The king of War - บทที่ 561 จะหนีรอดเหรอ
“หืม?”
และในตอนนั้นเอง รังสีที่น่าสะพรึงกลัวอันหนึ่งได้ถูกส่งเข้ามา นัยน์ตาของหยางเฉินหดเล็กลง แล้วรีบตรงไปที่ขอบตึก
ส่วนเฉียนเปียวก็สัมผัสถึงรังสีที่ถูกปล่อยออกมาอย่างกะทันหันนั่นเหมือนกัน แววตาก็ดูตกใจและเคร่งขรึมขึ้นมาทันที
เมื่อหยางเฉินมาถึงที่ขอบระเบียง ก็เห็นชายชราในชุดจีนที่ยืนอยู่บนพื้น
ส่วนอวี๋เหวินปิงที่เพิ่งถึงพื้นกำลังยืนอยู่ข้างๆ ของชายชรา เพียงแค่ในแววตาของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวาดกลัวเท่านั้น ชายชราลากอวี๋เหวินปิงแล้วคิดจะจากไปทันที “ไป!”
อวี๋เหวินปิงที่ยังตั้งสติไม่ได้ จู่ๆ ก็รู้สึกถึงแรงกระชากอันน่าสะพรึงกลัวที่ส่งมาจากแขน แล้วลากเขาออกไปอย่างรวดเร็ว
“คนที่หยางเฉินคนนี้ต้องการจะฆ่า ใครมันกล้าเข้ามาช่วย?”
หยางเฉินตะโกนออกมาด้วยความโมโห กระโดดพุ่งไปข้างหน้า ดิ่งลงจากดาดฟ้าชั้นหก
โจวยู่ชุ่ยเบิกตาโต หลังจากที่ได้รับรู้ถึงความแข็งแกร่งของหยางเฉินแล้ว เธอก็ไม่มีทางคิดว่าหยางเฉินนั้นฆ่าตัวตาย
นี่มันดาดฟ้าของชั้นหกเลยนะ แต่หยางเฉินกลับกระโดดลงไป นี่เขายังเป็นคนอยู่ใช่มั้ยเนี่ย?
พอมานึกถึงทุกสิ่งที่ตัวเองเคยทำอีกครั้ง โจวยู่ชุ่ยก็รู้สึกสั่นไปทั้งตัว จู่ๆ ตรงก้นก็เปียกเป็นวงกว้าง เธอตกใจจนฉี่แตกไปแล้ว
จู่ๆ เธอก็รู้สึกว่า การที่ตัวเองยังรอดมาถึงตอนนี้ได้ มันช่างเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์เหลือเกิน
เฉียนเปียวที่เห็นหยางเฉินไล่ตามไป แววตาก็ดูเคร่งขรึมขึ้นมา
รังสีที่ชายชราในชุดจีนปลดปล่อยออกมาเมื่อกี้ มันช่างน่าตกใจจริงๆ
เขามีความรู้สึกว่า ชายชราคนนั้นแข็งแกร่งจนน่ากลัว ต่อให้เป็นหยางเฉิน ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้อยู่ดี
ผู้แข็งแกร่งระดับนี้ มันมีตัวตนอยู่ได้ยังไง?
เขาไม่ได้ตามไป การปะทะกันของผู้แข็งแกร่งระดับนี้ คนระดับเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย เกรงว่าแค่กระบวนท่าเดียวเขาก็คงตายคาที่แน่นอน
ในเวลาเดียวกัน หยางเฉินก็ได้ไล่ตามชายชราในชุดจีนไปแล้ว ในใจก็รู้สึกตกใจมากเหมือนกัน
หลังจากที่ออกจากชายแดนเหนือ เขาก็ยังไม่เคยได้เจอผู้แข็งแกร่งระดับนี้มาก่อนเลย ความเร็วที่อีกฝ่ายแสดงออกมานั้น มันช่างน่าตกใจจริงๆ
หยางเฉินต้องพยายามอย่างมากถึงสามารถตามขึ้นมาได้ ประเด็นคือ ชายชราในชุดจีนยังพาอวี๋เหวินปิงหนีไปด้วย
มันไม่เท่ากับว่า ถ้าชายชราในชุดจีนไม่มีอวี๋เหวินปิงถ่วงไว้ เขาก็คงทิ้งหยางเฉินจนไม่เห็นฝุ่นไปนานแล้วเหรอ?
ตอนนี้ ในใจของหยางเฉินมีข้อสงสัยเพียงข้อเดียว ชายชราคนนี้ เป็นใครกันแน่
หรือว่าจะเป็นคนของตระกูลเดอะคิงแห่งจิ่วโจว?
ไม่น่าจะเป็นไปได้นี่!
ตระกูลเดอะคิงแห่งจิ่วโจวนั้นมีผู้ที่แข็งแกร่งมากๆ อยู่จริง แต่อย่างมากก็แค่ระดับหม่าชาวเท่านั้น
แต่ชายชราที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้ มีฝีมือไม่ได้ด้อยไปกว่าหม่าชาวเลย
หยางเฉินเร่งความเร็วอย่างเต็มที่ ทำให้ระยะห่างระหว่างเขากับชายชราในชุดจีนค่อยๆ ลดน้อยลงไป
ไม่รู้ว่าวิ่งกันไปไกลแค่ไหน ในที่สุดหยางเฉินก็ไล่ชายชราในชุดจีนจนทัน
ชายชราในชุดจีนจึงจำเป็นต้องหยุดเท้าลง หรี่ตามองหยางเฉินแล้วพูดไปว่า “นี่พ่อหนุ่ม คนเราจะทำอะไรก็อย่าให้มันเกินไป ตรงไหนที่ใจกว้างได้ก็ควรใจกว้าง ปล่อยเขาไป ฉันรับรอง ว่าต่อไปเขาจะไม่มาปรากฏให้เธอเห็นหน้าอีกแน่นอน”
“นี่คุณเป็นใคร? ในจิ่วโจว ผมไม่เคยพบเห็นผู้แข็งแกร่งอย่างคุณมาก่อนเลย”
หยางเฉินไม่ได้ตอบ แต่กลับถามกลับไป
ชายชราในชุดจีนพูดออกมาอย่างไม่ชอบใจว่า “ใต้หล้านั้นกว้างใหญ่ คนที่เธอไม่เคยเจอก็มีมากมาย การที่เธอไม่เคยเจอฉัน มันก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่รึไง?”
“เขาจำเป็นต้องตาย!”
หยางเฉินไม่เปิดโอกาสให้พูด กิริยาก็แข็งกร้าวมาก
ครั้งนี้อวี๋เหวินปิงได้จับทั้งฉินต้าหย่งและฉินยีไป ถ้าไม่ได้เฉียนเปียวแอบปกป้องเอาไว้ ฉินซีก็คงถูกจับไปด้วยแล้ว
เขากับเฉียนเปียวได้รับมือกับเรื่องในวันนี้อย่างยากลำบาก
ถ้าฉินซีตกไปอยู่ในมือของอวี๋เหวินปิงจริงๆ ต่อให้หยางเฉินจะเก่งกาจแค่ไหนก็ไม่มีทางช่วยทุกคนได้อย่างแน่นอน
เขาไม่อยากให้เรื่องแบบนี้ เกิดขึ้นอีกครั้ง
อวี๋เหวินปิงนั้นเกลียดเขาเข้ากระดูกไปนานแล้ว ชีวิตนี้ถ้าคิดจะแก้แค้น ก็คงไม่มีหวังอีกแล้ว นอกจากจะใช้คนที่อยู่รอบตัวหยางเฉินมาข่มขู่หยางเฉินเท่านั้นด้วยเหตุนี้ หยางจึงยิ่งไม่มีทางปล่อยอวี๋เหินปิงให้รอดไปแน่นอน
“ฮึ!”
หลังจากที่ชายชราในชุดจีนได้ฟังคำพูดของหยางเฉินแล้ว เขาก็พูดออกมาอย่างไม่ชอบใจว่า “นี่ไอ้หนู คิดว่าการที่จะแย่งคนจากมือฉันไปนั้น มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ดูท่า ผู้อาวุโสคงตั้งใจที่จะปกป้องอวี๋เหวินปิงสินะครับ?”
หยางเฉินหรี่ตาทั้งสองข้างลง จิตสังหารพลุ่งพล่านอยู่ในแววตา
สำหรับเขาแล้ว วันนี้อวี๋เหวินปิงต้องตายสถานเดียว ใครก็ตามที่คิดจะเข้ามาขวางเขา มันผู้นั้นก็ถือเป็นศัตรูของเขาทั้งสิ้น
บรรยากาศที่อยู่รอบตัวชายชราในชุดจีนนั้นน่ากลัวมาก ความเร็วก็สูงมาก แต่หยางเฉินก็ไม่ได้กินเจ
ถ้าทั้งสองต้องสู้กันขึ้นมาจริงๆ ใครจะเป็นจะตาย ก็ยังไม่อาจรู้ได้
อวี๋เหวินปิงนั้นได้ตกใจจนช็อกไปนานแล้ว ตอนนี้จึงได้แต่จ้องมองทั้งสองด้วยความเหม่อลอย
“เธอหนีไปก่อน!”
ชายชราในชุดจีนได้ตะโกนออกมาอย่างกะทันหัน จากนั้นก็ก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าว ขวางทางที่หยางเฉินจะไล่ตามอวี๋เหวินปิงไว้อย่างสมบูรณ์
อวี๋เหวินปิงที่เหม่อลอยอยู่ตั้งนาน จึงได้สติกลับมาทันที เขาดีใจเป็นอย่างมาก หมุนตัวแล้ววิ่งหนีไป
“ถ้าเป็นแบบนี้ งั้นผมก็ต้องล่วงเกินแล้ว!”
หยางเฉินค่อยๆ หรี่ตาทั้งสองข้างลง ทันใดนั้น รังสีที่แข็งแกร่งก็ได้ทะลักออกมาจากตัวเขา
สายลมที่เย็นเยือก พัดจนน้ำในแม่น้ำข้างๆ เกิดเป็นเกลียวคลื่นมากมาย
สีหน้าของชายชราในชุดจีนก็ดูจริงจังขึ้นมาอย่างถึงที่สุด เขาไม่กล้าประมาทเลยแม้แต่น้อย ในพริบตาเดียว ก็ได้ระเบิดรังสีของตัวเองออกมาเหมือนกัน
รังสีที่ทรงพลังทั้งสองปะทะเข้าด้วยกัน ฝูงนกมากมายที่อยู่ใกล้ต่างบินหนีไปอย่างรวดเร็ว
“ตูม!”
จู่ๆ หยางเฉินก็ขยับตัว ทำให้หินก้อนหนึ่งที่อยู่ใต้ขาแหลกละเอียดไปทันที
เห็นเพียงแค่ร่างกายของเขาเคลื่อนที่เป็นภาพซ้อน พุ่งตรงไปยังชายชราในชุดจีน
ตอนที่เข้าไปจนห่างจากชายชราในชุดจีนเพียงแค่สามสี่เมตร หยางเฉินก็กระโดดขึ้นไป แล้วเตะใส่ชายชราในชุดจีนอย่างแรง
“ตุบ!”
ชายชราในชุดจีนตอบโต้ได้อย่างรวดเร็ว เขากอดขาของหยางเฉินเอาไว้ จากนั้นก็ใช้แรงเหวี่ยงอย่างกะทันหัน ทำให้ร่างกายของหยางเฉินนั้นถูกโยนออกไป
แต่ทว่า สิ่งที่เขาไม่ทันสังเกตก็คือ ในจังหวะที่หยางเฉินถูกเหวี่ยงออกไปนั้น มุมปากของหยางเฉินก็ได้ยิ้มออกมาอย่างขบขัน
ทันทีที่ขาทั้งสองข้างของหยางเฉินแตะพื้น ก็ได้ยินเสียง “ตุบ” ร่างกายของหยางเฉินก็ได้หายไปจากตรงนั้น แล้วพุ่งไปทางที่อวี๋เหวินปิงหนีไปอย่างรวดเร็ว
จนถึงตอนนี้ ชายชราในชุดจีนถึงได้รู้ตัวว่า ที่หยางเฉินกระโดดเตะมานั้น ดูเหมือนจะดุร้าย แต่ความจริงแล้วมันคือการจงใจเท่านั้น
ก็เพื่อต้องการออมแรงของเขา เปิดโอกาสให้ตัวเองสามารถไล่ตามหวี๋เหวินปิงไปได้
“ไอ้หนูจะหนีไปไหน!”
ชายชราในชุดจีนตะโกนออกมาด้วยความโมโห ขาเคลื่อนไหวในทันที แล้วเขาก็พุ่งออกไปราวกับพายุ ไล่ตามไปทางหยางเฉิน
แต่ว่าตอนนี้ หยางเฉินได้ทิ้งห่างจากชายชราในชุดจีนไปไกลยี่สิบกว่าเมตรแล้ว
ต่อให้ชายชราในชุดจีนจะเร็วสักแค่ไหน และค่อยๆ ลดช่องว่างระหว่างทั้งคู่เรื่อย แต่หยางเฉินก็ค่อยลดช่องว่างระหว่างเขากับอวี๋เหวินปิงแล้วเหมือนกัน
อวี๋เหวินปิงได้วิ่งไปไกลร้อยกว่าเมตรแล้ว ภายใต้ความหวาดกลัวที่มากมาย บวกกับการวิ่งอย่างบ้าคลั่ง ทำให้ตอนนี้เขาเริ่มเหนื่อยแล้ว จนความเร็วนั้นตกลงอย่างชัดเจน
เขาหันหลังกลับไปมอง ในตอนที่เห็นว่าหยางเฉินใกล้จะไล่มาทันแล้ว เขาก็ตกใจจนขวัญแทบกระเจิง และได้พุ่งตัวออกไปด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่จะทำได้
“ตกลงมาจากชั้นหกฉันยังรอดมาได้ ตอนนี้ยังมีผู้แข็งแกร่งคอยช่วยขัดขวาง แล้วแกจะฆ่าฉันได้ยังไง?”
อวี๋เหวินปิงสีหน้าโกรธเกรี้ยว ได้แต่ให้กำลังใจตัวเองไปเท่านั้นความหวาดกลัวที่มีอยู่ในใจ มีเพียงแค่เขาเท่านั้นที่จะเข้าใจ
เมื่อไหร่ที่หยางเฉินตามทัน นั่นก็หมายถึงความตายของเขา
“คิดว่าจะหนีพ้นรึไง?”
แต่ในจังหวะที่คำพูดของเขาสิ้นสุดลง ก็ได้มีเสียงที่ชัดเจนดังขึ้น