The king of War - บทที่ 347 หลักฐานแน่นหนา
“เธอ ไม่สมควรรู้!”
หยางเฉินพูดจาหยอกเย้าขึ้นกะทันหัน
ชั่วขณะนั้นหยูเสี่ยวเวยอับอายจนโมโห “นายหลอกฉัน?”
ถึงแม้หยางเฉินจะไม่ต่อล้อต่อเถียงกับผู้หญิงคนนี้ แต่ก็ไม่มีนิสัยลืมความแค้นและมอบความเมตตาให้แทน
ผู้หญิงคนนี้ยั่วยุมาครั้งแล้วครั้งเล่า และแตะโดนขีดความอดทนของเขาแล้วด้วย
ซึ่งในเวลานี้เอง มือถือของเฉินยิงเหาดังขึ้นมาแล้ว เขามองดูหมายเลขโทรศัพท์แวบหนึ่ง ส่งเสียงหัวเราะเยาะ พลันรับสายโทรศัพท์ทันที
“ประธานเฉินครับ เรื่องที่ท่านให้ผมตรวจสอบเมื่อสักครู่ กำลังดำเนินการตรวจสอบอย่างเต็มที่อยู่ครับ แต่เมื่อสักครู่นี้ ตรวจเจอเรื่องหนึ่งที่ค่อนข้างสำคัญครับ ผมจำเป็นต้องรายงานท่านโดยด่วนครับ!”
“เมื่อก่อนหน้านี้เดือนหนึ่ง บัญชีของเมืองเทียนฝู่ มีเงินทุนห้าสิบล้านโอนออกไป เข้าบัญชีส่วนตัวของหลี่เหว่ยแล้วครับ แต่ที่ทางฝ่ายการเงิน กลับไม่มีการบันทึกใดๆ ครับ!”
“ผมสงสัยว่าหลี่เหว่ยยักยอกเงินบริษัทเป็นการส่วนตัวครับ!”
เพราะเฉินยิงเหาเปิดลำโพงโทรศัพท์ไว้ เวลานี้ ทุกคนล้วนได้ยินคำพูดพวกนี้กันหมด
ชั่วขณะนั้นผู้คนทั้งหมดเงียบงัน แต่ละคนถลึงตาโตมองทางหลี่เหว่ยที่ตัวสั่นเทา
ตอนที่หยูเสี่ยวเวยได้ยินเรื่องนี้ ลูกตาหดตัว ในใจหวาดผวาถึงขั้นสุดแล้ว
หลี่เหว่ยดูอึ้งทึ่งอย่างยิ่ง อ่อนแรงไปทั้งตัว ในที่สุดก็ทรุดลงบนพื้น แม้แต่เรี่ยวแรงยืนขึ้นมายังไม่มีเลย
เฉินยิงเหาสีหน้าดูแย่มากเช่นกัน เขารู้ว่าหลี่เหว่ยมีปัญหา กลับนึกไม่ถึงว่าจะสร้างปัญหาใหญ่ขนาดนี้ คาดไม่ถึงจะโอนเงินห้าสิบล้านเข้าบัญชีส่วนตัวของหลี่เหว่ยแล้ว
“ไอ้สารเลว สรุปแกทำอะไรแล้ว?” เฉินยิงเหาพูดอย่างโมโห
ในรุ่นคนหนุ่มสาวของตระกูลเฉิน ไม่มีตำแหน่งของใครแซงหน้าเขาไปได้
เฉินซิงไห่มอบเมืองเทียนฝู่ให้เขาได้ นั่นอธิบายได้อย่างชัดเจนว่าความสามารถของเขาไม่ธรรมดา
ไม่นับเรื่องที่เขาเคยล่วงเกินหยางเฉินนี้ไป เฉินยิงเหายังยอดเยี่ยมมากจริงๆ ว่ากันว่าช่วงที่เรียนปริญญาเอก ไม่ได้อาศัยตระกูลเฉิน พึ่งพาแค่กำลังของตนเอง สร้างอิงเหาอินเทอร์แนชันแนลแล้ว
“ประธานเฉินครับ ผมผิดไปแล้ว ผมสำนึกผิดแล้วจริงๆ ครับ ขอให้ท่านปล่อยผมไปสักครั้ง ผมสำนึกผิดแล้วจริงๆ……”
หลี่เหว่ยพูดจาสับสน ร่างกายสั่นเทารุนแรง
เขารู้ชัดเจนอย่างมาก การยักยอกเงินบริษัทเรื่องนี้ นำพาความยุ่งยากใหญ่หลวงแค่ไหนมาสู่ตนเองได้
“หลี่เหว่ย เสียแรงที่ฉันเฉินยิงเหาไว้ใจแก นึกไม่ถึงว่าแกจะยักยอกเงินห้าสิบล้าน ยังใจกล้าบ้าบิ่นจริงๆ นะ!” เฉินยิงเหาโกรธจนสีหน้าเขียวปัด
เรื่องนี้เขาไม่ปล่อยหลี่เหว่ยไปแน่นอน และอีกอย่างยังถูกหยางเฉินเจอเข้าแล้ว
เขากลัวว่าจะสร้างความไม่พอใจให้หยางเฉินเข้า พอเป็นแบบนี้ เฉินซิงไห่ทอดทิ้งเขาเป็นแน่
“ประธานเฉินครับ ต้องโทษนังแพศยาคนนี้ หล่อนยุยงให้ผมเอาเงินก้อนหนึ่งจากบริษัทไปซื้อหุ้น รอให้ทำเงินได้แล้วค่อยแอบเอาเงินกลับมาใส่บัญชีคืนครับ”
“แต่ใครจะรู้ว่าวันแรกที่ผมเอาเงินลงทุนไปในตลาดหุ้น ก็เสียไปหลายล้านเลย ในใจผมไม่ยินยอม คิดว่าวันนี้เสียหลายล้าน ไม่แน่พรุ่งนี้อาจหาล้านหลายกลับมาได้”
“แต่นึกไม่ถึงว่าหลายวันต่อมาจะเสียไปทุกวันเลย เจ็ดวันติดกัน เงินทุนห้าสิบล้าน เหลือเพียงแค่ยี่สิบล้านเอง”
“เวลานี้ผมถึงสำนึกได้ว่าเดือดร้อนใหญ่แล้ว เลยรีบขายหุ้นเปลี่ยนเป็นเงินทันที แต่ภายในไม่กี่วันสั้นๆ กลับสูญเงินไปสามสิบล้านแล้ว!”
“ประธานเฉินครับ ผมผิดไปแล้ว สำนึกผิดแล้วจริงๆ ครับ ขอร้องท่านให้โอกาสผมสักครั้งหนึ่ง ผมจะพยายามหาเงินให้บริษัทเต็มที่แน่นอน ทุ่มเทคืนเงินก้อนนี้ให้เร็วที่สุดครับ”
หลี่เหว่ยร้องไห้สะอึกสะอื้น เขากลัวขึ้นมาแล้วจริงๆ ถ้าเกิดเฉินยิงเหามอบตัวเขาไปสอบสวน ครึ่งชีวิตหลังของเขาคงต้องใช้ชีวิตในคุกเป็นแน่
“งั้นยี่สิบล้านที่เหลือล่ะ?” เฉินยิงเหากัดฟันถาม
หลี่เหว่ยรีบยื่นมือชี้ไปทางหยูเสี่ยวเวยทันที “นังตัวดีคนนี้ บอกให้ผมให้เวลาหล่อนหนึ่งเดือน หล่อนมีวิธีเอาเงินที่สูญไปหากลับมาได้ครับ เงินที่เหลืออยู่ที่หล่อนทางนั้นหมดเลยครับ”
หยูเสี่ยวเวยสีหน้าซีดเซียว มองเห็นว่าเรื่องราวเปิดเผยออกมาแล้ว หล่อนจึงรีบโวยวายเสียงดัง “หลี่เหว่ย คุณพูดมั่วซั่ว ที่จริงฉันไม่รู้เรื่องที่คุณยักยอกเงินห้าสิบล้านนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเงินยี่สิบล้านอะไรเลย!”
“แกนังแพศยาคนนี้ แกพูดอะไร?” หลี่เหว่ยตาแดงก่ำตะคอกใส่
“เรื่องที่คุณทำเอง เกี่ยวอะไรกับฉันด้วย?”
หยูเสี่ยวเวยยื่นมือถอดป้ายพนักงานโยนทิ้งลงพื้น “เมืองเทียนฝู่วิเศษวิโสอะไรกันนักหนา? ฉันไม่ทำแล้ว!”
พูดจบ หล่อนก็หมุนตัวอยากจะออกไป
“ถ้าเธอกล้าก้าวออกจากเมืองเทียนฝู่สักก้าวเดียว ฉันก็กล้าทำให้วินาทีที่เธอเดินออกจากเมืองของเล่นโบราณศตวรรษนั้น ถูกรถชนตายอยู่กลางถนน!”
เฉินยิงเหาฝืนกลั้นความรู้สึกโกรธไว้ พูดขึ้นมาด้านหลังหยูเสี่ยวเวยโดยฉับพลัน
เขาไม่ได้โง่ มาถึงขั้นนี้แล้ว หลี่เหว่ยย่อมไม่พูดโกหกเด็ดขาด
หยูเสี่ยวเวยจะต้องรู้สึกหวาดผวา ถึงอยากจะรีบหนีไปให้ไว
คาดไม่ถึงว่าคำพูดข่มขู่ของเฉินยิงเหาจะทำให้หยูเสี่ยวเวยสั่นไปทั่วตัว เท้าข้าหนึ่งที่กำลังอยากก้าวออกจากเมืองเทียนฝู่ชะงักกลางอากาศ ไม่กล้าวางลงแล้ว
เฉินยิงเหามีสถานะอะไร หยูเสี่ยวเวยรู้ชัดเจนดีมาก นั่นเป็นคุณชายของตระกูลเฉินแห่งเมืองโจวเฉิง จะเล่นงานหล่อนให้ตายนั้น ง่ายดายเหลือเกิน
“ประธานเฉินคะ ท่านอย่าฟังหลี่เหว่ยพูดเหลวไหลนะคะ เรื่องที่เขายักยอกเงินบริษัท เดิมทีฉันไม่รู้ค่ะ สำหรับเงินยี่สิบล้านที่เขาบอกว่าให้ฉัน ยิ่งไม่มีมูลความจริงเลยค่ะ”
หยูเสี่ยวเวยหน้าดูลนลานเต็มที่ รีบบอกปฏิเสธทันที
“หยูเสี่ยวเวย แกนี่ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆ โชคดีที่ฉันมีแผนสำรองไว้ ไม่อย่างนั้นคงโดนแกใส่ร้ายเข้าจริงๆ!”
หลี่เหว่ยพูดขึ้นกะทันหัน หยิบมือถือออกมา เปิดเทปบันทึกเสียงช่วงหนึ่งขึ้น
“ที่รักคะ ทั้งฝ่ายการเงินของเมืองเทียนฝู่ล้วนเป็นคุณตัดสินใจได้หมด กลัวอะไรกัน? จะว่าไปพวกเราเพียงแค่ยืมใช้ชั่วคราวสักหน่อยเอง ไม่ใช่ว่าไม่คืนกลับมา”
“คุณวางใจได้ หุ้นตัวนี้ ฉันจ้องมาเดือนหนึ่งแล้ว สถานการณ์เป็นแบบไหน ฉันรู้ดียิ่งกว่าใคร ขอแค่ลงทุนเข้าไปห้าสิบล้านในตอนนี้ อีกหนึ่งเดือน จะต้องเพิ่มขึ้นอีกสิบล้านแน่นอน!”
“ถึงตอนนั้น พวกเราค่อยเอาเงินห้าสิบล้านมาคืนบริษัท ที่เหลืออีกสิบล้าน พวกเราก็ลงทุนในตลาดหุ้นกันใหม่ จากสติปัญญาของเมียคุณ ภายในเวลาหนึ่งปี รับรองว่าทำให้สิบล้านเพิ่มเป็นหลายเท่าได้แน่!”
เทปบันทึกเสียงมีเพียงช่วงหนึ่งเท่านี้ แต่พอเป็นหลักฐาน เรื่องที่หลี่เหว่ยยักยอกเงินห้าสิบล้านได้ เป็นหยูเสี่ยวเวยล่อลวงจริง
“นังแพศยา ตอนนี้แกยังจะอธิบายยังไงอีก?” หลี่เหว่ยตวาดใส่
หยูเสี่ยวเวยทำหน้าเซ่อซ่า อย่างไรเสียหล่อนก็คาดไม่ถึงว่าหลี่เหว่ยที่ถูกหล่อนปั่นหัวเล่นมาโดยตลอด จะซ่อนแผนสำรองเอาไว้ด้วย
ด้วยแผนการเดียวนี้ ตีหล่อนตกที่นั่งลำบากถึงที่สุด
แต่เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว หยูเสี่ยวเวยตาแดงก่ำตะโกนขึ้น “ไม่ผิด! ฉันอยากให้แกยักยอกเงินห้าสิบล้าน แต่อำนาจอยู่ในมือของแก ที่ซื้อหุ้นก็เป็นบัญชีของแก ฉันไม่ได้เอาเงินไปสักแดงเดียว แล้วเกี่ยวอะไรกับฉันด้วย?”
“งั้นแกฟังเสียงบันทึกนี้อีกสักหน่อยแล้วกัน!” หลี่เหว่ยเปิดเสียงบันทึกช่วงหนึ่งอีกครั้ง
“ที่รัก คุณไม่ต้องท้อใจไป ครั้งนี้สูญเงิน แต่ไม่ใช่ว่าพวกเราจะไม่มีโอกาสพลิกสถานการณ์ได้สักหน่อย”
“ยี่สิบล้านที่เหลือ คุณเอามาให้ฉันทั้งหมด ให้เวลาฉันหนึ่งเดือน ฉันรับประกันว่าจะหาเงินห้าสิบล้านมาให้คุณ”
เสียงบันทึกช่วงหนึ่งที่สั้นมาก พิสูจน์ความจริงในที่สุด เงินที่เหลือนั้น หลี่เหว่ยเอาให้หยูเสี่ยวเวยจริงๆ
หยูเสี่ยวเวยหน้าอึ้งทึ่งเต็มที่ กำลังอยากพูดอะไร หลี่เหว่ยกลับแย่งพูดไปก่อน “ฉันรู้ อาศัยแค่เสียงบันทึกพวกนี้ ยังไม่มีทางพิสูจน์ได้ว่าฉันเอาเงินที่เหลือนั้นให้แกไปทั้งหมด ถูกหรือเปล่า?”
“ไม่เป็นไร ฉันยังมีหลักฐาน!”
หลี่เหว่ยหัวเราะเยาะติดกันพลางพูดขึ้น
“ที่รัก บัญชีที่คุณให้ผม ทำไมไม่ใช่ของคุณล่ะ?”
“ที่รักคะ นี่คือบัญชีเซี่ยงหยางอาจารย์ของฉัน คุณวางใจได้เลย เขาจะไม่หลอกฉันแน่นอน”
“ได้ งั้นผมจะโอนเงินเข้าไปให้ตอนนี้!”
เป็นอีกเสียงบันทึกหนึ่ง
ทุกคนต่างทำหน้าตกใจกันหมด นึกไม่ถึงว่าเจ้าหมอนี่จะระแวงเช่นนี้ ดูท่าทางคงมีจิตใจระแวดระวังต่อหยูเสี่ยวเวยตั้งแต่แรกแล้ว