The king of War - บทที่ 309 สิ่งที่ชวนให้เกลียด
“เว่ยเชิน ผมจะให้โอกาสคุณครั้งสุดท้าย ปล่อยเธอซะ ผมรับปากว่าชีวิตของคุณจะไม่เป็นไร!” ความอดทนของหยางเฉินแทบจะถึงขีดสุดแล้ว
ระหว่างที่พูด ในมือของหยางเฉินก็ได้มีใบไม้เพิ่มขึ้นมาหลายใบ พวกมันถูกหนีบอยู่ระหว่างนิ้วกลางกับนิ้วชี้
ถ้าเว่ยเชินกล้าที่จะฆ่าโจวยู่ชุ่ย หยางเฉินก็รับรองได้เลยว่าเว่ยเชินนั้นต้องตายก่อน
สิ่งที่เว่ยเชินได้พบเจอมานั้น เขาเองก็เห็นใจมาก แต่จากการขู่บังคับครั้งแล้วครั้งเล่าของอีกฝ่าย ทำให้หยางเฉินเกิดความคิดที่อยากจะฆ่าขึ้นมา
“ลูกชาย แกใจเย็นๆ ก่อน! ฉันเสียลูกชายไปแล้วคนหนึ่ง และไม่อยากสูญเสียคนในครอบครัวอีกแล้ว! ขอแค่แกยอมปล่อยมือ ฉันรับปาก จากนี้ฉันจะยกตระกูลเว่ยให้แกแน่นอน!”
“พ่อทำผิดไปแล้ว ผิดไปแล้วจริงๆ!”
จู่ๆ สีหน้าของเว่ยเฉิงโจวก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความเจ็บปวด เสียง“ตุบ” ดังขึ้น เขาก็ได้คุกเข่าลงกับพื้น จ้องมองเว่ยเชินด้วยดวงตาที่แดงก่ำ และพูดไปว่า “ลูกชาย แกเองก็รู้ ว่าชีวิตนี้ของฉัน ไม่เคยขอร้องใครมาก่อน และไม่เคยคุกเข่าให้ใครมาก่อน แต่วันนี้ ฉันได้คุกเข่าลงต่อหน้าแก ขอร้องแก!”
กับการขอร้องของเว่ยเฉิงโจวนั้น เว่ยเชินกลับไม่ได้รู้สึกอะไรเลย นัยน์ตามีเพียงแค่ความเคียดแค้นเท่านั้น
“เว่ยเฉิงโจว แกไม่ต้องมาแสดงละครต่อหน้าฉัน แกเป็นคนยังไง ฉันนั้นรู้ดีกว่าใคร แกคิดว่าแค่บีบน้ำตาจระเข้ออกมาไม่กี่หยด ฉันก็จะเชื่อจริงๆ แล้วเหรอ?”
“ถ้าฉันยอมปล่อยมือจริงๆ เกรงว่าทันทีที่กลับไปที่ตระกูลเว่ย แกก็คงสั่งคนมาฆ่าฉันแล้ว”
“การฆ่าคนในครอบครัว ไม่ใช่ว่าแกไม่เคยทำสักหน่อย ตอนนั้น พ่อของแก็ถูกแกฆ่าเองกับมือ แกถึงได้ขึ้นรับตำแหน่งไม่ใช่รึไง?”
กับความลับบางอย่างของเว่ยเฉิงโจว เหมือนเว่ยเชินจะรู้ดีอย่างมาก
“ลูกชาย ตอนนี้ฉันก็คุกเข่าอยู่ตรงหน้าแกแล้ว แล้วแกไม่คิดจะยกโทษให้ฉันเลยเหรอ?” สีหน้าของเว่ยเฉิงโจวนั้นเต็มไปด้วยความร้องของ
เว่ยเชินส่ายหน้า แล้วพูดด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยว่า “ในเมื่อหยางเฉินไม่ยอมฆ่าแก งั้นฉันจะให้ทางเลือกแกหนึ่งทาง ก็คือแกตาย หรือไม่ก็ผู้หญิงคนนี้ตาย!”
“ถ้าแกไม่ตาย ฉันก็จะฆ่าผู้หญิงคนนี้ซะ พอถึงตอนนั้น ผลลัพธ์มันก็จะออกมาเหมือนกัน”
“ฉันคิดว่า ถึงฉันจะเป็นคนฆ่าเธอ แต่ตระกูลเว่ยก็เป็นสาเหตุของเรื่องนี้ หยางเฉินคงไม่ยอมปล่อยแกไปหรอกจริงมั้ย?”
“เอาล่ะ สิ่งที่ควรพูดก็พูดไปหมดแล้ว ภายในหนึ่งนาที ถ้าแกไม่ตาย ฉันก็จะฆ่าผู้หญิงคนนี้ทิ้งซะ!”
ในตอนนี้ สีหน้าของเว่ยเชินนั้นนิ่งเฉย นิ่งเฉยจนน่ากลัว
คนแบบนี้ ไม่ได้สนใจเรื่องความเป็นความตายแล้ว ถึงได้แสดงท่าทางแบบนี้ออกมาได้
“เว่ยเชิน มันก็แสดงว่า แกจะไม่มีวันยกโทษให้ฉันแล้วใช่มั้ย?”
ทันใดนั้น เว่ยเฉิงโจวก็ได้ลุกขึ้นมา เห็นได้ชัดว่า ต่อให้เขาพูดจนปากฉีก เว่ยเชินก็ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงความคิดแน่นอน
“ยังเหลือเวลาอีกสี่สิบวิ!”
เว่ยเชินไม่ได้ตอบ แต่กลับแจ้งเวลาที่เหลือออกมา
หยางเฉินค่อยๆ หรี่ตาทั้งสองข้างลง ใบไม้ที่อยู่ระหว่างทั้งสองนิ้ว แทบจะถูกเขาบดจนละเอียดแล้ว
“เหลืออีกสามสิบวิ!”
เว่ยเชินแจ้งเวลาที่เหลือออกมาแทบจะทันที
“หยางเฉิน ฆ่าไอ้แก่นั่นทิ้งซะ ฉันเป็นถึงแม่ยายของแกนะ แล้วแกจะยืนดูฉันถูกฆ่าไปต่อหน้าอย่างนั้นเหรอ?”
“ถ้าเกิดฉันตายไป เสี่ยวซีกับเสี่ยยีจะรู้สึกยังไง?”
“เช้าวันนี้ ฉันได้ถ่ายทอดสด แล้วพูดใส่ร้ายแกไปตั้งเยอะ ตอนนี้ก็มีแค่ฉันคนเดียวที่สามารถแก้ข่าวพวกนั้นได้!”
“ไม่อย่างนั้น เสี่ยวซีกับเสี่ยวยีต้องเข้าใจว่า แกส่งคนมาฆ่าฉันแน่นอน พอถึงตอนนั้น เสี่ยวซีกับเสี่ยวยีก็จะเกลียดแกไปตลอดชีวิต!”
เมื่อรับรู้ถึงความเย็นของมีดที่จ่ออยู่ที่คอ สีหน้าของโจวยู่ชุ่ยก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว แล้วตะโกนใส่หยางเฉิน
ในที่สุดหยางเฉินก็หมดความอดทน จ้องมองเว่ยเชินด้วยสายตาที่นิ่งเฉย
“สิบวิสุดท้าย!”
เว่ยเชินแจ้งเวลาอีกครั้ง พร้อมกับสีหน้าที่แน่วแน่
“เก้าวิ!”
“แปดวิ!”
……
“หนึ่งวิ!”
เว่ยเชินแจ้งเวลาต่อไปเรื่อยๆ จนตอนที่แจ้งเวลาวิสุดท้ายออกมานั้นเอง เว่ยเชินก็จ้องมองเว่ยเฉิงโจวด้วยสายตาที่นิ่งเฉย “ฉันจะรอแก อยู่ในนรกนะ!”
ทันทีที่พูดจบ เว่ยเชินก็ออกแรงตรงมือข้างที่จับมีดไว้
“อ้า……”
โจวยู่ชุ่ยหลับตาแล้วร้องออกมาเสียงดัง
“ปั้ง!”
ทันใดนั้นเอง เสียงปืนที่ดังสนั่นก็ได้ดังขึ้น ทำให้ทุกอย่างนั้นสิ้นสุดลง
ที่กลางหน้าผากของเว่ยเชิน มีรูที่ไม่น่าดูเกิดขึ้นหนึ่งรู สุดท้ายเขาก็ยังไม่ทันได้ลงมือ แต่ตัวเองกลับถูกซุ่มยิงไปแล้ว
“ตุบ!”
ร่างกายของเขาล้มลงกับพื้น
ทันใดนั้นเอง พลซุ่มยิงที่ใส่เสื้อหนังคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น เขาเดินมาข้างๆ เว่ยเฉิงโจว
ที่แท้ คนที่ยิงปืนเมื่อกี้ ก็คือคนของเว่ยเฉิงโจวนี่เอง
สีหน้าของเว่ยเฉิงโจวนั้นดูเจ็บปวดสุดท้ายก็มองไปยังศพขอเว่ยเชินทีหนึ่ง แล้วพูดออกไปว่า “เอาศพของเว่ยเชินกลับไปที่ตระกูลเว่ย แล้วจัดงานศพซะ!”
แล้วเขาก็มองมาที่หยางเฉิน “คุณหยางครับ แม่ยายของคุณ คุณช่วยดูแลเลยนะครับ ผมจะสั่งให้คนออกไปชี้แจงเองว่า คลิปที่อยู่ในโซเชียลก่อนหน้านี้ ลูกชายของผมเป็นคนที่บีบให้แม่ยายของคุณทำแบบนั้นเอง”
“อีกอย่าง สำหรับเรื่องการชดใช้ต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเยี่ยนเฉินกรุ๊ปนั้น ผมจะส่งคนไปติดต่อคุณแน่นอน”
พูดจบ เว่ยเฉิงโจวหันหลัง แล้วเดินจากไปอย่างไร้เรี่ยวแรง
หยางเฉินมองดูแผ่นหลังที่จากไปของเขา ด้วยความรู้สึกที่สะเทือนใจเป็นอย่างมาก นี่สินะที่เขาเรียกว่า สิ่งที่ชวนให้เกลียดของคนที่น่าสงสาร?
โจวยู่ชุ่ยนั้นไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากมาย แค่ถูกกรีดเป็นแผลเล็กๆ สองแผลที่คอ และมีเลือดออกนิดหน่อยเท่านั้น
หลังจากที่หยางเฉินพาเธอไปส่งที่โรงพยาบาลแล้ว หมอแค่ทำความสะอาดแผลให้เธอนิดหน่อย แม้แต่ทายายังไม่ทา ก็ปล่อยพวกเขากลับได้แล้ว
ตอนที่ฉินซีกับฉินยีได้รู้ว่าโจวยู่ชุ่ยยังมีชีวิตอยู่ ก็รู้สึกดีใจกันมาก
ฉินยียังไม่ได้มาที่โรงพยาบาล เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นกับเยี่ยนเฉินกรุ๊ป ทำให้เธอยุ่งจนหัวแทบไหม้แล้ว พอได้รู้ว่าโจวยู่ชุ่ยยังมีชีวิตอยู่ เธอก็โล่งอกทันที
“แม่คะ หนูขอโทษ ถ้าไม่ใช่เพราะหนูไล่แม่ออกไป แม่ก็คงไม่ต้องไปพบเจอกับเรื่องแบบนี้”
ฉินซีกอดโจวยู่ชุ่ยไว้แน่น พร้อมกับพูดออกมาทั้งน้ำตา
พอเห็นสองแม่ลูกกำลังกอดกันร้องไห้อย่าง ในใจขอหยางเฉินก็เกิดกังวลขึ้นมา
เขานั้นรู้ดี ว่าผู้หญิงคนนี้ต้องการที่จะฆ่าฉินต้าหย่งให้ตาย
ถ้าในวันหนึ่ง ฉินซีกับฉินยีเกิดรู้เรื่องเข้า ว่าโจวยู่ชุ่ยยังอยากที่จะฆ่าฉินต้าหย่งอยู่ แล้วพวกเธอจะไปรับไหวได้ยังไง?
“จริงด้วย แม่คะ การถ่ายทอดสดเมื่อเช้า มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ?”
“จากการที่แม่ใส่ร้ายหยางเฉินไปแบบนั้น ทำจึงทำให้เยี่ยนเฉินกรุ๊ปต้องเจอกับปัญหาใหญ่เข้า”
“แม่ต้องรีบทำการถ่ายทอดสด เพื่อชี้แจงทุกอย่างให้ชัดเจนนะคะ!”
ฉินซีเห็นว่าโจวยู่ชุ่ยนั้นได้รับผลกระทบทางใจมาก แต่ก็รู้ถึงปัญหาที่โจวยู่ชุ่ยนำพามาให้เยี่ยนเฉินกรุ๊ปดี จึงได้รีบพูดเร่งไป
โจวยู่ชุ่ยดวงตาหมุนวน น้ำตาบอกไหลก็ไหลเลย และพูดทั้งน้ำตาว่า “เสี่ยวซี สิ่งที่แม่พูดไปนั้น ต่างก็ถูกพวกตระกูลเว่ยบังคับทั้งนั้น พวกมันบอกว่าหยางเฉินเป็นผู้รับผิดชอบหลักของบริษัทเยี่ยนเฉินกรุ๊ปประจำสาขาย่อยในเมืองเจียงโจว”
“นอกจากเรื่องนี้ แม่ยังมีอีกเรื่องที่จะสารภาพกับแก! ความจริง ตระกูลเย่วนั้นได้มาหาแม่ตั้งนานแล้ว พวกมันบังคับให้แม่ฆ่าพ่อของแก ไม่อย่างนั้น พวกมันก็จะฆ่าคนในครอบครัวเราทุกคน!”
“แม่เองก็ไม่มีทางเลือก ด้วยความใจร้อน เมื่อคืนทนไม่ไหวจนลงมือกับพ่อแกไป ยังไงตอนนี้พ่อแกก็เป็นแบบนี้ไปแล้ว ถ้าสามารถใช้ชีวิตของเขาแลกกับการที่แกกับเสี่ยวยีอยู่รอดปลอดภัย แม่คิดว่า พ่อแกก็น่าจะยินดีเหมือนกัน”
“แต่แม่ยืนยันกับแกเลยนะ ว่าแม่ไม่เคยคิดที่จะมีชีวิตรอดคนเดียว ตอนแรกแม่ตั้งใจว่า หลังจากที่ฆ่าพ่อแกไปแล้วแม่ก็จะฆ่าตัวตายตามพ่อแกไป!”
โจวยู่ชุ่ยพูดออกมาพร้อมกับน้ำหูน้ำตาที่ไหลพราก
ใบหน้าของฉินซีนั้นก็ถูกอาบด้วยน้ำตาไปนานแล้ว เธอพูดพร้อมน้ำตาว่า “แม่คะ ลำบากแม่แล้ว!”
ระหว่างที่พูด สองแม่ลูกก็กอดกันร้องไห้ขึ้นมา
ถ้าหยางเฉินไม่ได้รู้ข้อเท็จจริงจริงอยู่ก่อนแล้ว เขาก็คงจะถูกคำพูดของโจวยู่ชุ่ยนั้นหลอกไปแล้ว