The king of War - บทที่ 451 จะทำอะไรฉันได้
เมื่อวาน หยางเฉินตบหน้าเขาหลายครั้ง จนฟันหลุดไปหมด จนสุดท้ายก็พูดอะไรไม่ออก
หยางเฉินถามคำหนึ่ง เขาบ่นคำว่าอืออือ แล้วหยางเฉินแปลความหมายคำว่า“อืออือ”เอง
“นาย นายเป็นคนพูดเอง ฉันไม่เคยสัญญาว่าจะให้ที่ดินผืนนั้นแก่นาย”
แม้ว่าจะหวาดกลัว แต่ถ้าที่ดินผืนนี้ถูกหยางเฉินแย่งชิงไปจริงๆ ตระกูลหวงจะต้องไม่ปล่อยเขาไปอย่างแน่นอน เขาตะโกนอย่างกังวลใจ
“ดูเหมือนว่า คุณหวงจะผิดคำสัญญาเหรอ?”
ทันใดนั้นหยางเฉินก็ยืนขึ้น และเดินไปหาหวงเจิ้งด้วยรอยยิ้ม ขณะที่เดินก็พูดไปด้วย “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ฉันจะถามซึ่งๆหน้าอีกครั้ง คุณหวงยินยอม มอบที่ดินผืนนั้นให้แก่ฉันหรือไม่”
แววตาของหวงเจิ้งมีเพียงความหวาดกลัวเหลืออยู่ สิ่งที่หยางเฉินทำไว้เมื่อวานส่งผลกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรง
และหยางเฉินบีบคั้นเข้ามาเรื่อยๆ รู้สึกว่าหัวใจของหวงเจิ้งไม่สามารถทนต่อแรงกดดันได้อีกต่อไป เหมือนจะระเบิด
“นาย นายอย่าเข้ามา!”
ใบหน้าของหวงเจิ้งเต็มไปด้วยความหวาดผวา สั่นไปทั้งตัว ทันใดนั้นก็ตะโกนเรียก “ตงเชย นายขวางเขาไว้!”
ตงเชยรู้ตัวว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ แต่หน้าที่ของเขาคือปกป้องหวงเจิ้ง แม้ว่าจะต้านทานไม่ไหว เขาก็ทำได้แค่ฝืนสู้ต่อไป
“ถ้าแกกล้าลงมือ ฉันจะเอาชีวิตแก!”
สีหน้าของหยางเฉินไม่เปลี่ยนแปลง และเขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
ชั่วขณะตงเชยหยุดเดิน มีความสับสนตัดสินใจไม่ถูก
เมื่อวานนี้เขาเพิ่งต่อสู้กับหยางเฉิน และเข้าใจความแตกต่างระหว่างซึ่งกันและกัน หยางเฉินมีพละกำลังที่จะฆ่าเขาได้
ในตระกูลหวงตงเชยอยู่ในอันดับหนึ่งในสามที่มีความแข็งแกร่ง ถึงกับตกใจกับคำพูดของหยางเฉิน ยืนนิ่งอยู่กับที่และไม่กล้าขยับ มองดูหยางเฉินเดินไปถึงตรงหน้าหวงเจิ้ง
“พ่อบ้านเกา ช่วยฉันด้วย!”
สีหน้าหวงเจิ้งเต็มไปด้วยความหวาดกลัว และตะโกน
ขณะนี้ตงเชยตกใจกลัวกับคำพูดของหยางเฉิน เขาทำได้เพียงฝากความหวังไว้ที่เกาสง
เกาสงทุบโต๊ะ และลุกขึ้นยืนทันที และพูดอย่างโกรธเคือง “ไอ้หนุ่ม นี่แกกำลังหาที่ตาย ถ้าแกกล้าแตะเขาแม้แต่ผมเส้นเดียว ตระกูลหวงจะต้อง……”
ก่อนที่คำพูดของเกาสงจะจบลง ก็หยุดกะทันหัน
เพราะหยางเฉินมาถึงตรงหน้าหวงเจิ้งแล้ว และจับคอของหวงเจิ้งไว้ทันที หวงเจิ้งเหมือนลูกไก่ในกำมือ ที่ถูกหยางเฉินดึงขึ้นด้วยมือเดียว
เขากล้าดียังไง?
ทุกคนในห้องประชุม ต่างตกตะลึง อีกฝ่ายหนึ่งเป็นทายาทของตระกูลหวง ผู้นำตระกูลหวงในอนาคต แต่ตอนนี้กลับถูกชายหนุ่มคนหนึ่ง ใช้มือข้างเดียวยกขึ้นมา
นี่มันไม่ใช่แค่การยั่วยุแล้ว แต่คือการทำสงครามโดยตรง!
ร่างกายของหวงเจิ้งลอยขึ้นไปในอากาศ แขนขากำลังดิ้นรนสุดๆ พยายามที่จะดิ้นให้หลุดพ้นจากมือของหยางเฉิน แต่ไม่ว่ายังไงก็ดิ้นไม่หลุด
“หยางเฉิน รีบวางหวงเจิ้งลง!”
หลังจากนิ่งอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง เกาสงก็ตะวาด
ในเวลาเดียวกัน ประตูห้องประชุมก็ถูกผลักออก ชายร่างกำยำห้าคน ก็วิ่งเข้ามา
ปากกระบอกปืนสีดำ เล็งไปที่หัวของหยางเฉิน
เหมือนกับว่าถ้ามีคนออกคำสั่ง ทั้งห้าคนจะยิงหยางเฉินพร้อมๆกัน
“ไอ้หนุ่ม ยังไม่รีบปล่อยหวงเจิ้งลงมา!”
เกาสงตะโกน แววตาอาฆาตแค้น
สำหรับตระกูลหวง อะไรที่พวกเขาไม่ได้ ก็ต้องทำลายให้สูญสิ้น
เดิมทีตระกูลหวงต้องการยืมมือของหยางเฉิน เพื่อควบคุมเจียงผิงและหนันหยังสองเมืองนี้ และในเวลาเดียวกันพวกเขาสามารถใช้ความเกลียดชังของหยางเฉินที่มีต่อตระกูลอวี๋เหวิน เพื่อจัดการกับตระกูลอวี๋เหวิน
ตอนนี้ดูเหมือนว่าหยางเฉินไม่เต็มใจที่จะประนีประนอมเลย ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เขาทำได้เพียงทำลายให้สูญสิ้น
ในที่สุดหยางเฉินก็ปล่อยมือของเขา หวงเจิ้งอ่อนปวกเปียกไปทั้งตัว เหมือนเพิ่งเดินเฉียดประตูนรกมา ความรู้สึกแบบนี้ ประสบการณ์เช่นนี้ในชีวิตนี้ไม่อยากเจอมันอีก
“เมื่อกี้แกเก่งมากไม่ใช่หรือ? แม้แต่ทายาทของตระกูลหวงก็ยังอยากจะฆ่า ทำต่อไปสิ!”
เกาสงมีความภาคภูมิใจ
ที่หยางเฉินปล่อยหวงเจิ้ง เขานึกว่าหยางเฉินตกใจกลัวกับมือปืนทั้งห้าคน
คนอื่นๆในห้องประชุม ยิ้มเยาะเย้ยแล้วมองไปที่หยางเฉิน
คนที่มีความสามารถเพียงเล็กน้อยเท่านั้น คิดว่าตัวเองเก่งกาจมากเลยเหรอ?
สู้กับตระกูลหวง ถ้าไม่ใช่หาที่ตายแล้วมันคืออะไร?
ตงเชยที่อยู่ด้านข้าง ไม่รู้ว่าทำไม รู้สึกกังวลใจเล็กน้อย
แน่นอนว่าไม่ใช่กังวลแทนหยางเฉิน แต่กังวลใจแทนตระกูลหวง
ด้วยขอบเขตความแข็งแกร่งของเขา เขารู้มากกว่านี้ ในโลกมนุษย์ ยังมีปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ดำรงอยู่บ้าง
ว่ากันว่า ถ้าปรมาจารย์โกรธ เลือดกระเซ็นเป็นพันไมล์!
เหมือนดั่งอาวุธปืน จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆกับปรมาจารย์เลย
ความแข็งแกร่งของหยางเฉินอยู่ในระดับใด จากความแข็งแกร่งของตงเชย ไม่อาจเข้าใจได้อย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ทุกคนผิดหวังก็คือ ต่อให้ปืนห้ากระบอกเล็งไปที่หัวในเวลาเดียวกัน จากสีหน้าของหยางเฉิน พวกเขามองไม่เห็นความหวาดกลัวแม้แต่น้อย
แต่กลับเห็นว่า มุมปากของหยางเฉิน ยกขึ้นเป็นแนวโค้ง ราวกับกำลังเยาะเย้ยพวกเขา
“ไอ้หนุ่ม แกหัวเราะอะไร?”
“แกคงคิดว่า ในระยะใกล้ขนาดนี้ ในเวลาเดียวกันมีปืนจำนวนมากเล็งมาที่หัว แกยังมีทางรอดอยู่ไหม?”
“วันนี้ เชิญเศรษฐีของทั้งสองเมือง และบอกพวกเขาว่า ในอนาคตทั้งสองเมือง จะต้องยอมจำนนต่อตระกูลหวง!”
เมื่อเห็นรอยยิ้มชั่วร้ายที่มุมปากของหยางเฉิน เกาสงก็อับอายจนโกรธ และตะโกนใส่หยางเฉิน
“พวกแกคิดว่า แค่ปืนที่เป็นเศษเหล็กเก่าๆไม่กี่กระบอก จะสามารถทำอะไรฉันได้เหรอ?”
หยางเฉินหรี่ตา ยิ้มแล้วพูด
แต่รอยยิ้มของเขา อยู่ในสายตาของหวงเจิ้ง มีความรู้สึกทำให้ขนลุกไปหมด
“เศษเหล็กเก่าๆ?”
เกาสงรู้สึกขบขันกับคำพูดของหยางเฉิน จากนั้นก็แสดงใบหน้าบึ้งตึง “ในเมื่อแกพูดว่า สิ่งของพวกนี้ที่สามารถฆ่าแกได้อย่างง่ายดายมันเป็นแค่เศษเหล็กเก่าๆ ถ้างั้นก็ให้แกได้เห็นว่า อยู่ท่ามกลางเศษเหล็กเก่าๆเหล่านี้ แกจะทนไปได้สักกี่น้ำ!”
“ยิง!”
เกาสงออกคำสั่งทันที
“เปรี้ยงๆๆ!”
เสียงปืนดังขึ้นทันที ปืนพกโคลท์ ซิงเกิลแอ๊คชั่น อาร์มี .45 ลอง โคลท์ที่สวยงามห้ากระบอก พร้อมกับไฟที่น่าสะพรึงกลัวออกมาจากปากกระบอกปืน
ทันทีที่เสียงปืนดังขึ้น ฉากที่ทำให้ทุกคนหวาดกลัวก็เกิดขึ้น
เดิมทีหยางเฉินซึ่งยืนอยู่ตรงนั้น หายตัวไปในอากาศ
“คนล่ะ?”
เกาสงถามด้วยความตกใจ
ไม่เพียงแค่เขาเท่านั้น แต่ยังมีคนอื่นๆก็หวาดกลัว ตัวเย็น ความรู้สึกตกใจเหมือนเห็นผี
ในระยะใกล้เช่นนี้ ถูกปืนห้ากระบอกเล็ง แต่ทันทีที่ยิงปืน หยางเฉินซึ่งกำลังยืนอยู่ข้างหน้าพวกเขา ก็หายตัวไป
เป็นไปได้อย่างไร?
“ตูมๆๆ!”
ขณะที่ทุกคนกำลังมองหาหยางเฉิน ฉากที่น่ากลัวก็เกิดขึ้น!
เห็นแต่มือปืนทั้งห้าคน ในเวลาเดียวกัน กระเด็นออกไปกลางอากาศ
ทุกคนรู้สึกตื่นตระหนกชั่วขณะหนึ่ง
“ตูม!”
ในที่สุดร่างของมือปืนคนสุดท้ายหล่นลงกับพื้นอย่างแรง ทุกคนก็ตั้งสติขึ้นมาได้
เห็นตำแหน่งที่มือปืนทั้งห้าคนยืนเมื่อกี้ มีเงาของชายหนุ่ม เอามือไขว้หลัง ยืนอยู่ตรงนั้น ด้วยสายตาขี้เล่น
และใต้เท้าของเขา ยังมีเศษเหล็กเก่าๆ
ในขณะนี้ ในมือของเขา ยังคงเล่นปืน โคลท์ ซิงเกิลแอ๊คชั่น อาร์มี .45 ลอง โคลท์สีดำเก่า
“กั๊กๆๆ!”
ภายใต้การจ้องมองของทุกคน ผลิตภัณฑ์เหล็กที่แข็งแกร่งและละเอียดมากนั้น เหมือนกระดาษแผ่นหนึ่ง ถูกขยำเป็นวงกลม และโยนลงไปที่พื้น
และก่อนหน้านี้ชายร่างใหญ่ทั้งห้าคนที่เล็งปืนมาที่เขา ทั้งหมดก็ล้มลงกับพื้น ไม่ทราบว่าจะอยู่หรือตาย
“นี่มัน……เป็นไปได้ยังไง?”
เกาสงกลืนน้ำลาย ใบหน้าเต็มไปด้วยความกลัว