The king of War - บทที่ 530 ใครจะขวางฉันได้
มีคนรูปร่างสูงใหญ่กำยำ เดินตามหยางเฉินมาติดๆ คนนั้นคือหม่าชาว
ทั้งสองปรากฏตัวขึ้น ทำให้ทุกคนตกตะลึง
ทรราชที่เตรียมจะหักคอเย่ม่าน มองไปเช่นกัน เมื่อเห็นว่าคนที่มาถึงคือ ชายหนุ่มอายุยี่สิบกว่าปี แววตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“ถ้าฉันฆ่าเธอ แกจะฝังทั้งสมาคมบูโด ไปพร้อมศพเธออย่างนั้นเหรอ”
ทรราชถามอย่างยียวน ในแววตาลึกๆ เต็มไปด้วยความอาฆาต
เขารู้แล้วว่าคนที่มาคือหยางเฉิน เพราะได้ยินคนตระกูลเย่พูด
วินาทีที่เย่ม่านเห็นหยางเฉิน แววตาของเธอเต็มไปด้วยการเอาชีวิตรอด เธอรีบขัดขืนขึ้นมา
เธอรู้ว่าตอนนี้ คนที่สามารถช่วยเธอได้ คือหยางเฉินเท่านั้น
แต่ทว่า เธอยังอยู่ในมือทรราช คงยากที่จะได้รับความช่วยเหลือ
“แกฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง หรือหูแกมีปัญหา”
หยางเฉินถามด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนถึงกับตกตะลึง!
ทรราชโดนยั่วโมโหแล้ว
คำพูดของหยางเฉิน ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่มันเป็นคำด่าที่ไม่มีคำหยาบสักคำ
ถ้าให้แปลก็คือ “แกเป็นสัตว์ เลยฟังภาษาคนไม่เข้าใจ หรือแกหูหนวกกันแน่”
ไม่ต้องบอกก็รู้ ประโยคนี้กระทบทรราชเข้าอย่างแรง
“ไอ้กระจอก ฉันจะหักคอแกด้วยมือฉันเอง!”
ทรราชโกรธมาก เขาตวาดออกมา
ตัวของเขาสูงอยู่แล้ว เมื่อโมโห กล้ามเนื้อเลยปูด ทำให้เขาดูมีพละกำลังมาก
เย่ม่านเหมือนฝุ่นผง เมื่ออยู่ในมือเขา
“หยางเฉิน แกกล้ามาก ที่พูดไร้มารยาทกับท่านทรราช อย่าลืมสิ แม่ยายของแก อยู่ในมือเขานะ”
เย่หวูซวงพูดเสียงดัง
ไม่รู้ทำไม เมื่อเห็นท่าทางแน่วแน่ของหยางเฉิน จู่ๆ เขารู้สึกกังวลขึ้นมา
ขนาดตัวเขาเองยังรู้สึกตกใจ เขารู้สึกเหมือนทำพลาด ทรราชอาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหยางเฉิน
คำพูดของเขา กำลังบอกทรราช ให้ฆ่าเย่ม่านก่อน
ขอแค่เย่ม่านตาย ตำแหน่งผู้สืบทอดของเขา จะได้มั่นคง
หยางเฉินหรี่ตาลง เขาจะไม่รู้แผนการในใจของเย่หวูซวงได้อย่างไร
“แกจะตายอย่างน่าเวทนา!” หยางเฉินพูดอย่างเย็นชา
เขาพูดทิ้งท้าย และไม่สนใจเย่หวูซวงอีก
แต่การมองเพียงแวบเดียว กลับทำให้เย่หวูซวง รู้สึกเหมือนถูกมัจจุราชจ้องมอง ความเย็นยะเยือก แผ่ซ่านไปทั่วตัวเขา
“คนที่เป็นผู้แข็งแกร่งของสมาคมบูโด ไม่ควรจะทำร้ายผู้หญิงไม่ใช่เหรอ”
หยางเฉินมองทรราชและเอ่ยขึ้น “ปล่อยเธอ ฉันจะสู้กับแก เป็นยังไง”
“แล้วถ้าฉันจะฆ่าเธอล่ะ”
ทรราชมีสีหน้ายียวน อันที่จริง เขาแอบปล่อยมือเล็กน้อย แต่ทว่าจู่ๆ เขาก็บีบแรงขึ้น
เย่ม่านรู้สึกเหมือนคอใกล้จะหัก เธอตกใจเป็นอย่างมาก แขนขาตะเกียกตะกาย
ทรราชชอบการกลั่นแกล้งคนอื่นเป็นที่สุด โดยเฉพาะการที่ได้เห็นแววตาหวาดกลัวของคนอื่น เขารู้สึกประสบความสำเร็จ
แต่สิ่งที่ทำให้เขาผิดหวัง คือในแววตาของหยางเฉิน ไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย แววตาดำขลับ เต็มไปด้วยความน่ากลัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
“ผู้หญิงคนนี้ เป็นแม่ยายของแก แกไม่กลัวว่าฉันจะฆ่าเธอเหรอ”
ทรราชขมวดคิ้วและถามขึ้น
“คนอยู่ในมือแก จะฆ่าหรือไม่ มันเป็นเรื่องของแก”
หยางเฉินพูดด้วยสีหน้าราบเรียบ “แกคงไม่ได้เข้าใจว่าการที่ฉันมาที่นี่ เพราะต้องการช่วยผู้หญิงคนนี้หรอกใช่ไหม”
เมื่อได้ยินดังนั้น ทรราชถึงกับอึ้ง
ก่อนหน้านี้ เย่ม่านบอกว่า ฉินซีเป็นลูกสาวที่เกิดตอนยังไม่สมรส หยางเฉินไม่ชอบเธอมาก
ตอนแรกทรราชยังไม่เชื่อ แต่ทว่าตอนนี้ เขาเริ่มเชื่อขึ้นมาแล้ว
หยางเฉินดูหนุ่มมาก แต่ทรราชกลับไม่คิดว่าหยางเฉินเป็นคนไร้ฝีมือ
ไม่ว่าลือเหมิงจะตายเพราะเขาหรือไม่ แต่หนิวเกนหุย อันดับเก้าของสมาคมบูโด ตายเพราะหยางเฉินจริงๆ แถมยังตายต่อหน้าต่อตาทุกคน
คนหนุ่มที่มีพรสวรรค์เช่นนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นคนโหดเหี้ยม คงไม่มีทางประสบความสำเร็จเช่นนี้
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นชีวิตผู้หญิงคนนี้ ฉันขอละกัน!”
ทรราชส่งเสียงเย็นชาออกมา จากนั้นเขาจึงใช้แรงที่มือ
“เพียะ!”
ในช่วงเวลาคับขัน มือยาวเรียว พุ่งเข้ามาจับข้อมือทรราช
มือที่กำลังใช้แรงของทรราช จู่ๆ เขาก็รู้สึกถึงแรงบีบอันมหาศาลที่ข้อมือ
“ถึงฉันจะไม่ได้มาเพราะผู้หญิงคนนี้ แต่ฉันทนเห็นแกฆ่าเธอไม่ได้”
เสียงอันเย็นชาดังขึ้นข้างหูทรราช
ทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ทรราชรู้สึกหวาดกลัวและขนลุกไปทั้งตัว
เมื่อครู่ หยางเฉินยังอยู่ห่างจากเขาหลายเมตร แต่ทว่าจู่ๆ หยางเฉินเข้ามาตรงหน้าเขา อีกทั้งตอนนี้มือของหยางเฉิน ยังจับอยู่ที่ข้อมือของเขาด้วย
พละกำลังอันน่ากลัว ทำให้ทรราชไม่กล้าตอบโต้ เขาไม่สงสัยเลย ถ้าหยางเฉินใช้แรง คงหักข้อมือของเขาได้อย่างง่ายดาย
“แก……แกเป็นใครกันแน่”
สีหน้าของทรราชเคร่งขรึมมาก เขารู้สึกเสียวสันหลังวาบ แผ่นหลังชุ่มไปด้วยเหงื่อ
ตอนแรกเขายังสงสัย เรื่องการตายของลือเหมิง ว่าเป็นฝีมือของหยางเฉินหรือเปล่า แต่ตอนนี้ ความสงสัยในใจได้หายไปหมดแล้ว
เมื่อเผชิญหน้ากับหยางเฉิน เขาไม่กล้าสู้แม้แต่น้อย
“ถ้าไม่ปล่อยมือภายในห้าวินาที แกตาย!”
หยางเฉินเลิกคิ้ว และพูดอย่างเย็นชา
ครั้งนี้ ทรราชไม่มีความลังเลใด เขารีบปล่อยมือทันที
ร่างของเย่ม่านล้มลงกับพื้น เธออ้าปากหายใจ เมื่อกี้เธอเพิ่งผ่านความเป็นความตายมา เธอตกใจจนสติกระเจิดกระเจิง
“แกก็ควรจะปล่อยมือได้แล้วไม่ใช่หรือไง”
ทรราชกัดฟันถาม เขารู้สึกเหมือนข้อมือจะหัก
สิ่งที่ทำให้ทรราชคิดไม่ถึง คือเมื่อเขาพูดจบ หยางเฉินปล่อยข้อมือเขาจริงๆ
ตอนนี้คฤหาสน์ใหญ่ตระกูลเย่ ถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบ ทุกคนมองไปที่หยางเฉิน
ตั้งแต่หยางเฉินจับข้อมือทรราช จนเขาบังคับให้ทรราชปล่อยเย่ม่าน และตอนที่หยางเฉินปล่อยข้อมือทรราช
ทั้งหมดเกิดขึ้นในระยะเวลาเพียงสั้นๆ สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกใจ คือบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ในสมาคมบูโด เมื่ออยู่ต่อหน้าหยางเฉิน กลับไม่กล้าสู้แม้แต่น้อย
เย่จี้จงตากระตุก หัวใจเต้นแรง เขารู้สึกเหมือนพลาดอะไรบางอย่าง
เขารู้ว่าหยางเฉินแข็งแกร่ง แต่ไม่คิดว่าจะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ บีบจนทรราชไม่กล้าทำอะไรเลย
“ไอ้กระจอก แกกล้าฆ่าผู้แข็งแกร่งของสมาคมบูโด เรื่องนี้ไม่จบอย่างนี้แน่นอน”
“แกรอคำตัดสินของสมาคมบูโดได้เลย!”
จู่ๆ ทรราชพูดทิ้งท้ายอย่างโหดเหี้ยม และหันหลังเดินออกไป
“ฉันให้แกออกไปแล้วเหรอ”
ทันใดนั้น เสียงอันเย็นยะเยือกดังขึ้นจากข้างหลังทรราช
วินาทีต่อมา ร่างกำยำพุ่งออกไปขวางหน้าทรราช
ทรราชขมวดคิ้ว และพูดอย่างเย็นชา “คนอย่างทรราชคิดจะไป ใครจะขวางฉันได้งั้นเหรอ”