The king of War - บทที่ 399 นี่คือการข่มขู่
“บางทีพ่อของนายอาจมีความลำบากใจอะไรก็ได้” ทันใดนั้นหญิงสูงศักดิ์ถอนหายใจทีหนึ่งแล้วพูดขึ้น
“เขาไม่คู่ควรเป็นพ่อของผม!”
หยางเฉินพูดอย่างไม่เหลือเยื่อใยสักนิด “ตั้งแต่วินาทีนั้นที่เขาไล่ผมกับคุณแม่ออกจากตระกูลอวี๋เหวิน ผมก็ไม่มีพ่ออีกแล้ว!”
“ต่อให้มีความลำบากใจแค่ไหน นั่นแล้วอย่างไรกัน?”
“ผู้ชายที่เห็นแก่อำนาจคนหนึ่ง คู่ควรเป็นสามีและพ่อได้เหรอ?”
คำพูดของหยางเฉินเย็นชาอย่างยิ่ง ไม่มีความรู้สึกแม้แต่นิดเดียว
หญิงสูงศักดิ์ส่ายหน้าแล้ว ไม่พูดถึงเรื่องของตระกูลอวี๋เหวินอีกต่อไป พลังอำนาจบนตัวระเบิดขึ้นมาฉับพลัน มองทางหยางเฉินแบบเย็นยะเยือกก่อนจะพูดว่า “ฉันชื่อเย่ม่าน วันนี้ที่มาหานาย เพื่อคุยเรื่องของฉินซี”
หยางเฉินพูดด้วยหน้าตาไร้อารมณ์ “เธอเป็นภรรยาของผม คุณเป็นแค่คนนอก มีอะไรมาพูดถึงเธอกัน?”
“เธอคือลูกสาวของฉัน!”
เย่ม่านดวงตาแดงก่ำ กัดฟันพูดว่า “ลูกสาวที่ฉันตั้งท้องมาสิบเดือนแล้วคลอดออกมา!”
พูดประโยคนี้ออกมา หยางเฉินตกตะลึงไปกับที่
เขารู้ว่าฉินต้าหย่งกับโจวยู่ชุ่ยไม่ใช่พ่อแม่ที่แท้จริงของฉินซี
เขาเคยคิดว่าอยากช่วยฉินซีตามหาพ่อแม่แท้จริงของหล่อน แต่ว่าอย่างไรเสียก็นึกไม่ถึงว่ามารดาแท้จริงของหล่อนจะมาตามหาถึงที่ด้วยตนเองแล้ว
โดยเฉพาะอีกฝ่ายหนึ่งยังเป็นคนของตระกูลเย่ หนึ่งในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู!
ตั้งนาน หยางเฉินถึงได้สติกลับมา ถามว่า “คุณจะพิสูจน์ได้อย่างไรว่าเธอคือลูกสาวของคุณ?”
เย่ม่านกัดริมฝีปากแดง พูดด้วยท่าทางเศร้าใจ “ฉันเคยไปตรวจดีเอ็นเอมาแล้ว เธอคือลูกสาวของฉัน!”
สายตาของหยางเฉินตกอยู่บนใบหน้าที่งดงามของเย่ม่านในทันที
เย่ม่านสวยมากจริงๆ ดวงตากลมโต ตาสองชั้น จมูกโด่ง ใบหน้าสมมาตรอย่างมาก
ถึงแม้จะเป็นนักแสดงสวยงามวัยกลางคนที่มีเสน่ห์มากส่วนหนึ่ง ก็ยังเทียบกับบุคลิกและความงามบนตัวของเย่ม่านไม่ติด
จากบนหน้าของเย่ม่าน หยางเฉินมองเห็นเงาของฉินซีอยู่ในระดับหนึ่งจริง
ในที่สุดเขาก็มั่นใจว่าผู้หญิงตระกูลเย่ตรงหน้าคนนี้ เป็นมารดาแท้จริงของฉินซีจริง และคือแม่ยายของเขา
“ในเมื่อคุณเป็นแม่แท้ๆ ของเธอ คุณไม่คิดว่าคนที่คุณควรเจอมากที่สุดในตอนนี้ คือเธอเหรอ?”
ไม่นาน หยางเฉินใจเย็นลงมาแล้ว พูดจาด้วยหน้าตานิ่งสงบ
บุคลิกเย่ม่านสง่าผ่าเผยมาก กลิ่นอายบนตัวก็เย็นมากด้วย พูดจาเฉยเมย “นายคิดว่าฉันไม่อยากเหรอ?”
“พวกนี้ไม่ใช่เรื่องที่นายควรมากังวล วันนี้ที่ฉันมาหานาย มีเพียงเรื่องเดียว!”
“เรื่องอะไร?” หยางเฉินขมวดคิ้ว
“ออกไปจากลูกสาวของฉัน!”
เย่ม่านเอ่ยปากบอก ในสายตาเต็มไปด้วยความเย็นชา ไม่เห็นหยางเฉินอยู่ในสายตาสักนิดเดียว
สีหน้าของหยางเฉินค่อยๆ เย็นลงไปแล้ว
โจวยู่ชุ่ยแม่ยายจอมปลอมในตอนแรก ก็อยากจะแยกหยางเฉินกับฉินซีมาตลอด ปัจจุบันนี้แม่ยายตัวจริงคนนี้ คาดไม่ถึงอยากจะแยกพวกเขาออกเช่นกัน
“คุณมีสิทธิ์อะไร อยากแยกพวกเราจากกัน?” หยางเฉินเอ่ยปากถาม
ถ้าไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายเป็นมารดาผู้ให้กำเนิดของฉินซี จากสิ่งที่เธอพูดมาเมื่อสักครู่ เพียงพอให้หยางเฉินไล่เธอออกไป
“ก็สิทธิ์ที่ฉันคือแม่แท้ๆ ของเธอไง!” ท่าทีของเย่ม่านแข็งกร้าวอย่างมาก
“ผู้หญิงที่ไม่เคยเลี้ยงดูเธอมาเลย มีสิทธิ์พูดประโยคนี้เหรอ?”
หยางเฉินส่งเสียงหัวเราะ “ผมไม่สนว่าคุณกับเธอจะเกี่ยวข้องอะไรกัน และไม่สนใจว่าคุณมีสถานะอะไรด้วย ผมรู้แค่ว่าฉินซีเป็นภรรยาของผม แม่ของลูกสาวผม ใครก็อย่าคิดแยกพวกเราจากกัน!”
ถึงแม้ว่าท่าทีของเย่ม่านจะแข็งกร้าว แต่ท่าทีของหยางเฉินกลับแข็งกร้าวยิ่งกว่า
ไม่ง่ายที่เขากับฉินซีจะเดินมาถึงจุดนี้ด้วยกัน ฉินซียังยอมรับตนเองแล้วด้วย ตอนนี้มีผู้หญิงคนหนึ่งโผล่ออกมากะทันหัน เรียกตนเองเป็นมารดาแท้จริงของฉินซี ยังอยากแยกพวกเขาจากกัน นี่เป็นไปได้อย่างไร?
“นายนี่มันโอหังเสียจริง!”
เย่ม่านโกรธจัดแต่กลับหัวเราะ พูดอย่างเย็นชา “ถึงแม้ในตัวนายจะมีเลือดของตระกูลอวี๋เหวินอยู่ แต่แล้วอย่างไรกัน? นายไม่ใช่แค่พวกโดนทอดทิ้งที่ตระกูลอวี๋เหวินสะบัดทิ้งเหรอ แม้กระทั่งชาตินี้ยังห้ามเข้าเมืองเยี่ยนตูสักก้าวหนึ่ง”
“นายมีสิทธิ์อะไรครอบครองลูกสาวของฉัน?”
“อนาคต ฉินซีต้องตามฉันกลับไปที่ตระกูลเย่เมืองเยี่ยนตูด้วยกัน ถึงตอนนั้น เธอก็คือเจ้าหญิงที่สูงศักดิ์ของตระกูลเย่ คนที่มีอำนาจชื่อเสียงยิ่งใหญ่!”
“นายเป็นพวกที่โดนตระกูลทอดทิ้ง มีสิทธิ์อะไรมาถ่วงอนาคตของเธอ?”
“พ่อหนุ่ม ฉันขอเตือนนายนะ ออกไปจากเธอจะดีกว่า! ไม่อย่างนั้น……”
คำพูดของเย่ม่านไม่ทันพูดจนจบ แต่หยางเฉินเข้าใจ นี่คือกำลังข่มขู่เขา
“ไม่อย่างนั้นจะเป็นอย่างไรครับ?”
หยางเฉินถามแบบเย็นชา
ชั่วขณะนั้นเย่ม่านตะลึง เธอไม่ได้พูดให้กระจ่างแจ้ง คือการไว้หน้าหยางเฉินในระดับหนึ่ง แต่นึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะไม่รู้จักเจียมตัวเช่นนี้
“ไม่อย่างนั้นเบื้องหลังของตระกูลเย่ของฉัน ทั้งจิ่วโจว ล้วนจะไม่มีที่พอให้นายยืนเลยล่ะ!”
เย่ม่านเอ่ยปากบอก ทั่วทั้งตัวเป็นอำนาจคุกคามของผู้ปกครอง
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นผมขอเตือนคุณประโยคหนึ่ง!”
หยางเฉินหัวเราะแล้ว ทันใดนั้นสีหน้าค่อยๆ เย็นลง ลักษณะพลังบนตัวระเบิดขึ้นฉับพลัน พูดจาเย็นชา “ไม่ว่าจะเป็นใคร อย่าคิดจะแยกพวกเราออกจากกัน ความสุขของเธอ ผมหยางเฉินสามารถให้ได้!”
“ไม่ว่าใครใจกล้ารบกวนชีวิตของพวกเรา ถึงแม้จะเป็นตระกูลเย่ ขอเพียงกล้าขัดขวางความสัมพันธ์ของพวกเรา ผมจะไม่เกรงใจ ทำให้ตระกูลเย่ หาย-สาบ-สูญ-ไป!”
หยางเฉินพูดเน้นทีละตัว สีหน้าจริงจังอย่างยิ่ง
วินาทีนี้ เย่ม่านเหมือนจมสู่หุบเหวที่หนาวเหน็บ ทั้งตัวเย็นเฉียบเข้ากระดูก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่สบสายตาอันน่าสยองขวัญคู่นั้นของหยางเฉินเข้า ยิ่งทำให้เธออกสั่นขวัญแขวน
แต่ความหวาดกลัวแบบนี้ ก็เป็นแค่ช่วงไม่กี่วินาทีสั้นๆ
หลังได้สติกลับมา เย่ม่านอับอายจนโมโหในทันใด ครั้งนี้เธอมาจากเมืองเยี่ยนตู มีสองเรื่องสำคัญที่ต้องทำ เรื่องหนึ่งในนั้น คือการคิดหาวิธีแยกหยางเฉินและฉินซีออกจากกัน
แต่ที่นึกไม่ถึงคือเธอมาจากตระกูลใหญ่ของเมืองเยี่ยนตูที่น่าเกรงขาม กลับถูกพวกโดนทอดทิ้งในสายตาเธอ มาข่มขู่เอา
ประเด็นคือเธอยังถูกอีกฝ่ายขู่จนตกใจ สำหรับเธอแล้ว นี่คือความอัปยศอดสูทีเดียว
“เจ้าหนุ่มโอหัง! อย่าว่าแต่นายเลย ต่อให้เป็นอวี๋เหวินเกาหยางพ่อของนาย เขาจะกล้าพูดจาก้าวร้าว ทำลายตระกูลเย่ของฉันเหรอ?”
เย่ม่านโกรธเคือง กล่าวตำหนิ “วันนี้ฉันมาหานาย เพียงแต่หวังว่านายจะมองสถานการณ์ชัดเจน ลูกสาวของฉัน เป็นความภาคภูมิใจของตระกูลเย่ ไม่ใช่คนที่พวกโดนทอดทิ้งจะคู่ควรด้วยได้!”
“ส่วนทุกอย่างของนาย ฉันเคยตรวจสอบมาหมดแล้ว และเข้าใจอย่างดี ถึงแม้ตระกูลอวี๋เหวินจะเอาเยี่ยนเฉินกรุ๊ปให้นายแล้ว แต่พึ่งกิจการแห่งเดียว อยากมาคบกับลูกสาวของฉัน นายยังไม่มีสิทธิ์พอ!”
“ตอนนั้นถ้าไม่ใช่มีคนอยากจะหาพวกต่ำต้อยเลวทรามสุดๆ คนหนึ่งมาย่ำยีฉินซี นายจะสามารถแต่งเข้าตระกูลฉินได้อย่างไรกัน?”
“พึ่งแต่งงาน นายก็ไปแบบไม่บอกลา หลังหายตัวไปห้าปีถึงกลับมา ปัจจุบันนี้ตั้งแต่นายกลับมาถึงเมืองเจียงโจว แค่ครึ่งปีเอง”
“นายบอกฉันมา ในครึ่งปีนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างพวกนาย จะลึกซึ้งได้มากแค่ไหน?”
เย่ม่านพูดจาฉอดๆ คำพูดคมกริบอย่างมาก ในสีหน้าเต็มไปด้วยความโมโมเดือดดาล
หยางเฉินทำหน้านิ่งสงบ พูดจาเฉยชา “ผมหายตัวไปห้าปี แต่คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าทำไมผมถึงจากไปห้าปี? ในห้าปีนี้ ผมประสบพบเจออะไรมาบ้าง?”
“ส่วนคุณ ในสายตาของเสี่ยวซี มีเพียงความสัมพันธ์ที่ให้กำเนิด กลับไม่มีบุญคุณเลี้ยงดู คุณจะรู้ชัดเจนได้อย่างไรว่ายี่สิบกว่าปีมานี้ เธอในฐานะลูกเลี้ยง ได้รับการเหยียดหยามและความยากลำบากมากเท่าไร?”
“คุณไม่ถามดูว่าเสี่ยวซีอยากแยกกับผมหรือเปล่า กลับมาหาผมโดยตรง ขอร้องให้ผมไปจากเสี่ยวซี คุณทำแบบนี้ เคยเคารพเสี่ยวซีบ้างมั้ย?”