The king of War - บทที่ 326 ด่านสุดท้าย
“เมื่อก่อน แม่มองอะไรตื้นเขินไปเอง ไม่เคยเห็นความดีของหยางเฉิน ช่วงนี้พอแม่สงบใจลง คิดอะไรไปเยอะ ที่จริงเขาไม่ได้แย่ขนาดที่ฉันคิด เขาดีเด่นมาก ดีเด่นกว่าคนส่วนใหญ่เยอะ”
โจวยู่ชุ่ยเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “หลังจากนี้ไป ฉันยอมรับแค่เขาเป็นลูกเขยคนเดียว ระหว่างพวกแกฉันไม่กีดกันอีกต่อไป”
ฉินซีน้ำตาแตกทันที ตั้งแต่ไหนแต่ไร นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินโจวยู่ชุ่ยยอมรับความสัมพันธ์ระหว่างเธอและหยางเฉินกับปาก
“แม่ ขอบคุณนะคะ” ฉินซีพูดทั้งน้ำตาไหลพราก
“เด็กโง่ ขอบคุณแม่ทำไมกัน? แม่สิต้องขอโทษแก เมื่อก่อนแม่ไม่น่าทำแบบนั้นกับแกเลย”
โจวยู่ชุ่ยยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้ฉินซี พร้อมยิ้มอย่างใจดี
สำหรับฉินซี นี่เป็นบ่ายที่อบอุ่นหัวใจมาก
แต่สิ่งที่เธอไม่รู้คือ ในใจของโจวยู่ชุ่ยลนลานจนถึงขีดสุด
แม้หยางเฉินจะไม่อยู่ แต่เธอกลัวมากว่าจู่ๆฉินต้าหย่งจะฟื้นขึ้นมา
ถึงตอนนั้น ทุกอย่างคงสายไป
สำหรับเธอ มีแต่ต้องคิดหาทางส่งตัวเสี้ยวเสี้ยวไปให้เมิ่งเทียนเจียวก่อนเท่านั้น เธอถึงจะมีโอกาสลงมือกับฉินต้าหย่งมากขึ้น
ถ้าเสี้ยวเสี้ยวหายตัวไป ฉินซีต้องไปหาแน่ๆ ถึงตอนนั้น ในห้องผู้ป่วยจะเหลือแค่เธอและฉินต้าหย่ง
คิดมาถึงตรงนี้ นัยน์ตามีประกายดุดันแวบผ่านไป
“เสี่ยวซี ด้านเสี่ยวยียุ่งมาก อย่าไปรบกวนเธอเลย เดี๋ยวฉันไปรับเสี้ยวเสี้ยวให้ เจ้าตัวเล็กไม่ได้เจอแกกับพ่อแกหลายวันแล้ว”
ใกล้จะถึงเวลาเลิกเรียนของอนุบาลแล้ว โจวยู่ชุ่ยเอ่ยยิ้มๆ “เดี๋ยวฉันไปรับเธอมาที่โรงพยาบาล ไม่แน่นะ พอพ่อแกได้ยินเสียงของเสี้ยวเสี้ยวอาจจะฟื้นขึ้นมาเลย”
ท่าทางโจวยู่ชุ่ยดูนิ่งสงบ แต่จริงๆแล้วภายในใจเธอลุกลี้ลุกลนสุดๆ
ส่วนฉินซี หน้าตาลังเลนิดหน่อย
ไม่ใช่ว่าเธอคลางแคลงอะไร แค่รู้สึกมีอะไรไม่ชอบมาพากล แต่ก็คิดไม่ออกว่าตรงไหนกันแน่ที่ผิดปกติ
โจวยู่ชุ่ยเห็นฉินซีไม่ยอมตอบรับสักที เริ่มร้อนใจขึ้นมา แต่ทำหน้าทำตาเป็นเสียใจ
เธอส่ายหัว พูดตาแดงก่ำ “ดูท่า แกยังไม่เชื่อฉัน แต่ไม่เป็นไร แม่เข้าใจได้ ถึงแม้ฉันถูกบังคับให้ลงมือกับพ่อแก แต่มันก็เป็นเรื่องจริง ฉันทำตัวเอง”
พูดไป น้ำตาเธอก็ไหลออกมา
“แม่ ไม่ใช่แบบนั้น แม่เป็นยายของเสี้ยวเสี้ยวนะ หนูจะไม่เชื่อใจแม่ได้ยังไงกัน”
ฉินซีรีบดึงมือโจวยู่ชุ่ยมาจับพลางอธิบาย “แค่ช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นหลายอย่าง หนูเลยไม่ค่อยสบายใจ ไม่เกี่ยวกับแม่”
“ถ้าอย่างนั้น แกตกลงให้ฉันไปรับเสี้ยวเสี้ยวใช่มั้ย?”
โจวยู่ชุ่ยดีใจขึ้นมา เธอถามอย่างตื้นตันพลางเช็ดน้ำตา
ฉินซียิ้มพลางพยักหน้า “แน่นอนค่ะแม่ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ วันนี้รบกวนแม่ไปรับเสี้ยวเสี้ยวด้วยนะคะ”
“ได้เลย แกวางใจเถอะ ฉันต้องพาเสี้ยวเสี้ยวกลับมาหาแกได้อย่างปลอดภัยแน่นอน” โจวยู่ชุ่ยพูดอย่างตื้นตัน
พอได้รับอนุญาตจากฉินซี โจวยู่ชุ่ยรีบออกมาทันที
ขณะเดียวกัน เธอเกิดตื่นเต้นขึ้นมาในใจอยู่นิดหน่อย รู้สึกเร้าใจสุดๆ
เพิ่งออกจากโรงพยาบาล โจวยู่ชุ่ยก็กดโทรศัพท์ “คุณเมิ่ง ตอนนี้ฉันกำลังไปรับลูกสาวของหยางเฉินที่โรงเรียนอนุบาลหลานเทียน คุณรีบส่งคนมารับที่โรงพยาบาลเร็ว”
“ได้”
อีกด้านของสาย หลังจากเมิ่งเทียนเจียววางสายไป ก็มีสีหน้าบิดเบี้ยวและหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้ล้างแค้นไวขนาดนี้ หยางเฉิน ฉันจะทำให้แกต้องอยู่อย่างทรมานยิ่งกว่าตาย!”
พูดจบ เขาก็ขับรถไปที่โรงเรียนอนุบาลหลานเทียนด้วยตัวเอง
เมืองเจียงโจว โรงเรียนอนุบาลหลานเทียน
เวลานี้เป็นเวลาผู้ปกครองมารับเด็ก หน้าอนุบาลต่อแถวกันยาวเหยียด เป็นผู้ปกครองที่มารับเด็กทั้งนั้น
ส่วนใหญ่เป็นปู่ย่าของเด็ก โจวยู่ชุ่ยก็เป็นหนึ่งในนั้น ในใจตื่นเต้นอยู่นิดหน่อย
ตั้งแต่ที่ฉินต้าหย่งกลายเป็นเจ้าชายนิทรา เธอก็อยู่อย่างหวาดหวั่นมาโดยตลอด เพราะกลัวว่าเรื่องของตัวเองจะถูกเปิดโปง
วันนี้ ในที่สุดเธอก็ได้โอกาส
ขอแค่ส่งตัวเสี้ยวเสี้ยวให้เมิ่งเทียนเจียว หยางเฉินต้องตายอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้น ก็ไม่มีใครมาขวางตอนเธอฆ่าฉินต้าหย่งอีก
“ยาย!”
ไม่นานนักก็ถึงตาโจวยู่ชุ่ยรับเด็ก ตอนที่เสี้ยวเสี้ยวเห็นเธอหน้าตาเซอร์ไพรส์ เจ้าหล่อนรีบวิ่งเข้าไปกอดโจวยู่ชุ่ย “ยายคะ เสี้ยวเสี้ยวไม่เจอคุณยายมานานมากเลย เสี้ยวเสี้ยวคิดถึงยาย”
คุณครูอนุบาลเพิ่งเคยเจอโจวยู่ชุ่ยเป็นครั้งแรก แต่เห็นท่าทางสนิทสนมของเสี้ยวเสี้ยวและโจวยู่ชุ่ย เธอจึงปล่อยให้โจวยู่ชุ่ยพาเสี้ยวเสี้ยวไปโดยไม่สงสัยอะไร
ช่วงนี้เสี้ยวเสี้ยวถูกส่งไปให้คนอื่นดูแล ส่วนโจวยู่ชุ่ยก็ปักหลักอยู่ที่โรงพยาบาล หาโอกาสลงมือกับฉินต้าหย่ง เป็นเวลาสักพักแล้วที่เสี้ยวเสี้ยวไม่ได้เจอเธอเลย
พอตอนนี้ได้เจอยาย เสี้ยวเสี้ยวดีใจมาก
โจวยู่ชุ่ยมองเจ้าตัวเล็กที่กอดตัวเองแน่นแล้วรู้สึกทำไม่ลง
แต่ความทำไม่ลงนั้น ผ่านเข้ามาเพียงแวบเดียว
ถึงยังไง ตัวเองก็ไม่ใช่ยายแท้ๆของเสี้ยวเสี้ยว
“ยายก็คิดถึงเสี้ยวเสี้ยวมากเหมือนกัน”
ใบหน้าของโจวยู่ชุ่ยเปื้อนยิ้ม จับมือของเสี้ยวเสี้ยวไว้พลางกล่าว “ยายพาแกไปเที่ยวที่สนุกๆเอามั้ย?”
เสี้ยวเสี้ยวได้ยินว่าจะไปเที่ยว ใบหน้าเล็กๆเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “ได้เลย! ได้เลย! ยายคะ หนูอยากไปสวนสนุก”
“ไม่มีปัญหา ขอแค่เสี้ยวเสี้ยวเชื่อฟัง เป็นเด็กดี ยายก็จะพาแกไปเที่ยวสวนสนุก” โจวยู่ชุ่ยกล่าวยิ้มๆ
เธอพูดพลางหันมองรอบๆ พยายามหาเมิ่งเทียนเจียว
“ยายคะ ทำไมเรายังไม่ไปอีก”
เสี้ยวเสี้ยวที่ยืนรออยู่หน้าประตูโรงเรียนอนุบาลมาสิบนาทีเต็ม ถามขึ้นอย่างสงสัย
เมิ่งเทียนเจียวยังไม่โผล่มาอีก โจวยู่ชุ่ยร้อนใจมาก
“เร่งอะไรนักหนา? เราก็รอรถอยู่นี่ไง”
โจวยู่ชุ่ยที่กำลังหงุดหงิดตะคอกขึ้นมาทันควัน
เสี้ยวเสี้ยวปิดปากเงียบทันที น้ำตาคลอเบ้า อยากร้องไห้ แต่ก็กลัวโจวยู่ชุ่ย
“ฉันรอคุณมายี่สิบนาทีแล้ว ทำไมคุณยังไม่ถึงอีก?”
โจวยู่ชุ่ยโทรหาเมิ่งเทียนเจียว พูดอย่างอารมณ์ไม่ดี
“อีกห้านาที!”
เมิ่งเทียนเจียวตอบแค่ประโยคเดียวก่อนจะวางสาย
“คุณรอใครมายี่สิบนาทีหรือ?”
โจวยู่ชุ่ยยังไม่ทันเก็บมือถือ เสียงอันคุ้นเคยเสียงหนึ่งพลันดังขึ้นด้านหลังเธอ
พอได้ยินเสียงนี้ โจวยู่ชุ่ยขนลุกไปทั้งตัว ในใจหวาดกลัวจนถึงขีดสุด
“พ่อ!”
เสี้ยวเสี้ยวได้ยินเสียงของหยางเฉิน รีบพุ่งเข้าไปในอ้อมกอดของหยางเฉินด้วยหน้าตาตื่นเต้น
“เสี้ยวเสี้ยว คิดถึงพ่อมั้ย?”
หยางเฉินกอดเสี้ยวเสี้ยวไว้ด้วยหน้าตารักใคร่
“คิดถึงพ่อ แล้วก็แม่ แล้วก็น้า แล้วก็ตากับยาย เสี้ยวเสี้ยวคิดถึงทุกคนเลย”
เสี้ยวเสี้ยวกอดคอหยางเฉินแน่น แต่เมื่อกี้เพิ่งโดนโจวยู่ชุ่ยว่ามา ขอบตาจึงยังรื้นอยู่
หยางเฉินจะพลาดรายละเอียดนี้ไปได้ยังไงกัน?
“หยาง….หยางเฉิน แกมาได้ยังไง”
โจวยู่ชุ่ยพูดทั้งที่ตัวสั่นงึกงัก เสียงยังสั่นเครือไปด้วย
หยางเฉินหรี่ตามองโจวยู่ชุ่ย ถามอย่างเย้ยหยัน “เหมือนคุณจะกลัวมากนะที่เห็นผม? หรือทำอะไรไม่ดีมา เลยนึกกลัวรึ?”
“ฉัน….ฉันจะกลัวแกไปทำไมกัน”
โจวยู่ชุ่ยหน้าตาไม่ปกติ รีบควักมือถือออกมา แกล้งทำเป็นดูแล้วพูดขึ้น “แท็กซี่ที่ฉันเรียกทำไมยังไม่มาอีกนะ?”
หยางเฉินแค่นหัวเราะ ไม่พูดอะไร เขาอุ้มเสี้ยวเสี้ยวแล้วเดินออกไปเลย
“พ่อคะ ยายบอกว่าจะพาหนูไปเที่ยวสวนสนุก”
พอขึ้นรถมา จู่ๆเสี้ยวเสี้ยวก็เอ่ยขึ้น
หยางเฉินหรี่ตามองโจวยู่ชุ่ย โจวยู่ชุ่ยหลบสายตา ไม่กล้าจ้องตากับหยางเฉินตรงๆ ลนลานในใจถึงขีดสุด ไม่กล้าหายใจแรงด้วยซ้ำ