The king of War - บทที่ 454 ตายในที่ห่างไกลจากบ้านเกิด
“ฉันไม่ยอมแพ้แน่นอน!”
ดวงตาของตงเชยเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
ตามที่เขาพูด สัญญาว่าจ้างระหว่างเขากับตระกูลหวงได้สิ้นสุดลงแล้ว ถ้าไม่ใช่หยางเฉิน บางทีเขาอาจจะต่ออายุสัญญากับตระกูลหวงต่อไป
แต่ตอนนี้ แม้จะต้องตาย เขาจะไม่ทำงานเพื่อตระกูลหวงอีกต่อไป
ที่จริงเขาก็อายุมากแล้ว และไม่มีเวลามากพอ ที่จะหาโอกาสได้เป็นปรมาจารย์
การได้พบกับหยางเฉิน เป็นโอกาสเดียวของเขา
ตอนนี้ตระกูลหวงต้องการฆ่าหยางเฉิน นี่เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เขาจะติดตามตระกูลหวงต่อไปได้อย่างไร และไปทำให้บุคคลที่ดำรงอยู่อย่างน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ขุ่นเคืองใจได้อย่างไร?
และหยางเฉิน ได้พาเกาสงจากไปแล้ว
เกาสงเดินตามหลังหยางเฉินอย่างหวาดกลัว เขาไม่รู้ว่าหยางเฉินจะพาเขาไปที่ไหน และไม่รู้ว่าทำไมหยางเฉินต้องพาเขาไป
แค่รู้ว่า คงจะไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน
แต่สิ่งที่โชคดีก็คือ ตอนนี้หยางเฉินไม่ฆ่าเขาแน่นอน
ขอเพียงไม่ตาย ก็จะมีโอกาสเสมอ!
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง รถก็แล่นเข้าสู่คฤหาสน์หนึ่ง
“คุณหยาง ท่านมาได้ไง?”
กวนเสว่ซงเห็นหยางเฉิน ทำสีหน้าประหลาดใจ
ในตอนนี้ กวนเสว่ซงเป็นผู้ดูแลตระกูลกวนอย่างเป็นทางการ กวนเจิ้งซานเกษียณอายุเพื่อพักฟื้นอยู่ที่บ้าน ภายในคฤหาสน์ตระกูลกวน ล้อมที่ดินแปลงเล็กๆไว้ ใช้ปลูกผักและดอกไม้ เพื่อเพลิดเพลินกับความสุข
“นี่คือพ่อบ้านตระกูลหวงในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู จะอยู่ในตระกูลกวนชั่วคราว เฝ้าดูเขาให้ดีๆ ถ้าให้เขาหนีไป คุณต้องรับผิดชอบ!”
หยางเฉินพูดอย่างเคร่งขรึม
เมื่อได้ยินเช่นนั้น กวนเสว่ซงสีหน้าเปลี่ยนไปทันที และชายชราที่มีหน้าตาขี้เหร่คนนี้ ที่แท้ก็เป็นหนึ่งในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู พ่อบ้านตระกูลหวง
“คุณหยางไม่ต้องกังวล ฉันจะไม่ปล่อยให้เขาก้าวเท้าออกจากตระกูลกวนแน่นอน!”
กวนเสว่ซงเข้าใจความหมายของหยางเฉิน ต้องการจับชายชราคนนี้กักขังไว้ในบ้าน
“ไม่ต้องไปจริงจังกับเขานัก ถ้ากล้าตุกติก ก็ฆ่าได้เลย!” หยางเฉินเตือนอีกครั้ง
สีหน้าเกาสงเปลี่ยนไปทันที เดิมทีคิดไว้ว่ารอให้หยางเฉินจากไปแล้ว คิดหาวิธีพยายามบีบบังคับและหลอกล่อ ให้พ่อบ้านกวนปล่อยเขาออกไป ตอนนี้ดูเหมือนว่า มันจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย
“ครับ คุณหยาง!” กวนเสว่ซงตอบอย่างรวดเร็ว
ในเวลาเดียวกัน ในใจเขาก็ตื่นตระหนก แม้แต่พ่อบ้านของตระกูลหวง ก็ถูกกักขังอยู่ในบริเวณบ้าน และยังมอบให้พ่อบ้านกวนเป็นคนรับผิดชอบ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า หยางเฉินมีความไว้วางใจต่อพ่อบ้านกวนมากแค่ไหน
หลังจากสั่งเรื่องเกาสงเสร็จแล้ว หยางเฉินก็จากไปทันที
ในเวลาเดียวกัน ข่าวใหญ่ที่ทำให้ทั่วเยี่ยนตูตกตะลึง ก็แพร่กระจายไปทั่วเยี่ยนตู พ่อบ้านของตระกูลหวงหนึ่งในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู ได้เสียชีวิตในต่างแดน!”
ทันทีที่ข่าวนี้ถูกเผยแพร่ ผู้คนในเยี่ยนตูต่างตกตะลึง ทุกที่กำลังคุยกันถึงเรื่องนี้
“เกาสงเสียชีวิตแล้วเหรอ! ว่ากันว่า ตระกูลหวงมีทุกอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ สิ่งที่ขาดไม่ได้คือเกาสง แม้แต่หวงเทียนเชิงผู้นำตระกูลหวงในวันนี้ ก็ได้รับความช่วยเหลือจากเกาสง ในบรรดาทายาทตระกูลหวงหลายคน สามารถโดดเด่นกว่าใครๆ”
“มีข่าวลือนี้จริงๆ เป็นเกาสงที่ทำผลงานให้กับหวงเทียนเชิง ตอนนี้เกาสงตายแล้ว คิดว่าชีวิตที่เหลืออยู่ของหวงเทียนเชิงคงจะลำบาก”
“แต่เดิมคนที่เคยแย่งชิงตำแหน่งเจ้าบ้านกับหวงเทียนเชิง ยังมีอีกสองคน และหวงเทียนเชิงเป็นหนึ่งในสามคนนี้ ที่มีความหวังน้อยที่สุดในการแย่งชิงตำแหน่งเจ้าบ้าน แต่ต่อมาเป็นเพราะเกาสง จึงได้กลายเป็นเจ้าบ้านตระกูลหวง”
“ในกรณีนี้ ตระกูลหวงจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน”
……
ความสำคัญของเกาสงที่มีต่อหวงเทียนเชิงนั้น ไม่ต้องอธิบายก็เข้าใจชัดเจน นี่เป็นสิ่งที่ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้ว
ตอนนี้ได้ข่าวเกาสงเสียชีวิตในต่างแดน แค่คิดก็นึกภาพออกว่าจะเกิดความโกลาหลแค่ไหน
บางตระกูลที่มีความแค้นกับตระกูลหวง ก็พร้อมที่จะเคลื่อนไหว กำลังเฝ้าดู รอคอยตระกูลหวงสู้กันเอง และไม่แน่อาจไม่ต้องไปสู้พวกเขาก็พ่ายแพ้กันเอง
เยี่ยนตู คฤหาสน์หลังใหญ่ที่มีสไตล์ย้อนยุค มีคฤหาสน์แบบเดี่ยวๆหลายหลัง
ในบรรดาคฤหาสน์ที่ใหญ่ที่สุด มีร่างสูงอายุ นั่งอยู่ที่ตำแหน่งหัวหน้า และด้านข้างทั้งสองข้าง นั่งอยู่หลายคน
“เจ้าบ้าน คุณควรให้คำอธิบายแก่พวกเรา เกิดอะไรขึ้นกับเกาสง?”
ชายชราที่ไว้เคราเป็นจุกที่คาง ซึ่งอยู่ข้างๆหวงเทียนเชิง ถามด้วยท่าทางไม่เป็นมิตร
“หวงเทียนหยา ฉันได้พูดไว้อย่างชัดเจนแล้วว่า เกาสงยังไม่ตาย นี่เป็นสิ่งที่คนอื่นต้องการกดดันตระกูลหวงของเรา จงใจเผยแพร่ข่าวเท็จ ทำให้ภายในตระกูลหวงของพวกเราต้องต่อสู้กันเอง เพื่อจะได้หาโอกาสจัดการกับพวกเรา”
หวงเทียนเชิงพูดด้วยความโกรธ
เขาเป็นเจ้าบ้านตระกูลหวงมาหลายปีแล้ว และทุกครั้งที่ตระกูลหวงเจอวิกฤติ พี่น้องของเขา จะมาหาเรื่องตลอด
หวงเทียนหยาเป็นพี่ชายคนที่สองของเขา และเป็นคนที่เแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งผู้นำตระกูลหวงกับเขา
“เจ้าบ้าน คำอธิบายของคุณเหตุผลไม่เพียงพอ ตอนนี้ข่าวได้แพร่กระจายไปแล้ว คุณยังบอกด้วยว่านี่เป็นข่าวลวงที่คนอื่นจงใจปล่อย ถ้างั้นฉันถามคุณ เกาสงอยู่ไหนล่?”
“ขอเพียงคุณสามารถทำให้เขาปรากฏตัวในตอนนี้ และให้เกาสงออกมาแก้ไขปัญหานี้โดยตรง จะยังมีเหตุการณ์ที่มีคนมาตำหนิติถามอยู่หรือไม่?”
หวงเทียนหยาถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา พูดไปพูดมา ก็คือต้องการให้เกาสงออกมา
“ฉันบอกแล้ว ฉันวางแผนให้เกาสงออกไป ทำงานภารกิจลับ เรื่องนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง และตอนนี้จะให้ใครรู้ไม่ได้!” หวงเทียนเชิงพูดอย่างโกรธเคือง
ไม่ว่าคนอื่นจะพูดอย่างไร เขาก็ยืนกรานเช่นนี้
“ฮึ่ม!”
หวงเทียนหยาทุบโต๊ะ และลุกขึ้น “หวงเทียนเชิง ถึงตอนนี้แล้ว นายยังจะหลอกพวกเราอีกหรือ?”
“ในเมื่อนายบอกว่าเกาสงถูกส่งไปทำภารกิจ ถ้างั้นนายบอกพวกเรา ส่งไปทำภารกิจอะไร?”
“อย่าเอาเหตุผลไร้สาระมาหลอกพวกเราเลย แน่นอน ถ้านายคิดว่า คนเก่าแก่อย่างพวกเรา จะทำลายผลประโยชน์ของตระกูล นายสามารถเลือกที่จะไม่บอกพวกเรา”
หวงเทียนหยาไม่ไว้หน้าหวงเทียนเชิง แม้แต่เจ้าบ้านก็ไม่ยอมเรียกแล้ว
“หวางเทียนหยาพูดถูก เรื่องนี้ คุณต้องให้คำอธิบายแก่พวกเรา!”
“ใช่ ต้องอธิบายให้พวกเราฟัง!”
“ถ้าไม่อธิบายให้ชัดเจน ถ้างั้นคุณก็ออกจากตำแหน่งเจ้าบ้าน!”
ชั่วขณะ ทุกคนก็โกรธ และคำพูดก็ไม่สุภาพเลย
สีหน้าหวงเทียนเชิงดูแย่มาก คนเหล่านี้ไม่ได้มาปรึกษาหารือกันแล้ว แต่กำลังบีบให้ออกจากตำแหน่ง
ถ้าเขาไม่สามารถทำให้เกาสงออกมาพูด เกรงว่าคนพวกนี้ จะต้องไล่เขาออกจากตำแหน่งเจ้าบ้านแน่นอน
เนื่องจากคนในสถานที่นี้ทั้งหมด เป็นสมาชิกของกลุ่มผู้อาวุโสของตระกูลหวง ร่วมกันควบคุมอำนาจของตระกูลหวง เมื่อพวกเขาร่วมมือกัน ก็มีคุณสมบัติที่จะถอดตำแหน่งเจ้าบ้านของเขาได้
“ให้เวลาฉันหนึ่งวัน พรุ่งนี้ในเวลานี้ ฉันจะบอกแผนการของฉันให้พวกคุณทราบ!”
หวงเทียนเชิงพูดออกทันที ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “แน่นอน ถ้าพวกคุณยืนยันจะบีบบังคับฉัน ก็อย่าโทษฉันที่ทำตัวไม่สุภาพ! อย่าลืมว่า ฉันเป็นเจ้าบ้านตระกูลหวง!”
แม้ว่าผู้อาวุโสของตระกูลหวงจะมีอำนาจ แต่ยังไงหวงเทียนเชิงก็เป็นเจ้าบ้านของตระกูลหวง
หวงเทียนเชิงพูดขนาดนี้แล้ว หากพวกเขายังบีบคั้นต่อไป มันก็มากเกินไปจริงๆ
เมื่อเรื่องราววุ่นวายใหญ่โตขึ้น ตระกูลหวงทั้งหมด อาจตกอยู่ในภาวะวิกฤติ
“โอเค ก็อย่างที่คุณบอก ให้เวลาคุณหนึ่งวัน ถ้างั้นพวกเราจะให้เวลาคุณหนึ่งวัน พรุ่งนี้ในเวลานี้ หากคุณไม่สามารถแก้ไขปัญหาความคิดเห็นที่คนในสังคมพูด ก็ถอนตัวจากตำแหน่งเจ้าบ้านเอง!”
หวงเทียนหยาพูดเสียงเย็นชา แล้วสะบัดแขนเดินออกไป