The king of War - บทที่ 616 จะต่อไหม
สีหน้าของผู้เฒ่าในชุดจีนทั้งสองดูแย่มาก เมื่อฟังจากน้ำเสียงของหยางเฉินแล้ว
พวกเขารู้สึกได้ถึงความไม่ธรรมดาของหยางเฉิน
และทันใดนั้น พวกเขาก็รู้สึกถึงบางอย่างที่ผิดปกติ ซึ่งดูเหมือนว่าหยางเฉินกล้าที่จะฆ่าเฉาฮุยจริงๆ และสำหรับตระกูลเฉาแล้ว ดูเหมือนว่าหยางเฉินไม่ได้รู้สึกกลัวเลยแม้แต่น้อย
เฉาฮุยในเวลานี้ดิ้นรนเหมือนลูกไก่ในกำมือของหยางเฉิน ผู้ชมทุกคนต่างก็รู้สึกว่าตัวเองแทบจะหยุดหายใจ
“เด็กหนุ่มคนนั้นคือใครกันแน่? ถึงกล้ามีเรื่องในคลับหวงจิน”
“คนพวกนั้นที่ปิดล้อมเขาไว้ ทุกคนแต่งกายด้วยชุดเครื่องแบบของคลับหวงจิน และชายหนุ่มที่ถูกเขาบีบคออยู่นั้น เห็นได้ชัดว่าเป็นผู้จัดการของคลับหวงจิน”
“จริงด้วย แม้กระทั่งคนของแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูยังไม่กล้าเข้าไปยุ่งเรื่องของคลับหวงจิน แล้วเด็กหนุ่มคนนี้คือใคร ถึงกล้าทำร้ายคนของคลับหวงจิน”
“เด็กหนุ่มคนนี้ต้องมีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดาแน่นอน ไม่อย่างนั้นเขาจะกล้าสังหารคนของตระกูลซ่งจากแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูเหรอ? แถมยังบังคับให้ลูกชายคนโตซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่สามของตระกูลซ่งต้องกลิ้งออกไปจากที่นี่ด้วย?”
……
ทุกคนในงานต่างพากันแสดงความคิดเห็น แม้ว่าการต่อสู้บนสังเวียนจะน่าตื่นเต้นมาก แต่สำหรับพวกเขาแล้ว เรื่องของหยางเฉินทางนี้น่าตื่นเต้นยิ่งกว่า
เมื่อเห็นการดิ้นรนเอาตัวรอดของเฉาฮุยเริ่มเบาแรงลงและเริ่มถึงขั้นตาเหลือกแล้ว ผู้เฒ่าในชุดจีนทั้งสองที่คอยปกป้องเฉาฮุยในที่สุดก็ได้ตระหนักว่าหยางเฉินกล้าที่จะฆ่าเฉาฮุยจริงๆ
“นายรีบปล่อยเขาซะ มีเรื่องอะไร เราค่อยมาว่ากันอีกที!” หนึ่งในผู้เฒ่าในชุดจีนเป็นกังวลและพูดอย่างเร่งรีบ
ผู้เฒ่าในชุดจีนอีกคนก็พูดอย่างเร่งรีบว่า “แกรีบปล่อยคุณชายฮุย พวกข้ารับรองว่าจะไม่ทำให้เพื่อนของแกต้องเดือดร้อนแน่นอน และเราจะปล่อยพวกเขาออกไปอย่างปลอดภัย”
หยางเฉินเหลียวมองไปที่ซ่งหวายี่กับซ่งหวาหย่าที่ยืนนิ่งอยู่ข้างเขา แล้วพูดทันทีว่า “พวกคุณออกไปก่อน!”
ซ่งหวายี่กับซ่งหวาหย่ายื่นทื่ออยู่สักพักถึงจะตั้งสติได้ และจากนั้นก็รีบพยักหน้าแล้วจากไป
เหตุผลที่หยางเฉินต้องใช้เฉาฮุยมาข่มขู่พวกเขา ก็เพราะว่าเฉาฮุยจะใช้ซ่งหวายี่กับซ่งหวาหย่ามาข่มขู่เขาก่อน
เขาก็แค่ใช้วิธีหนามยอกเอาหนามบ่งเท่านั้น!
ถ้าหากซ่งหวายี่กับซ่งหวาหย่าจะออกจากที่นี่ เฉาฮุยก็ไม่มีทางจะรั้งพวกเขาได้อย่างแน่นอน
“ตอนนี้ปล่อยคุณชายฮุยได้แล้วใช่ไหม?”
กระทั่งซ่งหวายี่กับซ่งหวาหย่าได้เดินจากไปแล้ว หนึ่งในผู้เฒ่าในชุดจีนก็ถามขึ้น
“พวกคุณจะแก้แค้นผมยังไงก็ได้ แต่ขอให้มุ่งมาที่ผมคนเดียว ถ้าหากพวกคุณกล้าคุกคามถึงคนรอบข้างของผม พวกคุณจะได้ตายอย่างอนาถ”
เมื่อหยางเฉินพูดเสร็จ เขาแค่ผลักมือออกไปเบาๆ ทำให้ร่างของเฉาฮุยกระเด็นออกไปไกลกว่าสิบเมตรแล้วฟาดลงกับพื้นอย่างรุนแรงและสลบในทันที
ทันใดนั้นก็มีคนไปช่วยเฉาฮุยทันที แต่ว่าผู้เฒ่าในชุดจีนทั้งสองที่เป็นบอดี้การ์ดของเฉาฮุยนั้นไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยหยางเฉินไป
หยางเฉินเลิกขึ้นขึ้นแล้วพูดว่า “พวกคุณคิดที่จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเลยใช่ไหม?”
“ก็นายเพิ่งบอกเมื่อกี้ ขอแค่เรามุ่งเป้าไปที่นาย แล้วเราจะทำยังไงก็ได้ ตอนนี้เราปล่อยเพื่อนนายไปแล้ว ส่วนนาย ยังไปไหนไม่ได้” หนึ่งในผู้เฒ่าพูดขึ้น
“พอได้แล้ว เลิกไร้สาระสักที ถ้าพวกคุณรนหาที่ตาย ผมจะขอสงเคราะห์ให้ก็แล้วกัน เข้ามาพร้อมกันให้หมดเลย!”
แม้จะถูกปืนห้าหกกระบอกเล็งอยู่ แต่หยางเฉินไม่ได้รู้สึกกลัวเลยสักนิด ได้แต่ยิ้มอย่างเลือดเย็นและมองไปทางผู้เฒ่าในชุดจีนทั้งสองแล้วพูดกับพวกเขา
ผู้เฒ่าทั้งสองฟังแล้วต่างก็มองตากัน แล้วหนึ่งในนั้นก็พูดขึ้นด้วยเสียงที่หนักแน่นอนว่า “จัดการกับนายน่ะเหรอ ข้าคนเดียวก็พอแล้ว!”
เมื่อพูดจบ เข้าก็มุ่งไปที่หยางเฉินทันที
ในเวลานี้ ผู้ชมทั้งหมดที่อยู่ในนั้นต่างก็ส่งเสียงเชียร์อย่างดุเดือดขึ้นมาทันที แต่สายตาทั้งหมดนั้น ไม่ได้มองไปทางเวทีประลอง แต่กลับมองไปทางหยางเฉินที่กำลังต่อสู้กับผู้แข็งแกร่งของคลับหวงจินอยู่ด้านล่างเวที
เมื่อมองเห็นฝ่ายตรงข้ามกำลังมุ่งเข้ามา สายตาของหยางเฉินยังคงนิ่งเหมือนเดิม แต่เขาไม่ได้ประมาท จากนั้นใช้แรงเท่าอย่างกะทันหัน และทันใดนั้น ทั้งตัวของเขาก็เหมือนดั่งลูกปืนใหญ่ที่พุ่งเขาหาศัตรู
“บึ้ม!”
ในวินาทีต่อมา เสียงดังสนั่นขึ้น ซึ่งเห็นแค่ว่าหยางเฉินกับผู้เฒ่าในชุดจีนได้ประสานเข้าหากันแล้ว
ทุกคนไม่ทันได้เห็นถึงกระบวนการต่อสู้ของพวกเขาทั้งสองคน เห็นเพียงตอนที่ทั้งสองได้ประสานเข้าหากันเท่านั้น จากนั้นผู้เฒ่าในชุดจีนเดินถอยออกไปห้าหกก้าวอย่างกะทันหัน แต่หยางเฉินยังยืนอยู่ที่เดิมและไม่ได้ถอยหลังเลยแม้แต่ก้าวเดียว
โห!
การแสดงออกของหยางเฉินก่อนหน้านี้ก็ชนะใจคนดูตั้งแต่แรกอยู่แล้ว และตอนนี้หยางเฉินยังได้เอาชนะผู้แข็งแกร่งของคลับหวงจินได้ด้วยเพียงหมัดเดียวเท่านั้น ซึ่งก็ทำให้ผู้ชนรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก
แม้แต่ผู้ชนะในการประลองของปีที่ผ่านๆ มายังแกร่งไม่เท่าหยางเฉินเลย
และผู้เฒ่าในชุดจีนที่ต้องก้าวถอยหลังออกไป ในเวลานี้สีหน้าซีดเซียวและรู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก
เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น คนอื่นอาจไม่เข้าใจ แต่เขาผู้ซึ่งเป็นคู่ต่อสู้ของหยางเฉินต้องรู้ดีที่สุด
ช่วงที่ทั้งสองเข้าประสานกัน หมัดสายฟ้าของหยางเฉินได้ชกเข้าไปตรงท้องเขา จึงทำให้เขาต้องถอยหลังออกไปห้าหกก้าว
แต่การโจมตีของเขายังไม่อาจแตะต้องแม้แต่ชายเสื้อของหยางเฉินเลยด้วยซ้ำ
ทั้งหมดนี้ยังไม่ใช่สิ่งสำคัญ ประเด็นสำคัญที่สุดคือหยางเฉินในขณะนี้ดูเฉยเมยมาก ซึ่งทำให้เขาตระหนักได้ว่าหยางเฉินยังไม่ได้ใช้พลังอย่างเต็มที่เลย
เมื่อต้องเผชิญกับหยางเฉิน เขาก็เหมือนไข่ไก่ที่ชนเข้ากับก้อนหิน
อายุเพียงเท่านี้ แต่พลังแข็งแกร่งขนาดนี้ แล้วเขาเป็นใครกันแน่?
“ต่อเลยไหม?” หยางเฉินถามขึ้นอย่างกะทันหัน
หยางเฉินไม่ได้มีเจตนาฆ่าตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะศัตรูเป็นถึงคนของตระกูลเดอะคิงแห่งจิ่วโจว ถ้าเขาฆ่าแล้ว ถึงแม้เขาจะรับมือกับผลที่ตามมาได้ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องเล็กอย่างแน่นอน
ผู้เฒ่าในชุดจีนสีหน้าดูเคร่งขรึมมาก เขาไม่ได้ตอบคำถามในทันที แต่ผู้เฒ่าในชุดจีนอีกคนก็รีบยืนขวางเฉาฮุยด้วยสัญชาตญาณของเขา
ถึงแม้เฉาฮุยจะหมดสติไปแล้ว แต่ไม่สามารถรับรองได้ว่าหยางเฉินจะไม่ลงมือฆ่าอย่างกะทันหัน
“เรื่องนี้ ไม่จบแค่นี้แน่นอน!”
ผู้เฒ่าในชุดจีนที่เพิ่งถูกหยางเฉินชกพูดอย่างหนักแน่น
จากนั้นหยางเฉินแสยะยิ้มแล้วหันเดินจากไป
เดิมทีผู้ชมยังคาดหวังจะได้เห็นหยางเฉินลงแข่งขันต่อ ในเวลานี้ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความผิดหวัง แต่ทุกคนได้เห็นถึงความน่าเกรงขามของหยางเฉินแล้ว แล้วจะมีใครกล้าขวางเขาได้?
“จะเอายังไงต่อ?”
เวลานี้ ผู้เฒ่าที่คอยปกป้องเฉาฮุยเดินเข้ามาแล้วถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ไอ้หมอนี่ร้ายกาจเกินไป เรากลับไปรายงานตระกูลเฉาก่อน ค่อยตัดสินใจอีกที” ผู้เฒ่าที่อยู่ตรงหน้าได้พูดขึ้น
“ได้!”
ทั้งสองได้ตกลงกันว่าจะกลับไปรายงานสถานการณ์ให้กับตระกูลเฉาทันที
อีกฝั่งนึง อวี๋เหวินปิงที่เห็นสถานการณ์ทุกอย่างนั้น เวลานี้ได้แต่สีหน้าซีดเซียว เพราะฝีมือของหยางเฉินนั้นแข็งแกร่งกว่าที่เขาได้คาดคิดไว้
“ท่านถัง คุณมั่นใจเหรอว่าผมจะเอาชนะหยางเฉินได้?” อวี๋เหวินปิงเกิดความสงสัยขึ้นมาทันที
ชายชราชุดจีนได้แต่หรี่ตาลงอย่างไม่มีการตอบสนอง แต่หลังจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ช่วงเวลาต่อไปนี้ ข้าจะพาแกไปสถานที่แห่งหนึ่ง”
เมื่อฟังแล้วอวี๋เหวินปิงก็รู้สึกเกิดความคาดหวังขึ้นมาทันที นับตั้งแต่ชายชราชุดจีนคนนี้ปรากฏตัวอยู่ข้างเขา เขาไม่เคยทำให้อวี๋เหวินปิงผิดหวังเลยสักครั้ง
ในเมื่อชายชราคนนี้จะพาเขาไปสถานที่แห่งหนึ่ง นั่นต้องเป็นสถานที่ที่จะทำให้เขาพัฒนาขึ้นอย่างแน่นอน
“แต่ว่า จากฝีมือของหยางเฉินที่แสดงออกเมื่อกี้ คืนนี้เขาจะยอมปล่อยผมไว้ไหม?” อวี๋เหวินปิงเกิดความกังวลขึ้นมาทันที