The king of War - บทที่ 346 ผู้หญิงโง่เขลา
หยางเฉินก็นึกไม่ถึงเช่นกัน จะมาเจอคนคุ้นเคยที่นี่ได้
มองเฉินยิงเหาที่ยืนสั่นเทาอยู่ตรงหน้าตนเอง และไม่กล้าเงยหน้า ทันใดนั้นรู้สึกน่าตลกอยู่บ้าง
เจ้าหนุ่มคนนี้ คาดไม่ถึงว่าหวาดกลัวตนเองถึงขั้นนี้เลย?
“ประธานเฉินคะ ท่านเข้าใจผิดแล้วหรือเปล่าคะ? เขาเป็นเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยของฉัน ชื่อหยางเฉิน พึ่งเรียนจบมาเมื่อห้าปีก่อน จากนั้นก็แต่งงานเข้าตระกูลเล็กๆ ของเมืองเจียงโจวไปค่ะ”
“ท่านเป็นถึงคุณชายตระกูลใหญ่ชั้นนำเพียงหนึ่งเดียวของเมืองโจวเฉิงนะคะ อนาคตจะดูแลตระกูลเฉิน มาก้มหัวให้เขาได้อย่างไรกัน?”
“จะต้องเป็นท่านจำคนผิดแล้วแน่ๆ! ใช่ จะต้องเป็นแบบนี้แน่นอน!”
หลังจากตกใจไปพักหนึ่ง หยูเสี่ยวเวยรีบเดินเข้ามาทันที มองเฉินยิงเหาอยู่พลางพูดขึ้น
“หุบปาก!”
เฉินยิงเหาตะโกนใส่หยูเสี่ยวเวยไปทีหนึ่ง จากนั้นมองหยางเฉินด้วยท่าทางหวาดผวาแล้วบอกว่า “คุณหยางครับ นังผู้หญิงคนนี้กล้าเหยียดหยามท่านอย่างคาดไม่ถึง ท่านวางใจได้ครับ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป หล่อนไม่ใช่คนของเมืองเทียนฝู่อีกแล้วครับ”
เฉินยิงเหาพูดประโยคนี้ออกมา ชั่วขณะนั้นทั้งหมดตื่นตกใจ!
หยูเสี่ยวเวยยิ่งถลึงดวงตาโตขึ้น พูดแบบหน้าตาไม่อยากเชื่อเต็มที่ “ประธานเฉินคะ เพื่อสวะที่แต่งเข้าบ้านผู้หญิงคนหนึ่งแล้ว ท่านอยากไล่ฉันออกจากเมืองเทียนฝู่?”
“ประธานเฉินครับ เสี่ยวเวยเป็นหัวหน้าของเมืองเทียนฝู่นะครับ หลายปีมานี้ ระมัดระวังและมีจิตใจรับผิดชอบสูง สร้างคุณูปการมากมายให้แก่บริษัทเลยนะครับ”
ผู้จัดการหลี่รีบพูดว่า “ยังมีลูกค้าอีกมากมายล้วนต้องการหล่อนมาดูแล ถ้าหล่อนไปแล้ว จะต้องสร้างความเสียหายใหญ่โตให้เมืองเทียนฝู่แน่ครับ”
บนหน้าหยางเฉินมีเลศนัยบางอย่าง ยิ้มกริ่มมองเฉินยิงเหาอยู่ อยากจะดูหน่อยว่าเขาจัดการเรื่องนี้อย่างไร
“หุบปากเดี๋ยวนี้!”
เฉินยิงเหาตะโกนอย่างโมโห “แกมีความคิดอะไร หรือว่าฉันยังไม่เข้าใจงั้นเหรอ?” แกแม่งสามารถเป็นพ่อของนังผู้หญิงคนนี้ได้แล้ว แม่งยังมาทำเป็นแฟนกัน?”
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ดี แกเอาตำแหน่งผู้จัดการของเมืองเทียนฝู่มาหาผลประโยชน์ ทำลายผู้หญิงมากแค่ไหนแล้ว”
“นังแพศยาคนนี้กลายเป็นหัวหน้าของเมืองเทียนฝู่ได้ คงเป็นแกแอบบงการอยู่ข้างหลังสิท่า?”
“ถ้าแม้แต่คุณหยางยังกล้ามาล่วงเกินได้ งั้นพวกแกสองคนก็ไสหัวออกไปให้ฉันเถอะ!”
เฉินยิงเหาไม่ไว้หน้าเลยสักนิด อยากไล่สองคนนี้ออกในตอนนี้เลย
ในใจเขารู้สึกหวาดผวาถึงขีดสุด ตั้งแต่ครั้งก่อนที่เมืองโจวเฉิง หลังเจอพลังยิ่งใหญ่ของหยางเฉินแล้ว หยางเฉินจึงกลายเป็นฝันร้ายของเขาไปตั้งแต่แรกแล้ว
แม้กระทั่งเคยฝันร้ายหลายครั้งจนต้องสะดุ้งตื่น เป็นเพราะฝันว่าหยางเฉินอยากฆ่าเขานั่นเอง
ปัจจุบันนี้อยู่ถิ่นฐานของตนเอง คาดไม่ถึงมีคนกล้าผิดใจผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้เข้า นี่ไม่ใช่หาเรื่องวุ่นวายมาให้เขาเหรอ?
หยูเสี่ยวเวยกับแฟนของหล่อน เวลานี้ต่างทำหน้าไม่อยากเชื่อ ถอยหลังแบบโซซัดโซเซไปหลายก้าว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือหยูเสี่ยวเวย ในใจยิ่งรู้สึกสยองขวัญ หล่อนสามารถเป็นหัวหน้าที่เมืองเทียนฝู่ได้ ทั้งหมดเพราะอาศัยแฟนของหล่อน
อยู่ที่เมืองเทียนฝู่ ไม่ต้องทำงานหนักหลังขดหลังแข็ง สามารถได้รับเงินเดือนรวมห้าแสน สำหรับหล่อนนั้น คือนั่งเฉยๆ ก็ได้เงินมา
หลายปีมานี้ หล่อนใช้ชีวิตแบบอยู่ดีกินดีมาจนติดเป็นนิสัยตั้งนานแล้ว ทุกเรื่องล้วนมอบหมายให้ลูกน้องทำหมด ส่วนตัวหล่อนเอง โดยพื้นฐานก็ใช้ชีวิตไปวันๆ ไม่มีความสามารถอะไร
ถ้าไปจากเมืองเทียนฝู่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงเงินเดือนรวมห้าแสน แม้แต่เงินเดือนรวมห้าหมื่น หล่อนยังไม่มีทางได้รับมาแน่
“ตึก!”
ในเวลานี้เอง ผู้จัดการหลี่คุกเข่าลงแทบเท้าของเฉินยิงเหาฉับพลัน หน้าตกใจกลัวเต็มที่พูดว่า “ประธานเฉินครับ ทุกอย่างนี้เป็นความผิดของหยูเสี่ยวเวยนังตัวดีคนนี้ทั้งหมด ไม่เกี่ยวอะไรกับผมเลยครับ”
“ตอนที่ท่านพึ่งมา ผมก็พึ่งมาถึงเหมือนกันครับ สรุปว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ผมยังไม่ทันเข้าใจกระจ่างเลยครับ”
“ขอร้องท่านให้โอกาสผมสักครั้งนะครับ ผมจะต้องจัดการเรื่องนี้ให้ดีแน่นอนครับ”
ผู้จัดการหลี่พูดจาอย่างหวาดวิตก เขากลัวขึ้นมาจริงๆ แล้ว
เมืองเทียนฝู่ ในฐานะเมืองของเล่นโบราณที่ใหญ่สุดของเมืองเอก การเป็นผู้จัดการอยู่ที่นี่ แค่ส่วนแบ่งการขายแต่ละปีอย่างเดียว เขายังได้รับมาเป็นหลักล้าน
นี่ยังไม่รวมกับที่เขาแอบทำธุรกิจเองบางส่วนด้วย ถ้าโดนไล่ออก คงหาตำแหน่งแบบเดียวกันไม่ได้อีกเป็นอันขาด
โดยเฉพาะเป็นการขายของเล่นโบราณอาชีพนี้ ไม่มีวิธีการตรวจของมีค่า และไม่มีความสามารถด้านการขาย งั้นต่อให้เปลี่ยนตำแหน่งหน้าที่อย่างไร ก็คงไม่มีคนต้องการ
หยูเสี่ยวเวยได้ยินคำพูดของผู้จัดการหลี่ ขาอ่อนยวบลง ก้นกระแทกนั่งบนพื้นแล้ว
เห็นได้ชัดว่าผู้จัดการหลี่อยากเอาตัวรอดคนเดียว อยากให้หล่อนมาแบกรับผลลัพธ์ทุกอย่าง
“ในเมื่อแกไม่ไสหัวไป งั้นอย่าโทษว่าฉันไม่เกรงใจ!”
เฉินยิงเหาหรี่ตาพูดขึ้น จากนั้นหยิบมือถือออกมา ต่อสายไปยังหมายเลขหนึ่ง “ให้เวลาแกครึ่งวัน เอาบัญชีทุกอย่างที่ผู้จัดการหลี่เหว่ยของเมืองเทียนฝู่เป็นคนทำ ตรวจสอบให้ชัดเจนทั้งหมด ถ้ามีพฤติกรรมฝ่าฝืนกฎใดๆ จะไม่ยอมเด็ดขาด!”
ผู้จัดการหลี่หน้าอึ้งทึ่งเต็มที่ ในลูกตาเต็มไปด้วยความตกใจกลัว
เขาในฐานะผู้จัดการของเมืองเทียนฝู่ บัญชีทุกอย่างของที่นี่ ล้วนต้องผ่านมือของเขาหมด
ถ้าอยากตรวจสอบเขาจริง สามารถตรวจสอบเล่ห์กลพวกนั้นที่เขาแอบทำลับหลังได้อย่างง่ายดาย
“ประธานเฉินครับ ผมไสหัวไป ผมไสหัวไปตอนนี้แล้วครับ!”
ผู้จัดการหลี่พูดจบ หมุนตัวอยากออกไป
“ตอนให้แกไสหัวไปแกไม่ยอมไป ตอนนี้สายไปแล้ว! รอรับการตรวจสอบเถอะ!”
เฉินยิงเหาพูดอย่างแข็งกร้าวมาก
ถ้าไม่ใช่เพราะผู้จัดการหลี่ล่วงเกินหยางเฉินเข้า บางทีเขาอาจเห็นแก่ในส่วนที่ตามติดตระกูลเฉินมานานขนาดนี้ จะปล่อยเขาไปสักครั้ง
แต่เห็นได้ชัดว่าเขาผิดใจหยางเฉินเข้า บุคคลยิ่งใหญ่ที่แม้แต่ผู้นำของตระกูลเฉินยังต้องก้มหัวยอมจำนนให้
“ป้าบ!”
ผู้จัดการหลี่หน้าโกรธแค้นเต็มที่ ตบบนหน้าของหยูเสี่ยวเวยทีหนึ่ง ตะโกนว่า “เป็นเพราะเธอนังตัวดีคนนี้ ตาต่ำดูคนผิด เวลานี้เป็นยังไงล่ะ แม้แต่ฉันยังโดนเธอลากมาลำบากด้วย เธอรอฉันเอาไว้ ถ้าฉันเกิดเรื่องอะไรขึ้น เธออย่าคิดว่าจะหนีพ้น!”
พอได้ยิน หยูเสี่ยวเวยสั่นเทาขึ้นมาอย่างรุนแรงไปทั้งตัว
คำพูดนี้ของผู้จัดการหลี่ เห็นได้ชัดว่ากำลังบอกเป็นนัย
เพราะเล่ห์เหลี่ยมฝ่าฝืนกฎทั้งหมดของผู้จัดการหลี่ ล้วนมีหยูเสี่ยวเวยเข้าร่วมด้วย
ถ้าผู้จัดการหลี่ถูกตรวจสอบอะไรออกมา หยูเสี่ยวเวยก็หนีไม่รอดเหมือนกัน ถึงตอนนั้น มีเพียงข้าวคุกที่รอหล่อนอยู่
“หยางเฉิน พวกเราเป็นเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยกันนะ นายจะมองฉันถูกไล่ออกจากเมืองเทียนฝู่ไปต่อหน้าต่อตาไม่ได้เด็ดขาด”
แวบหนึ่งหยูเสี่ยวเวยพุ่งไปถึงตรงหน้าหยางเฉิน มือสองข้างที่จับหยางเฉินไว้สั่นเทาพูดว่า “นายรีบช่วยฉันขอร้องกับประธานเฉินเร็ว ชาตินี้ฉันจะไม่ลืมบุญคุณของนายเลย”
“ตอนนี้รู้ว่าพวกเราเป็นเพื่อนกันแล้วเหรอ? เมื่อกี้ไม่ใช่ยังโอหังมาก และอยากให้แฟนเธอมาสั่งสอนฉันเหรอ?”
หยางเฉินส่งเสียงหัวเราะสักหน่อย พูดเยาะเย้ย “ในเมื่อขอร้องให้ฉันช่วย แต่เธอยังคงใช้น้ำเสียงคำสั่ง ดูอยู่เหนือคนอื่น เธอถือว่าเป็นใครกัน มาคู่ควรได้รับบุญคุณของฉัน? ไสหัวไป!”
หยางเฉินในเวลานี้ หน้าตาเหยียดหยามเต็มไปหมด ตะโกนคำว่า“ไสหัวไป”ออกมา ราวกับเสียงฟ้าผ่า ระเบิดดังข้างหูของหยูเสี่ยวเวย
หยูเสี่ยวเวยท่าทางอึ้งทึ่งเต็มที่ ขาอ่อนแรงซวนเซ ตัวโงนเงนถอยหลังติดกันเจ็ดแปดก้าว
“ฉันไม่ยอม!”
หลังจากนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง หยูเสี่ยวเวยตาแดงก่ำ ตวาดใส่เฉินยิงเหาทีหนึ่ง ก่อนจะชี้ไปยังหยางเฉิน สอบถามทางเฉินยิงเหาว่า “เขาเป็นลูกเขยแต่งงานบ้านผู้หญิงคนหนึ่ง มีสิทธิ์อะไรกัน เพื่อเขาแล้ว คุณถึงมาไล่พวกเราออกจากเมืองเทียนฝู่?”
เฉินยิงเหาทำหน้าเย็นชา “เธอถือว่าเป็นใครกัน มาถามฉันได้เหรอ? เชื่อหรือไม่ฉันพูดแค่คำเดียวก็ทำให้เธอตายอย่างอนาถได้เลย?”
เฉินยิงเหาท่าทางโกรธจัด ผู้หญิงโง่คนนี้ คือโง่เขลาถึงขั้นสุดทีเดียว
เมื่อไม่ได้รับความเห็นชอบของหยางเฉิน เขาย่อมจะไม่เปิดเผยสถานะของหยางเฉินออกไปแน่
เวลานี้ หยางเฉินกลับหัวเราะแบบมีเลศนัยขึ้นกะทันหัน “เธออยากรู้ขนาดนี้เลยหรือว่าทำไมเขาถึงทำแบบนี้?”
“ทำไม?”
หยูเสี่ยวเวยเอ่ยปากถามโดยจิตใต้สำนึก