The king of War - บทที่ 540 คนรนหาที่ตาย
วันต่อมา เครื่องบินโบอิ้ง 747 ที่บินจากเมืองเจียงผิงไปเมืองเยี่ยนตู ค่อยๆ เอาเครื่องลงที่สนามบินนานาชาติเยี่ยนตู
ฉินซีแต่งตัวด้วยชุดดำตั้งแต่หัวจรดเท้า เธอเดินออกจากสนามบิน
เพราะหน้าตาที่โดดเด่น ทำให้ดึงดูดสายตาคนจำนวนมาก ฉินซีไม่สนใจ และเดินไปข้างหน้า แววตาของเธอแฝงไปด้วยความเศร้า
ตอนนี้ จิตใจเธอสับสนวุ่นวาย จึงไม่ได้สังเกตสายตาของคนอื่น
“คุณชายซง รีบดูเร็วๆ สาวที่อยู่ตรงหน้าคนนั้น เต็มร้อย ผมให้ 99 คะแนนเลย”
ในห้องโถงสนามบิน ชายหนุ่มหน้าตาซูบผอม พูดขึ้นด้วยสีหน้าตื่นเต้น
เมื่อได้ยิน ชายหนุ่มในชุดแบรนด์หรูข้างๆ เขา จึงหันไปมองฉินซีโดยอัตโนมัติ
เพียงแวบเดียว ก็ใจสั่น เขายิ้มแล้วพูดด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ “แกนี่ตาถึงจริงๆ สาวงามขนาดนี้ แกยังหาเจอด้วย”
“อิอิ อยู่กับคุณชายซงมานาน สายตาผมดีขึ้นเยอะ”
ชายหนุ่มหน้าตาซูบผอมรีบเอ่ยขึ้น
ฉินซีไม่ได้สังเกตเห็นว่ามีชายสองคน กำลังพูดถึงเธออยู่ไม่ไกล ตอนนี้พวกเขากำลังเดินเข้ามา
“สวัสดีคนสวย ผมชื่อหลินซงแห่งตระกูลหลิน และเป็นผู้จัดการใหญ่ของบริษัทการบันเทิงฉีจี้”
ชายหนุ่มในชุดแบรนด์หรู เข้ามาขวางทางฉินซี และเอ่ยแนะนำตัว จากนั้นจึงแนะนำชายหนุ่มหน้าตาซูบผอม “นี่คือหวังโบ เป็นแมวมองของบริษัทการบันเทิงฉีจี้ เขามีหน้าที่เฟ้นหาคนที่มีความสามารถ”
โดนแมลงวันสองตัวเข้ามาขวางทาง ทำให้ฉินซีมีสีหน้าไม่พอใจ แต่เธอรู้ว่าที่นี่คือเมืองเยี่ยนตู เป็นเมืองแห่งอำนาจที่แท้จริง เจอใครเข้าตามท้องถนน อาจจะเป็นพวกมีอำนาจ ในตระกูลไฮโซก็ได้
“ขอโทษค่ะ ฉันรีบ ขอทางด้วยค่ะ!”
ฉินซีพูดอย่างเย็นชา
“คนสวย อย่าเพิ่งรีบสิ จะไปไหน เดี๋ยวเราไปส่ง”
“อันที่จริง รูปร่างหน้าตาคุณงดงามมาก เหมาะกับการเป็นดาวดวงใหม่ในวงการไอดอล”
“ด้วยความสามารถของบริษัทการบันเทิงฉีจี้ คุณจะต้องเป็นดาราที่เป็นที่นิยมในประเทศ ภายในระยะเวลาไม่ถึงครึ่งปีแน่นอน และรับรองว่าคุณจะได้เป็นดาราเบอร์ต้นๆ ของประเทศ ในระยะเวลาหนึ่งปี”
แมวมองที่ชื่อหวังโบพูดขายฝันยกใหญ่
หลินซงยืนยิ้มมุมปากอยู่ข้างๆ รอยยิ้มของเขาดูมั่นอกมั่นใจ
“ใช่สิ คุณยังไม่รู้ว่าท่านนี้คือใครสินะ เขาคือคุณชายใหญ่ในตระกูลหลิน หนึ่งในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู เขาพูดเพียงประโยคเดียว ก็สามารถเนรมิตให้คุณกลายเป็นดาราดัง”
“คนสวย ตอนนี้คุณคงดีใจจนแทบบ้าแล้วสินะ”
“ดีใจน่ะถูกแล้ว รอให้คุณเข้ามาในบริษัทการบันเทิงฉีจี้ของเรา คุณจะมีทรัพย์สินถาโถมเข้ามามากมาย”
หวังโบยังพูดไม่หยุด
หลินซงมีสีหน้ามั่นใจ เขาไม่มีทางเชื่อว่าผู้หญิงคนไหน จะปฏิเสธสิทธิประโยชน์มากมายขนาดนี้
เขาใช้วิธีเดิมๆ มาหลายต่อหลายครั้งแล้ว
หวังโบบอกว่าเป็นแมวมองของบริษัทการบันเทิงฉีจี้ อันที่จริงเขาเป็นแค่คนเลว ที่คอยหาสาวสวยให้หลินซง
สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ เป็นแผนเดิมๆ ของพวกเขา ซึ่งสำเร็จมานักต่อนัก
ขายฝันให้ผู้หญิงที่พวกเขาชอบ จากนั้นให้พวกเธอเซ็นสัญญา มาเป็นศิลปินฝึกหัดในสังกัด แล้วค่อยบังคับให้เป็นผู้หญิงของหลินซง ถึงจะได้ฝึกอย่างจริงจัง
หลายปีมานี้ ผู้หญิงที่โดนหลินซงปู้ยี่ปู้ยำ ไม่ถึงร้อย แต่ก็หลายสิบคน
“ขอโทษค่ะ ฉันไม่อยากเป็นดารา”
ฉินซีมีสีหน้าไม่พอใจ ถ้าไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายเป็นคนของตระกูลหลิน หนึ่งในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู เธอคงตบหน้าไปนานแล้ว เธอไม่อยากทำให้เป็นเรื่องใหญ่
“คนสวย คุณไม่ไว้หน้าคุณชายซงของเราเลย”
จู่ๆ สีหน้าของหวังโบก็น่ากลัว ในเมื่อล่อไม่สำเร็จ ก็ต้องบีบบังคับ
เป็นไปตามคาด ฉินซีตกใจ หน้าเธอซีดเผือด “พวกคุณจะทำอะไร”
“คนสวย ผมพูดไปชัดเจนแล้ว นี่คือคุณชายใหญ่ของตระกูลหลิน คุณไม่ไว้หน้าผมได้ แต่คุณไม่ไว้หน้าคุณชายซงไม่ได้ ไม่งั้นจุดจบจะหนักหนาแค่ไหน คุณน่าจะรู้นะ”
หวังโบพูดด้วยสีหน้าข่มขู่ “ตระกูลหลิน หนึ่งในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู ประชาชนธรรมดาอย่างคุณ ไม่มีทางมาล่วงเกินได้”
“หวังโบ นายอย่าทำให้คนสวยตกใจสิ”
หลินซงเอ่ยปาก เขายิ้มและมองฉินซี “คนสวย เอางี้แล้วกัน ในเมื่อคุณไม่สนใจเป็นดารา งั้นเรามาเป็นเพื่อนกัน ดีไหม”
ฉินซีมีสีหน้ากลุ้มใจ เมื่อคิดว่าหยางเฉินอาจจะอยู่แถวนี้ เธอจึงกังวลขึ้นมา
อีกฝ่ายคือคนของตระกูลหลิน ถ้าหยางเฉินมาเจอ เขาต้องไม่ปล่อยสองคนนี้ไปง่ายๆ แน่
เมื่อถึงตอนนั้น ถ้าล่วงเกินคนของตระกูลหลิน จะสร้างความลำบากให้หยางเฉิน
“ฉันไม่มีเวลามาเป็นเพื่อนกับพวกคุณจริงๆ ถ้าคุณยังเซ้าซี้ฉันอีก ฉันจะเรียกรปภ.!” ฉินซีทำได้เพียงใช้ รปภ.มาข่มขู่พวกเขา
“คนสวย จะไม่ไว้หน้าผมจริงเหรอ”
เมื่อครู่หลินซงยังยิ้มแย้ม แต่ทว่าตอนนี้ สีหน้าของเขาเย็นชาลงเรื่อยๆ เขาหรี่ตาและเอ่ยขึ้น
“เรียกรปภ.เหรอ เรียกสิ! สนามบินนานาชาติเยี่ยนตู มีหุ้นของตระกูลหลิน ถึงคุณจะเรียกจนคอแตก ก็ไม่มีใครมาช่วยคุณหรอก” หวังโบแสยะยิ้มเย็นชา
“หวังโบ พาคนสวยไปดื่มกาแฟกันก่อนสักแก้ว!”
หลินซงพูดสั่ง
“หึหึ ได้เลยครับคุณชายซง!”
หวังโบยิ้มตาหยี และเอ่ยขึ้น เขายื่นมือไปจับแขนของฉินซี
“เพียะ!”
ทันใดนั้น มีแขนที่เต็มไปด้วยพละกำลังยื่นเข้ามา จับข้อมือของหวังโบเอาไว้
“ไอ้กระจอก แกกล้ายุ่งเรื่องคนอื่นเหรอ”
จู่ๆ สีหน้าของหวังโบเปลี่ยนไป
หลินซงขมวดคิ้ว “ไอ้กระจอก ถ้าไม่อยากตาย ก็ไสหัวไปซะ จะมาทำเป็นฮีโร่ช่วยสาวงามต่อหน้าคนอย่างหลินซง รนหาที่ตายชัดๆ!”
“ที่รัก!”
ฉินซีตั้งสติได้ เมื่อเห็นหยางเฉิน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความดีใจ
เมื่อได้ยินสรรพนามที่ฉินซีเรียกหยางเฉิน หลินซงกับหวังโบถึงกับหน้าเปลี่ยนสี
“ที่แท้เป็นเมียแกเหรอ”
หลินซงหรี่ตาลง “ไอ้กระจอก ฉันชอบผู้หญิงของแก ว่าราคามา คืนนี้เธอเป็นของฉัน!”
“ไสหัวไป!”
หยางเฉินตวาดขึ้น ขณะเดียวกัน เขาใช้แรงตรงแขนที่กำลังจับข้อมือของหวังโบ
“กร๊อบ!”
จู่ๆ ข้อมือของหวังโบงอเก้าสิบองศา
“อ๊าก……”
จากนั้นหวังโบร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด
“ไอ้กระจอก แกรนหาที่ตาย!”
หลินซงสีหน้าเปลี่ยนไป เขาตวาดขึ้น
คิดไม่ถึงว่าจะมีคนกล้าเล่นงานเขา ในสนามบินนานาชาติเยี่ยนตู
ตอนนี้สายตาของหยางเฉิน เคร่งขรึมจนน่ากลัว หลินซงรู้สึกเสียวสันหลังวาบ
“ไอ้กระจอก ฉันเป็นคนของตระกูลหลิน หนึ่งในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู ถ้าแกกล้าทำอะไรฉัน ตระกูลหลินไม่ปล่อยแกไว้แน่”
หลินซงพูดข่มขู่ พลางเดินถอยไปข้างหลัง
“ตระกูลหลิน มีดีอะไรไม่ทราบ”
หยางเฉินแสยะยิ้ม “กล้ามาแตะต้องผู้หญิงของฉัน เป็นความผิดมหันต์!”
พูดจบ หยางเฉินง้างมือขึ้นมา และตบลงไป
“เพียะ!”
เสียงตบดังสนั่น หลินซงกระเด็นลอยอยู่กลางอากาศ
หยางเฉินลงมือกะทันหัน ทำให้ฉินซีไม่ทันตั้งตัว
หวังโบถูกหักข้อมือ หลินซงโดนตบจนกระเด็น เธอเพิ่งจะตั้งสติได้ สีหน้าของเธอเปลี่ยนไป
คนรอบๆ ต่างพากันมองอย่างตกตะลึง เมื่อครู่หลินซงเพิ่งบอกว่าตัวเองอยู่ในตระกูลไหน
เขาคือคุณชายใหญ่ตระกูลหลิน หนึ่งในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูเชียวนะ เบื้องหลังยิ่งใหญ่ขนาดนี้ คิดไม่ถึงว่าจะมีคนกล้าเล่นงานเขา นี่กำลังรนหาที่ตายไม่ใช่หรือไง