืองเอก
และในเวลานี้ หยางเฉินได้หักป้ายทองคำของตระกูลเมิ่ง แล้วก็บุกเข้าไปในตระกูลเมิ่ง
“แกเป็นใคร? กล้ามากที่บุกมาในตระกูลเมิ่ง!”
“ไอ่หมาที่ไม่รู้จักความตาย กล้าที่จะหักป้ายของตระกูลเมิ่ง อยากตายเหรอ!”
“พวกเราลุย พามันไปให้ผู้นำตระกูลแล้วรับรางวัล!”
อารักขาอยู่ที่หน้าประตูไม่กี่คน เห็นหยางเฉินหักป้ายไป แล้วยังบุกเข้ามาในตระกูลเมิ่ง ก็ได้โมโหไปเลย อารักขาสิบกว่าคน ก็ได้พากันพุ่งไปทางหยางเฉิน
สีหน้าของหยางเฉินไร้ความรู้สึก แล้วก็ได้ก้าวไปข้างหน้า ราวกับว่าไม่มีคนอยู่เลย
“ตึ้งๆๆ !”
ขอให้เป็นอารักขาที่พุ่งเข้าไปหาเขา ยังไม่ได้แตะถูกตัวของเขา ก็ได้กระเด็นออกไปเลยทั้งหมด
เวลานี้ ทุกคนก็ได้เบิกตาโต ในนัยน์ตาสีเข้มนั้น ก็ได้เต็มไปด้วยความกลัว
เป็นถึงอารักขาของตระกูลเมิ่ง เจอกับอะไรก็ไม่เหมือนกับคนธรรมดาทั่วไปที่เจอ คนมีฝีมือแบบไหนที่ไม่เคยเจอมาบ้าง?
เวลานี้ อารักขาสิบกว่าคน ยังไม่รู้เลยว่า ตัวเองนั้นกระเด็นออกมาได้ยังไง
“ที่ฉันมาวันนี้ มาเอาแค่ตัวเมิ่งฮุย คนที่ไม่เกี่ยวข้อง ถอยออกไปให้หมด!”
หยางเฉินเข้ามือไขว้หลัง หน้าก็ได้มองไปทางตระกูลเมิ่ง พูดออกมาเสียงดัง
เสียงก็เหมือนกับคลื่นยังไงอย่างงั้น ก็ได้พัดไปยังทางตระกูลเมิ่ง
คฤหาสน์หลักของตระกูลเมิ่ง ผู้นำตระกูลเมิ่งหงเย่ นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้แบบโบราณด้วยใบหน้าที่เย็นชา สีหน้าก็ได้เยือกเย็นเอามากๆ
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
สายตาของเขาก็ได้มองไปทางเมิ่งฮุยถาม
เมิ่งฮุยยิ้ม “คุณปู่ครับ เขาก็เป็นคนที่ผมบอกไปก่อนหน้าว่าเป็นคนที่ถูกตระกูลอวี๋เหวินทิ้งคนนั้น คิดไม่ถึงว่า ไอ่หมอนั่นจะใจกล้าขนาดนี้ กล้าที่จะมาตระกูลเมิ่ง”
“แต่ว่าคุณปู่วางใจเถอะครับ ผมได้เตรียมการทุกอย่างไว้แล้ว ไหนๆ เขาก็กล้ามา งั้นก็อยู่ในบ้านตระกูลเมิ่งตลอดไปได้เลย!”
เมิ่งหงเย่ขมวดคิ้ว “แกอยากให้มันตาย?”
“คุณชายปิงพูดแล้วครับ ขอแค่สามารถที่จะฆ่าหยางเฉินได้ ก็ลงมือไปได้เลย ถึงตอนนั้น เขาก็จะช่วยพวกเราจัดการทั้งหมด” เมิ่งฮุยก็ได้พูดออกไปอย่างมั่นใจ
“ไหนๆ ก็เป็นแบบนั้น งั้นก็ยกหมอนั่นก็ให้แกจัดการละกัน อย่าให้เกิดปัญหาเด็ดขาด ยังไงซะในตัวไอ่หมอนั้นมีสายเลือดของตระกูลอวี๋เหวินอยู่ ถ้าฆ่ามันไปได้ในครั้งเดียวไม่ได้ สำหรับตระกูลเมิ่งแล้ว ก็ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ไม่น้อย” เมิ่งหงเย่ก็ได้พูดออกไปเรียบๆ
“ครับ คุณปู่วางใจได้เลย! หลานชายคนนี้ไม่มีทางทำให้ท่านผิดหวังแน่ครับ!”
พูดจบ เมิ่งฮุยก็ได้ลุกขึ้นเดินออกไป
เวลานี้ ด้านหลังหยางเฉิน ก็ได้มีนักสู้มีฝีมือของตระกูลเมิ่งล้มไปสิบกว่าคนแล้ว
ถ้าเกิดไม่เป็นเพราะว่าเขาออมมือ เกรงว่าไม่มีเหลือรอดแล้ว
เดิมที เมิ่งฮุยที่ยังมีความมั่นใจอยู่ ตอนที่ได้รู้ว่าหยางเฉินได้ล้มอารักขาของตระกูลเมิ่งไปเกือบครึ่งแล้วนั้น สีหน้าที่ไม่ได้มีความตกใจอะไรนั้น ในที่สุดก็ได้แสดงความกังวลออกมาเล็กน้อย
“พี่ครับ มีคนมากมายล้มไปแล้ว นี่จะทำยังไง?”
เมิ่งชวนที่ได้ยืนอยู่ข้างๆ เมิ่งฮุย เวลานี้ใบหน้าก็ได้เต็มไปด้วยความกังวล
เขาเป็นคนสายเลือดหลักคนเดียวในตระกูลเมิ่ง ที่ได้เห็นหยางเฉินลงมือฆ่าคนเองกับมือ
หยางเฉินก็ได้โยนไปง่ายๆ ก็สามารถที่จะทำให้ปากกาแท่งเดียว ไปฆ่าจวงปี้ฝานที่ได้อยู่ห่างออกไปหลายสิบเมตรได้
วันนี้ บุกมาที่ตระกูลเมิ่งคนเดียว ยังสามารถที่จะล้มนักสู้มีฝีมือสิบกว่าคนได้
นี่ทำให้เมิ่งชวน มีความรู้สึกเหมือนกำลังตกอยู่ในอันตราย
“กลัวอะไร?”
เมิ่งฮุยก็ได้ดุไปคำ “ฉันยอมรับ เขาเก่งมาก แต่ว่าสองหมัดยากที่จะสู้สี่มือ ต่อให้เขาเก่งขนาดไหน คนมีฝีมือในตระกูลเมิ่งเยอะขนาดนั้น จะแพ้หมดเลยหรือไง?”
“เขาคนเดียวได้ต่อสู้กับคนมีฝีมือเยอะขนาดนั้น แรงก็ได้ใช้หมดไปนานแล้ว ตอนนี้ก็แค่ฝืนทนไปเท่านั้น อีกอย่าง ต่อให้เขาบุกเข้ามาได้จริงๆ พวกเรายังมีโซโรอยู่!”
“ต่อให้เขาสามารถที่จะล้มโซโรได้ ยังมีคนมีฝีมือข้างตัวคุณปู่อยู่ ในตระกูลเมิ่ง เขายังทำอะไรกับฉันได้?”
ที่จริง ในใจของเมิ่งฮุยก็ได้กังวลเล็กน้อย ความสามารถของหยางเฉิน ก็ได้มากเกินกว่าที่เขาคิดไว้
แต่ว่าการล่อหยางเฉินมา เป็นการตัดสินใจของเขา แน่นอนว่าเขาไม่มีทางที่จะปอดแหกในเวลานี้แน่
โซโรที่อยู่หลังเขา ก็ได้เดินเข้าไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง พูดด้วยใบหน้าที่อวดเก่งว่า “คุณชายชวนวางใจเถอะครับ มีผมอยู่ เขาก็มีแค่ตายสถานเดียวเท่านั้น!”
เมิ่งชวนถึงได้โล่งใจ แต่ว่าความกลัวที่หยางเฉินให้เขามีมากเกินไป ต่อให้เมิ่งฮุยพูดว่าไม่เป็นอะไร ในใจก็ยังมีความกังวลเล็กน้อย
หยางเฉินในเวลานี้ ก็ยังแข็งแกร่งเอามาก ต่อสู้กับนักสู้มากมายของตระกูลเมิ่งคนเดียว กลับไม่ได้ลดความเร็วของเขาเลยแม้แต่นิด
เขายังคงความเร็วเดิม เดินไปทางคฤหาสน์ไม่หยุด
ตอนนี้คนที่ได้ส่งออกมา ก็เป็นแค่อาหารเรียกน้ำย่อยเท่านั้น อยากที่จะขัดขวางเขา นี่มันเป็นแค่คนงี่เง่าที่เพ้อฝันเท่านั้น ยิ่งอย่าพูดว่าจะทำให้เขาบาดเจ็บเลย
ในเวลานี้ รถหลายสิบคันของเจียงโจวกับเมืองโจวเฉิง ก็ได้เข้าไปยังเขตแดนของเมืองเอก
อยู่ๆ ก็ได้มีรถของนอกเขตเยอะขนาดนี้ อีกอย่างยังเป็นขบวนรถที่เป็นระเบียบ ก็ได้ต่างทำให้คนหลายคนในเมืองเอกตกใจ
“เชี้ย! นี่แม่งเป็นรถนอกเขตทั้งหมดเลยนี่หว่า นี่มันจะทำอะไร?”
“รถโรลส์รอยซ์ข้างหน้าที่ได้มีป้ายเจียงB88888ติดอยู่ เป็นรถของผู้นำตระกูลเฉินในเมืองโจวเฉิงไม่ใช่เหรอ?”
“แล้วก็ยังมีรถเบนท์ลีย์ที่มีป้ายเจียงC66666ตามหลังอีก เป็นรถของผู้นำตระกูลกวนแห่งเจียงโจว!”
“ทางที่พวกเขาไป เหมือนเป็นตระกูลเมิ่ง!”
คนนับไม่ถ้วนในเมืองเอก ได้มาเห็นการปรากฏตัวของขบวนรถหลายสิบคันกับตาแบบนี้ ต่างก็พากันตกใจ
“เร่งความเร็ว แซงรถตระกูลเฉินข้างหน้า! พวกเราตระกูลกวน ต้องรีบไปถึงตระกูลเมิ่งเป็นคนแรก ไปช่วยคุณหยาง!”
กวนเสว่ซงที่นั่งอยู่ในรถเบนท์ลีย์ สายตาก็ได้มองรถโรลส์รอยซ์คันข้างหน้าแน่น กัดฟันแล้วพูด
“ครับ คุณชายซงนั่งดีๆ นะครับ!”