The king of War - บทที่ 395 เชิญท่านลงโทษ
บอกว่าอยากรับหยางเฉินเป็นพี่ชาย ถึงแม้เป็นเธอที่พูดออกมาเอง แต่เป็นเพราะตอนนั้นมันอดใจไว้ไม่ได้ ถึงพูดว่าอยากรับหยางเฉินเป็นพี่ชาย
แต่เห็นได้ชัดว่าหยางเฉินคิดจริงแล้ว เห็นเธอเป็นน้องสาวจริงๆ
มีคำพูดนี้ของหยางเฉิน ความหวาดกลัวในใจของฉินยีมลายหายไปในชั่วพริบตาเดียว ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกอบอุ่น
“โอ๊ะ? น้องเมียกลายมาเป็นน้องสาวเหรอ?”
หยางหลิ่วได้ยินคำพูดของหยางเฉินแล้ว พูดจาอย่างหน้าตาหยอกเย้า
เฝิงจี้จงหัวเราะเสียงดังขึ้นมา “ฉันว่าเป็นน้องสาวคนรักมากกว่ามั้ง? ฮ่าๆๆๆ~”
เห็นท่าทางของสองคนที่กำเริบเสิบสานหัวเราะเสียงดัง ฉินยีเพียงรู้สึกสะอิดสะเอียน
เวลาผ่านไปแต่ละวินาที ในชั่วพริบตาเดียวก็ผ่านไปห้านาทีแล้ว ทว่ายังคงไม่เห็นเฝิงฉวนพาคนเข้ามา
หกนาที!
แปดนาที!
สิบนาที!
ไม่นานก็มาถึงสิบนาทีแล้ว แต่ว่าเฝิงฉวนยังไม่ปรากฏตัวออกมา
“ไอ้หนุ่ม สิบนาทีก็ถึงแล้ว ผู้นำเฝิงที่แกพูดถึง ทำยังไม่มาอีกล่ะ?”
เฝิงจี้จงยกมือดูที่ข้อมือแวบหนึ่ง พูดแบบเสียดสี “กล้ามาเสแสร้งต่อหน้าฉัน นี่ไม่ใช่แกกำลังตบหน้าตัวเองอยู่เหรอ?”
หยางหลิ่วแสยะปากหัวเราะขึ้นมา “พี่คะ เมื่อกี้ฉันบอกพี่ไปแล้ว เขาเป็นแค่ลูกเขยแต่งเข้าบ้านผู้หญิงคนหนึ่ง มีสิทธิ์อะไรสั่งให้ผู้นำเฝิงมาด้วยตัวเองได้กัน?”
ในแววตาลึกของหล่อนเต็มไปด้วยความเคียดแค้นที่บิดเบี้ยว
ความจริงหล่อนรู้จักความยิ่งใหญ่เกรียงไกรของหยางเฉิน ตอนแรกนั้นหยางเฉินเพียงพาชายกำยำสูงใหญ่คนเดียวมาเยือนตระกูลหยาง ระหว่างยกมือกระหน่ำฆ่ายอดฝีมือชั้นสูงของตระกูลหยางได้
คำพูดประโยคเดียว บีบตระกูลหยางเซ็นสัญญาที่ไม่เป็นธรรม ใช้ราคาถูกที่สุด มาเอากิจการหลายสิบปีของตระกูลหยาง โอนให้แก่หยางเฉิน
จากนั้นตระกูลหยางถูกตระกูลนับไม่ถ้วนของเมืองโจวเฉิงพาคนมาล้อมโจมตี ถ้าไม่ได้สติปัญญาอันเฉียบแหลมของผู้นำของตระกูลหยาง เกรงว่าวันนั้นคนของตระกูลหยางคงต้องตายทั้งหมด
หลังออกมาจากเมืองโจวเฉิง ตระกูลหยางก็ยากจนข้นแค้น อยากจะฟื้นตัวกลับมารุ่งเรืองแบบตระกูลหยางในอดีต เดิมทีไม่มีความหวังใดๆ
ยังมีผู้ชายที่หล่อนรักที่สุด เพราะฉินยี ถึงตกตึกตายไป
ทุกอย่างนี้ ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะผู้ชายและผู้หญิงตรงหน้าคู่นี้!
ปัจจุบันนี้ ตระกูลเฝิงนำสิทธิ์การจัดงานประชุมแลกเปลี่ยนให้แก่ตระกูลเมิ่ง ตระกูลเมิ่งสัญญาว่าจะสนับสนุนตระกูลเฝิงขึ้นมามีตำแหน่ง ในสายตาหยางหลิ่ว พึ่งพามือของตระกูลเฝิง ถึงจะสามารถแก้แค้นคืนได้
เวลานี้ หล่อนจะยอมปล่อยโอกาสที่จะได้เหยียบย่ำหยางเฉินและฉินยีไปได้อย่างไร?
“พี่ชาย จากที่ฉันดู พี่อย่าไปมัวแต่พูดไร้สาระกับพวกเขามากขนาดนี้เลย”
“ถึงแม้ผู้หญิงคนนี้จะเป็นของมือสอง แต่ก็ถือว่าหน้าตาดีระดับหนึ่ง พี่เอาหล่อนไปตรงๆ ให้หล่อนปรนนิบัติพี่ดีๆ สักคืน”
“จำเป็นต้องมาพูดไร้สาระกับพวกเขามากขนาดนั้นด้วยเหรอ? คิดจริงหรือว่าพวกเขาจะเรียกผู้นำเฝิงมาได้?”
หยางหลิ่วหัวเราะคิกคักพูดขึ้น
ต้องพูดว่าผู้หญิงคนนี้ความคิดเหี้ยมโหดเสียเหลือเกิน ทั้งที่หล่อนรู้จักความแกร่งของความสามารถหยางเฉิน ยังจงใจยุยงเฝิงจี้จงให้ฝืนใจฉินยีอีก
นี่ไม่ใช่กำลังช่วยเฝิงจี้จง แต่เป็นกำลังทำลายเขา!
เพราะหยางหลิ่วรู้แจ่มแจ้ง ถ้าเกิดเฝิงจี้จงลงไม้ลงมือกับฉินยี หยางเฉินจำเป็นต้องเอาชีวิตเขาแน่
รอหยางเฉินฆ่าเฝิงจี้จงทิ้งแล้ว ตระกูลเฝิงที่มีแนวโน้มรุ่งเรืองขึ้นในปัจจุบันนี้ จะปล่อยหยางเฉินไปได้อย่างไร?
เฝิงจี้จงหัวเราะเสียงดังขึ้นมา หัวเราะอย่างบ้าระห่ำแล้วพูดว่า “น้องสาวพูดมีเหตุผล ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันไม่เถียงกับพวกเธอแล้ว ประธานฉิน เธอนอนเป็นเพื่อนฉันคืนหนึ่ง แล้วฉันจะปล่อยพี่ชายคนรักของเธอไป เป็นยังไงบ้าง?”
กำลังพูดอยู่ เฝิงจี้จงยื่นมือไปทางฉินยี
หยางเฉินหรี่ดวงตาเล็กน้อย กำลังอยากลงมือ ในเวลานี้เอง เสียงตะโกนดุดันดังขึ้นจากหน้าประตูร้านอาหาร “หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
ภายใต้ความตกใจของทุกคน ภาพชายวัยกลางคนอยู่ภายใต้การอารักขาของชายกำยำรูปร่างสูงใหญ่หลายคน วิ่งเข้ามาในร้านอาหารแบบเหงื่อเต็มหน้า
ชั่วขณะนั้นมือของเฝิงจี้จงแข็งค้างกลางอากาศ ในโทรศัพท์ก่อนหน้านี้ ท่วงทำนองเสียงเปลี่ยนไป เขาฟังไม่ออกว่าเป็นเสียงของเฝิงฉวน
แต่ตอนนี้ เขาได้ยินชัดเจนอย่างมาก เป็นผู้นำของตระกูลเฝิง เสียงของเฝิงฉวน
ตอนที่หยางหลิ่วมองเห็นเฝิงฉวนก็ทำหน้าอึ้งทึ่งเช่นกัน พูดตะกุกตะกักด้วยท่าทางไม่อยากเชื่อ “นี่……นี่เป็นไปได้อย่างไร?”
“ผู้……ผู้นำ! ท่าน……ท่านมาได้อย่างไรครับ?”
ภายในใจเฝิงจี้จงหวาดผวาถึงขีดสุด น้ำเสียงกำลังสั่นเครือ
เวลานี้ บนหน้าของเฝิงฉวนเต็มไปด้วยแรงอาฆาตแค้นที่รุนแรง กัดฟันแน่นพูดว่า “คือแก? พูดในสายโทรศัพท์เมื่อกี้นี้ว่าถ้าฉันคือเฝิงฉวน แกก็เป็นปู่ฉัน?”
“ตึก!”
เฝิงจี้จงอ่อนแรงไปทั้งตัว หัวเข่าทั้งสองกระแทกลงพื้นด้วยความหนักอึ้ง สีหน้าตกใจกลัวเต็มที่และพูดว่า “ผู้……ผู้นำ ผม……ผมไม่รู้จริงๆ ว่าเป็นท่าน! ถ้ารู้ว่าเป็นท่าน ต่อให้ผมใจกล้าบ้าบิ่นแค่ไหน ผมก็ไม่กล้าพูดจาแบบนั้นกับท่านครับ!”
เวลานี้ ความคิดที่เขาอยากร้องไห้ก็มีแล้ว
คนมุงดูอยู่รอบด้านเหล่านั้น แต่ละคนตกใจค้างไปแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเจอกับผู้นำของตระกูลใหญ่ชั้นนำคนหนึ่งในระยะใกล้ชิด
แต่ที่ทำให้ในใจทุกคนตื่นตกใจคือ หรือว่าเมื่อสักครู่ชายหนุ่มคนนั้นโทรศัพท์หาเฝิงฉวนจริง?
ถ้าเป็นแบบนี้จริง นั่นไม่ได้หมายความว่าเบื้องหลังของชายหนุ่มคนนี้น่าสยองยิ่งกว่าอีกเหรอ?
มิฉะนั้นเขาโทรศัพท์สายเดียว จะทำให้ผู้นำตระกูลเฝิงมาที่ร้านอาหารแห่งนี้ด้วยตนเองได้อย่างไร?
ภายในสายตาของทุกคน เฝิงฉวนรีบเดินมาตรงหน้าหยางเฉิน
เสียงดัง“ตึก” ผู้นำของตระกูลเฝิงคุกเข่าลงแทบเท้าหยางเฉินต่อหน้าสาธารณชน
ปัง!
ฉากนี้ กระทบกระเทือนหัวใจของแต่ละคนอย่างลึกซึ้ง!
ส่วนเฝิงจี้จงที่คุกเข่าอยู่ด้านข้าง ตอนที่มองเห็นเฝิงฉวนคุกเข่าลงแทบเท้าหยางเฉิน ทั่วตัวสั่นเทารุนแรงแบบควบคุมไม่อยู่
ชายหนุ่มคนหนึ่งที่สามารถทำให้ผู้นำตระกูลเฝิงคุกเข่าให้ สรุปว่าเป็นใครกัน?
หยางหลิ่วที่อยู่ด้านข้าง ลูกตาหดตัว หน้าตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ขาอ่อนซวนเซ ร่างกายถอยหลังไปสามสี่ก้าว “ไม่! เป็นไปไม่ได้! นี่เป็นไปได้ยังไงกัน?”
ส่วนฉินยีที่อยู่ข้างกายหยางเฉิน เวลานี้งงตาค้างไปแล้ว คนแก่ที่คุกเข่าคนนี้ เป็นผู้นำของตระกูลเฝิง เฝิงฉวนจริงเหรอ?
“ตึง! ตึง! ตึง!”
เฝิงฉวนไม่พูดจาสักคำ หลังคุกเข่าลง ก็โขกศีรษะไปสามทีโดยตรง โขกศีรษะลงแต่ละครั้ง ล้วนใช้แรงอย่างมากด้วย
หลังจากโขกศีรษะสามครั้งติดกัน บนหน้าผากของเฝิงฉวนมีเลือดสดไหลริน
“เพราะรถติด ผมเลยมาสายไปสองนาทีแล้วครับ!”
เฝิงฉวนสีหน้าหวาดกลัวเต็มที่ อธิบายไปก่อนประโยคหนึ่ง จากนั้นพูดว่า “ขอเชิญคุณหยางลงโทษด้วยครับ!”
ทั้งหมดในเหตุการณ์ตื่นตกใจ!
ไม่เพียงเพราะเฝิงฉวนคุกเข่าลงต่อหยางเฉิน ที่ยิ่งทำให้คนตื่นตกใจคือที่เฝิงฉวนคุกเข่าไม่ใช่เพราะเฝิงจี้จง แต่เพราะว่าเขามาสายไปสองนาทีแล้ว
เพราะมาสาย ยังต้องคุกเข่าคำนับศีรษะ ขอให้หยางเฉินลงโทษ
อย่างนั้นเรื่องที่เฝิงจี้จงเหยียดหยามหยางเฉิน เฝิงฉวนจะจัดการอย่างไร?
เฝิงจี้จงที่คุกเข่าอยู่อีกข้าง รู้สึกเพียงว่าร่างกายอ่อนยวบไร้เรี่ยวแรงทั้งตัว ความหวาดผวาในใจทำให้เขาหน้าตาหมดอาลัยตายอยาก
หยางหลิ่วยิ่งทำหน้าเซ่อซ่ามากกว่า ก้นกระแทกนั่งลงบนพื้น ดวงตาเหม่อลอย สีหน้าดูไม่อยากเชื่อเต็มที่
หยางเฉินไม่ได้สนใจเฝิงฉวนที่คุกเข่าขอให้เขาลงโทษ แต่ว่ามองทางเฝิงจี้จงที่อยู่ด้านข้าง
“แกบอกว่าอยากให้น้องสาวของฉัน นอนกับแกคืนหนึ่ง?”
หยางเฉินเอ่ยปากทันใด ขณะเดียวกันค่อยๆ เดินไปทางเฝิงจี้จง
“ไม่ ไม่ใช่! ประธานฉินเป็นน้องสาวของท่าน ต่อให้ผมใจกล้าบ้าบิ่นแค่ไหน ผมก็ไม่กล้าให้เธอมานอนกับผมครับ!”
เฝิงจี้จงใกล้จะร้องไห้แล้ว รีบปฏิเสธทันที
มองหยางเฉินเดินมาทางตนเองทีละก้าว เขาตกใจจนฉี่ใกล้ราดแล้ว
หยางเฉินเดินมาข้างหน้าต่อไป และพูดว่า “แกยังบอกว่าอยากให้ฉันชดใช้อย่างปวดร้าว?”
“ไม่กล้าครับ ที่ผมพึ่งพูดไปล้วนพูดจาไร้สาระ! ผมจะกล้าให้ท่านมาชดใช้อย่างปวดร้าวได้อย่างไรครับ?”